ตอนที่ 1953 ล้างบาง!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ความตื่นตะลึงที่เขามีนี้มันเหนือล้ำจนไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้!

หรือว่าเทพถ่องแท้กว่ายี่สิบคนนี้จะถูกเย่หยวนเรียกมาทั้งสิ้น?

เรื่องเช่นนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไร?

ต่อให้เย่หยวนจะสามารถหลอมสร้างโอสถครองวิญญาณผสานเต๋าขึ้นมาได้แต่มันก็ไม่น่าจะถึงขั้นที่สามารถเรียกยอดฝีมือมาได้มากมายเช่นนี้หรอกใช่หรือไม่?

อย่าว่าแต่เย่หยวนที่เป็นแค่นภาสวรรค์ผู้หนึ่ง แม้จะเป็นยอดฝีมือเทพสวรรค์ก็ยังไม่อาจจะเรียกรวมกำลังเทพถ่องแท้จากหลายค่ายสำนักเช่นนี้มาได้แน่

“ท่านหยิงเฟิง แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เราได้พบเจอกันแต่ท่านเองก็คงไม่คิดจะบอกว่าไม่รู้จักข้าหรอกใช่ไหม?” เย่หยวนถามหยิงเฟิงขึ้น

หยิงเฟิงหน้าเปลี่ยนสีกระตุกขึ้นทันทีก่อนจะถามสิ่งที่ติดใจสงสัยที่สุดออกมา “เจ้า…เจ้าทำได้อย่างไร?”

เขานั้นมึนงงสงสัยอย่างมากมายจนตอนนี้ไม่อาจจะคิดอะไรให้เป็นเหตุเป็นผลได้

ก่อนอื่นคือเหล่านักฆ่ามือสังหารของประตูวิญญาณมรณานั้นพกยาพิษติดตัวไว้เสมอ

เมื่อใดที่ภารกิจล้มเหลวชีวิตตกอยู่ในมือศัตรูแล้วพวกเขาย่อมจะฆ่าตัวตายทันที!

แต่ดอกบัวดำในห้องลับของเขานั้นไม่ได้แตกสลายลงมันย่อมหมายความว่าคนทั้งห้านั้นยังมิตาย

และต่อให้อีกฝ่ายจะมีวิธีทำให้คนทั้งห้ายังไม่ตาย แต่มีหรือที่จะสามารถบังคับให้คนทั้งหลายนั้นส่งข่าวปลอมกลับมา?

เพราะคนของประตูวิญญาณมรณานั้นไม่มีทางที่จะถูกคนภายนอกชักจูงได้เด็ดขาด

เพียงแค่เขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าเย่หยวนนั้นมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทวิญญาณอยู่กับตัว

เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก “ยาพิษใดๆ ของประตูวิญญาณมรณามันก็แค่ขยะ เมื่ออยู่ต่อหน้าข้านั้นต่อให้พวกมันคิดอยากตายมันก็ไม่อาจตายได้! ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใดผู้อาวุโสทั้งหลายท่านนี้จึงได้ยอมมาช่วยเหลือข้า มันก็เป็นเพราะว่าข้ายังมีตัวตนอื่นอยู่! เพราะข้านั้นคือผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์!”

นั่นทำให้ดวงตาของหยิงเฟิงต้องเบิกกว้างด้วยท่าทางไม่คิดอยากจะเชื่อ

ชื่อเสียงของศาลาโอสถสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่ทั่วฟ้าเขาย่อมรู้จักดี

แล้วตัวตนอย่างผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์นั้นมันคือตัวตนเช่นใด?

ตัวตนเช่นนี้มันย่อมหมายความถึงผู้ที่ยืนอยู่เหนือหัวเหล่าผู้อาวุโสแห่งศาลาโอสถสวรรค์ นักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าทั้งหลายนั้นต้องก้มหัวให้แก่เย่หยวน!

และเหล่าผู้อาวุโสแห่งศาลาโอสถสวรรค์แต่ละคนนั้นมันก็ยิ่งเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เสียกว่าเจ้าหอมหาสมบัติอย่างต้วนยี่เสียอีก

เช่นนั้นแล้วตัวตนของเย่หยวนนี้จะยิ่งใหญ่เพียงใด?

เพียงแค่ว่าตอนนี้เย่หยวนยังไม่อาจบรรลุขึ้นถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้ แล้วเขาจะไปได้รับตำแหน่งยิ่งใหญ่เช่นนั้นมาได้อย่างไร

จะบอกว่าวิชาการโอสถของเขามันน่ากลัวถึงขั้นนั้น?

แม้ว่าประตูวิญญาณมรณานั้นจะมีแหล่งข้อมูลสายข่าวที่มากมายแต่เรื่องของเย่หยวนและเทพสวรรค์เปียวหยูมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายใน พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่มีทางรู้เรื่องราวที่แท้ได้

หยิงเฟิงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าครั้งนี้ประตูวิญญาณมรณานั้นได้สั่งการพลาดไปอย่างมหัน

หรือจะบอกว่าประตูวิญญาณมรณาประเมินเย่หยวนต่ำเกินไปก็คงไม่ผิดนัก!

