ตอนที่ 1954 ความกังวล

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

คนทั้งหลายนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเย่หยวนทั้งสิ้น

ในเวลาหลายปีมานี้ชื่อของเย่หยวนแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มันได้แพร่กระจายไปทั่วหล้า

หลายค่ายสำนักต่างเดินทางกันมาเพื่อขอให้เย่หยวนช่วยหลอมโอสถให้

และก็เพราะเช่นนั้นเองที่ทำให้เย่หยวนได้รู้จักมักคุ้นกับเทพถ่องแท้มากมายหลายคน

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียในเวลานี้นักยุทธนภาสวรรค์ทั้งหลายก็ไม่อาจกล้าจะมาขอให้เย่หยวนหลอมโอสถให้อีกต่อไปแล้ว

ในช่วงเวลานั้นเองที่เย่หยวนได้เจอเทพถ่องแท้ที่พอไว้วางใจได้และขอแรงช่วยเหลือจากทางหอมหาสมบัติไป จึงได้วางแผนการกำจัดระเบิดเวลาลูกนี้ทิ้งไป

นี่แหละคือกำลังที่แท้จริงของนักหลอมโอสถ!

ตัวพวกเขาทั้งหลายนั้นอาจจะไม่เก่งกาจมากมาย แต่พวกเขานั้นมีเส้นสายที่มากมาย สหายที่แข็งแกร่ง

หากมีใครคิดต่อแยหาเรื่องพวกเขาแล้วผลที่ตามมามันย่อมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

ที่สำคัญเย่หยวนนั้นยังเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาโอสถสวรรค์

ตำแหน่งนี้มันไม่ได้แค่ยิ่งใหญ่ในหมู่หอมหาสมบัติแต่มันยังแสดงถึงพลังฝีมือที่เหนือล้ำของเขา

การที่สามารถก้าวข้ามเหล่าอสูรโอสถเฒ่าทั้งหลายนั้นขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสใหญ่ได้มันย่อมทำให้ไม่มีใครกล้าสงสัยในความแข็งแกร่งของเย่หยวน

ต้วนยี่นั้นบอกกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโสเย่เองก็ถ่อมตัวเกินไป! เรื่องเหล่านี้ข้าได้ตรวจสอบดูแล้วทางหยิงเฟิงมันนั้นก็มีของดีติดตัวอยู่มาก เมื่อเรากำจัดมันลงได้เราก็ย่อมจะได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า!”

ประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นนี้ได้ทำการปล้นชิงผู้คนมามากมายในเวลาหลายต่อหลายปีที่ผ่านๆ มา

และคนทั้งหลายที่ถูกปล้นชิงมานั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งสิ้น

การจัดการล้างบางเหล่าโจรในครั้งนี้มันย่อมหมายความว่าแม้แต่เหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายก็จะยังได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไป

เย่หยวนนั้นเข้าใจในเรื่องนั้นตั้งแต่ต้นจึงได้สัญญาว่าจะไม่เอาสิ่งของใดๆ และมอบสิ่งของทั้งหลายนั้นให้แก่เหล่าเทพถ่องแท้

“หึๆ นี่คือสิ่งที่ทุกท่านสมควรได้รับ! เย่ผู้นี้รู้ดีว่าการเข้าโจมตีประตูวิญญาณมรณาเช่นนี้มันคงทำให้ทุกท่านเป็นกังวลไม่น้อย เพราะฉะนั้นเรื่องราวในครั้งนี้เย่ผู้นี้จึงจะรับผิดชอบมันเอง หลังจากวันนี้ไปขอให้ทุกท่านเก็บเรื่องราวให้มิดชิด คิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องราวที่ตามมาภายหลังนั้นเย่ผู้นี้จะรับมันไว้ทั้งหมดสิ้น!” เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะและกล่าวบอกเหล่ายอดฝีมือ

