ตอนที่ 2,123 : ระเบิด!
สมบัติสวรรค์นั้นยังแบ่งออกเป็นหลายประเภท
ตัวอย่างเช่นกระบี่นิลสวรรค์ที่เป็นสมบัติสวรรค์ประจำชั้นที่ 2 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัตินั้น เป็นสมบัติสวรรค์ที่เรียกว่าใช้จู่โจมเป็นหลัก
ส่วนง้าวเทวะสะท้านที่อยู่นั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ เป็นสมบัติสวรรค์ที่พร้อมพรั่งทั้งรุกและรับ
ส่วน บรรทัดจักรวาล บนชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัตินั้น มันเป็นสมบัติสวรรค์ประเภทสนับสนุนก็ว่าได้ เพราะมันสามารถสร้างคามสับสนให้กับศัตรูด้วยพลังพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ ‘เคลื่อนย้ายจักรวาล’ ทำให้ศัตรูสับสน
แน่นอนว่าด้ววยพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ เขาไม่อาจใช้พลังพิเศษ ‘เคลื่อนย้ายจักรวาล’ ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ตอนที่ใช้ออกด้วยเคลื่อนย้ายจักรวาลเมื่อครู่ ผลของมันยังเล็กน้อยนัก
เจียวจ้าน รองผู้นำพันธมิตรอีกาทมิฬหลังสับสนงุนงงไปชั่วขณะ มันก็หลุดออกจากพลังพิเศษที่สะกดควบคุมร่างของบรรทัดจักรวาล ‘เคลื่อนย้ายจักรวาล’ ที่ต้วนหลิงเทียนใช้ใส่มันได้ไม่ยาก
แต่กระนั้นพลังพิเศษก็ส่งผลกระทบต่อมันไม่น้อย
“แย่แล้ว”
ทันทีที่มันรู้สึกตัว มันก็พบว่าบัดนี้ร่างต้วนหลิงเทียนอยู่ตรงหน้ามัน! ยิ่งไปกว่านั้นกลิ่นอายพลังเข้มแข็งคมกล้าสายหนึ่งก็พุ่งจี้เข้าหาลำคอมันด้วยความเร็วสูง! มันเร่งร้อนใช้ออกด้วยเววทย์พลังป้องกัน ทั้งวรยุทธ์เซียนสายป้องกันทั้งหมดที่มีอย่างร้อนรนใจ!!
อย่างไรก็ตามทุกสิ่งที่มันฝึกปรือมาชั่วชีวิตและรีบร้อนใช้ออกมานั้น…
ต่อหน้าบรรทัดจักรวาลของต้วนหลิงเทียนอันเป็นยอดสมบัติสวรรค์ ซึ่งสมควรดำรงอยู่แต่ในระนาบเทวโลก จึงมีพลานุภาพเหนือล้ำสุดที่ศาสตราเซียนใดๆในระนาบโลกียะจะทัดเทียมได้!
ฟั่บ!
ยามต้วนหลิงเทียนฟันบรรทัดจักรวาลออกไปต่างกระบี่ เสียงแหวกอากาศยังให้ความรู้สึกปานความว่างจะถูกกรีดฉีกได้ทุกเมื่อ
ขณะเดียวกันม่านพลังป้องกันใดๆที่เจียวจ้านรีบร้อนใช้ออกก็ไม่ต่างใดจากกระดาษเปื่อยเปียกน้ำ ถูกฟันทำลายง่ายดายนัก
ฉัวะ!!
เสียงของมีคมเฉือนเลือดเนื้อดังขึ้น หัวตัวเจียวจ้านพลันแยกจาก ลำคอปรากฏวงแดงฉาน โลหิตฉีดพุ่งปรี๊ดๆขึ้นมาปานน้ำพุ ศีรษะปลิวกระเด็นทิ้งสายโลหิตเอาไว้เป็นทาง
กาลเวลาคล้ายจะหยุดเดิน
เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรที่พึ่งขจัดผลกระทบจากพลังพิเศษของบรรทัดจักรวาลจนกลับมารู้สึกตัวได้ไม่ทันไร ก็เห็นต้วนหลิงเทียนตัดหัวเจียวจ้านปลิดปลิวไปเสียแล้ว!
