เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1251

ดอกไม้เบ่งบาน เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่เช่นกัน ตระกูลหานมีลานประลองบู๊เยอะ ตระกูลเทียนมีค่ายกลเยอะ ส่วนตระกูลถานไถมีดอกไม้เยอะ

ตั้งแต่เข้ามาในคฤหาสน์ สิ่งที่ลู่ฝานเห็นคือดอกไม้นานาชนิด

กุหลาบจีน โบตั๋น กุหลาบ ทิวลิป

ขอแค่เป็นดอกไม้ที่รู้จัก ลู่ฝานเห็นมันทั้งหมด ส่วนดอกไม้ที่ไม่รู้จัก ก็เห็นอยู่เป็นแถบ

“ลู่ฝาน บอกได้ไหมว่านายมาตระกูลถานไถทำไม”

เดินอยู่นานกว่าเจ้าบ้านตระกูลถานไถจะถามขึ้น

ลู่ฝานพูดว่า “ฉันมาเยี่ยมคุณถานไถ เหมือนเธอได้รับบาดเจ็บ”

เจ้าบ้านตระกูลถานไถตาเป็นประกาย แล้วพูดว่า “ที่แท้มาเยี่ยมเก๋อเอ๋อร์นี่เอง เฮ้อ พูดขึ้นมาก็ละอายใจ ตระกูลถานไถของฉัน ฉายาหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ แต่กลับไม่สามารถเข้ารอบแปดคนได้ แถมยังโดนคนอื่นทำให้บาดเจ็บด้วย จนถึงตอนนี้ยังไม่หายเลย ตอนนี้ผู้อาวุโสตระกูลถานไถ รวมถึงปรมาจารย์บำเพ็ญชี่ที่เชิญมาจากเจดีย์ยากำลังรักษาให้เธออยู่ เกรงว่าคุณชายลู่ฝานต้องรอสักครู่! รอพวกเขารักษาเสร็จแล้วค่อยไปเยี่ยมก็ไม่สาย”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “เข้าใจแล้ว”

เจ้าบ้านตระกูลถานไถเดินนำลู่ฝานมายังสวนดอกไม้หลังบ้าน

บอกว่าเป็นสวนดอกไม้ แต่เมื่อมองดูแล้วเหมือนทะเลดอกไม้

กลิ่นหอมฟุ้ง ผีเสื้อบินว่อน เจ้าบ้านตระกูลถานไถกับลู่ฝานนั่งอยู่ในศาลาชมดอกไม้ในสวนดอกไม้

เมื่อปรบมือเบาๆ มีสาวใช้สองสามคนปรากฏในสวนดอกไม้ รินชาดอกไม้ให้ทั้งสองคน

ชาดอกไม้ที่อื่นใช้ดอกไม้ประมาณสิบกว่าชนิดก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่ชาดอกไม้ที่นี่ ลู่ฝานเชื่อว่าชงมาจากชาดอกไม้เป็นร้อยชนิดจริงๆ

เมื่อดื่มเข้าไปจะมีกลิ่นหอมอยู่ในปาก

เจ้าบ้านตระกูลถานไถวางแก้วชาลง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายลู่ฝานเป็นคนเขตตงหวาเหรอ”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ เป็นคนเมืองลู่ เขตตงหวา”

เจ้าบ้านตระกูลถานไถลูบเคราแล้วพูดว่า “ตอนฉันยังหนุ่มก็เคยท่องไปที่เขตตงหวา ที่นั่นทิวทัศน์งดงาม ไม่ทราบว่าคุณชายลู่ฝานมีคู่ครองที่นั่นหรือเปล่า”

ลู่ฝานใจสั่น สีหน้าเปลี่ยนไป แล้วพูดว่า “ยังไม่มี เจ้าบ้านตระกูลถานไถคงไม่ได้จะแนะนำเรื่องแต่งงานให้ฉันใช่ไหม เฮ้อ ฉันยังไม่มีความคิดแต่งงาน หวังว่าเจ้าบ้านตระกูลถานไถจะให้อภัย”

เจ้าบ้านตระกูลถานไถหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ดูเหมือนมีคนอยากได้นายเป็นลูกเขยไม่น้อยนะ ช่างเถอะๆ ในเมื่อโดนนายจับได้แล้ว ฉันก็ไม่พูดอะไรมาก แต่คุณชายลู่ฝานเป็นคนหนุ่มมีความสามารถ ต่อไปต้องเป็นกำลังสำคัญของประเทศ รีบหาคู่ครองดีๆ สักคนจะได้หลีกเลี่ยงความวุ่นวายได้เยอะ ถึงกระทั่งประหยัดเวลาดิ้นรนไปได้ตั้งสิบปีเลยนะ คุณชายลู่ฝานคิดให้ดีนะ!”

ลู่ฝานฟังออกว่าเจ้าบ้านตระกูลถานไถพูดแบบมีนัย แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ หลักๆ คือเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้

ทั้งสองคนนั่งตรงกันข้าม ค่อยๆ ลิ้มรสชาติของชา เจ้าบ้านตระกูลถานไถเริ่มคุยเรื่องทั่วไปกับลู่ฝาน

รวมถึงวิทยายุทธของลู่ฝานในตอนนี้ ความเป็นอยู่ของตระกูล รวมถึงเรื่องน่าสนใจของเมืองหลวง ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน

ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้านของสิบตระกูลใหญ่ ถานไถกงความรู้กว้างขวาง วิทยายุทธล้ำลึก

ให้คำชี้แนะเพียงเล็กน้อย ลู่ฝานถึงกับเข้าใจอุปสรรคยากทางด้านวิถีบู๊ ดังนั้นลู่ฝานจึงคุยอย่างสนุกสนานเช่นกัน คุยกับคนมีความรู้สูงส่งเพียงวันเดียว ดีกว่าฝึกฝนอย่างยากลำบากตั้งหนึ่งปี

ขณะกำลังคุยกันอยู่ จู่ๆ มีผู้อาวุโสสองสามคนเดินเข้ามา ตะโกนคุยกับเจ้าบ้านตระกูลถานไถจากไกลๆ ว่า “เจ้าบ้าน แย่แล้ว ผู้อาวุโสโม่ที่เชิญมา ช่วยไม่ได้แล้ว”

เจ้าบ้านตระกูลถานไถขมวดคิ้วแล้วพูดเสียงดังว่า “ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ถานไถเก๋อไม่ได้โดนปราณหยินหยางของเซียนบู๊สักหน่อย ทำไมถึงช่วยไม่ได้ล่ะ”