ในทันทีที่หลิงตู้ฉิงใช้เขตแดนประกาศิต ร่างของเหล่ายักษ์ดินก็สลายตัวกลายเป็นกองดินในทันที
หลิงตู้ฉิงพุ่งตัวไปที่กองดินที่อยู่ไม่ไกลและเหวี่ยงเสยง้าวเทวะพินาศลงไปที่กองดิน ส่งผลให้ร่างของลิงดินสีเหลืองกระเด็นออกมาจากกองดินหล่นลงตรงหน้าของเขา
“เป็นไงล่ะ? ทีนี้รู้แล้วรึยังว่าข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ง่ายขนาดไหน?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เมื่อเจ้าไม่มีพลังธาตุดินเกื้อหนุนแล้ว การฆ่าเจ้ามันก็ง่ายซะยิ่งกว่าดีดนิ้วสำหรับข้า นี่ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเห็นว่าเจ้าไม่มีจิตมุ่งร้ายอยากสังหารข้าตั้งแต่ต้น ข้าก็คงจะไม่ยืนคุยกับเจ้าอยู่แบบนี้หรอก”
ภูตดินไม่ตอบอะไรหลิงตู้ฉิงทั้งนั้น มันเอาแต่ยืนจ้องหน้าหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าตกตะลึง
เมื่อครู่มันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจู่ ๆ พลังธาตุดินที่เคยเกื้อหนุนมันนั้นหายไปจนหมด ซึ่งแม้แต่ตอนนี้ก็เช่นกัน
และเมื่อไม่มีพลังธาตุดินเกื้อหนุน แม้แต่การที่มันจะหนีออกไปจากที่นี่มันก็ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำไม่ต้องพูดถึงการสู้กับหลิงตู้ฉิง
ในเวลาเดียวกัน เหล่ายักษ์ดินที่อยู่นอกรัศมี 300 เมตรจากหลิงตู้ฉิงก็รีบวิ่งเข้ามา และหยุดลงก่อนถึงตัวหลิงตู้ฉิง 300 เมตรด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เพราะพวกมันสัมผัสได้ว่าหากพวกมันก้าวเข้าไปใกล้กว่านี้ พวกมันจะไม่มีพลังธาตุดินให้ใช้ในทันที
เหล่ายักษ์ดินที่เหลือต่างตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือดดาลว่า “นี่เจ้ากำลังจะทำอะไร!?”
“ข้าบอกกับพวกเจ้าไปอย่างชัดเจนแล้วไงว่าข้าจะยืมใช้พลังธาตุดินของพวกเจ้าเพื่อมาบ่มเพาะร่างกายของข้า ซึ่งพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก ข้าเพียงแค่แบ่งพลังออกมาใช้เล็กน้อย อย่างมากที่สุด 1,000 ปีพลังของมันก็ฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมแล้ว พวกเจ้าควรจะยินยอมแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นข้าคงจะต้อง…” หลิงตู้ฉิงเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
หนึ่งในยักษ์ดินเถียงกลับ “ทำไมพวกข้าต้องให้เจ้าใช้พลังของมหาวิถีเต๋าธาตุดินของพวกข้าด้วย? ต่อให้เจ้าจะแข็งแกร่งก็จริง แต่ไอ้เขตแดนประหลาดของเจ้ามันก็กินพื้นที่แค่รัศมี 300 เมตรรอบกายเจ้าเท่านั้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลิงตู้ฉิงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าอยากจะลองดูหน่อยไหมล่ะว่าข้าจะบุกเข้าไปยังไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของบรรดาภูตดินก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที และเตรียมพร้อมที่จะสู้ศึกอย่างเต็มกำลัง
ในสายตาของพวกภูตดิน ถึงแม้ว่าเขตแดนที่หลิงตู้ฉิงสร้างขึ้นจะกินพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่ด้วยความพิสดารของมัน ต่อให้พวกเขาหลายคนจะมีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิมันก็ไม่ง่ายนักที่พวกเขาจะจัดการกับหลิงตู้ฉิง ได้
ในทางกลับกัน เมื่อหลิงตู้ฉิงเห็นว่าเหล่าภูตดินไม่ยอมจำนนต่อเขาแบบนี้ เขาก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีและก่นด่าอยู่ในใจ
ในตอนนี้สภาวะทางอารมณ์ของเขากำลังไม่คงที่เป็นอย่างมาก ดังนั้นการที่เขายอมเจรจาด้วยขนาดนี้มันถือว่าเขาปราณีมากแล้ว แต่พวกภูตดินเหล่านี้กลับยังดื้อดึง ฉะนั้นเขาก็คงต้องใช้ไม้แข็ง!
