บทที่ 3059 ปัจฉิมบท 24 / บทที่ 3060 ปัจฉิมบท 25

ลำนำบุปผาพิษ

บท​ที่​ ​3059​ ​ปัจฉิม​บท​ ​24

ขณะที่​มัน​กำลัง​พยายาม​ครุ่นคิด​ดู​อย่าง​สุดกำลัง​อีกครั้ง​ ​เสี่ยว​เฮ​ยก​็​ขยับ​เข้ามา​หา​ ​มอง​มัน​อย่าง​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​‘​เจ้า​คือ​เสี่ยวเ​ฝิ่น​จริง​หรือ​?​’

เสี่ยวเ​ฝิ่น​กลอกตา​ที​หนึ่ง​ ​ค้อน​ตา​ใส่​มัน​ ​‘​ของแท้​แน่นอน​!​’

เสี่ยว​เฮ​ยปา​นบุ​พกา​รีม​อด​ม้วย​ ​ร้องไห้​โอดครวญ​ ​‘​เช่นนั้น​เหตุใด​เจ้า​ถึง​กลายเป็น​อัปลักษณ์​ถึง​เพียงนี้​เล่า​?​ ​ฮือๆ​ ​ข้า​ชอบ​เจ้า​ตอนที่​อวบอ้วน​เช่นนั้น​มากกว่า​…​’

เสี่ยวเ​ฝิ่น​แทบ​พูดไม่ออก​เลย​ ​‘​…​ไสหัวไป​ซะ​!​’​ ​มันต​วัด​อุ้งเท้า​ฟาด​เสี่ยว​เฮ​ยก​ลับ​ไป​!

ด้านนอก​เขตแดน​ ​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​รวม​ร่าง​ขึ้น​มาจาก​วิญญาณ​อาฆาต​อีกครั้ง​ ​นาง​มองดู​มังกร​ประทีป​ชมพู​จากนั้น​ก็​มองดู​กู้​ซีจิ​่ว​ ​แววตา​เปี่ยม​ด้วย​ความพยาบาท​อาฆาต​ ​“​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​มังกร​ประทีป​สารเลว​ตัว​นี้​จะ​ยอมรับ​เจ้า​เป็น​นาย​ ​เสียที​ที่​เปิ่น​จุน​ดี​ต่อมั​นมา​โดยตลอด​ ​หักใจ​สังหาร​มัน​ไม่​ลง​…​ไม่น่าเชื่อ​ว่า​จะ​ทรยศ​นาย​เดิม​ ​สมควร​ตาย​จริงๆ​!​”

‘​เดิมที​นาง​ก็​เป็น​นาย​ของ​ข้า​อยู่​แล้ว​!​ ​นาง​สิ​ถึง​จะ​เป็น​นาย​เดิม​ของ​ข้า​ ​เจ้า​ไม่ใช่​เลย​ ​เจ้า​เป็น​แค่​มาร​ตัว​หนึ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​จาก​การ​รวมตัว​ของ​ความเลวทราม​ชั่วร้าย​เท่านั้น​ ​ไม่ใช่​เทพ​ผู้สร้าง​โลก​เลย​ ​เจ้า​ดี​กับ​ข้า​ตอน​ไหน​กัน​?​ ​เจ้า​กักขัง​ข้า​ไว้​ใน​ทะเลทราย​ผุพัง​แห่ง​นี้​หลาย​หมื่น​ปี​แล้ว​ ​ถูก​แดด​เผา​ลมโกรก​ทุก​วี่วัน​ ​อยู่​มิสู​้​ตาย​…​’​ ​มังกร​ประทีป​ขุ่นข้อง​โกรธา​ ​ระบาย​ความไม่พอใจ​ทั้งหมด​ใน​หัวใจ​ออกมา

เห็นได้ชัด​ว่า​สตรี​ชุด​ขาว​นาง​นั้น​ถูก​จี้​จุด​เข้า​แล้ว​ ​หน้า​เปลี่ยนสี​ทันที​ ​แสยะ​ยิ้ม​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เดิมที​ยัง​คิด​จะ​เก็บ​ชีวิต​ของ​ตัว​กระจอก​อย่าง​เจ้า​เอาไว้​อยู่​ ​ยาม​นี้​เห็นที​ว่า​คง​ไม่จำเป็น​แล้ว​!​ ​ลง​หลุม​ไป​พร้อมกับ​พวกเขา​เสียเถิด​!​”

