บทที่ 766 ไม่เป็นไปตามแผน

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

เมื่อทุกคนเห็นว่าผู้ดูแลการคัดเลือกเข้าข้างทายาทของตัวเองเช่นนี้ พวกเขาต่างก็แสดงสีหน้ารังเกียจ

แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกไม่ชอบใจ แต่นี่มันไม่ใช่ปัญหาที่เกี่ยวกับพวกเขา ดังนั้นจึงไม่มีใครโต้แย้งอะไรออกไป

โดยเฉพาะเผ่าวิญญาณอเวจียิ่งแล้วใหญ่ เพราะถ้าหากสิทธิ์ของอุลบาถูกเพิกถอน เหมิงชิวปิงที่อยู่อันดับสองจะกลายเป็นอันดับหนึ่งทันที และนางจะได้กลายเป็นทูตศักดิ์สิทธิ์ไปโดยปริยาย

ในทางกลับกัน ด้านของสำนักเงามายาเมื่อพวกเขาได้ยินคำตัดสินแบบนี้พวกเขาต่างก็รู้สึกตกตะลึง

พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าทั้งตาแก่และเด็กเผ่าปีศาจสวรรค์จะใช้วิธีหน้าไม่อายขนาดนี้ในการตัดสิทธิ์คนของพวกเขา

จากนั้นอาการตกตะลึงของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์เดือดดาล

“นี่พวกเจ้าเผ่าปีศาจสวรรค์ไม่หน้าหนาเกินไปหน่อยหรือยังไง!? เจ้าตัดสิทธิ์คนของพวกเราเพราะว่าเขาแปลกประหลาดกว่าคนอื่น ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน? ที่นี่มันคือเขตแดนอุดรทมิฬที่มีแต่เผ่าแปลกประหลาดมากมาย ดังนั้นการที่ร่างกายคนของพวกเราแปลกแบบนี้มันแปลกแยกตรงไหน?” ผู้อาวุโสสำนักเงามายาตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล

ผู้ดูแลการคัดเลือกตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ในฐานะที่ข้าเป็นผู้ดูแลการคัดเลือกเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นข้ามีภาระหน้าที่ที่จะต้องป้องกันภัยร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย! ที่มาที่ไปของความสามารถอุลบานั้นไม่ชัดเจนเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวตนเขาอาจจะเป็นภัยร้ายต่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ ดังนั้นข้ายังคงอนุญาตให้เขาเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด อย่างน้อย ๆ ก็หลังจากที่พวกข้าต้องตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่าเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกอสูรจริง ๆ จากนั้นพวกข้าอาจจะให้โอกาสเขาได้เข้ารับการคัดเลือกในรอบหน้า”

สิ่งที่เขาหมายถึงก็คือ ไม่ว่าจะยังไงรอบนี้อุลบาจะไม่มีสิทธิ์ได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่นอน

ในความเป็นจริงแล้ว เขาเองก็เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าอันที่จริงไม่มีสิ่งใดที่สามารถคุกคามดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้แน่นอน เนื่องจากผู้ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ใช่ตัวตนที่ใครสามารถเทียบได้

แต่ในเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว และเขาก็อยากจะให้โม่หยุนได้สิทธิ์เข้าไปด้านในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเขาจึงต้องเล่นประเด็นที่อุลบานั้นอาจจะเป็นภัยร้ายถึงแม้ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลกับความเป็นจริงก็ตาม

ส่วนความกังวลในประเด็นเรื่องที่ผู้ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะรู้เรื่องที่เขาอ้างแบบนี้หรือเปล่านั้น เขาไม่กังวลเลยแม้แต่น้อยเพราะเขารู้ดีว่าผู้ปกครองไม่มาสนใจอะไรกับงานการคัดเลือกเล็ก ๆ แบบนี้แน่นอน…

ดังนั้นต่อให้เขาจะเพิกถอนสิทธิ์ของอุลบา และพาโม่หยุนเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แทน เขาแน่ใจว่าเขาน่าจะรอดตัวไปได้