แถมการลงมือยังราบรื่นรวดรัดปานหันสับเต้าหู้!
ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!
…
จังหวะนี้เมื่อได้เห็นร่างหัวตัวแยกจากของเจียวจ้าน เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรทั้งหลายถึงกับสะอึกกาย สูดลมหายใจเข้าอย่างเสียขวัญ แววตาเผยความตกใจทั้งเหลือเชื่อนัก
สิ่งที่ทำให้พวกมันตกใจไม่ใช่ฉากนองเลือดเบื้องหน้า
แต่สิ่งที่ทำให้พวกมันตกใจก็คือความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน
เจียวจ้าน รองผู้นำกองกำลังพันธมิตรอีกาทมิฬผู้นี้ จะหมูไก่สุนัขอย่างไรก็รั้งอยู่ในอันดับที่ 566 ของรายนามยอดเซียน
ทว่าตัวตนดังกล่าว ยามอยู่ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนกลับเหมือนมดตัวกระจ้อยตัวหนึ่ง ที่ถูกต้วนหลิงเทียนย่ำเหยียบบี้ยีให้แหลกลงอย่างง่ายดายในชั่วพริบตา…
“ระ…ร้ายกาจนัก! พลังฝีมือของชายชุดดำช่างน่ากลัวเหลือเกิน!!”
“ให้ตายเถอะ…เจียวจ้านจะอย่างไรมันก็อยู่ในอันดับที่ 566 ของรายนามยอดเซียนนะ…แต่อยู่ต่อหน้าชายชุดดำไฉนกลายเป็นตัวอ่อนแอไปได้เล่า? ยิ่งไปกว่านั้นพวกเจ้าดูอาวุธในมือชายชุดดำเถอะ! นั่นมิใช่ไม้บรรทัดธรรมดาหรือไร ไม่อาจเรียกว่าศาสตราเซียนได้ด้วยซ้ำ!!”
“เหอๆ…ไม้บรรทัดธรรมดาแล้วอย่างไร ยามผนึกพลังเซียนต้นกำเนิดอันแกร่งกล้าก็สามารถปะทุพลังสังหารน่ากลัวได้ทั้งสิ้น”
…
บรรทัดจักรวาลในมือของต้วนหลิงเทียนนั้นอย่างไรก็เป็นยอดสมบัติสวรรค์สายสนับสนุน พลังโจมตีของมันจึงไม่ได้ร้ายกาจอะไรเหมือนกระบี่นิลสวรรค์ กระทั่งยังไม่มีไอพลังดุดันน่ากลัวเหมือนกระบี่นิลสวรรค์แม้แต่น้อย
สำหรับคนที่ไม่รู้ มันก็แลดูเหมือนไม้บรรทัดธรรมดาๆ อันหนึ่งเท่านั้น
และนี่ก็คือสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนต้องการ
มิฉะนั้นจะไม่ง่ายกว่าหรือที่เขาใช้กระบี่นิลสวรรค์ฆ่าเจียวจ้านโดยตรง?
