ที่จริงเย่เฉินก็รู้ดีว่า ซ่งหวั่นถิงนั้นชอบตัวเองอยู่

เพียงแต่ว่า เขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง ดังนั้นเขาเลยแกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง แล้วค่อยจัดการภายหลัง

……

วันต่อมา อู๋ตงไห่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่

เพราะเขาคิดถึงเรื่องจะไปหาซือเทียนฉีเพื่อให้รักษาอาการอู๋ฉี ดังนั้นเขาเลยนอนไม่หลับทั้งคืน

ตอนนี้อาการอู๋ฉีไม่ค่อยสู้ดี เรื่องกินขี้นั้นยังแก้ไม่ได้เลย เขาเองก็ใกล้จะเป็นบ้าแล้วเหมือนกัน

ถ้าหากว่าลองเปลี่ยนเป็นคนอื่น แล้วเป็นนานขนาดนี้ ที่ต้องกินขี้วันละยี่สิบครั้ง กลัวว่าคงจะบ้าตายไปแล้ว

และยิ่งไปกว่านั้นอู๋ฉีก็เป็นคนที่ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจแต่เด็ก สำหรับเขาแล้ว น่ากลัวกว่าการตายอีก

ดังนั้น อู๋ตงไห่หวังว่าจะสามารถรักษาเขาให้หายได้ ให้เขากลับมาเป็นคนปกติ และในเวลาเดียวกันก็จับตัวคนที่ทำร้ายมาฆ่าทิ้ง ไม่เพียงเป็นการล้างแค้น แต่ยังเป็นการถอนรากถอนโคนมันด้วย!

และก็ด้วยเหตุที่เขาคิดตลอดเวลา อู๋ตงไห่จึงไม่สนใจกินข้าวเช้ากับตระกูลซ่ง พอตื่นขึ้นมาก็ไปเรียกอู๋ซินและก็พาบอดี้การ์ดสองสามคนตรงไปที่จี้ซื่อถังทันที

ภายในรถ อู๋ตงไห่รู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังมาก แต่อู๋ซินกลับดูอารมณ์ไม่ค่อยดี

เขาหวังว่าน้องชายเขาจะเป็นแบบนี้ตลอดกาล จะได้ลดปัญหาเขาลง

ดังนั้น เขาจึงถามหยั่งเชิง: “พ่อ ท่านว่าหมอเทวดาซือจะรักษาอู๋ฉีหายได้จริงไหม?”

“พ่อว่าไม่น่ามีปัญหา” อู๋ตงไห่พูดเสียงเรียบ: “ขนาดคนที่เป็นอัมพาตยังรักษาหายได้เลย อาการน้องชายแกแค่นิดเดียว ยังไงก็ต้องได้แน่นอน”

อู๋ซินพยักหน้า แต่ในใจรู้สึกไม่พอใจมาก

พอรถมาถึงจี้ซื่อถัง บอดี้การ์ดก็มาเปิดประตูรถให้สองพ่อลูก

อู๋ตงไห่ที่พึ่งลงจากรถ ก็หันไปเห็นประตูทางเข้าจี้ซื่อถัง ตอนนี้มีคนมายืนต่อแถวยาวมากแล้ว

เขาเลยอดไม่ได้จะถอนหายใจแล้วพูดขึ้น: “ดูแล้วที่นี่ ก็สมคำร่ำลือจริงๆ”

มีผู้ช่วยคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วก็โค้งตัวให้ : “ประธานอู๋ หมอซือเทียนฉีรักษาเพียงวันละสิบคน และก็ไม่ได้ขึ้นกับการเข้าคิว แต่ว่าดูตามอาการหนักเบาแค่ไหน และถึงจะต่อเป็นคนแรก แต่ถ้าอาการไม่หนักมาก ที่ไม่ต้องให้เขาต้องลงมือ เขาก็จะไม่ดูให้ แต่จะแนะนำไปที่อื่นแทน”

“อืม” อู๋ตงไห่หันไปมองแถวยาวเหยียดนั่นอีกครั้ง ก็พบว่ามีคนทุกระดับ เลยรู้สึกรังเกียจ เขาจึงโบกมือ แล้วหันไปพูดกับบอดี้การ์ด: “ไปเอาเงินสดที่อยู่ในกล่องด้านหลังมา แล้วเอาไปให้คนที่ยืนต่อแถวคนละพัน แล้วก็ไล่ไปซะ”

คนที่อยู่ในแถวก็ไม่พอใจ จึงตะโกนออกมา: “มีสิทธิ์อะไร?หมอเทวดาซือมีกฎเกณฑ์ ไม่ว่าใครก็ต้องต่อแถว!”

หัวหน้าบอดี้การ์ดจึงพูดต่อว่า: “ให้เงินหนึ่งพันฟรีๆ แกยังมีหน้ามาพูดจาแบบนี้ที่นี่อีกเหรอ?”

คนคนนั้นเลยพูดขึ้น: “พันหนึ่งเหรอ?แม่ฉันป่วยหนัก ถึงได้พามาหาหมอซือตั้งไกลเพื่อรักษา เงินพันหนึ่งของแกมันเยอะแค่ไหน?ไม่งั้นให้ฉันเอาให้แกพันหนึ่ง แล้วก็ไปไกลๆ เอาไหมห้ะ?”

“แม่งเอ้ย อุตส่าห์ให้โอกาสแล้วนะ!” บอดี้การ์ดคนนั้นโมโหแล้วหันไปมองเขา แล้วก็หันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ข้างเสียงแข็ง: “จัดการมัน!เอามันให้ตาย!”