ส่วนปัญหาที่ด้านนอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ไม่กังวลเท่าไหร่เพราะสำนักเงามายานั้นไม่ใช่สำนักที่แข็งแกร่งมากมายอะไรนัก โดยเฉพาะถ้าเทียบกับเผ่าปีศาจสวรรค์อย่างพวกเขานั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดังนั้นต่อให้เขาจะทำแบบนี้เขาก็ไม่กลัวที่จะถูกล้างแค้นโดยสำนักเงามายาเลย

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงพุ่งเป้ามาที่อุลบา และไม่เลือกคนอื่น ๆ ที่มีเผ่าของตัวเองคอยหนุนหลังทั้งหมด

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสสำนักเงามายายิ่งรู้สึกเดือดดาลมากเข้าไปใหญ่ “นี่เจ้ากล่าวหาคนของพวกเราโดยไม่มีหลักฐาน แถมยังตัดสิทธิ์ของอุลบาออกแบบหน้าด้าน ๆ ในทันทีแบบนี้ ถ้าหากองค์เหนือหัวรู้เข้า เขาจะต้องลงโทษเจ้าอย่างแน่นอน!”

ในเวลานี้ หลิงตู้ฉิงเองก็เริ่มที่จะรู้สึกโมโหขึ้นบ้างแล้วเช่นกัน

ทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแผนของเขาอย่างสวยงามอยู่แล้ว แต่ไอ้เวรปีศาจสวรรค์ตนนี้กลับมาขัดขวางแผนการของเขาโดยการเพิกถอนสิทธิ์การเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของอุลบาง่าย ๆ ซะงั้น?

ทางด้านของผู้ดูแลการคัดเลือก เมื่อได้ยินผู้อาวุโสสำนักเงามายาโต้เถียง เขาจึงตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ถ้าเจ้ายอมรับไม่ได้ ถ้างั้นก็รอไว้ให้เจ้าได้พบกับองค์เหนือหัวก่อนก็แล้วกัน แล้วเจ้าค่อยอธิบายกับเขาเอง แต่ตอนนี้ในฐานะที่ข้าเป็นผู้ดูแลการคัดเลือกสิทธิ์ในการเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นข้าจึงมีอำนาจตัดสินทุกอย่างที่เกี่ยวกับการคัดเลือก!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและพูดขึ้นว่า “อำนาจการตัดสินทุกอย่างที่เกี่ยวกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่สิ่งที่ทาสรับใช้อย่างเจ้าจะมาตัดสินใจเองได้”

ผู้ดูแลการคัดเลือกหันมาจ้องเขม็งหลิงตู้ฉิงด้วยแววตาเดือดดาลทันที และตะคอกกลับ “ทาสรับใช้? มนุษย์อ่อนแออย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาใช้คำนี้กับข้า! และที่นี่มันคือเขตแดนอุดรทมิฬและนี่คือปัญหาภายในของพวกข้าเอง ไม่ใช่ที่ที่เผ่ามนุษย์อย่างเจ้าจะมาพูดสอดได้ ขืนเจ้าพูดออกมาอีกแม้แต่ครึ่งคำ ข้าจะบี้เจ้าให้ตายเหมือนมด!”

เหล่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อออกมาข้างนอกพวกเขาจะกลายเป็นเหมือนอภิสิทธิ์ชนในทันที แต่เมื่อไหร่ที่พวกเขากลับเข้าไปด้านใน สถานะของพวกเขาก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรเลย แถมส่วนใหญ่นั้นมีสถานะไม่ต่างอะไรกับทาสด้วยซ้ำ

หลิงตู้ฉิงหัวเราะด้วยสีหน้าเย็นชา “อุลบาเป็นลูกศิษย์ของข้า ดังนั้นเจ้ารู้รึยังว่าทำไมข้าต้องยุ่งเรื่องของที่นี่? ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นทาสชั้นต่ำแค่ไหนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะมันไม่ใช่เรื่องของข้า รวมไปถึงไอเด็กทายาทของเจ้าที่อยากเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์จนตัวสั่นข้าเองก็ไม่สนใจมันเหมือนกัน แต่ถ้าเจ้าบังอาจเพิกถอนสิทธิ์ในการเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลูกศิษย์ข้าแล้วล่ะก็ ปัญหาเรื่องนี้มันก็เกี่ยวกับข้าโดยตรงและคนที่ข้าจะคิดบัญชีด้วยก็คือเจ้า!”

