ตอนที่ 1311

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตู้ม!

พื้นปฐพีสั่นสะเทือนและป่าภูผาวารีอย่างน้อยหนึ่งในสามก็ถูกทำลาย แต่พื้นดินก็ยังคงสั่นกระเพื่อมไปมาไม่หยุด จนกระทั่งผ่านไปสิบลมหายใจในที่สุดก็หยุด

พลังทำลายล้างของหมัดนี้ทรงพลังมาก!

ต้องทราบก่อนว่าพื้นที่บริเวณนี้เกิดจากการชนกันของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสอง มันควรจะไม่ถูกทำลาย

กำปั้นของฉือหวงที่มีขนาดใหญ่เท่าภูเขาหดกลับเป็นขนาดปกติและยืนหยัดอย่างภาคภูมิใจ

แต่หลังจากที่เขายืนภาคภูมิใจได้ไม่นาน ฉากต่อไปก็ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

หลิงฮันยังยืนอยู่!

ฟ่อ!

ไม่ได้มีแค่ฉือหวงเท่านั้นที่เผยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แม้แต่คนอื่นๆเองก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน ภายใต้การโจมตีแบบนั้น แต่หลิงฮันกลับไม่เป็นอะไรเลย?

“หมัดของเจ้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก มันทำให้กระดูกของข้าเกือบแตกหัก” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม

– ถ้าหมัดเมื่อครู่ของฉือหวงทรงพลังกว่านี้เล็กน้อย เขาคงจัดการหลิงฮันได้แล้ว

แต่ถึงแม้ฉือหวงจะมีความภาคภูมิใจในตัวเองมากแค่ไหน แต่เขาก็ต้องลดความภาคภูมิใจของตัวเองลงและพูดว่า “ในการต่อสู้ระดับเดียวกัน ข้าไม่อาจทำอะไรเจ้าได้เลย”

ในด้านพลังป้องกัน หลิงฮันเหนือกว่าจิตวิญญาณปฐพีของเขา และในด้านพลังโจมตี หลิงฮันก็ยังมีอำนาจแห่งสวรรค์ที่สามารถลดพลังต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามได้สองดาว ถ้าเป็นการต่อสู้ในระดับเดียวกันไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้

หลิงฮันมีทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันที่น่าตกตะลึง แล้วจะมีใครปะมือกับเขาได้บ้าง?

หากต้องการเอาชนะหลิงฮันจะต้องใช้ความได้เปรียบของระดับบ่มเพาะพลัง

“เจ้าเป็นคนที่แปลกประหลาดมาก!” ฉือหวงกล่าว

หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ในเมื่อเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ก็ส่งหยดวิญญาณมาให้ข้าได้แล้ว”

ฉือหวงรู้สึกกดดัน แต่ก็ไม่อาจผิดคำพูดได้ และสร้างบาดแผนที่แขนเพื่อโลหิตของเขาหยดไหลออกมาและใส่ในขวดหยก ตัวเขาที่เป็นจอมยุทธระดับดาราและมีจิตวิญญาณปฐพี โลหิตของเขาอาจพูดได้ว่าเป็นสมบัติในหมู่จอมยุทธระดับดาราก็ว่าได้

เขาโยนขวดหยกให้กับหลิงฮัน และแน่นอนว่าหลิงฮันเก็บขวดหยกเข้าไปในหอคอยทมิฬทันที

ส่วนการต่อสู้อีกคู่หนึ่ง ฉื้อหวงจี่และเป่ยหวงยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือด

เป่ยหวงใช้กระบี่ทองคำที่ดูเหมือนกับว่าสามารถตัดผ่าสวรรค์และปฐพีได้ ส่วนฉื้อหวงจี่ใช้กระจกโบราณที่สามารถปล่อยเปลวเพลิงออกมาเผาไหม้ได้ตลอดเวลา

พลังต่อสู้ของทั้งสองคนใกล้เคียงกันมาก และตอนนี้พวกเขาก็ใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกายแล้ว

ในทางทฤษฎี เป่ยหวงควรเป็นฝ่ายได้เปรียบ แม้ว่ากระบี่ในมือของเขาไม่ใช่อาวุธระดับเซียน แต่ก็เป็นกระบี่ที่สร้างขึ้นมาจากแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบห้า ซึ่งแม้แต่จอมยุทธระดับวารีนิรนดร์ก็ยังต้องหวาดกลัว มันเป็นอาวุธที่ทรงพลังโดยธรรมชาติ

แต่กระจกโบราณของฉื้อหวงจี่ดูเหมือนจะเป็นอาวุธระดับเซียน พลังของมันนั้นไร้ซึ่งขีดจำกัด

ตอนนี้อาวุธทั้งสองกำลังปะทะกันอยู่ แต่แน่นอนว่าอาวุธระดับเซียนมีความได้เปรียบเหนือกว่าเล็กน้อย

ด้วยความได้เปรียบดังกล่าว ทำให้ฉื้อหวงจี่เป็นฝ่ายได้เปรียบ ยิ่งเขาต่อสู้นานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแสดงความได้เปรียบออกมาให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าเป่ยหวงไม่ใช่คนที่อ่อนแอ แต่เขาก็ถอนหายใจและถอยห่างออกมาและพูดว่า “ข้าแพ้แล้ว” แม้ว่าเขาจะฝ่ายแพ้เพราะอาวุธด้อยกว่า แต่แพ้ก็คือแพ้ไม่มีข้อแก้ตัว

ฉื้อหวงจี่แสยะยิ้มและพูดว่า “เจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แต่ยังไงก็ยังไม่ใช่คู่มือของข้า!”