ทุกผู้คนที่ได้ยินเช่นนั้นต่างแสดงสีหน้าชื่นชมออกมาในความกล้าหาญของเย่หยวน

เพราะกองกำลังของประตูวิญญาณมรณาเป็นกองกำลังเช่นใดนั้นพวกเขาย่อมรับรู้ดี

เหตุผลที่พวกเขาทั้งหลายกล้าเข้าโจมตีประตูวิญญาณมรณาครั้งนี้มันก็เป็นเพราะแผนการอันแยบยลของเย่หยวน ทำให้ทางประตูวิญญาณมรณาไม่รับรู้ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นเป็นคนทำลายสาขานี้ลง

เพราะหากอีกฝ่ายรู้ถึงเรื่องราวในวันนี้ต่อให้มีกี่ชีวิตมันก็คงไม่พอที่จะหลบหนีการแก้แค้นของประตูวิญญาณมรณาได้

การทำลายสาขาที่ใหญ่ระดับนี้ของประตูวิญญาณมรณาลงมันย่อมทำให้เกิดเรื่องราวยิ่งใหญ่ตามมา

เหล่าคนของประตูวิญญาณมรณานั้นมันเป็นผู้คนที่ยากจะคาดเดา

ยอดฝีมือคนอื่นๆ อาจจะไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่สุดท้ายประตูวิญญาณมรณาก็รู้ดีว่าเย่หยวนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอย่างแน่นอน

และหากทางประตูวิญญาณมรณาคิดทำอะไรเย่หยวนแล้ว มันก็คงเป็นเรื่องยากเย็นที่จะป้องกันมัน

เพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นทำการจับมัดรวมและล้างบางสาขาเก้ามั่นนี้ลงในคราเดียว มันต้องทำให้ทางประตูวิญญาณมรณาสะท้านและไม่กล้าลงมือกับเย่หยวนอย่างผลีผลามแน่นอน

การทำลายสาขาหนึ่งลงอย่างสิ้นซากเช่นนี้มันเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับประตูวิญญาณมรณามาก่อน

ต้วนยี่ยกมือขึ้นมาคารวะตอบเย่หยวน “ผู้อาวุโสเย่มีน้ำใจเปรียบดั่งท้องนภาเราล้วนได้ยินมันมานาน เรื่องราวของประตูวิญญาณมรณาในครานี้เราเองก็จะไม่ปิดบังใดๆ แต่พวกเราล้วนเกรงกลัวว่ามันจะมาแก้แค้น เพียงแค่ว่าหากทำอย่างที่ท่านว่าแล้วเรื่องราวของผู้อาวุโสเย่และประตูวิญญาณมรณาก็จะยิ่งแตกหักกันไปใหญ่ วันหน้าทำการใดขอท่านโปรดระมัดระวัง”

เย่หยวนพยักหน้าออกมารับ “วางใจเถิด เย่ผู้นี้พอมีแผนรับมืออยู่บ้าง”

ต้วนยี่พยักหน้ารับและกล่าว “ในเมื่อเรื่องราวทั้งหลายเสร็จสิ้นแล้วเราก็ควรแยกกันกลับไปดีกว่า ในวันหน้าหากผู้อาวุโสเย่มีเรื่องใดให้รับใช้โปรดเรียกหาเราได้”

พูดจบคนทั้งหลายก็แยกย้ายกันไปตามทางของตน

เมื่อกลับมาถึงเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เย่หยวนก็ได้สั่งโซชูเจียให้จัดการประหารห้านักฆ่าจากประตูวิญญาณมรณาต่อหน้าสาธารณะเพื่อเป็นการเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของผู้คนที่ล้มตายไป

เรื่องราวนี้เหล่าชาวเมืองทั้งหลายต่างโห่ร้องปรบมือด้วยความปลาบปลื้ม

ภายในเมืองมีเสียงโห่ร้องดังสนั่น สนับสนุนชื่นชมเย่หยวนจนลั่นฟ้า

และเรื่องราวที่ประตูวิญญาณมรณาสาขาเก้ามั่นถูกทำลายลงมันก็ไปถึงหูของประตูวิญญาณมรณาอย่างรวดเร็ว