นาง​โบก​แขน​เสื้อ​ ​วิญญาณ​อาฆาต​ที่อยู่​ด้านหลัง​นาง​พลุ่งพล่าน​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​โอบล้อม​เข้าหา​เขตแดน​นี้​อย่าง​มืดฟ้ามัวดิน​ ​โจมตี​เสมือน​บ้าคลั่ง​ไป​แล้ว​…

วิญญาณ​อาฆาต​เหล่านี้​น่าจะ​ถูก​ปลุกเสก​เพิ่ม​ความแข็ง​แกร่ง​ด้วย​วิชาอาคม​พิเศษ​มา​แล้ว​ ​แรง​พยาบาท​กล้าแกร่ง​ยิ่ง​ ​วิญญาณ​อาฆาต​หนึ่ง​ตัว​มีพลัง​ยุทธ์​เทียบ​ได้​กับ​ซ่าง​เซียน​เลย​ ​ซ้ำ​พวก​มัน​ยัง​ไม่​กริ่งเกรง​ความตาย​ ​สำหรับ​พวก​มัน​แล้ว​เขตแดน​ของ​ตี้ฝู​อี​มีฤทธิ์​ใน​การกั​ดก​ร่อน​พวก​มัน​อย่างยิ่ง​ ​เมื่อ​สัมผัส​โดน​แล้ว​จะ​เกิด​ควัน​ไหม้​โชย​ขึ้น​มา​ ​ย่าง​พวก​มัน​จน​เกิด​เสียงดัง​ฉ่า​ๆ

แต่​พวก​มัน​ไม่​กลัว​เลย​ ​เรียงแถว​กัน​พุ่ง​เข้า​ชน​เขตแดน​ ​กระแทก​เขตแดน​นี้​ให้​โยก​ไหว​อยู่​ไม่​ขาด​…

แรง​กระแทก​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​เขตแดน​นี้​ไม่​นับว่า​มากมาย​นัก​ ​แต่​ไอ​มาร​บน​ร่าง​ของ​พวก​มัน​สามารถ​กัดกร่อน​เขตแดน​กลับ​ได้​ ​กระแทก​หนึ่ง​ครั้ง​สามารถ​ทำให้​วิญญาณ​อาฆาต​ตัว​หนึ่ง​สลาย​เป็น​ควัน​ไป​ได้​ ​แต่​ก็​ทิ้ง​รอยด่าง​ดำ​ขนาด​ไม่​เล็ก​ไม่​ใหญ่​จุด​หนึ่ง​เอาไว้​บน​เขตแดน​ด้วย​เช่นกัน​…

รอยด่าง​ดำ​ทั้ง​เล็ก​ทั้ง​ใหญ่​ซ้อนทับ​กัน​อย่าง​หนาแน่น​อยู่​บน​เขตแดน​ ​ทำให้​เขตแดน​มีที​ท่า​ว่า​จะ​หลอมละลาย​แล้ว​…

หลังจาก​กู้​ซีจิ​่​วก​ลับ​เข้า​ร่าง​ของ​ตัวเอง​ได้​ ​พลัง​ยุทธ์​ก็​เพิ่มมากขึ้น​ ​เมื่อ​เธอ​เห็น​ตี้ฝู​อีสิ​้น​เปลือง​เรี่ยวแรง​ยืนหยัด​ค้ำ​ยัน​ด้วย​ตัว​คนเดียว​ ​ก็​ไม่​พูดพร่ำ​อัน​ใด​เข้าร่วม​ด้วย​ ​ช่วย​แบ่งเบาภาระ​เขา

รักษา​เขตแดน​ไว้​ได้​ชั่วคราว​ ​แต่​การ​ทำ​เช่นนี้​ต่อไป​ไม่ใช่​วิธี​ที่​ดี​ ​วิญญาณ​อาฆาต​มากมาย​ไร้​สิ้นสุด​ ​แต่​เธอ​กับ​เขา​ช่วงเวลา​ที่​หมด​เรี่ยวแรง​ย่อม​มาถึง​ในไม่ช้า​ก็​เร็ว​…

