ตอนที่ 2,124 : คลังสมบัติ ที่ยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเหลือทิ้งไว้!
อันดับที่ 421 ในรายนามยอดเซียนคนปัจจุบัน ก็คือต้วนหลิงเทียน ศิษย์อัจฉริยะท้าทายสวรรค์อันดับที่ 2 ของลัทธิบูชาไฟ!
ผู้คนส่วนใหญ่ในลัทธิบูชาไฟย่อมภาคภูมิใจไม่น้อยที่มีศิษย์ที่แท้จริงและเป็นอัจฉริยะเช่นนี้ เพราะนี่เสมือนสายเลือดใหม่ของมัน ศิษย์อัจฉริยะที่จะกลายเป็นสุดยอดฝีมือที่เป็นดั่งเสาหลักของพวกมันในอนาคต ‘ความภาคภูมิใจ’ ของลัทธิบูชาไฟ!
อย่างไรก็ตามข่าวเรื่องราวที่พึ่งได้ยินมาจากโลกภายนอก ทำให้ลัทธิบูชาไฟต้องตกตะลึงครั้งใหญ่แล้วจริงๆ
ศิษย์อัจฉริยะท้าทายสวรรค์คนใหม่ของพวกมันต้วนหลิงเทียน กลับเป็นคนๆเดียวกันกับต้วนหลิงเทียนในภูมิภาคเบื้องล่างที่มีโชคได้รับยอดศาสตราเซียนอย่างตราผนึกมารไปครอบครอง!
ยิ่ไปกว่านั้นยังสังหารเซี่ยจง บุตรชายของจ้าวราชสีห์ขนทองที่เคยช่วงชิงตราผนึกมารไปในอดีตที่นครแห่งบาป ที่สำคัญยังกล่าวกันว่าที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าเซี่ยจงได้เพราะพลังของกระบี่ไร้ลักษณ์!
ทำให้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเป็นเพียงคนเดียว ที่มียอดศาสตราเซียนในความครอบครองถึง 2 จากทั้งหมด 10 ชิ้น!
“ตอนนี้ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนไม่พ้นตกเป็นคนที่เหล่ายอดฝีมือทั้งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแย่งกันค้นหา…ข้าไม่รู้จริงๆว่าศิษย์พี่ยังจะย้อนกลับมาที่ลัทธิบูชาไฟเราอีกไหม?”
“ย้อนกลับมาลัทธิบูชาไฟเรา? เจ้าคิดเหลวไหลอะไร! เรื่องพรรค์นี้ยังเป็นไปได้หรือไง? หากเจ้าเป็นศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนและเจ้ามียอดศาสตราเซียนถึง 2 ชิ้น เจ้าจะย้อนกลับมาไหมเล่า?”
“เป็นข้าๆก็ไม่ย้อนกลับมาลัทธิบูชาไฟแน่นอน โลกภายนอกอันตรายหรือลัทธิบูชาไฟไม่อันตราย? คนในโลกภายนอกโลภอยากได้ยอดศาสตราเซียน หรือคนในลัทธิบูชาไฟไม่โลภอยากได้ยอดศาสตราเซียน?”