เหตุผลเดียวที่เขาเลือกใช้บรรทัดจักรวาลนั้น แน่นอนว่าสิ่งนี้จะไม่ทำให้ตัวตนของเขาในฐานะต้วนหลิงเทียนถูกเปิดเผยออกมา
ถึงแม้ประเด็นสนทนาในนครแห่งบาปยังจั่วหัวถึงเขาไม่เลิก แต่ก็จะเป็นในฐานะชายชุดดำ
และนั่นจะทำให้เรื่องต้วนหลิงเทียนค่อยๆชืดชาลงไปตามกาลเวลา สุดท้ายคนในนครแห่งบาปก็ต้องคิดว่าเขาออกไปจากนครแห่งบาปแล้ว
อย่างไรก็ตามหากมีเบาะแสใดๆก็ตามที่จะทำให้ทุกคนเชื่อมโยงต้วนหลิงเทียนกับชายชุดดำขึ้นมา คราวนี้คงไม่พ้นสร้างความแตกตื่นฮือฮาครั้งใหญ่ขึ้นมาในนครแห่งบาป ความโลภของทุกผู้คนคงได้ระเบิดออกมาและไม่เลือกวิธีการแน่
นั่นไม่ใช่อะไรที่เขาต้องการจะเห็น
เขาแค่อยากเป็นชายชุดดำอย่างเงียบๆ ยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของเขาในนครแห่งบาป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขาในเวลาอันสั้นที่สุด
ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณคนชั่ว ปรับปรุงยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของเขา!
“ผู้เฒ่าหั่ว! รบกวนท่าน”
หลังจากที่ฆ่าเจียวจ้านไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ลืมขอให้ผู้เฒ่าหั่วช่วยเหลือเขากลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของเจียวจ้าน
ถึงแม้พลังเซียนสุริยันของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้จะเทียบได้กับพลังของตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ กระทั่งยามเร่งเร้าพลังเซียนสุริยันออกมา ด้วยพลังอานุภาพ ให้บอกว่ายังไม่ได้บรรลุขอบเขตเซียนสวรรค์ก็คงไม่มีใครเชื่อ
แต่ด่านพลังฝึกปรือที่แท้จริงของเขามันก็แค่ เซียนนภาขั้นกลางเท่านั้น
และด้วยพลังวิญญาณของเขายังไม่บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ สำนึกเทวะย่อมอ่อนด้อยไม่ลึกล้ำมากพอ จึงไม่สามารถสัมผัสถึงพรสวรรค์รากวิญญาณอะไรได้ด้วยตัวเอง
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนนับว่าควบคุมปฐมเวทย์กลืนกินได้อย่างเชี่ยวชาญแล้ว การกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณราบรื่นรวดเร็วนัก
เรียกว่าไม่ทันที่ผู้ฝึกตนพเนจรทั้งหลายจะคืนสติดี เขาก็กลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของเจียวจ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว
‘พรสวรรค์รากวิญญาณของเจียวจ้านนับว่าดีที่สุดในบรรดาพรสวรรค์รากวิญญาณมากมายที่ข้าได้ดูดกลืนช่วงหลังมานี้ก็ว่าได้…กระทั่งพรสวรรค์รากวิญญาณของมันคนเดียวยังเกือบจะเทียบได้กับพรสวรรค์รากวิญญาณของทุกคนที่ผ่านมามารวมกัน…’
หลังกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณเจียวจ้านไปแล้ว ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะกล่าวในใจ
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็วูบร่างจากไป คงเหลือไว้แต่วีรกรรมอีกบทของชายชุดดำ
ด้วยความที่ต้วนหลิงเทียนสวมใส่ชุดคลุมลมดำคลุมไปทั้งตัวแบบนี้ ถึงขั้นที่ไม่อาจระบุได้ด้วยซ้ำว่าเป็นชายหรือหญิง ยังจะนับประสาอะไรกับจะเชื่อมโยงว่าเขาคือต้วนหลิงเทียนที่ถือครองยอดศาสตราเซียน 2 ชิ้น
หากเขาไม่พูดออกมา คงไม่มีใครรู้ว่าเป็นบุรุษ
จากเรื่องนี้เห็นชัดว่าการซ่อนตัวครั้งนี้ของต้วนหลิงเทียนค่อนข้างแนบเนียนนัก
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้คนของอีกาทมิฬจะมีมาแค่เจียวจ้านจริงๆ”
เมื่อเห็นแผ่นหลังของชายชุดดำหายไปจากสายตา ผู้ฝึกตนพเนจรคนหนึ่งก็หันมองไปรอบๆสักพักค่อยกล่าวออกมา
และวาจาของมันก็ได้รับการเห็นชอบจากทุกคนทันที
“ข้าได้ยินมาว่าผู้นำกองกำลังพันธมิตรอีกาทมิฬพึ่งออกเดินทางไปจากนครแห่งบาปไม่นานมานี้…ถึงเจียวจ้านจะไม่ได้มาคนเดียวจริง แต่พอเห็นแบบนี้เจ้าว่ายังจะมีใครกล้าออกตัวไหมเล่า?”