“​พวกเรา​คิด​หาวิ​ธี​ออก​ไป​กัน​เถอะ​”​ ​เธอ​สูด​หายใจ​แล้ว​เอ่ย​กระซิบ​ ​นัยน์ตา​เฉียบคม​กวาด​มอง​วิญญาณ​อาฆาต​ที่​คำราม​โหยหวน​อยู่​ด้านนอก​แวบ​หนึ่ง​ ​“​เจ้า​สิ่ง​เหล่านี้​ต้อง​สวด​ส่ง​วิญญาณ​ ​หรือไม่ก็​กำจัด​ทิ้ง​!​”

น้ำเสียง​ตี้ฝู​อี​เคร่งขรึม​ ​“​วิญญาณ​อาฆาต​มากมาย​เกินไป​ ​แรง​พยาบาท​แกร่งกล้า​เกินไป​ ​ไม่​อาจ​สวด​ส่ง​วิญญาณ​ได้​ ​ทำได้​เพียง​กำจัด​ทิ้ง​!​”

หัวใจ​กู้​ซีจิ​่ว​ดิ่ง​วาบ​ไป​แวบ​หนึ่ง​ ​วิญญาณ​อาฆาต​เหล่านี้​ยาม​มีชีวิต​อยู่​ล้วน​เป็น​ประชาชน​คนธรรมดา​ใน​ทวีป​นี้​ ​ถูก​ทะเลทราย​แห่ง​นี้​กลืน​กิน​จน​สิ้นชีพ​ ​ถูก​บีบคั้น​ให้​กลายเป็น​วิญญาณ​อาฆาต​ ​ทว่า​แม้แต่​โอกาส​ใน​การ​สวด​ส่ง​วิญญาณ​ก็​ถูก​ลิดรอน​…

แต่​เธอ​ก็​รู้จัก​นิสัย​ของ​ตี้ฝู​อี​ดี​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​ไม่มี​วิธี​แล้ว​ ​เขา​ก็​คง​ไม่​พูด​แบบนี้​ออกมา

เธอ​นึกถึง​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​ถึงแม้​เธอ​ยังคง​จดจำ​อดีตชาติ​ไม่ได้​ ​แต่​ถึงอย่างไร​ก็ได้​เห็น​ฉาก​เหล่านั้น​มา​แล้ว​ ​ทราบ​ว่า​เขา​เคย​เป็น​ศิษย์​ของ​ตน​ ​ซ้ำ​ตน​ยัง​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​เป็น​อย่างดี​ด้วย​ ​ก่อน​จะ​ดับขันธ์​ก็​ยัง​ห่วง​พะวง​ถึง​เขา​ขนาด​นี้​ ​กรุยทาง​ไว้​ให้​เขา​…

ดังนั้น​ใน​ตอนนี้​เธอ​ก็​บอก​ไม่​ถูก​เช่นกัน​ว่า​รู้สึก​อย่างไร​กับ​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ ​เธอ​หันไป​มอง​อีก​ไม่​กี่​คนใน​เขตแดน​ ​“​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ล่ะ​?​ ​พวก​เจ้า​มี​ใคร​เห็น​เขา​ไหม​?​”

ทุกคน​พากัน​ส่ายหน้า​ ​สื่อ​ว่า​ไม่เห็น​เขา​เลย

เจ้า​หอย​ยักษ์​เอ่ย​อย่าง​หงุดหงิด​ ​“​เขา​ชั่วช้า​เป็น​ที่สุด​!​ ​หลังจาก​ออกมา​แล้ว​ต้อง​ไปร​่ว​มมื​อกั​บนา​งมา​รต​นนั​้​นอีก​แน่นอน​”

กู้​ซีจิ​่ว​ถอนหายใจ​หนัก​ๆ​ ​ครา​หนึ่ง​ ​ส่ายหน้า​แล้ว​ตอบ​ ​“​น่าจะ​ไม่​แล้ว​…​”

เธอ​ยัง​เอ่ย​ไม่ทัน​จบ​ดี​ ​พลัน​มีเสียง​ตึงตัง​ดังสนั่น​หวั่นไหว​แว่ว​ขึ้น​ไม่​ไกล​ ​เสียง​นั้น​ราวกับ​ฟ้า​ถล่ม​ก็​มิ​ปาน

วิญญาณ​อาฆาต​ที่​โจมตี​พวกเขา​อยู่​สั่นสะท้าน​ขึ้น​พร้อมกัน​ ​และ​แทบจะ​ในเวลาเดียวกัน​นี้​ ​เงา​ร่าง​สาย​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​เข้ามา​ดุจ​กระแสไฟฟ้า​ ​“​ไป​เร็ว​!​ ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​!​”

จิตใจ​กู้​ซีจิ​่ว​ไหว​สะท้าน​ครา​หนึ่ง

ฟั่น​เชียน​ซื่อ​!