ภายในจวนเจ้าเมืองของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิหนึ่งมีชายชุดดำกำลังนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าชายวัยกลางคนในชุดสวยหรู

ชายวัยกลางคนผู้นี้มีคลื่นพลังที่ลึกล้ำและสูงส่ง มันเป็นพลังที่ดูเหนือล้ำเสียยิ่งกว่าเทพถ่องแท้ใดๆ

เพราะคนผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นถึงเทพสวรรค์!

ไม่มีใครคาดฝันว่าแท้จริงแล้วเจ้าเมืองผู้นี้จะเป็นหนึ่งในสมาชิกของประตูวิญญาณมรณา!

ชายชุดดำนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางโผงผาง “ท่านฉัวยู่ สาขาเก้ามั่นนั้นเป็นหนึ่งในสาขาระดับต้นๆ ในหมู่สาขาใหญ่ของเรา การที่ทั้งสาขาถูกทำลายสิ้นเช่นนี้มันเหมือนเป็นคำดูถูกแก่ประตูวิญญาณมรณาอย่างมาก! เราต้องทำลายกำจัดเย่หยวนผู้นี้ลงให้ได้!”

สาขาเก้ามั่นนั้นเป็นหนึ่งในสาขาใต้การดูแลของเขา การที่สาขาเก้ามั่นนั้นถูกทำลายลงอย่างเงียบงันเหมือนได้หายไปกับสายลมนี้มันทำให้เขาทั้งอับอายและโกรธแค้น

พวกเขานั้นกังวลกันอย่างมาก สงสัยว่าต้องเป็นกำลังเช่นใดจึงจะสามารถทำลายสาขาเก้ามั่นทั้งสาขาลงได้ในคราเดียวอย่างไร้ร่องรอย

และเขาก็โกรธแค้นอย่างมากเพราะเรื่องราวเช่นนี้มันเหมือนประตูวิญญาณมรณาของเขาถูกลูบคม

ชายวัยกลางคนนั้นลุกขึ้นยืนด้วยมือไขว้หลัง มีท่าทางสงบนิ่งอย่างมากก่อนจะบอก “เรื่องราวจบลงเท่านี้”

นั่นทำให้ชายชุดดำสะดุ้งขึ้นทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่คิดอยากเชื่อหูของตน “ท่านฉัวยู่ จะ… จะปล่อยเรื่องจบลงเท่านี้หรือ? สาขาเก้ามั่นนั้นมันมียอดฝีมือเทพถ่องแท้กว่าสิบคนเชียวนะที่เราต้องเสียไป!”

เทพถ่องแท้นั้นเป็นกำลังสำคัญของทุกกองกำลังค่ายสำนัก

และทรัพยากรและเวลาที่ต้องใช้กว่าจะชุบเลี้ยงเทพถ่องแท้ขึ้นมาได้แต่ละคนนั้นมันก็มากมายมหาศาล

เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นยอดอัจฉริยะจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว คนทั้งหลายย่อมต้องใช้เวลานับหมื่นๆ ปีหรืออาจจะถึงแสนปีในการก้าวขึ้นสู่อาณาจักรเทพถ่องแท้

และเมื่อรวมเวลาและทรัพยากรของเทพถ่องแท้กว่าสิบคนเข้าด้วยกัน มันจะคิดเป็นความสูญเสียที่มากมายเพียงใด?

เรื่องนั้นมันไม่อาจวัดได้เลย!

ชายชุดดำผู้นี้คิดอยากจะกัดกินเลือดเนื้อเย่หยวนให้ได้

แต่ทางฉัวยู่กลับบอกให้ปล่อยเรื่องนี้ไป!

