เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1249

จิตใจวูบไหวเล็กน้อย โลกใบเล็กในตัวเริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย

ขณะนี้ จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกเหมือนตัวเองสามารถใช้พลังแห่งโลกในตัวได้นิดหน่อย

ความตกใจผุดขึ้นบนใบหน้าเขา ลู่ฝานคิดไม่ถึงว่าเมื่อสร้างสะพานฟ้าดินในตัว จะทำให้โลกใบเล็กในตัวเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง

ลู่ฝานลองใช้พลังแห่งโลกในตัวดูครั้งหนึ่ง

พลังแห่งโลกที่เหมือนกับเส้นผม แปรเปลี่ยนและผ่านสะพานฟ้าดินเข้ามาในปราณชี่ของลู่ฝาน

ลู่ฝานเห็นปราณชี่ของตัวเองเริ่มกลืนกินพลังแห่งโลก แม้จะช้ามาก แต่ลู่ฝานกลับรู้สึกสบายเป็นอย่างมาก

เหมือนความรู้สึกนุ่มสบายแผ่ซ่านมาจากทั่วทุกที่ของร่างกาย ลู่ฝานมีความสุขสุดขีด สบายจนเกือบครางออกมา

เสอหลิงหัวเราะเสียงดังแล้วเดินกลับมา ชัยชนะของเขาง่ายดายมาก พละกำลังที่แสดงออกมาก็ทำให้ทุกคนตะลึง

แค่การที่เขาเป็นคนเผ่ายันต์ ก็ทำให้นักบู๊ทุกคนในนี้ มองเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจแล้ว!

แม้แต่สายตาที่เทียนชิงหยางมองเสอหลิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

บนที่นั่งผู้ชม คนจำนวนไม่น้อยกำลังพูดคุยกันอยู่

“การแข่งขันน่าดูขึ้นเรื่อยๆ เดิมทีคิดว่าเทียนชิงหยางจะได้ที่หนึ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนไม่แน่แล้วสิ!”

“ก็ใช่น่ะสิ ดูเสอหลิงเผ่ายันต์สิ ยังมีหลินหย่าเขตเจียงอีก รวมไปถึงลู่ฝานนักกระบี่แห่งตงหวาด้วย มีคนไหนไปหาเรื่องได้บ้างล่ะ!”

“เทียนชิงหยางใกล้ออกมาแล้ว เรามาดูกันว่าพละกำลังของเขาจะเป็นยังไง ถ้าพละกำลังของเขาเหมือนสองสามรอบก่อนหน้านี้ อยากได้อันดับหนึ่งคงยากแล้วล่ะ!”

เสียงพูดคุยดังเข้าหูไม่หยุด นักบู๊ในสนามบู๊หูตาเฉียบแหลมทั้งนั้น ได้ยินการพูดคุยด้านบนอย่างชัดเจน

ไม่รอให้หัวหน้าองครักษ์เกราะทองเรียก เทียนชิงหยางลุกขึ้นมาก่อน

สีหน้ามีความอึมครึม เทียนชิงหยางถือกระบี่มังกรคำรามเดินไปด้านนอก จนถึงตอนนี้หัวหน้าองครักษ์เกราะทองเพิ่งตะโกนว่า “เทียนชิงหยางตระกูลเทียนสู้กับว่านกั๋วเขตปิ้ง!”

นักบู๊ที่ชื่อว่านกั๋วเดินออกมา ถือดาบทั้งสองมือ สีหน้าเคร่งขรึม!

เพิ่งเข้ามาในสนาม ว่านกั๋วใช้พลังปราณของตัวเองออกมาก่อน

พลังปราณของเขาไม่เหมือนกับคนอื่นเลย เป็นสีเงินเข้ม จู่ๆ ไม่มีใครดูออกว่าเขาอาศัยพลังธาตุไหนเป็นหลัก

เมื่อสะบัดดาบคู่ พลังปราณสีเงินพุ่งขึ้นมาเหมือนเปลวเพลิง

เขาคือว่านกั๋ว ดาบเงินชุบแข็งอันดับ 17 ในรายชื่อประเทศ เขาเป็นนักบู๊อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเขตปิ้ง!

วิทยายุทธแดนปราณดินขั้นสาม ไม่เรียกว่าต่ำแล้ว

แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่เขตปิ้ง แต่อยู่ที่เมืองหลวง

วิทยายุทธแดนปราณดินในเมืองหลวง จะพูดว่าไม่เยอะ แต่ก็ไม่น้อยแน่ๆ

โดยเฉพาะคู่ต่อสู้ของเขาในตอนนี้ คือเทียนชิงหยาง มีฉายาว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่!

วิทยายุทธแค่นี้ ไม่มีทางทำให้เขาชนะได้เลย!

ว่านกั๋วพูดกับเทียนชิงหยางเสียงดังว่า “คุณชายเทียน ฉันเลื่อมใสนายมานานแล้ว วันนี้ได้สู้กับนายถือเป็นเกียรติของฉัน!”

