อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 991 ตื่นตาตื่นใจ
หัวหน้าตระกูลหนิงผมหงอก อายุเยอะ สวมชุดสีขาวดั่งนกกระเรียนสน แลดูเป็นกันเอง ลักษณะท่าทีไม่ธรรมดา

หัวหน้าตระกูลไป๋หลี่อายุประมาณห้าสิบ ร่างกายแข็งแกร่งกำยำ สีหน้าจริงจัง แลดูเป็นคนเคร่งขรึม

หัวหน้าตระกูลซ่างกวนอายุมากกว่าหกสิบ หนวดเคราหงอกขาว สวมเสื้อคลุม บนเสื้อคลุมปักลวดลายไทเก๊กหยินหยางลัทธิเต๋า พร้อมยิ้มบางๆที่มุมปาก ยังยิ้มทักทายพวกนักเรียน ดูแล้วก็ไม่ใช่คนที่เข้าหายาก

เสด็จอาเสวี่ยอายุประมาณสี่สิบกว่า สวมอาภรณ์สีม่วง สวมมงกุฎลายหงส์ แสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยมั่งคั่งอย่างชัดเจน

ที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็คือ

หัวหน้าตระกูลเวิน ที่ปกติลึกลับจนใครๆก็คิดว่าเป็นคนวัยชราคนหนึ่ง กลับเป็นหนุ่มวัยสิบกว่ายี่สิบเท่านั้น

ยังเป็นหนุ่มรูปหล่อสง่างาม ไร้ที่ติ สวมเสื้อคลุมสีขาวราวกับหิมะแสดงให้เห็นถึงรูปร่างของเขาอย่างไม่มีที่ติ

ตาคิ้วดั่งรูปวาด ทุกการเคลื่อนไหวแลดูสูงส่งและมีอำนาจเหนือกว่าใคร ทำให้ไม่กล้ามองข้าม

เขาเผยรอยยิ้มเล็กน้อยตรงมุมปาก หน้าตาคมหล่อเหมือนผลงานเด่นที่สุดจากสวรรค์

เมื่อเขาออกมา ทุกคนต่างตกตะลึง

โดยเฉพาะพวกผู้หญิง แทบตื่นตาตื่นใจไปหมด หลงเสน่ห์กันทุกคน

เป็นผู้ชายที่หล่อมาก

เป็นผู้ชายดั่งเทพ

หากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง พวกเขาจะไม่เชื่อว่า บนโลกนี้ยังมีผู้ชายที่หล่อขนาดนี้

ลมเบาๆพัดผ่าน ไรผมหัวหน้าตระกูลเวินปลิวไสว ยิ่งเสริมความเป็นอมตะสง่างามของเขา

ซี๊ด…..

เสียงถอดลมหายใจของผู้คนดังขึ้นมา

“ผู้ชายคนนั้นคือหัวหน้าตระกูลเวินหรือ? ข้าไม่ได้ตาบอดจนเห็นภาพลวงตาใช่ไหม เจ้าหยิกข้าที โอ้ย….เจ็บมากเลย….ไม่ใช่ภาพลวงตา ไม่ใช่ภาพลวงตาจริงๆ”

“ข้าก็สงสัยว่าเป็นภาพลวงตา แต่ความจริงก็คือ เขาเป็นหัวหน้าตระกูลเวินหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่ลึกลับที่สุด”

“โอ้พระเจ้า ยังหนุ่มมากเลย ไหนบอกว่าหัวหน้าตระกูลเวินเป็นชายชราผมหงอกไม่ใช่หรือ?”

“เป็นประมุขคนใหม่หรือเปล่า?”

“เขายังหนุ่มขนาดนั้น เป็นถึงประมุขได้ยังไง หรือว่าวิทยายุทธของเขาสูงมากหรือ?”

“ต่อให้สูงแค่ไหน ก็ไม่สูงเท่าประมุขท่านอื่นๆมั้ง ยังไงประมุขท่านอื่นๆล้วนไปถึงขึ้นระดับห้า บางคนยังไปถึงระดับห้าสูงสุด ซ่างกวนหมิงหลางอายุพอๆกับเขา ก็ไปถึงระดับสามแล้ว โด่งดังที่สุดในแผ่นดินปิงหลิง พลังความสามารถของเขาก็คงไม่แตกต่างกับซ่างกวนหมิงหลาง”

“ข้าคิดว่าคงไม่สูงเท่าซ่างกวนหมิงหลาง ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงไม่มีชื่อเสียงเลย แต่ได้เป็นถึงประมุข ยังไงก็ต้องมีอะไรดีกว่าคนอื่น ข้าสงสัยว่าพลังความสามารถของเขาน่าจะไปถึงระดับสอง หรือขั้นสูงสุดระดับสอง”

“ไม่ว่าพลังความสามารถของเขาไปถึงระดับไหน ด้วยความที่เขารูปงามขนาดนี้ หากได้แต่งงานกับเขา โอ้ย จะเป็นเรื่องดีแค่ไหน เดี๋ยวข้าจะให้ของข้าไปสู่ขอเขา หวังว่า….จะได้แต่งงานกับเขา”

“…”

ด้านล่าง คนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือหัวหน้าตระกูลเวิน

กู้ชูหน่วนต้องยอมรับว่า นางก็ตื่นใจตื่นใจที่เห็นเวินเส้าหยี

ผู้ชายคนนี้ไม่ว่าหน้าตา ท่าที ตำแหน่งล้วนไม่ต้องถูกถึง

แต่…..

ทำไมนางถึงรู้สึกคุ้นผู้ชายคนนี้มาก?

นางเคยเห็นเขาที่ไหนหรือเปล่า?

เมื่อหันไปมองซ่างกวนหมิงหลันกับหยางม่านที่อยู่ด้านข้าง

พวกนางสองคนไม่เพียงมองดูเวินเส้าหยีอย่างตื่นตาตื่นใจ แววตาแห่งความหลงใหลนั่นก็เห็นได้ชัดมาก ผู้หญิงสองคนนี้รักแรกพบเวินเส้าหยีแล้ว

โดยเฉพาะหยางม่าน ความเร่าร้อนในสายตายังไงก็ปกปิดไม่มิด

หนิงเทียนโย่วพูดขึ้นมาด้วยเสียงแปลกว่า “เจ้าก็เหมือนอย่างพวกนาง หลงชอบหัวหน้าตระกูลเวินหรือเปล่า”

กู้ชูหน่วนกลอกตามองบน พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้โง่ เห็นใครก็อยากกระโจนใส่หรือ”

“งั้นข้าก็วางใจ”

“วางใจอะไร?”

“ไม่มีอะไร”

คนบนเวทีพูดขึ้นด้วยเสียงดังว่า “เชิญนั่ง….”

ประมุขทั้งสี่ตระกูลกับเสด็จอาเสวี่ยต่างนั่งลง

เสด็จอาเสวี่ยนั่งตรงตำแหน่งตรงกลางอย่างมั่นใจ

เวินเส้าหยีมองไปยังที่นั่งทั้งห้า แล้วก็ก้าวเดินไปหยุดตรงที่นั่งซ้ายสุดอย่างไม่ลังเล

ผู้เฒ่าหนิงพูดขึ้นว่า “หัวหน้าตระกูลเวิน ตามสถานะแล้ว เจ้าควรนั่งด้านขวา”

ยังไง…

ทั้งสี่ตระกูลใหญ่ ตระกูลเวินมีอำนาจที่สุด