ทันทีที่หลิงตู้ฉิงสังหารปีศาจสวรรค์ ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลการคัดเลือก ท้องฟ้าเหนือจัตุรัสเมืองศักดิ์สิทธิ์ก็แยกออกทันทีพร้อมกับมีปีศาจสวรรค์ร่างยักษ์อีกตนหนึ่งค่อย ๆ เผยตัวออกมาจากรอยแยก
ในเวลาเดียวกับที่ปีศาจสวรรค์ร่างยักษ์ปรากฏกาย ผู้คนทั้งเมืองศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกราวกับว่าในใจของพวกเขากำลังร้อนรุ่มอยากจะทำตามปราถนาต่าง ๆ ที่อยู่ในใจ
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเช่นนี้ พวกเขาก็ยังต่อต้านแรงปรารถนาในใจกันอย่างสุดฤทธิ์ เพราะพวกเขารู้ดีว่าถ้าหากพวกเขาเผลอตัวทำตามที่ใจตัวเองปรารถนาในเวลานี้ มันจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบของชีวิต
บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่มีขอบเขตเหนือกว่าราชันขึ้นไปหลายคนเมื่อเห็นว่าปีศาจสวรรค์ร่างยักษ์ตนนี้ปรากฏกาย พวกเขาก็รีบบินหนีไปอย่างไม่คิดชีวิตทันที แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงไม่ไปไหนและพยายามต้านทานความปรารถนาในใจจนสุดกำลัง
ยิ่งมีระดับการบ่มเพาะสูงมากเท่าไหร่ กลิ่นอายของปีศาจสวรรค์ร่างยักษ์ตนนี้ก็ยิ่งส่งผลให้ความปรารถนาของพวกเขาถูกเร้ามากขึ้นเท่านั้น เพราะปีศาจสวรรค์ร่างยักษ์ตนนี้ก็คือ ‘ราชาเทพมารหกปรารถนา’!
หลิงตู้ฉิงรู้สึกจนใจเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้แผนการของเขามันพังไม่เป็นท่า ตามที่เขาคำนวณไว้ราชาเทพมารหกปรารถนาไม่ควรจะปรากฏตัวออกมาในตอนนี้เลย มันควรจะเป็นตอนที่ประตูดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปิดขึ้นเท่านั้น นางถึงจะปรากฏตัวออกมา
ตามแผนการเดิมของเขาคือ เมื่อประตูดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปิดออกเมื่อไหร่ เขาจะรีบหลบไปในทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอกับราชาเทพมารหกปรารถนา
แต่ตอนนี้ในทันทีที่เขาฆ่าปีศาจสวรรค์ที่เป็นผู้ดูแลการคัดเลือก นางกลับปรากฏตัวออกมาเลยซะอย่างนั้น
นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้!
ราชาเทพมารหกปรารถนาขมวดคิ้วและถามขึ้น “เจ้าเป็นใครกัน? เจ้าสังหารผู้ชายของข้าเพราะเจ้าต้องการจะแทนที่เขางั้นเหรอ? ไม่สิ เจ้านี่มันดูแปลกจริง ๆ เจ้ามีอีกตัวตนหนึ่งแฝงอยู่ในร่างใช่ไหม? เจ้าวางแผนจะทำอะไร?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและตอบกลับด้วยสีหน้าจนใจ “เฮ้อ…เป็นข้าเอง!”
หลิงตู้ฉิงรู้ดีว่าถ้าหากราชาเทพมารหกปรารถนาออกมานอกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ระดับการบ่มเพาะของนางจะลดลงเหลือขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด
แต่สิ่งที่ทำให้เขาหนักใจไม่ใช่ระดับการบ่มเพาะของนางเลย แต่มันเป็นเรื่องของทักษะที่นางเชี่ยวชาญต่างหาก
ขนาดราชาเทพมารหกปรารถนาลอยอยู่เฉย ๆ นางยังสามารถทำให้เหล่าผู้คนแทบคลั่งจากความปรารถนาในใจของตนเอง ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าถ้านางใช้ทักษะของนางออกมาอย่างจริงจัง สภาพของเมืองศักดิ์สิทธิ์มันคงเละเทะเกินที่ใครจะสามารถจินตนาการได้
แม้แต่หลิงตู้ฉิงเอง ในเวลานี้สัญลักษณ์หยินหยางในร่างกายของเขาก็หมุนควงอย่างบ้าคลั่งเพื่อรักษาสภาพความปรารถนาของเขา
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง ราชาเทพมารหกปรารถนาก็แสดงสีหน้างุนงงเพราะนางเองก็รู้สึกคุ้น ๆ เขาอยู่เหมือนกัน แต่นางก็ยังจำไม่ได้อยู่ดีว่าเขาเป็นใคร
หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นว่าราชาเทพมารหกปรารถนายังคงจำเขาไม่ได้ เขาจึงเปลี่ยนกลิ่นอายของตัวเองให้กลายเป็นเหมือนแบบที่นางคุ้นเคย ซึ่งภาพที่ปรากฏขึ้นก็คือลำแสงสีดำทมิฬที่มาจากจิตสังหารของเขาที่พุ่งขึ้นไปสูงเสียดฟ้า
ราชาเทพมารหกปรารถนา เมื่อเห็นเช่นนี้นางหัวเราะร่าทันที “ที่แท้ก็เจ้านี่เองเจ้าโจรน้อย! ในตอนนั้นเจ้า… ช่างเถอะ ๆ เอาเรื่องที่เจ้าสังหารผู้ชายของข้าดีกว่า ในเมื่อเจ้าสังหารเขาไปแล้ว ดังนั้นเจ้าต้องชดใช้ให้กับข้าโดยการที่นับจากนี้เจ้าจะต้องมาอยู่กับข้าแทนเขา!”