ไม่น่าเชื่อ​ว่า​เขา​จะ​ตามมา​แล้ว​!

ท้อง​นภา​ที่​รายล้อม​ด้วย​วิญญาณ​อาฆาต​พลัน​เปิด​แง้ม​ออกมา​เสี้ยว​หนึ่ง​ ​ใน​เสี้ยว​นภา​นั้น​ปรากฏ​วัง​น้ำวน​สีขาว​ขุ่น​ขนาดใหญ่​ขึ้น​มา​…

ตี้ฝู​อี​ฉลาด​ระดับ​ไหน​แล้ว​เล่า​ ​ไม่​รอ​ให้​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ต้อง​เอ่ยปาก​อีก​ ​ก็​ควบคุม​เขตแดน​พา​คน​ทั้งหมด​พุ่ง​ทะยาน​เข้าไป​ใน​วัง​น้ำวน​ขนาดใหญ่​นั้น​…

….

————————————————————————————-

บท​ที่​ ​3060​ ​ปัจฉิม​บท​ ​25

หลังจาก​หมุนติ้ว​ด้วย​ระดับ​ความเร็ว​สูง​ที่​เร็ว​กว่า​เครื่องซักผ้า​นับ​ร้อย​เท่า​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ​ในที่สุด​ตี้ฝู​อีก​็​บรรทุก​คน​ทั้ง​กลุ่ม​พุ่ง​ทะยาน​ออกมา​จาก​วัง​น้ำวน​ได้​ ​กระแทก​เข้าไป​ท่ามกลาง​ฝูงชน​…

ใช่​แล้ว​ ​ฝูงชน

ที่​ถูก​เหยียบย่ำ​อยู่​ใต้​ฝ่าเท้า​คือ​ต้นไม้​ที่​แห้ง​เฉา​โรยรา​และ​สิ่งปลูกสร้าง​ที่​ถูก​เผาไหม้​ ​เหล่า​เทพ​เซียน​มาร​รอบข้าง​ที่​เดิมที​สมควร​จะ​เจิด​จรัส​สาดส่อง​แสง​มงคล​เจิด​จรัส​นับ​หมื่น​สาย​ ​ยาม​นี้​กลับ​หน้าตามอมแมม​ทึม​ทึบ​ ​เสื้อผ้า​ชำรุดทรุดโทรม​…

ทะเลทราย​ที่​คล้าย​จะ​บ้าคลั่ง​ไป​แล้ว​แห่ง​นั้น​อยู่​ห่าง​จาก​ที่นี่​หลาย​สิบ​กิโลเมตร​ ​แต่​ยังคง​แผดเผา​ทุกสิ่ง​ใน​บริเวณ​ข้างเคียง​ที่สามา​รถติด​ไฟ​ไป​หมด​แล้ว​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เซียน​มาร​ปีศาจ​เหล่านี้​ล้วน​มี​กำบัง​คุ้ม​กาย​อยู่​รอบกาย​ ​เกรง​ว่า​ผมเผ้า​หนวดเครา​ของ​แต่ละคน​คง​ถูก​เผา​วอด​ไป​แล้ว

หลังจาก​กลุ่ม​ของ​ตี้ฝู​อี​ร่วง​ลงมา​ ​ก็​หวิด​จะ​กระแทก​ใส่​ผู้คน​บางส่วน​เข้า​ ​ทุกคน​พากัน​หลบหลีก​ออก​ไป

เจ้า​หอย​ยักษ์​ถูก​หมุน​ปั่น​ด้วย​ความเร็ว​สูง​จน​ตาลาย​แล้ว​ ​หลังจาก​ร่อน​ลงพื้น​ก็​วิงเวียน​ตาลาย​เห็น​ดาวทอง​แล้ว​ ​ดวงตา​เพ่ง​จับจุด​ไม่ได้​ชั่วขณะ

หลังจากที่​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​มัน​จะ​ค่อยยังชั่ว​ขึ้น​มา​ได้​ ​ก็​ถูก​ชาว​เซียน​โอบล้อม​เข้ามา​อย่าง​ ​‘​กระตือรือร้น​’​ ​เลย​!