“ถ้าหากพวกเจ้าอยากจะตายนัก งั้นข้าก็จะสนองให้!” หลิงตู้ฉิงตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบพวกเจ้ามาก่อนตั้งเยอะแยะ ดังนั้นหากฆ่าพวกเจ้าไปอีกสักเผ่าพันธุ์หนึ่งมันก็ไม่แปลกอะไรสำหรับข้ามากนัก!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงหยิบจอกโลหิตศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที และเทเลือดที่อยู่ด้านในลงไปที่พื้นส่งผลให้บริเวณรอบ ๆ กลายเป็นทะเลเลือดในทันที
เขาไม่สามารถใช้เขตแดนประกาศิตในการสยบเหล่าภูตดินทั้งหมดให้เชื่อฟังเขาได้ เพราะการใช้เขตแดนประกาศิตแต่ละครั้งมันเปลืองพลังเป็นอย่างมาก และด้วยความกว้างใหญ่ของอาณาเขตเหยาชาน เขาจะต้องใช้พลังสักเท่าไหร่กันในการปกคลุมอาณาเขตนี้ทั้งหมดด้วยเขตแดนประกาศิตของเขา?
ดังนั้นเมื่อเขาไม่สามารถสยบภูตดินเหล่านี้ได้ เขาก็เหลือเพียงทางเลือกเดียวก็คือฆ่าภูตดินทั้งเผ่าซะให้หมด!
เมื่อทะเลเลือดปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาเขตเหยาชานจนหมดเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงจึงหยิบกิ่งไม้เทวะขึ้นมาและพูดว่า “ต่อจากนี้ข้าจะสูบพลังมหาวิถีเต๋าธาตุดินของพวกเจ้าออกไปให้หมด เมื่อเสร็จแล้วข้าอยากจะรู้เหมือนกันว่าพวกเจ้าจะมีชีวิตรอดอยู่ได้โดยไม่มีมันได้ยังไง!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงปักกิ่งไม้ลงไปที่พื้นและใช้กิ่งไม้สูบพลังของมหาวิถีเต๋าธาตุดินออกมาอย่างรวดเร็ว
“เป็นไง พวกเจ้าเริ่มจะคิดกันได้แล้วรึยัง หรือว่าจะให้ข้า….หืม?” ยังไม่ทันพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็แสดงสีหน้างุนงงอย่างหนัก
เหตุผลที่เขางุนงงก็เพราะไม่เพียงแต่พวกเขาภูตดินจะไม่แสดงสีหน้าหวาดกลัว แต่พวกเขากลับแสดงสีหน้าตื่นเต้นแทบคลั่ง แถมบางภูตบางตนยังเริ่มคุกเข่าลงไปกับพื้นด้วยสีหน้าตื้นตัน…
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?
นี่ไอ้ภูตดินพวกนี้มันอยากตายจนแสดงสีหน้าดีใจขนาดนี้เลยงั้นเหรอ!?
หลิงตู้ฉิงเริ่มที่จะทำตัวไม่ถูกเมื่อเผชิญกับเหล่าภูตดินที่กำลังแสดงท่าทางดีใจที่ตัวเองกำลังจะตายและไม่กลัวเขาแบบนี้
ในเวลาเดียวกันก็มี ลิงชราค่อย ๆ เดินเข้ามาในเขตประกาศิตของเขา และเมื่อลิงชราเดินมาถึงตรงหน้าของหลิงตู้ฉิง ลิงชราก็คุกเข่าลงที่พื้นและคำนับเขาถึง 9 ครั้ง จากนั้นลิงชราก็หยิบสิ่งของบางอย่างออกมาชูขึ้นเหนือหัวเพื่อมอบให้กับหลิงตู้ฉิง
ในตอนนี้ไม่เพียงแต่หลิงต็ฉิงเท่านั้นที่ตกตะลึง คนอื่น ๆ ตอนนี้ต่างก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้างเหมือนกัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับไอ้พวกภูตดินเหล่านี้? หรือว่าพวกมันกลัวตายจนบ้าไปแล้ว?
