ตอนที่ 905: เผ่าไทฮง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 905: เผ่าไทฮง

“เผ่าเต่ากำลังจัดการงานศพของท่านผู้อาวุโสสูงสุดอยู่ พวกเราจะไปที่นั่นหลังจากงานศพ แบบนั้นมันจะง่ายกว่าถ้าเราจะเข้ายึดพวกเขา” ชายคนสุดท้ายพูดขึ้นมา

ข่าวใหญ่อีกชิ้นได้กระจายออกไปทั่วทั้งอาณาจักรทะเลในขณะที่กำลังจัดงานศพของผู้อาวุโสสูงสุดอยู่ ชิ้นส่วนแผนที่ทั้งแปดของแผนที่แผ่นดินทั้งแปดได้ปรากฏขึ้นหมดแล้ว และชิ้นส่วนทั้งแปดจะถูกรวมเป็นหนึ่งในปีที่จะถึงนี้ในที่ที่อาณาเขตทั้งสามรวมเป็นหนึ่ง พวกเขาจะไปตามหาโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดกัน

ความโกลาหลปะทุขึ้นในอาณาจักรทะเลตั้งแต่เรื่องโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดปรากฏขึ้นมา โถงศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกทิ้งไว้โดยจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดตอนที่เขาใกล้จะจบชีวิตของเขา ข่าวลือว่าบอกว่าเขาไม่มีลูกศิษย์และไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจึงทิ้งตำนานและความมั่งคั่งของเขาทั้งหมดเอาไว้ในโถงศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้นเขาใช้ความสามารถที่ยิ่งใหญ่ของเขาในฐานะจักรพรรดิเพื่อซ่อนโถงเอาไว้ในที่ที่ไม่มีใครหามันเจอ มีเฉพาะชิ้นส่วนแผนที่ทั้งแปดเท่านั้นที่จะทำให้หาสถานของโถงที่ถูกทิ้งไว้ได้

อาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเริ่มที่ปั่นป่วนอยู่ลับ ๆ จากข่าวเรื่องชิ้นส่วนแผนที่ องค์กรและเผ่าใหญ่หลายที่เริ่มที่จะเตรียมการอย่างตรึงเครียด และทุ่มเทกำลังทั้งหมดให้กับสมาชิกเผ่าที่อยู่ในขั้นสูงสุดของชั้นสวรรค์ที่ 9 พวกเขาเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกนั้นให้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้ ก่อนที่จะส่งพวกนั้นไปยังศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเพื่อหวังที่จะให้พวกนั้นได้ตำแหน่งในการที่จะได้เข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด

องค์กรใหญ่หลายองค์กรต่อสู้แย่งชิงกันอย่างดุเดือดเพื่อโอกาสเหล่านี้ พวกเขาใช้เส้นสายที่พวกเขามี และหลายเผ่ายังถึงขั้นมอบสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ให้กับเจ้าศาลา ด้วยความหวังที่จะให้เจ้าศาลาให้ตำแหน่งที่ว่างแก่เผ่าของพวกเขา

นี่เป็นว่าคนที่เข้าไปที่โถงได้เท่านั้นถึงจะมีโอกาสที่จะได้รับตำนานของจักรพรรดิ นี่เป็นสมบัติที่สุดยอดที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน และเป็นที่ดึงดูดใจของจอมยุทธทุกคนในอาณาจักรทะเล มันทำให้คนจำนวนนับไม่ถ้วนละโมบโลภมากอยากได้มัน นอกเหนือจากตำนานแล้ว ยังมีโอกาสที่จะได้สมบัติของจักรพรรดิที่อยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย สมบัติทั้งหมดที่จักรพรรดิเก็บไว้ต้องสุดยอดและประเมินค่าไม่ได้แน่

เผ่าเต่าทั้งเผ่ายังเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจในขณะที่พวกเขายังอยู่ในงานศพของผู้อาวุโสสูงสุด

คนทั้งหมดของเผ่าอยู่ในความหนักใจ ผู้อาวุโสสูงสุดเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าของพวกเขา ด้วยการจากไปของเขา ความแข็งแกร่งของเผ่าก็อ่อนแอลงอีกครั้ง และห่างจากที่มันเคยเป็นอยู่มากยิ่งขึ้นไปอีก