“พี่ชายท่านนี้กล่าวถูกแล้ว ทุกคนล้วนรู้กันว่ารองจากผู้นำ เจียวจ้านก็มีพลังฝีมือสูงสุด กับคนที่สามารถฆ่าเจียวจ้านได้อย่างง่ายดายราวกับไม่ต้องใช้ความพยายามอันใด จึงไม่ใช่อะไรที่กองกำลังอีกาทมิฬจะตอแยด้วยได้เลย”
“นอกจากผู้นำมาเองข้าว่าพันธมิตรอีกาทมิฬไม่อาจตอแยชายชุดดำได้เลยจริงๆ”
“เอาตรงๆข้าว่าต่อให้ผู้นำอีกาทมิฬอยู่จริง ก็ไม่ใช่คู่มือชายชุดดำหรอก”
……
เหล่าผู้ฝึกตนที่ยังรั้งอยู่ เมื่อมองส่งต้วนหลิงเทียนจนหายลับตา พวกมันก็เริ่มสนทนากันไปเรื่อยเปื่อย บางคนยังพยายามมองหาว่าใช่มีคนของอีกาทมิฬแอบซ่อนอยู่อีกหรือไม่…
คงมีเพียงต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ที่ยืนยันได้แต่แรกว่าไม่มีคนของอีกาทมิฬคนที่สองนอกจากเจียวจ้านอยู่ในบริเวณนี้
เพราะผู้เฒ่าหั่วได้ช่วยเขาตรวจสอบแล้ว
หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้เขาคงไม่ลงมือฆ่าคนอย่างอุกอาจแบบนี้หรอก
ตอนนี้เขายิ่งหวงแหนชีวิตของตัวเองมากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก
เพราะนอกจากแรงจูงใจให้เร่งยกระดับพลังฝีมือตอนนี้เพื่อบุกไปช่วยเค่อเอ๋อแม่ลูกที่หอคุมกฏของลัทธิบูชาไฟแล้ว เขายังอยากย้อนกลับไปภูมิภาคเบื้องล่างให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อครอบครัวและสหายของเขา!