แต่แล้วเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่ลิงชราชูขึ้นเหนือหัวเพื่อมอบให้กับหลิงตู้ฉิง พวกเขาก็ยิ่งงุนงงหนักเข้าไปใหญ่ เพราะของสิ่งนั้นคือ ‘แผ่นหิน’ แผ่นหนึ่งที่มีรูปวาดอยู่ ซึ่งรูปวาดนั้นมันคล้ายกับการกระทำของหลิงตู้ฉิงในตอนนี้แบบไม่มีผิดเพี้ยน
ภาพวาดที่อยู่บนแผ่นหินนั้นคือชายผู้หนุ่มที่กำลังถือจอกสีแดงอยู่ในมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ถือกิ่งไม้สีเขียวปักลงดินอยู่…
“ท่านผู้ส่งสาสน์ของเทพพระเจ้า! ในที่สุดท่านก็มาหาเราจนได้! โปรดเถอะท่านผู้ส่งสาสน์ โปรดปลดเปลื้องความทุกข์ยากให้กับเผ่าภูตดินของข้าด้วย เผ่าของข้าตอนนี้กำลังจะสูญสิ้นในอีกไม่ช้าแล้ว!” ภูตดินชราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
ในเวลาเดียวกัน บรรดายักษ์ดินก็สลายตัวลงทุกตัวและจากนั้นเหล่าภูตดินที่เหลือก็รีบวิ่งมาหาหลิงตู้ฉิง และคุกเข่าคำนับ 9 ครั้งแบบที่ภูตดินชราทำก่อนที่จะอ้อนวอนว่า “ผู้ส่งสาสน์โปรดช่วยพวกเราด้วย พวกเราภูตดินกำลังสูญพันธุ์กันหมดอยู่แล้ว!”
หลิงตู้ฉิงในเวลานี้ยิ่งงุนงงหนักกว่าเดิมพลางคิดในใจ ก็ข้ากำลังจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกเจ้าอยู่ไม่ใช่เหรอ?
“พวกเจ้าต้องให้ข้าใช้มหาวิถีเต๋าธาตุดินของพวกเจ้า ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าให้หมด พวกเจ้าเข้าใจไหม?” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นอีกครั้งโดยที่ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของพวกภูตดินเหล่านี้เท่าไหร่ แต่พร้อมกันนั้นเขาก็ถอนกิ่งไม้ขึ้นมาจากดินเพื่อหยุดการโจมตีของเขาก่อน
ภูตดินชรารีบตอบกลับทันที “เมื่อครู่พวกเราไม่รู้จริง ๆ ว่าท่านคือผู้ส่งสาสน์ พวกเราต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ที่พวกเราล่วงเกินท่านเมื่อครู่ หากท่านต้องการใช้มหาวิถีเต๋าของพวกเรานั้นเชิญท่านไปใช้มันได้ตามสบายเลย ทุกสิ่งที่พวกเราภูตดินมีอยู่ทั้งหมดมันล้วนเป็นของของท่านอยู่แล้ว”
“แต่ว่าได้โปรดเถอะท่านผู้ส่งสาสน์ โปรดช่วยพวกเราด้วย ตอนนี้พวกเราเผ่าภูตดินไม่อาจที่จะให้กำเนิดทายาทได้อีกต่อไป จนเวลานี้จำนวนของพวกเราเหลือเพียง 300 ตนเท่านั้นและภูตดินที่อายุน้อยที่สุดก็มีอายุปาเข้าไปมากกว่าพันปีแล้วด้วย ขืนพวกเรายังไม่อาจให้กำเนิดทายาทเพิ่มได้แบบนี้ มันคงอีกไม่เกินหมื่นปีที่เผ่าภูตดินของพวกเราจะต้องสูญหายไปจากโลกตลอดกาล ดังนั้นโปรดเถอะท่านผู้ส่งสาสน์โปรดเมตตาช่วยพวกเราด้วย!”
หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วและตอบกลับ “ข้าไม่ใช่ผู้ส่งสาสน์อะไรนั่นของพวกเจ้า!”
“เป็นไปไม่ได้ ข้าแน่ใจว่าท่านต้องใช่แน่นอน!” ภูตดินชราส่ายหัวด้วยสีหน้าหนักแน่น “พวกเราได้รับการสืบทอดข้อมูลนี้มาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่นมาเป็นเวลาหลายหมื่นปีแล้วว่าถ้าหากมีใครเปลี่ยนแผ่นดินอาณาเขตเหยาชานให้กลายเป็นทะเลเลือด และคนผู้นั้นถือจอกเลือดและกิ่งไม้สีเขียวดั่งหยกในมือ คนผู้นั้นคือผู้ส่งสาสน์จากพระเจ้า ซึ่งเป็นผู้ที่จะมากอบกู้เผ่าของเรา ดังนั้นโปรดเถอะท่านผู้ส่งสาสน์ ท่านอย่าปฏิเสธอีกเลย โปรดเมตตาช่วยพวกเราด้วยเถอะ!”