ตอนที่ 904: กลับไปที่เผ่าเต่า

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 904: กลับไปที่เผ่าเต่า

ตู้ม !

เสียงดังอื้ออึงรุนแรง นิ้วที่เต็มไปด้วยพลังงานได้ปะทะเข้ากับปราณดาบที่ถูกยิงออกมาโดยคู่แฝด พลังงานที่น่ากลัวที่หลงเหลืออยู่ได้สั่นไหวไปทั่วบริเวณ มันทำให้มิติรอบ ๆ สั่นไหว

ฝนเลือดได้หายไปแล้วเพราะถูกกระแทกออกไปไกลด้วยพลังงานที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม พื้นดินเบื้องล่างยังคงเป็นสีแดงเพราะปกคลุมไปด้วยเลือดจากการเสียชีวิตของผู้อาวุโสสูงสุด

“เจ้ากล้าดียังไงคนนอก ! เจ้าฆ่าผู้อาวุโสของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของข้า ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่” เสียงชราดังระเบิดออกมาจากด้านหลัง มันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและความน่ากลัว

ท่าทางของฝาแฝดและหลี่เฟิงซินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขารู้สึกได้ถึงความกดดันที่น่ากลัวนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นตัวของคนผู้นี้ แต่พวกเขาก็เข้าใจว่าคนผู้นี้มีฝีมือเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถรับมือได้

“คนผู้นี้อย่างน้อยอยู่ในระดับเดียวกันกับผู้อาวุโสประจำศาลา” หลี่เฟิงซินเคร่งเครียด เขาไม่ลังเลและหันหลังกลับไปเพื่อหนีทันที เขาไม่วุ่นวายกับเรื่องของเจี้ยนเฉินอีกต่อไป

ทุกชั่วขณะมีค่าเมื่อต้องหนีจอมยุทธที่เก่งกาจขนาดนี้ การลังเลจะส่งผลให้ถูกจับได้ ในตอนนี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่ตาย แต่พวกเขาก็สูญเสียค่อนข้างมาก ภารกิจของศาลานั้นสำคัญมากแต่ชีวิตของพวกเขานั้นสำคัญมากกว่า

“เขามาที่นี่ไวมาก นั่นต้องเป็นอย่างน้อยเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 หรืออาจจะเป็นถึงขั้นสุดยอด พวกเราไปกันเถอะ” คู่แฝดก็เคร่งเครียดด้วยและไม่ต้องการที่จะอยู่ต่อที่นี่แม้แต่เพียงวินาทีเดียว พวกเขาหันหลังและหนีหายไปในเส้นขอบฟ้าในพริบตา

เจี้ยนเฉินนั้นยังมึนงงไปด้วยความโศกเศร้า เขาเงยหน้าขึ้นไปที่ท้องฟ้าสีครามในขณะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ

กระดองใหญ่หายไปจากท้องฟ้าและร่างที่คุ้นเคยของผู้อาวุโสสูงสุดก็จากไปเช่นกัน สิ่งเดียวที่เหลืออยู่และไม่ได้หายไปไหนคือความปรารถนาของเขา มันคือความปรารถนาของผู้อาวุโสสูงสุดก่อนที่เขาจะจากไป มันเต็มไปด้วยความเสียดายและความห่วงใย

วิญญาณของผู้อาวุโสสูงสุดถูกกำจัดไป แม้แต่ศพของเขายังไม่เหลืออยู่เลย ทั้งหมดที่เหลืออยู่มีเพียงพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดและชิ้นส่วนที่แตกกระจายของกระดอง

“ผู้อาวุโสสูงสุด” น้ำเสียงของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขาเจอกับผู้อาวุโสสูงสุดได้ไม่นานแต่ผู้อาวุโสก็เสียสละชีวิตของตนเองเพื่อช่วยเขาเอาไว้ วิญญาณของเขาสลายไปโดยไม่เหลือทิ้งไว้แม้กระทั่งศพ มันเป็นผลลัพธ์ที่น่าสะเทือนใจมาก

สิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดเสียไปนั้นเป็นอะไรที่เขาไม่สามารถจะชดใช้คืนได้แม้จะใช้เวลาตลอดชีวิตของเขา วิญญาณของผู้อาวุโสสูงสุดได้หายไปแล้วโดยไม่มีทางที่จะเอาคืนมาได้ แม้แต่พลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงก็ไม่มีความสามารถที่จะชุบชีวิตผู้อาวุโสสูงสุดขึ้นมาได้

แม้ว่าพลังงานดั้งเดิมสามารถคืนชีพให้กับคนตายได้ แต่นี่จะเกิดขึ้นถ้าวิญญาณยังคงอยู่และร่างกายยังอยู่ในสภาพดี ผู้อาวุโสสูงสุดไม่อยู่ในกรณีเหล่านั้นเลย

ร่างปรากฏขึ้นตรงหน้าเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูเหมือนอยู่ในจะอายุยี่สิบกว่าปีและเขาเป็นผู้อาวุโสประจำศาลาที่รีบมาจากศาลา เขาคือผู้อาวุโสฮง

ผู้อาวุโสจ้องไปที่พื้นที่เต็มไปด้วยเลือดด้วยใบหน้าที่มืดมนในขณะที่จิตสังหารสั่นไหวอยู่ในดวงตาของเขา เขาพูดอย่างเย็นชา “ศาลาเทพเจ้าอสรพิษและศาลาวิญญาณสวรรค์ชักโอหังขึ้นมาทุกที พวกเขาฆ่าหนึ่งในผู้อาวุโสของพวกเราไป มันน่าเสียดายที่ข้ามาช้าเกินไป”

ผู้อาวุโสฮงลอยอยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉิน เขามองไปบนท้องฟ้าและถอนหายใจยาวออกมา “ท่านผู้อาวุโสสูงสุดอาจจะตายไปแล้วแต่เขายังไม่ไปสู่สุขคติ ความปรารถนาของเขาจะยังคงอยู่”

ผู้อาวุโสฮงคว้าไปที่อากาศที่ว่างเปล่า ความปรารถนาของเขาที่อยู่รอบ ๆ ได้มารวมตัวกันอย่างรวดเร็วก่อนที่จะรวมกันกลายเป็นร่างของผู้อาวุโสสูงสุดหลังค่อม เขาเป็นเงาราง ๆ

“ผู้อาวุโสสูงสุด” เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเมื่อเขาเห็นร่างของผู้อาวุโสสูงสุด เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เขารู้ว่านี่เป็นเพียงความปรารถนาของผู้อาวุโสที่รวบรวมมาไว้เท่านั้นและคงจะกระจายหายไปในไม่ช้า

“ข้าช่างไร้ประโยชน์เสียจริงที่ไม่สามารถปกป้องผู้คุมกฎเอาไว้ได้ สามหมื่นปีแห่งความหวังของเผ่าเต่าได้หายไปแล้ว” นั่นคือข้อความความปรารถนาของผู้อาวุโสสูงสุด มันเป็นความคิดสุดท้ายก่อนที่เขาจะตายซึ่งมันเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างมาก นี่เป็นเหตุผลที่ความปรารถนานี้รวมตัวกันขึ้นมาได้

“ไม่ต้องกังวลไปท่านผู้อาวุโสสูงสุด ข้าจะฟื้นฟูเผ่าเต่าเอง นี่เป็นคำสาบานของข้าต่อท่าน” เจี้ยนเฉินพูดกับความปรารถนาของผู้อาวุโสสูงสุด เสียงของเขาเต็มไปด้วยคาวมแน่วแน่ เขาจำเป็นต้องเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของผู้อาวุโสสูงสุดที่ตายเพื่อเขา