เมื่อพูดจบกลิ่นอายของราชาเทพมารหกปรารถนาที่ปลดปล่อยออกมาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญที่กำลังดูอยู่ยิ่งแสดงสีหน้าน่าเกลียดมากขึ้นไปอีก
ผู้ใดที่มีความปรารถนาในรสต่างก็เริ่มทนความกระหายของตัวเองไม่ไหวจนถึงขนาดเริ่มแทะแขนของตนเอง ผู้ใดที่ปรารถนาต้องการให้ตัวเด่นก็เริ่มอวดเบ่งใช้ทักษะต่าง ๆ นานาที่ตัวเองมีราวกับว่าพวกเขาเป็นนกยูงที่กำลังแพนหาง ผู้ใดที่ปรารถนาในสิ่งของก็เริ่มที่จะทำการปล้นคนรอบ ๆ ผู้ใดที่หมกหมุ่นในราคะก็เริ่มออกวิ่งไปทั่วเพื่อหาหญิงสาว…
ตอนนี้สภาพของเมืองศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเละเทะไปแล้วเรียบร้อย…
หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “หยิงเอ๋อ นี่เจ้าดูไม่ออกเหรอว่าข้าเปลี่ยนไปแล้ว?”
สีหน้าและการแสดงออกของราชาเทพมารหกปรารถนาเปลี่ยนไปราวกับคนละคนในทันที เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงพูดแบบนี้ นางถามหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าไม่พอใจและพูดว่า “เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ? เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ที่จะเรียกข้าว่าหยิงเอ๋องั้นเหรอ? ในอดีตเจ้าไม่ยอมเปลี่ยนสันดานของเจ้าและไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ! แต่พอมาวันนี้ที่เจ้าเปลี่ยนตัวเองได้หน่อย เจ้าคิดว่าข้าจะเห็นใจเจ้างั้นเหรอ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน?”..
ที่ด้านในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หญิงสาวนางหนึ่งที่กำลังนอนหลับอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะลืมตาตื่นขึ้น
หลิงตู้ฉิงอดกลั้นความหงุดหงิดของตัวเองอย่างเต็มที่ เขาฝืนยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้ข้าเปลี่ยนวิถีเต๋าของข้าแล้ว ซึ่งมันเป็นเต๋าที่ตรงข้ามกับเต๋าเดิมของข้าอย่างสิ้นเชิง และข้าเองก็กำลังค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับหกปรารถนา แต่ตอนนี้ข้ากลับต้องมาเจอกับร่างอวตารหกปรารถนาของเจ้า ซึ่งมันทำให้ข้าเกิดปัญหาใหญ่!”
ราชาเทพมารหกปรารถนาหัวเราะด้วยความสะใจ “ร่างอวตารหกปรารถนาของนั้นเป็นร่างที่ข้าเตรียมไว้ให้สำหรับเจ้าโดยเฉพาะเลยล่ะ! เจ้ากับข้าพวกเราต่างเคยใช้ความทรงจำร่วมกันมา ข้าเองก็รู้ความลับของเจ้า เจ้าเองก็รู้ความลับของข้า ดังนั้นข้าจึงรู้เป็นอย่างดีว่าเจ้าเป็นยังไง”
“เป็นเพราะข้าที่อยากช่วยเจ้า ข้าจึงสร้างร่างอวตารหกปรารถนาร่างนี้ขึ้นมาเพื่อใช้มันในการเปลี่ยนเจ้า ตราบใดที่เจ้าเห็นมัน ความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเจ้าจะถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที และแน่นอนว่ามันจะต้องทำให้เจ้าละทิ้งไอ้วิถีในอดีตบ้า ๆ นั่นของเจ้า แต่แล้วข้าไม่นึกมาก่อนเลยว่าตอนนี้เจ้ากลับเปลี่ยนวิถีไปเองซะก่อน แถมเจ้ายังโดนกระตุ้นความปรารถนาไปอีกต่างหาก เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เอาเป็นว่าเจ้าก็ค่อย ๆ ดับมันเองก็แล้วกัน ฮ่าฮ่าฮ่า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงตู้ฉิงก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น เขากับนางเคยใช้ความทรงจำร่วมกันมาก่อน ดังนั้นต่างคนจึงต่างรู้จุดอ่อนซึ่งกันและกัน และเมื่อเขาโดนจี้จุดอ่อนแบบนี้เขาก็ไม่มีทางต่อต้านได้เลย