ประตูวิญญาณมรณานั้นคิดสนใจเย่หยวนที่สร้างสูตรหลอมโอสถครองวิญญาณผสานเต๋าขึ้นมาได้จึงได้คิดลักพานำตัวเขาไป

แต่มีหรือที่เย่หยวนนั้นจะมีค่าแค่โอสถครองวิญญาณผสานเต๋า?

หยิงเฟิงได้แต่เงยหน้ามองฟ้าพร้อมถอนหายใจยาว “พลาด! ผิดพลาดครั้งใหญ่!”

จากนั้นเขาก็หันหน้ามามองดูเย่หยวน “เย่หยวน เจ้ากล้าคิดทำลายประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นเราหรือ? เจ้าไม่คิดถึงผลที่ตามมาบ้างหรือ?”

เย่หยวนมองดูเขาพร้อมตอบกลับไป “แน่นอนว่าข้าคิด แต่… ต่อให้ข้าปล่อยเจ้าไปแล้วประตูวิญญาณมรณาจะปล่อยข้าไป? ที่สำคัญตราบเท่าที่สาขาเก้ามั่นนี้จางหายไปกับสายลมข้าก็ไม่คิดหรอกว่าประตูวิญญาณมรณาของเจ้าจะกล้าส่งคนมาทำอะไรอีก!”

นั่นทำให้หยิงเฟิงหัวเราะลั่นเมื่อได้ยิน “หายไป? หึๆ เจ้าคิดว่าด้วยกำลังเพียงเท่านี้เจ้าจะสามารถจัดการกับพวกเราได้หมดทุกคนจริงหรือ?”

เย่หยวนมองดูหยิงเฟิงด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นเขาก็ได้หยิบแผ่นน้อยๆ ออกมาเปลี่ยนให้พื้นที่โดยรอบแข็งกระด้างขึ้น!

การเปลี่ยนแปลงนี้มันทำให้คนของประตูวิญญาณมรณาต้องร่ำร้อง “ขวางมิติไร้รอย!”

“หึๆ เจ้าสิ่งนี้มันช่างมีประโยชน์ เท่านี้พวกเจ้าทั้งหลายก็คงไม่อาจหนีไปได้ได้แล้วกระมัง?” เย่หยวนมองดูหยิงเฟิงด้วยรอยยิ้มที่แสนเย็นเยือก

หยิงเฟิงที่เห็นสภาพเช่นนี้เองก็มีใบหน้าที่ซีดเผือด รู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกกับดักของตนเองเล่นงาน

สมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำที่เขาคิดใช้จัดการเย่หยวนนี้มันกลับย้อนมาทำร้ายตัวเขาเอง

ในฐานะเทพถ่องแท้แปดดาวแล้วแม้เขาจะไม่อาจชนะต้วนยี่ได้แต่การหนีไปในช่วงชุลมุนก็มิใช่เรื่องยากเย็น

แต่ตอนนี้เมื่อมิติถูกปิดกั้นเช่นนั้นแล้วมีหรือที่เขาจะยังหนีไปที่ใดได้?

“ท่านเจ้าหอต้วน ผู้อาวุโสทั้งหลาย ที่เหลือคงต้องฝากให้พวกท่านจัดการแล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้นก่อนจะถอยออกไปนอกวงการต่อสู้ปิดล้อม

ต้วนยี่พยักหน้ารับ “วางใจเถิด ครั้งนี้จะไม่มีใครหลบหนีไปได้ ให้ข้าจัดการเจ้าหยิงเฟิงผู้นี้เอง พวกเจ้าที่เหลือฝากจัดการพวกมันทั้งหมดด้วย”

นั้นทำให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายร้องตอบกลับมาพร้อมๆ กัน “ท่านเจ้าหอต้วนโปรดวางใจ!”

พูดจบต้วนยี่ก็เริ่มปล่อยพลังโลกออกมาปกคลุมและกดดันศัตรูในพริบตา

ทางหยิงเฟิงนั้นทำสีหน้าราวกับได้เจอศัตรูคู่แค้น ตัวเขานั้นเป็นเพียงแค่เทพถ่องแท้แปดดาวย่อมไม่เพียงพอที่จะต่อต้านเทพถ่องแท้เก้าดาวอย่างต้วนยี่ได้

คนทั้งสองฝ่ายนั้นเริ่มลงมือต่อสู้ไปด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างแสดงวิชาออกมาอย่างเต็มที่จนเริ่มเข้ากดดันฝ่ายประตูวิญญาณมรณาได้

คนของประตูวิญญาณมรณานั้นถูกลอบโจมตีมาก่อนหน้านี้และได้รับบาดเจ็บกันไปไม่น้อย ตอนนี้เมื่อต้องมารับมือการโจมตีของเทพถ่องแท้ทั้งหลายมีหรือที่พวกเขาจะยังต้านทานได้?

แม้ว่าทางประตูวิญญาณมรณาจะมียอดฝีมือมากมายแต่ว่าเหล่ายอดฝีมือที่เย่หยวนพามานั้นมันมีมากยิ่งกว่า!