“​หวา​ ​พวก​เจ้า​ยัง​มีชีวิต​อยู่​”

“​กู้​ซ่าง​เสิน​ ​หวา​ ​กู้​ซ่าง​เสิน​ก็​มาด​้วย​!​”

“​แม่ทัพ​หลง​ ฮ​วา​ซ่าง​เซียน​ ​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​ก็​หนี​ออกมา​ได้​!​ ​ช่าง​ยอดเยี่ยม​เกินไป​แล้ว​จริงๆ​”

“​หอย​ยักษ์​ ​ลู่​อู๋​ ​เอ๊ะ​ ​ยัง​มี​มังกร​หน้าตา​ประหลาด​พิลึกพิลั่น​อีก​สอง​ตัว​ด้วย​…​”

“​เอ๋​ ​สอง​ท่าน​นี้​คือ​?​ ​นี่​คือ​ฝ่า​บาท​เนี่ยน​โม่​กระมัง​?​!​ ​สวรรค์​ ​เปลี่ยนไป​มาก​เหลือเกิน​!​”

ผู้คน​นับไม่ถ้วน​ห้อมล้อม​กัน​เข้ามา​ ​เสียง​นับไม่ถ้วน​ดัง​เซ็งแซ่​อยู่​ข้าง​หู​ ​เอะอะ​จน​เจ้า​หอย​ยักษ์​ปวดหู​แล้ว

คน​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​ชนชั้น​ผู้นำ​ของ​ภพ​เซียน​หรือไม่ก็​ภพ​มาร​ภพ​ปีศาจ​ ​พวกเขา​รู้จัก​กู้​ซีจิ​่ว​ผู้​เป็น​ซ่าง​เสิน​ ​แน่นอน​ว่า​รู้จัก​แม่ทัพ​หลง​ซือ​และ​ซ่าง​เซียนฮ​วา​เหยี​ยน​ที่​ระยะนี้​โดดเด่น​ระบือ​นาม​ใน​ภพ​เซียน​ด้วย​…

เนื่องจาก​เจ้า​หอย​ยักษ์​กับ​ลู่​อู๋​พำนัก​อยู่​บน​สวรรค์​มาระ​ยะ​หนึ่ง​แล้ว​ ​ซ้ำ​เจ้า​หอย​ยักษ์​ยัง​ชอบ​คบหา​มิตรสหาย​ด้วย​ ​คบค้า​สหาย​ใน​ภพ​เซียน​อยู่​ไม่น้อย​เลย

ส่วน​ตี้ฝู​อี​ ​ยาม​ที่​เขา​ใช้ชีวิต​อยู่​ที่ดิน​แดน​เบื้องบน​ด้วย​ฐานะ​ของ​ฝ่า​บาท​เนี่ยน​โม่​ ​ส่วนใหญ่​แล้ว​จะ​ปรากฏตัว​ใน​รูปโฉม​ของ​เด็กน้อย​ ​ภาพ​จำ​ที่​ทุกคน​มีต​่อ​เขา​ยังคง​เป็น​เด็กน้อย​คน​หนึ่ง​ ​ต่อมา​ถึงแม้​ตี้ฝู​อี​จะ​ท่อง​ไป​ทั่วหล้า​ด้วย​สมญา​คุณชายฝู​อี​ ​แต่​เขา​ก็​สวมหน้ากาก​เอาไว้​ ​ดังนั้น​คน​ส่วนใหญ่​จึง​ไม่รู้​จักรู​ปลักษณ​์​ที่แท้​จริง​ของ​เขา

ประกอบกับ​ยาม​นี้​เขา​กลับมา​อยู่​ใน​รูปลักษณ์​ตอน​เป็น​เทพศักดิ์​สิทธิ์​แล้ว​ ​บุคลิก​ท่วงท่า​แตกต่าง​จาก​ใน​อดีต​อย่าง​ลิบลับ​เลย​ ​หลังจาก​เขา​กลับ​สู่​ตัวตน​เดิม​ก็​แทบ​ไม่เคย​เผย​หน้า​ของ​เขา​ต่อหน้า​ของ​ชาว​เซียน​เลย​ ​ดังนั้น​คน​ส่วนใหญ่​จึง​ยังคง​ไม่รู้​จัก​เขา​อยู่ดี​ ​วันนี้​ได้​เห็น​เขา​เผย​หน้าเป็น​ครา​แรก​ ​จึง​จำ​ไม่ได้​ชั่วขณะ