ผู้ดูแลการคัดเลือกหัวเราะด้วยสีหน้าเย็นชา “อ๋อเป็นเจ้านี่เองที่เป็นคนสอนอุลบา แต่แล้วจะยังไงล่ะ? ข้าคือคนดูแลการคัดเลือก ดังนั้นถ้าข้ายังยืนยันตัดสินเพิกถอนสิทธิ์ของลูกศิษย์เจ้า เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”

หลิงตู้ฉิงจ้องเขม็งไปที่ผู้ดูแลการคัดเลือก “เจ้าควรจะกลับคำตัดสินเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งพร้อม ๆ กับไอ้เด็กนรกทายาทของเจ้าซะ ตามกฎของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเวลาของการคัดเลือกจบลงประตูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะเปิดออกเอง ดังนั้นต่อให้ไม่มีเจ้า ทุก ๆ คนที่ผ่านการคัดเลือกแล้วก็จะสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่ดี!”

ไม่ว่าใครจะขวางทางเขาอยู่ หลิงตู้ฉิงจะต้องส่งอุลบาเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ เพราะถ้าหากอุลบาไม่ได้เข้าไปแจ้งข้อความให้เขา ปัญหาของหลิงเทียนหยุนก็จะคาราคาซังอยู่แบบนี้

อันที่จริงถ้าหากไม่เป็นเพราะราชาเทพมารหกปราถนาเป็นผู้เฝ้าประตู เขาก็คงไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ยุ่งยากขนาดนี้ ดังนั้นถ้าหากปีศาจสวรรค์ตนนี้ไม่ทำตามที่เขาบอกจริง ๆ หลิงตู้ฉิงก็มีทางเลือกแค่อย่างเดียวคือฆ่าทิ้งซะเพื่อให้อุลบาสามารถเข้าไปด้านในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้

ตราบใดที่เขารีบฆ่าปีศาจสวรรค์ตนนี้และรีบหลบไปให้พ้นก่อนที่ประตูดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะเปิดออกและราชาเทพมารหกปราถนาโผล่ออกมา เขาก็แน่ใจว่าสถานการณ์ทุกอย่างมันจะเรียบร้อย

แน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่ผู้ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ปรากฏกาย ในตอนนั้นเขาถึงจะออกมาเจอนางอีกที

เมื่อผู้ดูแลการคัดเลือกได้ยินเช่นนี้ เขาก็อดทนไม่ไหวอีกแล้วและปล่อยฝ่ามือใส่หลิงตู้ฉิงในทันที พร้อมกับตะโกนด้วยความเดือดดาลว่า “ในเมื่อเจ้าปากดีนัก งั้นข้าจะส่งเจ้าไปลงนรกเดี๋ยวนี้!”

หมิงยู่ที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว นางรีบพุ่งเข้าไปรวมร่างกับหลิงตู้ฉิงทันทีโดยที่ไม่จำเป็นต้องให้หลิงตู้ฉิงสั่ง

ทางด้านของหลิงตู้ฉิง เมื่อได้พลังเกื้อหนุนจากหมิงยู่แล้ว เขาจึงใช้พนเจรไร้จำกัดหลบฝ่ามือของผู้ดูแลการคัดเลือกและไปปรากฏตัวตรงหน้า จากนั้นเขาเหวี่ยงง้าวเทวะพินาศจำลองผ่าร่างผู้ดูแลการคัดเลือกและทำลายวิญญาณไปพร้อม ๆ กันภายในพริบตา

“แค่ทาสรับใช้ตัวกระจ้อยริอาจมาเบ่งต่อหน้าข้างั้นเหรอ?” หลิงตู้ฉิงเย้ยหยัน “เอาล่ะ ต่อไปก็เจ้าแล้วไอ้เด็กเวร หากเจ้าตายไปบนเวทีก็จะเหลือคนแค่ 10 คน!”

แต่แล้วก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะทันได้ฆ่าโม่หยุน เสียงอันเย็นยะเยือกก็ดังขึ้นว่า “เจ้าเป็นใครกัน? ทำไมต้องสังหารผู้ชายของข้า?”

หลิงตู้ฉิง เมื่อได้ยินเสียงนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าหดหู่

ส่วนที่ด้านล่างเวที มี่ไลเองก็อดไม่ได้ที่จะเอามือกุมขมับตัวเองด้วยสีหน้าจนใจ!