“ใช่ ทันทีที่กลับมาถึงลัทธิบูชาไฟ น่ากลัวว่ายอดศาสตราเซียนทั้ง 2 ชิ้นก็รักษาไว้ไม่ได้แล้ว…อยู่ข้างนอกแม้จะใช้ชีวิตลำบากอยู่บ้างแต่อย่างน้อยก็ยังรักษายอดศาสตราเซียนทั้ง 2 ชิ้นเอาไว้ได้”
“ข้าก็คิดแบบนั้น”
…
ประพเด็นหลักในบทสนทาของคนในลัทธิบูชาไฟ ไม่ทราบเปลี่ยนจากเรื่องค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามภูมิภาคหรือเผ่าพันธุ์ปีศาจที่อาจจะรุกรานเข้าในภูมิภาคเบื้องล่างแล้วไปตั้งแต่ตอนไหนกันแน่ แต่มันกลายเป็นเรืองต้วนหลิงเทียนกับยอดศาสตราเซียนทั้ง 2 แทน
เนื่องเพราะเกี่ยวพันกับ 2 ใน 10 ยอดศาสตราเซียน ทำให้ลัทธิบูชาไฟบังเกิดความปั่นป่วนไม่น้อย
แท่นบูชามังกรคราม ที่พักอาศัยของจ้าวแท่นบูชา
“บัดซบ! เจ้านั่นกลับเป็นต้วนหลิงเทียนที่โชคดีได้ถือครองตราผนึกมารในปีนั้น”
จ้าวแท่นบูชามังกรครามหลูเถี่ยถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด สองตาฉายชัดถึงความตกใจ ด้วยไม่คิดจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนที่มีเรื่องกับพวกมันจะเป็นเจ้าของยอดศาสตราเซียนถึง 2 ชิ้น!
“อะไร? ต้วนหลิงเทียนมันมียอดศาสตราเซียนถึง 2 ชิ้นเลยหรือ!?”
ถัดจากหลูเถี่ย ปู้หงที่ได้รับทราบข่าวนี้เช่นกัน สองตาก็แดงขึ้นมาด้วยความอิจฉา
ตอนที่ตระหนักได้ว่ากระบี่ของต้วนหลิงเทียนอาจจะเป็นยอดศาสตราเซียนในตำนานอย่างกระบี่ไร้ลักษน์ ใจมันก็บังเกิดความอิจฉาแทบตายแล้ว
มาตอนนี้ยังได้ทราบว่าต้วนหลิงเทียนถึงกับได้รับตราผนึกมารไปครอบครองอีกชิ้น!
พอหันกลับมามองตัวเองและจำได้ว่าพรสวรรค์รากวิญญาณได้ถูกต้วนหลิงเทียนทำลายไปแล้ว จึงกลายเป็นไร้อนาคต ทั้งชีวิตที่เหลืออยู่ไม่อาจก้าวหน้าใดๆ ปู้หงก็แทบจะคลั่งตายให้ได้
“ท่านอาจารย์…ข้าไม่คิดเลยว่าเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมีกระบี่ไร้ลักษณ์กลับถูกเปิดเผยออกมาแบบนี้…ด้วยเหตุนี้ที่ท่านไปถอนคำฟ้องร้องมันไปไม่เสียเปล่าหรือ…”
พอนึกถึงเรื่องที่อาจารย์ของมันถอนฟ้องต้วนหลิงเทียนไปแล้ว ทำให้สีหน้าปู้หงยิ่งบิดเบี้ยวไปกันใหญ่
อาจารย์มันไปเยือนหอคุมกฏวันนั้นก็เพื่อถอนฟ้องต้วนหลิงเทียนเรื่องทำลายพรสวรรค์รากวิญญาณของมัน
เพราะต่างกังวลว่าหากต้วนหลิงเทียนเกิดตกตายในหอคุมกฏขึ้นมา เช่นนั้นกระบี่ไร้ลักษณ์ในแหวนมิติของต้วนหลิงเทียนกับพวกมันก็สิ้นสุดวาสนากันแน่นอน
แต่ตอนนี้กลับมีข่าวลือแพร่ออกมาว่าต้วนหลิงเทียนมีกระบี่ไร้ลักษณ์ แถมยังได้รับตราผนึกมารกลับคืนไปอีกด้วย!เช่นนั้นเรื่องที่อาจารย์มันจะมีโอกาสฆ่าต้วนหลิงเทียน ช่วงชิงกระบี่ไร้ลักษณ์มาก็ริบหรี่เต็มที!!