ความปรารถนาของผู้อาวุโสสูงสุดค่อย ๆ กระจายและหายไปกับสายลม จากนี้เป็นต้นไป เขาได้จากโลกนี้ไปแล้วตลอดกาล

เจี้ยนเฉินจ้องอย่างเหม่อลอยไปที่พื้นที่ที่ว่างเปล่าอย่างไม่ได้สติแม้จะผ่านไปนานแล้ว สักพักต่อมา เขาก็ลงไปที่พื้นช้า ๆ แล้วเก็บเศษกระดองชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยมือที่สั่นเทา นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผู้อาวุโสสูงสุดเหลือทิ้งไว้ เขาต้องการที่จะทำให้มันเหมือนกับเป็นร่างของผู้อาวุโสสูงสุดและพาเขากลับไปที่เผ่าก่อนที่จะฝังเขาไปอย่างเหมาะสม

“เฮ้อ” ผู้อาวุโสฮงถอนหายใจลึกในขณะที่เขามองไปบนท้องฟ้า เขาไม่ได้จากไปและอยู่ที่นี่เพื่อรอให้เจี้ยนเฉินเก็บชิ้นส่วนกระดองทั้งหมด

ซี่หวังเริ่มที่จะช่วยด้วยเหมือนกันและเก็บชิ้นส่วนของกระดองที่แตกกระจายทุก ๆ ชิ้นกับเจี้ยนเฉิน

ทั้งสองใช้เวลาอยู่ 7 วันกว่าที่จะเก็บชิ้นส่วนได้ครบทุกชิ้น เจี้ยนเฉินเก็บมันไว้ในแหวนมิติ

“เจี้ยนเฉิน กลับไปที่ศาลากับข้า” ผู้อาวุโสฮงพูดออกมาในที่สุดหลังจากรอมา 7 วัน

เจี้ยนเฉินส่ายหัวเบา ๆ และพูดออกมา “ไม่ ผู้อาวุโสฮง ข้ายังไม่ต้องการที่จะกลับไปตอนนี้ ข้าต้องการที่จะไปที่เผ่าเต่าเพื่อฝังผู้อาวุโสสูงสุดก่อน”

ผู้อาวุโสฮงครุ่นคิดเงียบเงียบสักพักก่อนที่จะตอบกลับ “เอาหล่ะ ถ้างั้น ข้าจะทุ่มเทความพยายามเพื่อที่จะดูการเคลื่อนไหวของทั้งสองศาลาในช่วงเวลานี้ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาส่งจอมยุทธคนอื่นมาอีก ถ้าเจ้าเจอปัญหาในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลอีก เจ้าก็แค่แสดงเหรียญจากท่านเจ้าศาลาออกมา” หลังจากพูดจบ ผู้อาวุโสฮงก็หันแล้วจากไป

เจี้ยนเฉินและซี่หวังก็จากไปหลังจากที่ผู้อาวุโสฮงจากไป พวกเขามุ่งตรงไปที่เผ่าเต่า

ผู้อาวุโสสองและสามกำลังสนทนากันอย่างลับ ๆ ในเผ่าเต่า พวกเขาร่ายม่านพลังที่ทรงพลังรอบ ๆ เพื่อแยกเสียงของพวกเขาออกจากข้างนอก

“ผู้อาวุโสสอง สถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรเลย ผู้คุมกฎของเผ่าเต่าของพวกเราได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหลังจากสามหมื่นปีผ่านไป นั่นจะทำลายแผนการของพวกเรา” ผู้อาวุโสสามพูดเสียงแหบแห้ง

ผู้อาวุโสสองพยักหน้าอย่างเคร่งเครียด “ปัญหาได้เกิดขึ้นมาในช่วงเวลาที่ช่างไม่เป็นประโยชน์กับพวกเราเสียเลย โชคดีที่ตอนนี้ผู้คุมกฎไม่แข็งแกร่งมาก ดังนั้นพวกเราทั้งสองสามารถข่มเขาเอาไว้ได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ท่านผู้อาวุโสสูงสุดก็ได้ออกไปกับเขาด้วย มันคงจะยากที่จะลอบสังหารเขาโดยที่มีท่านผู้อาวุโสสูงสุดอยู่ข้าง ๆ “