“ชิ้นส่วนแผนที่ทั้งแปดจะถูกนำมารวมกันในปีที่จะถึงนี้เพื่อเปิดโถงศักดิ์สิทธิ์” เจี้ยนเฉินรู้ข่าวนี้ในขณะที่เขาเข้าร่วมงานศพของผู้อาวุโสสูงสุด เขากำหมัดแน่น “ข้าต้องเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดให้ได้ ข้าหวังว่าอะไรก็ช่างที่อยู่ด้านในจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง เมื่อข้าแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว ข้าจะฆ่าทุกคนเพื่อไปยังศาลาวิญญาณสวรรค์และศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ข้าจะสังหารหลี่เฟิงซิน ซูเทียนซีและซูหยุนซีเพื่อแก้แค้นให้กับท่านผู้อาวุโสสูงสุด” จิตสังหารเป็นประกายอยู่ในดวงตาของเขา

งานศพของผู้อาวุโสสูงสุดกินเวลาไปทั้งหมด 7 วันเต็มก่อนที่จะสิ้นสุด อย่างไรก็ตาม เผ่าก็ไม่ได้เงียบเลยหลังจากนั้น ทันทีที่งานศพจบลง จอมยุทธมากกว่าสิบคนได้มาที่เผ่าอย่างข่มขู่ พวกเขาลอยอยู่กลางอากาศและจ้องอย่างเย็นชาไปที่คนของเผ่าเต่าเบื้องล่าง

เซียนผู้คุมกฎพูดออกมาด้วยเสียงอันดังและชัดเจน “พวกเราเป็นคนของเผ่าไทฮง พวกเจ้าทุกคนฟัง จากวันนี้เป็นต้นไป เผ่าเต่าของพวกเจ้าจะถูกควบคุมโดยพวกเรา เผ่าไทฮง พวกเจ้าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา มีใครที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่ ? ” ในขณะที่เขาพูด เขาก็ชี้ออกไปและพลังงานที่ทรงพลังก็ถูกยิงออกมาจากปลายนิ้วของเขาทันทีและโจมตีไปยังก้อนหินด้านล่าง เสียงระเบิดดังขึ้น หินแตกกระจายไปทั่วทุกทิศทาง เขาจึงพูดต่อ “เจ้าเห็นนั่นไหม ? ถ้ามีใครไม่เห็นด้วย ผลลัพธ์ก็จะเป็นแบบนั้นแหละ”

เผ่าเต่าเงียบไปทันที หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกเผ่าทั้งหมดก็จ้องไปที่ทุกคนที่อยู่ในอากาศและตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว

“เผ่าไทฮงของพวกเขาต้องการที่จะยึดครองพวกเรา…”

“พวกมันกล้าดียังไง แต่ก่อนที่พวกเราทรงพลังมากกว่านี้ ยังไม่มีเผ่าไทฮงอยู่เลยด้วยซ้ำ..”

“มันเป็นได้แค่ความปรารถนาเท่านั้นที่จะให้พวกเราไปเป็นสาขาของพวกเจ้า…”

“พวกเรายอมตายดีกว่าที่จะติดตามพวกเจ้า พวกเรายอมให้พื้นย้อมไปด้วยเลือดของพวกเรามากกว่าที่จะยอมก้มหัวให้กับพวกเจ้าเผ่าไทฮง…”

“เอาล่ะ ข้ายอมตายดีกว่าที่จะติดตามพวกมัน แม้ว่าข้าจะต้องตายที่นี่ ข้าก็จะทำให้เผ่าไทฮงต้องชดใช้อย่างหนักทีเดียว..”

สมาชิกทุกคนของเผ่าถูกยั่วยุ ไม่มีใครที่แสดงความขี้ขลาดออกมา เผ่าเต่าอาจจะอ่อนแอลงในตอนนี้ แต่ความรุ่งโรจน์แต่ก่อนไม่สามารถทำให้ถูกแปดเปื้อนได้

ผู้อาวุโสสองและสามมองหน้ากันก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปบนอากาศพร้อม ๆ กัน พวกเขาเผชิญหน้ากับเผ่าไทฮงด้วยกัน และเปล่งพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังออกมา

สมาชิกทุกคนของเผ่าเงียบลงทันทีในขณะที่เขาเห็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพุ่งออกมา