ด้วยเหตุนี้การถอนฟ้องตวนหลิงเทียนก็เสมือนกับเสียเปล่า
“ผู้ใดจะไปทราบว่าต้วนหลิงเทียนจะถูกเปิดโปงเรื่องถือครองยอดศาสตราเซียนถึง 2 ชิ้นออกมาแบบนี้”
ได้ยินคำของปู้หง สีหน้าหลูเถี่ยก็อัปลักษณ์ปั้นยากเช่นกัน “อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ จะถอนฟ้องหรือยังฟ้องก็มิได้มีใดแตกต่างกันมากนัก เพราะจะฟ้องหรือไม่ฟ้องก็มิมีผลอะไรกับต้วนหลิงเทียนเลย…เจ้าคิดว่าด้วยสถานการณ์อย่างตอนนี้มันยังจะกล้าย้อนกลับมาลัทธิบูชาไฟหรือไม่?”
“มันไหนเลยจะไม่รู้ว่าหากย้อนกลับมาลัทธิบูชาไฟ คิดรักษายอดศาสตราเซียนทั้ง 2 ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว…ยอดศาสตราเซียนต้องเปลี่ยนเจ้าของแน่ ดังนั้นข้าจึงกล่าวได้เลยว่ามันไม่ย้อนกลับมาลัทธิบูชาไฟแน่!”
วาจาของหลูเถี่ยมีเหตุผลรองรับชัดเจน
ได้ยินดังกล่าว ปู้หงก็เงียบไปพักหนึ่ง ไม่นานใจมันก็เห็นด้วยกับคำของอาจารย์
ณ หอคุมกฏของลัทธิบูชาไฟ
“ท่านพ่อ!”
ทันทีที่ได้รู้อีกตัวตนของต้วนหลิงเทียน รวมถึงรับทราบข่าวเรื่องต้วนหลิงเทียนสมควรถือครองยอดศาสตราเซียนไว้กับตัวถึง 2 ชิ้น ต่งหลินก็รีบแจ้นมาหาบิดาทันที
รองจ้าวหอคุมกฏ ต่งหยวนจิ้น!
“เจ้ามาที่นี่เพราะต้วนหลิงเทียนนั่นหรือ?”
ต่งหยวนจิ้นพอเห็นต่งหลินก็เปิดประตูเห็นภูผากล่าวถามออกมาทันที
“ท่านพ่อเองก็ได้ยินเรื่องนี้แล้ว?”
ต่งหลินพยักหน้า ค่อยถามต่อ
“มิผิด”
ต่งหยวนจิ้นพยักหน้ารับ สองตาทอประกายเยียบเย็นออกวูบหนึ่ง กล่าวออกเสียงเข้ม “ข้ามิคิดมาก่อนเลยว่าคนที่โชคดีได้รับตราผนึกมารไปครองในกาลก่อนที่แท้จะเป็นมัน…อีกทั้งหลังจากฆ่าเซี่ยจง บุตรชายของจ้าวราชสีห์ขนทองแห่งลัทธิอารามทมิฬ ตอนนี้มันสมควรชิงตราผนึกมารกลับไปครองได้อีกครั้ง”
“แถมข้าเองก็ไม่คิดเลยจริงๆ ว่ามันจะมียอดศาสตราเซียนในมืออีกชิ้น! กระบี่ไร้ลักษณ์…มาวันนี้ข้าจึงได้กระจ่างว่าไฉนมันถึงมีพลังฝีมือร้ายกาจถึงขั้นสามารถฆ่าหยางเหวิน กระทั่งบีบคั้นเวินเยี่ยน ยังไม่วายสยบปู้หงได้…ทั้งหมดเพราะมันอาศัยกระบี่ไร้ลักษณ์!”
ต่งหยวนจิ้นอย่างไรก็เป็นชนชั้นรองจ้าวหอคุมกฏ พอทราบเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนมีกระบี่ไร้ลักษณ์ มันก็เชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆได้ทันที
“ต้องเป็นเช่นนั้นไม่ผิดแน่”
ต่งหลินพยักหน้า “ผู้อื่นคิดว่าวรยุทธ์กระบี่ของมันสูงส่งเลิศล้ำ ถึงขั้นควบคุมกระบี่บินทั้งตวัดกระบี่ได้อย่างไร้ร่องรอย ที่แท้ทั้งหมดเพราะมันอาศัยพลังของกระบี่ไร้ลักษณ์!!”