“ถ้าเขายังไม่ตาย สุดท้ายเผ่าเต่าคงต้องตกอยู่ในการควบคุมของเขาไม่ช้าก็เร็ว พวกเราจำเป็นต้องติดต่อเผ่าไทฮงเพื่อให้เขาทำตามแผนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ผู้อาวุโสสามพูดเสียงแหบแห้ง

ในตอนนี้เอง ท่าทางของผู้อาวุโสที่สองก็เปลี่ยนไป เขาโบกมือและยกเลิกม่านพลังที่เขากางเอาไว้ และพูดออกไปด้านนอก “ข้าไม่ได้บอกไว้แล้วหรือว่าอย่ารบกวนพวกเราเว้นเสียแต่ว่าเป็นเรื่องสำคัญ ? “

“ขอรายงานผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสาม ผู้คุมกฎได้กลับมาแล้ว” เสียงหนักแน่นดังมาจากข้างนอก

“อะไรนะ ? เขากลับมาอีกครั้งหรือ ? ” ท่าทางของทั้งคู่เปลี่ยนไปเล็กน้อยในขณะที่เขามองหน้ากันและกันก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกัน

ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินยืนอย่างไร้อารมณ์อยู่ที่จัตุรัสใหญ่กลางเผ่าในขณะที่เขาถือแหวนมิติเอาไว้ ซี่หวังยืนอยู่ข้าง ๆ เขา และมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง

รอบ ๆ พวกเขาทั้งสองคนมีคนกลุ่มใหญ่มารวมตัวกันอยู่ มีคนมากมายเหลือเกิน พวกเขาทั้งหมดเป็นสมาชิกของเผ่าเต่าและพวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉิน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้นแต่ก็ไม่มีใครแสดงการต่อต้าน

“ข้ารู้สึกได้ถึงแรงกดดันแปลก ๆ จากเขา ดูเหมือนมันจะเป็นปราณของผู้คุมกฎ เขาเป็นผู้คุมกฎจริงหรือนี่ ? “

“เขาเป็นผู้คุมกฎของเผ่าเต่าของพวกเราจริงหรือนี่? ผู้คุมกฎของเผ่าเต่ากลับมาแล้วในที่สุด…”

“สามหมื่นปี ทั้งหมดสามหมื่นปี ที่พวกเรารอการมาปรากฏตัวของผู้คุมกฎ….”

“มันเป็นเวลาที่พวกเราจะคืนสู่ความรุ่งโรจน์แต่ก่อนเก่าของพวกเรามาอีกครั้ง…”

สมาชิกเผ่ารอบ ๆ พูดคุยกันอย่างตื่นเต้นด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย สมาชิกที่อายุมากบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา

“ผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามมาถึงแล้ว” เสียงดังออกจากฝูงชน คนทั้งหมดเดินเพื่อเปิดทางให้พวกเขา ผู้อาวุโสทั้งสองเดินก้าวยาว ๆ เข้ามาจากด้านนอก ในขณะที่มีกลุ่มเซียนผู้คุมกฎติดตามพวกเขาด้านหลังอยู่

“เจ้ากลับมาทำไม ? ท่านผู้อาวุโสสูงสุดอยู่ที่ไหน ? ” ผู้อาวุโสสองจ้องตรงตรงไปที่เจี้ยนเฉิน น้ำเสียงของเขาไม่เป็นมิตรเลย

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดตายแล้ว” เสียงของเจี้ยนเฉินหนักแน่นมาก

ผู้อาวุโสทั้งสองอึ้งไปพร้อม ๆ กัน พวกเขาถามอย่างไม่เชื่อ “เจ้าพูดว่าอะไรนะ? ท่านผู้อาวุโสสูงสุดตายแล้ว ? “