“เผ่าไทฮง พวกเจ้ากำลังฝันกลางวันอยู่งั้นหรือที่พวกเจ้าจะมายึดเผ่าของพวกเรา เจ้าน่าจะไปซะ พวกเราจะไม่ก้มหัวให้ใครทั้งนั้น” ผู้อาวุโสสองคำรามออกมา

“ใช่ พวกเราจะไม่ก้มหัวให้ใคร” ผู้คนเห็นพ้องต้องกันในทันทีที่ด้านล่าง

คนสิบกว่าคนจากเผ่าไทฮง นำโดยชายวัยกลางคนเหยียดออกมา “เผ่าเต่าของพวกเจ้าต้องการเลือดงั้นหรือ ? ด้วยความแข็งแกร่งของเผ่าไทฮง พวกเราสามารถกำจัดพวกเจ้าได้ง่ายง่าย พวกเจ้าจะไม่คิดถึงเผ่าเหมือนผู้อาวุโสสองอย่างนั้นหรือ ? ” ชายวัยกลางคนเป็นผู้นำเผ่าไทฮง เขาชื่อไทโตวและเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่า เขาเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5

ผู้อาวุโสสองเงียบลงก่อนที่จะพูดต่อ “ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะผู้อาวุโสสามและข้าได้ด้วยตัวของเจ้าเอง แบบนั้นพวกเราเผ่าเต่าจะยอมก้มหัวให้เผ่าไทฮงของเจ้าเป็นการชั่วคราว”

ไทโตวหัวเราะออกมาเสียงดัง “เอาล่ะ ข้าจะสู้กับพวกเจ้าทั้งสอง เป็นโอกาสที่ดีสำหรับข้าที่จะได้เห็นพลังป้องกันที่ทรงพลังของเผ่าเต่าว่าเป็นอย่างไร” ไทโตวหันไปและบินไปไกลในขณะที่เขาพูด

ผู้อาวุโสทั้งสองมองหน้ากันและกันและตามไทโตวไปโดยไม่ดพูดอะไร พลังงานที่เหลืออยู่จากการต่อสู้ระหว่างเซียนระดับราชาสามารถทำให้พื้นราบเป็นหน้ากลองได้ ถ้าพวกเขาต่อสู้กันเหนือเผ่าล่ะก็ มันคงเป็นหายนะแน่ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงย้ายไปที่พื้นที่ที่ว่างเปล่าที่อยู่ห่างหลายร้อยกิโลเมตรออกไป

เซียนผู้คุมกฎในเผ่าเต่าก็ตามไปด้วย มีเพียงเจี้ยนเฉินและซี่หวังเท่านั้นที่ยังอยู่ที่เดิม

“เจ้าอยากไปดูหรือไม่ ? ” ซี่หวังถาม

เจี้ยนเฉินส่ายหัวและพูดอย่างใจเย็น “ไม่ เพราะผลลัพธ์คงเป็นไปตามที่คาด”

เสียงระเบิดรุนแรงดังก้องมาจากหลายร้อยกิโลเมตรและพลังงานที่ยิ่งใหญ่ก็ทำลายล้างไปรอบ ๆ มันทำให้ท้องฟ้าและพื้นดินเปลี่ยนแปลง เซียนราชา 2 คนของเผ่าเต่าได้เริ่มการต่อสู้กันกับผู้นำเผ่าไทฮง

สมาชิกแต่ละคนของเผ่าเต่าจ้องอย่างกังวลไปที่การต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่อยู่ไกลออกไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นรายละเอียดในการต่อสู้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาจะบ่งบอกถึงชะตากรรมของเผ่า ดังนั้นทุกคนจึงให้ความสนใจกับมัน

การต่อสู้ดำเนินไปได้ไม่นานนัก ผู้อาวุโสทั้งสองของเผ่าเต่าก็บินมาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดในไม่ช้า พวกเขาอยู่ในสภาพย่ำแย่และมีรอยเลือดที่มุมปากของเขา บรรดาเซียนผู้คุมกฎของเผ่าเต่าที่ได้ตามพวกเขามาเพื่อดูการต่อสู้ทั้งหมดสลดใจ

ผู้อาวุโสทั้งสองกลับมาถึงที่เผ่าและพูดอย่างสลดใจ “พวกเราแพ้แล้ว”