เย่หยวนนั้นได้เรียนรู้ถึงกองกำลังของประตูวิญญาณมรณาสาขานี้มาจากลู่ซิน ทำให้ยอดฝีมือทั้งหลายที่เขาเรียกมาวันนี้ย่อมมิใช่คนธรรมดาสามัญ

การต่อสู้ในตอนนี้ส่วนมากจะเป็นการต่อสู้สองต่อหนึ่ง บ้างอาจถึงขั้นสามต่อหนึ่ง

ไม่นานนักฝ่ายประตูวิญญาณมรณาก็เริ่มล้มหายตายจากไปทีละคน

กำลังฝีมือของหยิงเฟิงนั้นไม่ธรรมดาตามที่คาด ด้วยวิชาที่ไม่อาจคาดเดาได้ของเขานี้มันจึงทำให้เขายังพอต่อต้านการรุกไล่ของต้วนยี่ไว้ได้

แต่สุดท้ายมันก็ทำได้แค่ต้าน

เทพถ่องแท้เก้าดาวนั้นคือสุดยอดตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอาณาจักรเทพถ่องแท้ มันแตกต่างจากเทพถ่องแท้แปดดาวอยู่มาก

ความพ่ายแพ้ของหยิงเฟิงนั้นมันเพียงขึ้นอยู่กับเวลา

เย่หยวนมองดูภาพตรงหน้านั้นด้วยความโล่งอก

เขานั้นได้เรียนรู้จากลู่ซินมาว่าประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นนี้ได้ทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมายอย่างไม่อาจนับ

สาขานี้มันได้ถูกตั้งมานับหมื่นๆ ปี

ในช่วงเวลานี้เหล่ายอดฝีมือมากมายนับร้อยนับพันต้องมาตายลงด้วยน้ำมือของโจรทั้งหลายนี้!

หลายต่อหลายครั้งที่พวกมันได้ทำลายยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ขึ้นไปในเมืองหลวงจักรพรรดิภายในค่ำคืนเดียว

ยิ่งจำนวนผู้คนบริสุทธิ์ที่ถูกสังหารด้วยน้ำมือของโจรร้ายทั้งหลายนี้ยิ่งมีมากอย่างไม่ต้องกล่าวถึง

กองกำลังเช่นนี้มันเป็นอะไรไม่ได้นอกจากสวะของสังคมอย่างแท้จริง

ก่อนๆ มานั้นเย่หยวนยังไม่ได้รู้จักประตูวิญญาณมรณามากมาย แต่ตอนนี้เมื่อพวกมันทั้งหลายมาท้าทายตัวเขาเย่หยวนก็ย่อมต้องสนองกลับไปด้วยความพิโรธ

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้วางแผนเช่นนี้ขึ้น หาเหล่ายอดฝีมือเทพถ่องแท้กว่ายี่สิบคนมาจับและจัดการล้างบางพวกมันให้สิ้น!

ไม่นานนักผลสรุปมันก็ออกมา

แม้จะเป็นยอดฝีมือระดับหยิงเฟิงเองก็ยังไม่อาจต้านทานพลังกดดันที่มากมายมหาศาลของต้วนยี่ผู้นี้ได้

นั่นทำให้ประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นนี้ถูกทำลายล้างจนสิ้นซาก

ส่วนเหล่านักฆ่าระดับนภาสวรรค์ทั้งหลายเย่หยวนเองก็ได้เริ่มวางแผนออกตามล่าพวกมันแล้ว ย่อมจะไม่มีใครรอดออกไปได้

ต้วนยี่ขยับร่างมาหยุดลงตรงหน้าเย่หยวนก่อนจะยิ้มบอก “ผู้อาวุโสเย่ เราโชคดีจริงๆ ที่ภารกิจสำเร็จไปได้! เจ้าหยิงเฟิงผู้นี้มันไม่ธรรมดาหากเป็นเทพถ่องแท้แปดดาวด้วยกันแล้วคงไม่อาจเทียบเคียงฝีมือของมันได้แน่!”

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะอีกฝ่ายทันที “ขอบพระคุณมากท่านเจ้าหอ! แล้วก็เหล่าผู้อาวุโสท่านทั้งหลายที่มาช่วยข้าในวันนี้เย่ผู้นี้ย่อมจะจดจำมันไว้ ในวันหน้าหากข้าบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้เมื่อใด ข้าย่อมจะตอบแทนคืนพวกท่านอย่างงามแน่!”

วินาทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าว ผู้คนทั้งหลายก็หันมาฟังด้วยรอยยิ้ม

เพราะไม่ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจเพียงใดสุดท้ายเขาก็เป็นได้แค่จอมเทพโอสถห้าดาว ไม่อาจจะทำสิ่งใดให้เป็นประโยชน์แก่ตัวพวกเขาทั้งหลายได้มาก

แต่เมื่อใดก็ตามที่เย่หยวนบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้ เรื่องราวมันย่อมแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง!

โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกที่เย่หยวนจะหลอมได้ในวันหน้านั้นมันย่อมจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าแก่พวกเขาแน่

…………………………