เทียนชิงหยางมองเขาอย่างเฉยเมย แล้วพูดช้าๆ ว่า “สหายว่านกั๋ว เดิมทีฉันไม่อยากลงมือรุนแรงกับนาย แต่วันนี้ฉันต้องแสดงฝีมือให้คนเห็นสักหน่อย เพื่อไม่ให้พวกเขาดูถูกฉัน ขอโทษด้วย!”

พูดจบ เทียนชิงหยางเหาะขึ้นช้าๆ

เท้าเหยียบอากาศ พลังปราณพลุ่งพล่าน

พลังอันน่ากลัวรวมตัวรอบตัวเขา บนหน้าผากเทียนชิงหยางเริ่มมีรอยห้าธาตุปรากฏออกมา!

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนเอะอะเสียงดังทันที

“คนที่เกือบเข้าสู่แดนปราณฟ้าอีกแล้ว!”

“ฉันว่าแล้ว คุณชายเทียนจะด้อยกว่าเฟิงเสี่ยวชี่ได้ยังไง ที่แท้คุณชายเทียนก็มีวิทยายุทธที่เกือบเข้าสู่แดนปราณฟ้าเหมือนกัน!” ……

ว่านกั๋วอ้าปากค้าง มองเทียนชิงหยางเหาะขึ้นไปกลางท้องฟ้า

ความสูงระดับนี้ เกินระยะการฆ่าที่ทรงพลังของวิชาดาบของเขาแล้ว น่าเสียดายที่เขาเป็นแค่นักบู๊แดนปราณดิน ไม่มีเคล็ดวิชาบู๊เหาะเหิน ทำได้เพียงมองเทียนชิงหยางตาปริบๆ

เทียนชิงหยางยกกระบี่มังกรคำรามในมือขึ้นสูง แสงบนตัวเขาแสบตายิ่งกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก

มองลงมาข้างล่าง ตอนนี้สายตาของเทียนชิงหยางไม่วูบไหว นิ่งเหมือนเทพก้มมองมนุษย์!

กระบี่มังกรคำรามจู่โจมลงมาทันที สั่นสะเทือนไปทั่วฟ้า!

วินาทีต่อมา สนามบู๊ระเบิด!

เสียงดังสนั่น ทั้งสนามบู๊มีดินยกตัวเป็นคลื่นสูงหลายเมตร

ไม่ว่าจะเป็นหินศิลาดำหรือสนาม โดนกระบี่ของเทียนชิงหยางระเบิดจนเป็นผุยผง

เกราะป้องกันรอบๆ แกว่งไปมา

กระแสลมด้านหน้าลู่ฝานก็สั่นอย่างรุนแรงเหมือนกัน!

กระบวนท่าเดียว แค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น พลังอันน่ากลัว เกิดขีดจำกัดที่นักบู๊แดนปราณดินสามารถทำได้แล้ว

กระบวนท่าระดับนี้ ถึงเป็นนักบู๊แดนปราณฟ้าขั้นต้น ก็คงไม่สามารถทำได้!

แสงบนตัวเทียนชิงหยางหายไป เขาค่อยๆ เก็บกระบี่!

เมื่อเขาเก็บกระบี่มังกรคำราม เสียงระเบิดหยุดลงทันที

ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ เทียนชิงหยางลงมาบนพื้นช้าๆ

ทุกคนมองไปในสนามอีกครั้ง เห็นในดินมีร่างเละเทะของว่านกั๋ว ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย!

น่าเวทนามาก!

ตัวของว่านกั๋วมีเลือดเนื้อปะปนกัน ทั้งตัวไม่เหลือส่วนไหนดูดีเลย

กระบวนท่าเดียวมีพลานุภาพขนาดนี้ เทียนชิงหยางใช้วิธีนี้ แสดงความแข็งแกร่งของเขาออกมาอีกครั้ง!

ผู้ฝึกชี่สองสามคนรีบหามว่านกั๋วออกไป ว่านกั๋วผู้น่าสงสาร ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้ใช้แม้แต่กระบวนท่าเดียว

นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาอ่อนแอ แต่หมายความว่าเทียนชิงหยางแข็งแกร่งเกินไป!

เทียนชิงหยางกวาดตามองรอบๆ แล้วส่งเสียงหึเบาๆ

ใบหน้าเจ้าบ้านตระกูลเทียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ได้ใจจนส่ายหัวไปมาอย่างมีความสุข เหมือนกำลังอวดกับทุกคนว่านี่คือลูกหลานของตระกูลฉัน ทรงพลัง เกรี้ยวกราดและไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!

ฉินซางต้าตี้มองภาพนี้ด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “พลังปราณแข็งแกร่งมาก เทียนชิงหยางตระกูลเทียนชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ!”

ปรบมือเบาๆ จู่ๆ เสียงปรบมือดังสนั่น