ไม่พูดก็แล้วไป แต่พอกล่าวถึงกระบี่ไร้ลักษณ์ขึ้นมา สองตาของต่งหลินก็แดงขึ้นมาทันใด แววตายังท่วมท้นไปด้วยความอิจฉาริษยาขั้นสุด
ในลัทธิบูชาไฟ นอกจากศิษย์อาจารย์หลูเถี่ยกับปู้หง ต่งหลินกับต่งหยวนจิ้นแล้ว ศิษย์และอาวุโสทั้งหลายก็ได้รับทราบข่าวดังกล่าวเช่นกัน
นอกจากนั้นยังมีชนชั้นผู้พิทักษ์ทั้ง 3 อีกด้วยที่ได้รับทราบข่าวนี้
“ไม่คิดเลยจริงๆว่าสหายน้อยนั่นจักมีโชควาสนาอันประเสริฐถึงขนาดนี้…สามารถครอบครองยอดศาสตราเซียนไว้ได้ถึง 2 ชิ้นเพียงลำพัง”
ชิงหั่ว ผู้พิทักษ์ 1 ใน 3 ของลัทธิบูชาไฟ และยังเป็นอาจารย์ของก่านหรูเยี่ยน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังได้รับทราบข่าวอันน่าตื่นตระหนกจากนอกลัทธิ
ถึงแม้หัวใจมันจะยังสงบดั่งน้ำนิ่ง แต่ลึกลงไปในแววตาของมัน ก็ร้อนแรงดั่งเพลิงไฟ
แม้มันจะมีฐานะสูงส่งและพลังฝีมือเลิศล่ำในลัทธิบูชาไฟถึงขั้นเป็นชนชั้นผู้พิทักษ์ แต่มันก็ไม่มียอดศาสตราเซียนไว้ใช้สักชิ้น
ดังนั้นพอได้รับทราบว่าต้วนหลิงเทียนเพียงคนเดียวกับมียอดศาสตราเซียนในครอบครองถึง 2 ชิ้น กระทั่งมันเองยังอดใจแทบไม่ได้
ณ ภาคกลาง นครแห่งบาป
ข่าวเรื่องราวการครอบครองยอดศาสตราเซียนถึง 2 ชิ้นของต้วนหลิงเทียน ทำให้ย้อนกลับไปยังลัทธิบูชาไฟอีกไม่ได้อีกต่อไปแบบนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ทำใจไว้แต่แรกแล้ว ยังตัดสินใจกลับไปลัทธิบูชาไฟก็ต่อเมื่อพลังฝีมือสูงพอ
พอนึกถึงความปลอดภัยของเค่อเอ๋อแม่ลูก เขาก็อยากยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณสีครามของเขาเร็วๆนัก
ตราบใดที่พรสวรรค์รากวิญญาณเขายกระดับ นั่นหมายความว่าความไวต่อสัมผัสพลังวิญญาณฟ้าดินจะสูงขึ้น สามารถดูดซับมันได้มากขึ้น หมายความว่าความเร็วในการบ่มเพาะเขาจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก
ดังนั้นต้วนหลิงเทียนที่อยู่ในนครแห่งบาป นอกจากตั้งหน้าตั้งตาบ่มเพาะพลังแล้ว ยังหาโอกาสดูดกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณของคนชั่วเสมอ!
วันเวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน
ครึ่งปีราวกับจะผ่านพ้นไปในชั่วพริบตา…
แน่นอนว่าครึ่งปีที่กล่วาถึงนี้เป็นเวลาในโลกภายนอกไม่ใช่ภายในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ
“หือ? คลังสมบัติที่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเหลือไว้งั้นเหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งออกจากการปิดด่านบ่มเพาะ และออกจากโรงเตี๊ยมได้ไม่ทันไรก็เห็นผู้ฝึกตนพเนจรจำนวนมากมายกำลังเร่งรุดเหินร่างตัดอากาศมุ่งหน้าขึ้นเหนือ
และฟังจากวาจาที่ดังแว่วๆมาคล้ายจะเร่งรัดให้สหายเดินทางเร็วขึ้น เขาก็พอจับใจความได้ว่า…
มีการค้นพบ คลังสมบัติที่เหลือไว้ของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนทางตอนเหนือ ห่างออกไปจากนครแห่งบาป
และปัจจุบันเหล่าผู้ฝึกตนพเนจรทั้งหลายก็กำลังแห่กันไปที่นั่น
“โชคดีจัง…หลังออกจากการปิดด่านบ่มเพาะก็เจอเรื่องดีๆแบบนี้ต้อนรับเลยหรือเนี่ย?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวพึมพำกับตัวเบาๆ ใจอดไม่ได้ที่จะสนใจและอยากรู้เรื่องคลังสมบัติของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ยากระงับอาการตื่นเต้น
“ตามไปดูก่อน!”
ต้วนหลิงเทียนไม่รอช้าเหินร่างขึ้นฟ้าและติดตามกลุ่มคนไปทันที และเพื่อหลีกเลี่ยงจากสายตาคนมอง ที่มีมากมายขนาดนี้เขาจึงเลือกที่จะเหินร่างขึ้นไปเหนือเมฆ
หากลงไปเดินทางด้านล่าง แม้จะไม่มีใครระบุตัวตนเขาได้ อย่างไรก็ตามด้วยชุดเครื่องแต่งกายของเขาในตอนนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องสงสัยว่าเขาคือ ชายชุดดำตัวจริงหรือไม่! คราวนี้ทุกคนได้มองมาที่เขาด้วยสายตาทำราวกับเห็นสัตว์ในสวนสัตว์แน่นอน
เขาที่ไม่ชอบความรู้สึกดังกล่าวจึงพยายามหลีกเลี่ยง
“หืม?”
ทันใดนั้นเองพลันมีเสียงแหวกสายลม 3 เสียงไล่จี้มาทางด้านหลัง ทำให้ต้วนหลิงเทียนตกใจอยู่บ้าง
มีใครคิดเดินทางเหนือเมฆด้วยหรอ?
และไม่นานนักเสียงแหวกฝ่าสายลม 3 เสียงก็ไล่จี้มาถึงเบื้องหลังเขา
“หือ? ชายชุดดำงั้นเหรอ?”
ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันได้ยินเสียงระคายหูดังขึ้น “กว่าครึ่งปีมาแล้วที่ชายชุดดำมีชื่อเสียงเลื่องลือในนครแห่งบาป…แน่นอนว่าตัวปลอมก็มีไม่น้อย ไม่ทราบเบื้องหน้าจะใช่ชายชุดดำของแทหรือของปลอม!”
“จึกๆ หากนายน้อยอยากรู้ว่าที่แท้มันเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม ช้ารับใช้ชราผู้นี้จักลงมือไขข้อแสงสัยให้นายน้อยเอ!”
ครู่ต่อมาเสียงระคายหูก็ดังขึ้นอีกครั้ง และรอบนี้ยังทำให้หน้าต้วนหลิงเทียนจมลงทันที ค่อยหันไปมองทั้ง 3 ร่างเบื้องหลังด้วยสายตาอย่างระวัง
ทันใดนั้นสายตาต้วนหลิงเทียนก็ไปหยุดที่ร่างชายคนหนึ่ง
คนที่นำขบวนนี้ผ่านมาเป็นชายหนุ่มที่แลดูหน้าตาดีคนหนึ่ง
หากแต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของมันกลับฉายออกชัดถึงความอิดโรย ทั่วร่างคล้ายไม่กระฉับกระเฉง ท่วงท่าไม่ค่อยมั่นคง ทำให้ต้วนหลิงเทียนทราบได้ทันทีว่าไม่พ้นต้องเป็นนายน้อยเหลวไหลเจ้าสำราญจากตระกูลร่ำรวยคนหนึ่ง ที่วันๆดีแต่ร่ำสุรามั่วนารี!