บทที่ 535

ตอนนี้เย่เฉินพึ่งกินข้าวเย็นเสร็จ กำลังจะเข้าไปเก็บจานกับตะเกียบในครัว ก็เห็นฉินกางโทรมาพอดี เขาเลยกดรับสาย: “ประธานฉิน มีเรื่องอะไรเหรอ?”

ฉินกางรีบตอบทันที: “อาจารย์เย่ มีเรื่องหนึ่ง ผมกับประธานหวังและก็หงห้าพึ่งคุยกัน รู้สึกว่าต้องรายงานคุณ”

เย่เฉินพูดยิ้มๆ : “มีเรื่องอะไรพูดมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจผม”

ฉินกางรีบพูดทันที: “โอเค งั้นผมก็จะบอกตามตรงเลยนะ วันนี้ท่านประธานอู๋ตงไห่ ตระกูลอู๋จากซูหางได้จัดงานเลี้ยงที่เทียนเซียงฝู่และได้เชิญบรรดาผู้รับผิดชอบตระกูลใหญ่ๆ มาด้วย รวมถึงผม หวังเจิ้งกาง และก็หงห้าสามคน เขาได้กำชับพวกเราเรื่องบางอย่าง พวกเรารู้สึกว่าเรื่องพวกนี้มีบางอย่างแปลกๆ เลยตัดสินใจมาเล่าให้คุณฟัง”

พอได้ยินว่าตระกูลได้เลี้ยงข้าวพวกเขา เย่เฉินจึงถามขึ้น: “ตระกูลอู๋เรียกพวกคุณไปพบเรื่องอะไร?”

ฉินกางจึงอธิบาย: “อู๋ฉีลูกชายตระกูลอู๋ได้เกิดเรื่องขึ้น ตระกูลอู๋กำลังหาเบาะแส จับกุมคนที่ทำร้ายลูกเขา เมื่อครู่ผมได้โทรคุยกับเอ้าเสวี่ยน หล่อนได้เล่าให้ผมฟังหมดแล้ว ตอนนี้ตระกูลอู๋ต้องการหาตัวคุณอยู่…….”

เย่เฉินหัวเราะ แล้วพูดขึ้น: “เรื่องที่เกิดกับอู๋ฉีนั้นผมเป็นคนทำเอง เพราะว่าผมไม่พอใจกับลักษณะนิสัยของเด็กคนนั้น ถ้าคบหาดูใจกับผู้หญิงก็ไม่เป็นไร แต่จงใจหลอกลวงคนอื่น แถมยั้งทำร้ายผู้หญิงอีก แบบนี้มันปล่อยไว้ไม่ได้ ดังนั้นผมก็เลยสั่งสอนเขา อย่างน้อยต่อไปเขาจะได้ไปทำร้ายใครอีกไม่ได้”

ฉินกางตกใจทันที

แต่ไม่ใช่เพราะว่าตกใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ตกใจที่เขายอมรับตามตรงแบบนี้

เหมือนกับว่า ในสายตาของเย่เฉิน ที่ทำให้ลูกชายรองของตระกูลอู๋เป็นแบบนี้ เหมือนไม่ต่างอะไรกับการบีบมดให้ตาย และก็ดูไม่ได้สนใจสิ่งที่จะตามมาด้วย

เขาอดคิดไม่ได้เลยว่า ที่จริงแล้วเย่เฉินนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน?ขนาดต้องเผชิญหน้ากับตระกูลอู๋ เขาก็ดูไม่สนใจอะไรเลย?!

ที่เจียงหนาน ใครพูดถึงตระกูลอู๋ ก็ต้องให้เกียรติและเคารพพวกเขาอย่างมาก แต่อาจารย์เย่กลับไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา

พอฉินกางได้สติ จึงรีบพูดขึ้น: “อาจารย์เย่วางใจได้ พวกเราทั้งหมดจะเป็นปากให้สนิท ถ้าหากว่าตระกูลอ๋สามารถหาเบาะแสได้ว่าเป็นคุณ แล้วมาหาเรื่องคุณ พวกเราไม่มีทางยอมแน่!”

เย่เฉินหัวเราะแล้วพูดขึ้น: “คุณเองก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก ถ้าหากว่าพวกนั้นต้องการจะมาล้างแค้นผม ก็ให้พวกนั้นมาเลย คนอย่างผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น?”

แล้วเขาก็พูดต่อ: “จริงสิ คุณบอกพวกนั้นไปตามตรงเลยก็ได้ ว่าผมเป็นคนทำเรื่องนี้ ถ้าหากพวกนั้นไม่พอใจ ก็ให้มาหาผมโดยตรงเลย”

ฉินกางจึงรีบพูดขึ้น: “อาจารย์เย่ ผมรู้ว่าคุณไม่ได้สนใจคนตระกูลอู๋ แต่ว่า ที่เจียงหนานตระกูลถือว่ามีตำแหน่งสูง ทั้งอำนาจ ก็ถือว่าสุดยอดเลยทีเดียว ถ้าหากว่ากลายเป็นศัตรูพวกนั้นจริงๆ ต่อไปคงต้องลำบากแน่”

แล้วฉินกางก็พูดต่อ: “อาจารย์เย่ เรื่องนี้ กระผมแนะนำว่าให้คุณพยายามนิ่งไว้ก่อน อย่าทำอะไรให้ตระกูลอู๋จับได้ ไม่อย่างนั้น ต่อไปคุณอาจจะลำบากนะ”

เย่เฉินหัวเราะ แล้วพูดขึ้น: “ประธานฉิน ขอบใจมาก แต่ว่าเรื่องนี้คุณเองก็ไม่ต้องใส่ใจมาก พอถึงเวลาของมันอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ปล่อยไปตามนั้นเถอะ”

“ได้” ฉินกางรีบพูดต่อ: “เออใช่ อาจารย์เย่ วันนี้ที่ตระกูลอู๋มาเลี้ยง ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”

เย่เฉินจึงถามขึ้นอีกครั้ง: “เรื่องอะไร?”

ฉินกางจึงเล่าให้ฟัง: “ดูเหมือนตระกูลอู๋ ต้องการจะให้อู๋ซินกับซ่งหวั่นถิงแต่งงานกัน แต่ว่า ตามที่พวกนั้นพูด คุณหนูซ่งเคยบอกพวกเขาไปแล้ว ว่าตัวเองมีคนที่ชอบแล้ว ดังนั้นตระกูลจึงอยากให้พวกเราช่วยตามหาคนคนนั้นให้ด้วย…..”

เขาพูดพลางถามขึ้นเพื่อลองเชิง: “อาจารย์เย่ คนที่คุณหนูซ่งชอบคนนั้น เป็นคุณใช่ไหม?”

เย่เฉินนิ่งไป แล้วจึงพูดขึ้น: “เรื่องนี้อย่าพูดมั่วซั่ว ผมเป็นคนที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว ถ้าหากว่าพูดเรื่องนี้ออกไปมั่วๆ ถ้าคนอื่นได้ยินเข้า จะทำให้ชื่อเสียงของฝ่ายหญิงเสียหายได้”

ฉินกางจึงรีบพูดขึ้นทันที: “อาจารย์เย่พูดถูก เรื่องนี้ต่อไปผมจะไม่พูดสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว!”

“ดี” เย่เฉินจึงพูดเสียงเรียบ: “พอแล้ว พวกคุณสามคนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องผมมาก ควรทำอะไรก็ทำเถอะ อย่าไปใส่ใจมากเลย ก็แค่ตระกูลอู๋กระจอกๆ จะทำอะไรผมได้”