โดยเฉพาะที่เขาในตอนนี้บ่มเพาะเต๋าซึ่งเกี่ยวกับ 7 อารมณ์ 6 ปรารถนา ดังนั้นเขาจึงยิ่งเสียเปรียบมากขึ้นกว่าเดิม
ตอนนี้เขาหวังแค่เพียงว่าเขาคงพอที่จะควบคุมมันได้บ้าง ไม่เช่นนั้นต่อไปเขาคงอาจจะทำอะไรที่มันบ้าจนตัวเขาเองรับไม่ได้
ราชาเทพมารหกปรารถนาหัวเราะและพูดต่อ “อันที่จริงอาณาเขตเงาทมิฬของข้าไม่ควรที่จะเปิดการคัดเลือกคนเข้ามาเร็วแบบนี้หรอก และร่างอวตารที่คอยเฝ้าประตูก็ไม่ควรจะเป็นหกปรารถนา แต่บังเอิญว่าก่อนหน้านี้ข้าดันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเจ้าพอดี ข้าก็เลยจัดแจงให้หกปรารถนาเป็นผู้เฝ้าประตู”
“และจากนั้นข้าก็สั่งให้เปิดการคัดเลือกทูตคนใหม่ขึ้นเพื่อที่ข้าจะได้ส่งทูตของข้าออกไปพร้อมกับหกปรารถนาเพื่อให้นางเล่นงานเจ้า แต่นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่ามันดันเป็นเจ้าเองที่มาหาข้าถึงที่ ซึ่งมันทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรงอะไรเลย ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลิงตู้ฉิงพ่นลมหายใจ และพูดว่า “ฮึ่ม! อย่าคิดว่าเจ้าฉลาดนัก ข้าเองก็พอจะเดาได้ราง ๆ เหมือนกันนั่นแหละว่าการที่หกปรารถนาเป็นผู้เฝ้าประตูเองแบบนี้มันน่าจะเป็นสาเหตุมาจากข้า ข้าเองก็รู้จักเจ้าดีเหมือนกัน! และอย่าคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบที่เจ้าหวังไปซะทั้งหมด จงรู้เอาไว้ว่าข้าในตอนนี้นั้นเปลี่ยนไปแล้ว!”
ราชาเทพมารหกปรารถนาทำหน้ามุ่ยและพูดว่า “ต่อให้เจ้าเปลี่ยนแล้วจะยังไง? ไม่ใช่ว่าตอนนี้เจ้าก็กำลังลำบากจากความปราถนาไม่ใช่เหรอ? ว่าแต่ไหนเจ้าลองพูดมาสิว่าการที่เจ้าดั้นด้นมาหาข้าถึงที่นี่เจ้ามีธุระอะไร? เห็นสภาพที่น่าอนาถของเจ้าแบบนี้ข้าเลยรู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ดังนั้นข้าว่าข้าจะช่วยเจ้าสักหน่อย”
หลิงตู้ฉิงหันไปชี้หลิงเทียนหยุน และพูดกับราชาเทพมารหกปรารถนาว่า “เขาคือลูกชายของข้าและเขาก็กำลังฝึกฝนวิชาหมื่นเงามายาของเจ้า และอีกอย่างเขามีสายเลือดของเผ่าเซียนมายา ตอนนี้เขากำลังมีปัญหากับร่างเงามายาของเขาเอง ซึ่งข้าอยากจะให้เจ้าช่วยแก้ปัญหาให้เขาหน่อย”
ราชาเทพมารหกปรารถนามองไปที่หลิงเทียนหยุน จากนั้นนางเบนสายตากลับมามองหลิงตู้ฉิงและตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาลว่า “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้กล้าพาลูกของเจ้าที่กำเนิดจากผู้หญิงคนอื่นมาให้ข้าช่วยแบบนี้? และที่สำคัญเจ้าถึงกับถ่ายทอดวิชาของข้าให้กับลูกของเมียเจ้าอีกต่างหาก อย่าว่าแต่จะให้ข้าช่วยเจ้าเลย แค่ข้าไม่ฆ่าไอ้เด็กที่เกิดจากผู้หญิงคนอื่นกับเจ้าให้ตายลงตรงนี้มันก็บุญเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นเจ้าอย่าฝันว่าข้าจะช่วยลูกของเจ้าไอ้คนสารเลว!”
เมื่อพูดจบสีหน้าของราชาเทพมารหกปรารถนาก็กลับเป็นปกติแบบที่นางเคยเป็นเหมือนเดิม
แต่ว่าในใจกลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หญิงสาวที่ในตอนแรกยังคงนอนลืมตาตอนนี้นางได้ลุกพรวดขึ้นมาแล้ว และร่างของนางก็หายไปในพริบตา และจากนั้นร่างของนางก็ออกมาปรากฏกายที่กลางจัตุรัสเมืองศักดิ์สิทธิ์ด้วยสีหน้าเดือดดาล