หลิงฮันไม่แปลกใจ ดูเหมือนว่าหยางหลินจะไม่ใช่คนเดียวที่โชคดี แม้แต่ฉื้อหวงจี่เองก็มีอาวุธระดับเซียนเหมือนกัน

“ต่อไป-” ฉื้อหวงจี่หันไปมองหลิงฮันและเผยสีหน้าดุเดือด “เหลือเพียงแค่ชนะเจ้า ข้าก็จะกลายเป็นราชาที่แท้จริง!”

หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “เจ้าทำตัวอย่างกับกบก้นบ่อที่ยังไม่รู้ว่ามีคนแข็งแกร่งกว่าเจ้ามากมายนัก”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาที่รู้เรื่องดินแดนแห่งเซียน และฮูหนิวใช้เวลาประมาณห้าปีเท่านั้นก็กลายเป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งแล้ว เมื่อพูดถึงอัจฉริยะก็คงมิใช่ใครอื่นนอกจากฮูหนิว

“เข้ามา!” ฉื้อหวงจี่ก้าวไปข้างหน้า “สามชีวิตเหมือนความตาย เจ็ดวิญญาณถูกตัดขาด!”

ครืนนน แสงที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งออกมาจากดวงตาของฉื้อหวงจี่กลายเป็นดาบและพุ่งเข้าหาหลิงฮัน

หลิงฮันดูแปลกใจเล็กน้อย นี่มันทักษะโจมมตีทางวิญญาณ

เขาเคยเห็นจอมยุทธหลายคนฝึกฝนบ่มเพาะให้ดวงวิญญาณแข็งแกร่งและทำให้ทักษะจิตเจ็ดสังหารของเขาใช้งานได้ยากลำบาก อย่างไรก็ตามมีจอมยุทธแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ฝึกฝนทักษะโจมตีทางวิญญาณ ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจตั้งแต่แรกเห็น

ดาบเล่มนั้นกำลังพุ่งเข้ามา!

หลิงฮันยืนนิ่งไร้การป้องกันและปล่อยให้ดาบเล่มนั้นทิ่มแทงเข้าไปในดวงวิญญาณของเขา

เมื่อเห็นเช่นนั้นจึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ฉื้อหวงจี่จะแสยะยิ้ม เขาใช้เวลาไปมากมายเพื่อฝึกฝนทักษะโจมตีทางวิญญาณ ดังนั้นไม่เพียงแค่ทำให้เขามีจิตใจที่แกร่งกล้าเท่านั้น แต่ยังใช้โจมตีได้อีกด้วย

หลิงฮันกล้ามากที่ประมาทการโจมตีทางวิญญาณของเขา นี่เขาไม่คิดเลยว่าจะเอาชนะหลิงฮันได้ง่ายดายขนาดนี้

“แค่นั้นรึ?” หลิงฮันแสยะยิ้ม เขาฝึกฝนเทคนิคคัมภีสวรรค์นิรันดร์ ซึ่งทำให้จิตวิญญาณของเขาเหนือกว่าระดับของตัวเองหนึ่งระดับ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะใช้การโจมตีทางวิญญาณกับเขา

ฉื้อหวงจี่เผยสีหน้าระมัดระวัง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลิงฮันสามารถต้านทานการโจมตีทางวิญญาณของเขาได้ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นั่นหมายความว่าจิตวิญญาณของอีกฝ่ายเหนือกว่าเขามาก

“ใช่แล้ว นี่แหละการต่อสู้ที่ข้ารอคอย!” ฉื้อหวงจี่หัวเราะ และเปลี่ยนวิธีการโจมตี “จงรับพลังแห่งคำพูดทั้งแปดของข้า!”

“เกิด แก่ เจ็ด ตาย โรคภัย ไข้เจ็บ”

พรึบ แสงสีดำหลายดวงลอยออกมาจากปากของเขาและกลายเป็นตัวอักษรสีดำแปดตัวที่พุ่งเข้าหาหลิงฮัน

หลิงฮันสัมผัสได้ถึงความน่าหวาดกลัวและสั่นสะท้านไปทั่วร่าง

มันจะต้องเป็นทักษะลับที่ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงทำให้เขารู้สึกกดดันได้ขนาดนั้น

แล้วเขาก็พบว่าพละกำลังของเขาอ่อนแอลงอย่างมาก แม้แต่สัมผัสสวรรค์ของเขาเองก็อ่อนแอลงเช่นกัน

หืม หรือว่ามันจะเป็นคำสาป?

หลิงฮันเคยใช้ขวดหยกต้องสาปมาก่อน เพียงแค่ใช้ส่วนหนึ่งของร่างกายของอีกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นโลหิตหรือเส้นผมก็สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ แล้วถึงแม้ว่าคำสาปจะใช้ไม่ได้ผลถึงขั้นตาย แต่ก็ทำให้ล้มป่วยหนัก

เดิมทีขวดหยกต้องสาปนั่นเป็นของจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพ หากเป็นเช่นนั้นทักษะประเภทคำสาปแช่งก็สมควรที่จะเป็นทักษะของดินแดนใต้พิภพ

เขาเค้นเสียงเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นใช้พลังสายฟ้า เปรี๊ยะ เสียงฟ้าผ่าดังกังวาลไปทั่ง และร่างของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นสายฟ้า ซึ่งทำให้พลังของคำสาปนั้นหายไป

อำนาจแห่งสวรรค์สามารถชำระล้างได้ทุกสิ่งทุกอย่างให้บริสุทธิ์

“ทักษะของเจ้าน่าสนใจดี” ฉื้อหวงจี่ยิ้มกว้าง