สมาชิกเผ่ารอบ ๆ เกิดความโกลาหลขึ้นเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น พวกเขาแสดงท่าทางเหลือเชื่อออกมา

เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดอะไร และส่งแหวนมิติไปที่มือของผู้อาวุโสสองอย่างระมัดระวัง ผู้อาวุโสสองรับแหวนมาอย่างสงสัยและดูเข้าไปในแหวน ในตอนที่เขาเห็นว่าอะไรอยู่ด้านใน ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ในตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยความเศร้าโศก

ผู้อาวุโสสามดูเหมือนจะตระหนักได้ถึงบางอย่างเมื่อเขาเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของผู้อาวุโสสอง เขาเคร่งเครียดทันที เขาคว้าเอาแหวนมิติมาจากมือของผู้อาวุโสสองและมองเข้าไปในมัน เขาเริ่มเต็มไปด้วยความเศร้าเช่นเดียวกัน

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดตายได้อย่างไรกัน ? ” ผู้อาวุโสสามถามด้วยความเศร้าโศก

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดถูกฆ่าโดยหลี่เฟิงซินจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษและซูเทียนซีและซูหยุนซีจากศาลาวิญญาณสวรรค์เพื่อที่จะช่วยข้า” เจี้ยนเฉินพูดด้วยเสียงทุ้ม

“อะไรนะ ? ถ้างั้นเจ้าก็คือคนที่ต้องรับผิดชอบในการตายของเขา ? ! ” ผู้อาวุโสสองโกรธเกรี้ยวมากและตะโกนใส่เจี้ยนเฉินในขณะที่เขาชี้นิ้วไปที่เจี้ยนเฉิน

“ข้าต้องเป็นคนรับผิดชอบในการตายของท่านผู้อาวุโสสูงสุด แต่มันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้ว พวกเราควรจะฝังเขาอย่างเหมาะสม” เจี้ยนเฉินพูด

ผู้อาวุโสทั้งสองมองหน้ากันและกันและไม่ได้พูดอะไร พวกเขาเริ่มจัดงานศพอย่างสมเกียรติให้ผู้อาวุโสสูงสุดทันที

หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวเรื่องการตายของผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเต่าก็ได้กระจายออกไปทุกที่ มันทำให้เกิดความวุ่นวายใหญ่ในอาณาเขตศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เพราะว่าผู้อาวุโสสูงสุดเป็นจอมยุทธ 15 ดาวเช่นเดียวกันกับผู้อาวุโสของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล การจากไปของเขาเป็นข่าวที่แพรหลายไปทั่ว

หลายแสนกิโลเมตรห่างออกไปจากเผ่าเต่า ชายวัยกลางคนสามคนนั่งขัดสมาธิอยู่ในปราสาทที่หรูหราใหญ่โต

“พวกเราเพิ่งได้ข่าวว่าท่านผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเต่าได้ตายไปแล้ว ไม่มีใครที่จะหยุดพวกเราได้แล้วในตอนนี้ ส่งคำสั่งออกไปให้เตรียมการได้” ชายผมยาวในชุดฟ้าพูดเสียงแหบแห้ง

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดอาจจะตายไปแล้วแต่ผู้คุมกฎก็ได้ปรากฎตัวขึ้นมาจากเผ่าเต่า โชคดีที่เขายังไม่แข็งแกร่งมากเพราะฉะนั้นเขาจึงหยุดพวกเราไม่ได้ อย่างไรก็ตาม มันจะดีที่สุดสำหรับพวกเรา เผ่าไทฮง ถ้าเราจะรีบเคลื่อนไหว พวกเราจะให้เวลาผู้คุมกฎในการเติบโตไม่ได้” ในครั้งนี้คนที่พูดเป็นชายร่างผอมในชุดดำ