ตอนนี้เขาไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ภูมิภาคเบื้องล่างกันแน่
เพราะความไม่รู้นี้เอง ทำให้ทุกครั้งที่เขานึกถึงครอบครัวไม่ว่าจะเป็นบิดามารดา ภรรยาและลูกชายตัวน้อย กระทั่งสหายทั้งหลาย ทำให้ใจของเขาเป็นกังวลนัก
หลังข่าวลือเรื่อง ต้วนหลิงเทียนในฐานะชายชุดดำสังหารเจียวจ้านรองผู้นำอีกาทมิฬได้ง่ายดายแพร่ไปในนครแห่งบาป ก็สร้างความสนใจให้ผู้คนในนครแห่งบาปไม่น้อย
เป็นธรรมดาว่าด้วยการปกปิดตัวเองขนาดนี้ ทำให้ไม่มีใครเชื่อมโยงต้วนหลิงเทียนกับชายชุดดำได้เลย
กระทั่งในขณะที่รับบทชายชุดดำ เขายังขอแรงผู้เฒ่าหั่วให้ช่วยช่วยหาวิธีที่เขาจะสามารถกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณได้โดยไม่ต้องพึ่งกระบี่นิลสวรรค์และเวทย์พลังอื่นๆ จะได้ไม่ต้องให้ผู้ใดพบเห็นจับผิดเอาได้
สุดท้ายผู้เฒ่าหั่วจึงบอกให้เขาใช้บรรทัดจักรวาล ยอดสมบัติสวรรค์ประจำชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ
บรรทัดจักรวาล เป็นยอดสมบัติสายสนับสนุนที่มีความพิเศษอันน่าทึ่งนัก
ถึงแม้ว่าด้วยพลังของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้แทบไม่อาจใช้พลังพิเศษที่แท้จริงของบรรทัดจักรวาลได้แม้ 1 ใน 10,000 แต่หากใช้กับศัตรูที่เหมาะสมมันก็สามารถดึงความสนใจและสร้างความสับสนให้อีกฝ่ายได้
อีกทั้งต้วนหลิงเทียนยังใช้บรรทัดจักรวาลเพื่อปกปิดพลังเซียนสุริยันของเขาอีกด้วย
กล่าวให้ชัดคือใช้มันปกปิดประบวนการเพิ่มพูนพลังเซียนสุริยันจากการใช้ปฐมเวทย์กลืนกิน
ด้วยผลกระทบจากการใช้พลังวิเศษ เคลื่อนย้ายจักรวาล ทำให้เขาสามารถปกปิดกระบวนการเพิ่มพูนของปฐมเวทย์กลืนกินเอาไว้ได้ โดยไม่ต้องกลัวผู้ใดจะพบเห็น
เพียงเวลาสั้นๆต้วนหลินเทียนก็รับบทชายชุดดำผู้เป็นดั่งศาลเตี้ยของนครแห่งบาปได้อย่างแนบเนียน
‘ด้วยพลังความแข็งแกร่งในตอนนี้ ข้ามั่นใจนักว่าหากไม่ใช่เซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนชนชั้นสุดยอดฝีมือหรือเหนือกว่า คงไม่มีใครมองออกว่าข้าเป็นใคร!’
ต้วนหลิงเทียนมั่นใจในเรื่องนี้อย่างมาก
ในขณะเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกำลังวุ่นอยู่กับการยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณของเขาในนครแห่งบาป
หลังข่าวลือได้แพร่ออกมาจากเซี่ยคังฉวินจ้าวราชสีห์ขนทอง เรื่องที่ต้วนหลิงเทียน อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ของลัทธิบูชาไฟ ที่แท้เป็นนายน้อยตำหนักเมฆาครามขุมพลังกึ่งชั้น 3 ของภูมิภาคเบื้องล่าง และได้สังหารเซี่ยจง ลูกชาย ของจ้าวราชสีห์ขนทอง จนได้รับยอดศาสตราเซียนอย่างตราผนึกมารไปครอง ทำให้รวมกับกระบี่ไร้ลักษณ์ที่มีอยู่ก่อน ก็ทำให้มียอดศาสตราเซียนในมือถึง 2 ชิ้น…
จังหวะนี้ลัทธิบูชาไฟเสมือนมีระเบิดลงก็ไม่ปาน
“สวรรค์! ที่แท้ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนก็คือนายน้อยตำหนักเมฆาคราม ที่โชคดีได้รับตราผนึกมารมาครองในตอนนั้น?!”
“ไม่น่าเชื่อ! ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆว่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจะเป็นคนเดียวกันกับต้วนหลิงเทียนผู้นั้น!!”
“เรื่องนั้นช่างเถอะ แต่นี่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนร้ายกาจถึงขั้นฆ่าเซี่ยจงได้แล้วหรอ? แล้วฆ่าเซี่ยจงตายไม่พอยังได้รับตราผนึกมารที่ถูกชิงไปกลับมาอีก!!”
“ว่าแต่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน มีกระบี่ไร้ลักษณ์ด้วยหรือ?!”