ส่วน​ฟั่น​เชียน​ซื่อ​ที่​ร่อน​ลงมา​พร้อมกัน​ ​คน​ผู้​นี้​ยิ่ง​เป็น​เทพ​มังกร​เห็น​หัว​ไม่เห็น​หาง​ ​ยาม​ที่​ปรากฏตัว​ขึ้น​เป็นครั้งคราว​ก็​จะ​สวมหน้ากาก​เอาไว้​ดุจ​ผู้​กอบกู้​โลก​ก็​มิ​ปาน​ ​หลังจาก​แสดง​ฝีมือ​คลี่​ลาย​ความวุ่นวาย​แล้ว​ ​ก็​จะ​หายตัว​ไป​ ​เขา​ยังคง​เป็นตัว​ตน​ที่​ลึกลับ​น่าเกรงขาม​ผู้​หนึ่ง​ของ​หก​ภพ​ภูมิ​ ​ผู้คน​รู้จัก​กัน​ในนาม​…​คุณชาย​พิทักษ์​โลกา

อย่างไรก็ตาม​ ​ยาม​นี้​คุณชาย​พิทักษ์​โลกา​ผู้​นี้​จนตรอก​ซอมซ่อ​ไป​ทั้งตัว​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นการ​แต่งตัว​หรือว่า​รัศมี​ ​แตกต่าง​ห่าง​ชั้น​กับ​คุณชาย​พิทักษ์​โลกา​ที่อยู่​ใน​ใจ​ของ​ฝูงชน​ยิ่งนัก​ ​ดังนั้น​ทุกคน​จึง​จดจำ​เขา​ไม่ได้​ชั่วขณะ​ ​ย่อม​ไม่มี​ผู้ใด​เอ่ย​ทักทาย​เขา​…​ความนิยม​ยัง​สู้​เจ้า​หอย​ยักษ์​ไม่ได้​เลย​ด้วยซ้ำ

ตี้ฝู​อี​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​นี้​ ​เขา​กวาดตา​มอง​รอบข้าง​แวบ​หนึ่ง​ ​ก็​ประเมิน​สถานการณ์​รอบข้าง​ได้​พอสมควร​แล้ว

คน​เหล่านี้​จัดเรียง​แถว​ตามที่​แปด​สัตว์​วิเศษ​บอก​ ​กาง​ค่าย​กล​ใหญ่​สำหรับ​ควบคุม​ยับยั้ง​ทะเลทราย​เอาไว้​จริงๆ​ ​แต่​จนปัญญา​ที่​ทะเลทราย​ดุร้าย​เกินไป​ ​ควบคุม​ไว้​ได้​เพียง​ไม่​กี่​ชั่ว​ยาม​ ​ก็​ถูก​ทะเลทราย​ชั่วร้าย​สลัด​พ้น​จาก​การควบ​คุม​ ​ยิ่ง​ทวี​ความดุร้าย​เหี้ยมโหด​ขึ้นไป​อีก​ ​หลังจาก​สูญเสีย​ชาว​เซียน​ไป​เป็น​จำนวน​หนึ่งในสี่​แล้ว​ ​จึง​พากัน​ถอยร่น​ไป

หลังจาก​ประเมิน​ดู​อย่างรวดเร็ว​ครู่หนึ่ง​ ​เซียน​มาร​ปีศาจ​ส่วนใหญ่​ก็​เลือก​ที่จะ​เอาตัวรอด​เป็นยอด​ดี​ ​แยกย้าย​จากไป​แล้ว

ส่วน​เหล่า​ผู้​บำเพ็ญ​ส่วนหนึ่ง​ที่​สัตย์ซื่อ​ถือ​คุณธรรม​ ​ทน​เห็น​ประชาชน​ของ​ที่นี่​ถูก​ทะเลทราย​เขมือบ​กลืน​กิน​ไม่ได้​ ​จึง​ตกลง​กัน​ว่า​จะ​ก่อ​ค่าย​กล​ขึ้น​ที่นี่​อีกครั้ง

————————————————————————————-