ฉัวยู่บอกขึ้น “เรื่องครั้งนี้ข้าได้รายงานให้เบื้องบนรับทราบแล้ว พวกเขาเองก็บอกมาด้วยว่าเรื่องราวในครั้งนี้เป็นความผิดพลาดทางข้อมูลของเราเอง ค่ายสำนักที่หนุนหลังเย่หยวนผู้นี้อยู่มันอาจจะเหนือล้ำกว่าที่เราคาดคิดไปมาก เราจะไปยุ่งกับเขาอีกไม่ได้! ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมามันอาจจะใหญ่เกินกว่าที่รับไหว!”

ชายชุดดำนั้นยังคงแสดงสีหน้าไม่ยอมรับออกมา “แม้จะไม่นับเหล่าเทพถ่องแท้ขั้นต้นทั้งหลายแต่สาขาเก้ามั่นนั้นมีทั้งเทพถ่องแท้แปดดาว เทพถ่องแท้เจ็ดดาวสองคน เทพถ่องแท้หกดาวอีกห้าคน หรือท่านจะบอกว่า… คนทั้งหลายนี้ต้องตายเปล่า?”

“ประตูวิญญาณมรณาของเรานั้นเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีศัตรูรอบด้าน ค่ายสำนักมากมายต่างหมายตาคิดทำลายเราลง หากผู้คนสูญเสียไป เราก็ยังเลี้ยงดูใหม่ได้ แต่หากเรื่องราวมันใหญ่โตมากขึ้นแล้ว มันอาจจะทำลายรากฐานของประตูวิญญาณมรณาจนสิ้น เจ้าจะรับผิดชอบผลของมันไว้ได้หรือไม่?” ฉัวยู่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

ชายชุดทำได้แต่เงียบปากลงด้วยกายสั่นเทา

ฉัวยู่กล่าวต่อ “การที่สามารถทำลายสาขาระดับสูงเช่นนี้ได้โดยไม่มีใครรับรู้เรื่องราว เจ้าลองคิดดูเถิดว่าจะต้องใช้กองกำลังที่แข็งแกร่งเพียงใด?! ก่อนจะสืบสาวเรื่องราวของเย่หยวนให้แน่ชัด เราจะยังไม่แตะต้องตัวเขา เข้าใจไหม?”

การทำลายฐานและการล้างบางนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความยากง่ายของมันนั้นไม่อาจเอามาวัดเทียบกันได้

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของประตูวิญญาณมรณา มันมีมากมายหลายครั้งที่ฐานของพวกเขาถูกเปิดเผยและสุดท้ายก็ถูกกำจัดลง

เพียงแค่ว่าเหล่ายอดคนในประตูวิญญาณมรณานั้นเก่งกาจ ต่อให้ฐานจะถูกโจมตีพวกเขาก็แค่เสียยอดฝีมือไปส่วนหนึ่ง

ต่อให้มันจะถูกโจมตีรุนแรงเพียงใดมันก็อาจจะแค่หนึ่งหรือสอง อย่างมากๆ ก็คงไม่เกินสี่ยอดฝีมือที่จะตายลง

แต่ในครั้งนี้ยอดฝีมือเทพถ่องแท้กว่าสิบคนนั้นได้ถูกล้างบางจนสิ้น ไม่มีแม้แต่นักฆ่านภาสวรรค์คนใดที่หลบรอดออกไปได้

ค่ายสำนักที่ทำได้ถึงขั้นนี้ในมหาพิภพถงเทียนมันมีอยู่ไม่มาก!

ที่สำคัญการต่อสู้นี้ยังไร้ซึ่งร่องรอยข่าวคราว เรื่องที่ว่าพวกหยิงเฟิงตายลงอย่างไรนั้นไม่มีใครรับรู้ได้

วิธีการที่แสนแยบยลเช่นนี้ต่อให้เป็นตัวฉัวยู่เองก็ยังไม่อาจคาดคิดได้

หาเรื่องเย่หยวนต่อไป?

มันจะต่างอะไรจากการรนหาที่ตายเล่า?

…………………………