ทั้งเผ่าตกอยู่ในความเงียบสงัดในตอนนี้ สมาชิกเผ่าทั้งหมดรู้สึกหนักใจ ผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเต่า ถ้าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะผู้นำเผ่าไทฮงได้ทั้ง ๆ ที่พวกเขาร่วมมือกัน แบบนี้ก็ไม่มีความหวังเหลือสำหรับพวกเขาแล้ว

กลุ่มคนของเผ่าไทฮงก็บินมาแต่ไกล ผู้นำเผ่าไทฮงยินดีมากในขณะที่เขานำกลุ่มมา เขาหัวเราะดัง “ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ เผ่าเต่าจะเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าไทฮงของพวกเรา พวกเราควบคุมพวกเจ้าแล้วในตอนนี้”

“ผู้อาวุโสสอง ผู้อาวุโสสาม พวกเราไม่เคยก้มหัวให้ใคร ทำไมพวกเราไม่เสนอรางวัลอย่างงามเพื่อจ้างจอมยุทธบางคนมาเพื่อช่วยเผ่าของพวกเราล่ะ” เซียนผู้คุมกฎของเผ่าเต่าคำรามออกมา เขาไม่ยอมที่จะยอมแพ้

“ใช่ พวกเราจะจ่ายอย่างงามเพื่อที่จะเชิญจอมยุทธอื่นมา” คนหลายคนพูดซ้ำ ๆ อย่างเห็นด้วยทันที

“หุบปาก” ผู้อาวุโสสามทำหน้าสลดในขณะที่เขาพูด “เจ้าคิดว่ามันง่ายที่จะหาจอมยุทธที่สามารถไล่เผ่าไทฮงไปได้อย่างนั้นหรือ? แถมพวกเรายังมีข้อตกลงก่อนหน้านี้อีก เจ้าต้องการที่จะลดค่าของพวกเราด้วยการกลับคำอย่างนั้นหรือ ? “

“ผู้อาวุโสสามพูดถูกแล้ว พวกเราไม่สามารถกลับคำได้” ผู้อาวุโสสองพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา ก่อนที่จะมองไปที่ผู้นำเผ่าไทฮง “เผ่าไทฮง พวกเจ้าชนะแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไป เผ่าเต่าของพวกเราจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าไทฮงของเจ้า…”

“ช้าก่อน ! ” ก่อนที่ผู้อาวุโสที่สองจะทันได้พูดจบ เสียงหนึ่งก็ขัดเขาขึ้นมากะทันหัน เจี้ยนเฉินเดินมาแต่ไกลและพูดด้วยเสียงดังชัด “ข้าเป็นผู้คุมกฎของเผ่าเต่า ดังนั้นข้ามีสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมในทุก ๆ อย่างที่เกี่ยวกับเผ่า ในตอนนี้ข้าจะขอประกาศในฐานะผู้คุมกฎว่า เผ่าเต่าจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของเผ่าไทฮง”

เจี้ยนเฉินไม่เคยต้องการที่จะเป็นผู้คุมกฎของเผ่าเต่าแต่เขาต้องการที่จะทำความปรารถนาของผู้อาวุโสสูงสุดให้สำเร็จเพราะว่าผู้อาวุโสสูงสุดได้ตายเพื่อเขา เขาต้องรับผิดชอบอย่างหนักในการที่จะฟื้นฟูเผ่าเต่าให้กลับไปรุ่งโรจน์เหมือนแต่ก่อน

ใบหน้าของผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามมืดครึ้ม ผู้อาวุโสสองจ้องไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่เขาตะโกนออกมา “แม้ว่าข้าจะไม่สนใจเรื่องที่เจ้าไม่ได้เป็นผู้คุมกฎอย่างเป็นทางการ แต่การตัดสินของเจ้านั้นมันเพียงพอที่จะทำลายเผ่าทั้งเผ่าได้เลยนะ”

“ผู้อาวุโสสูงสุดตายไปก็เพราะเจ้า เจ้าต้องการที่จะให้เผ่าทั้งเผ่าล่มสลายไปด้วยเหมือนกันหรือ ? ” ผู้อาวุโสสามก็พูดออกมาด้วย เขาหยาบคายมาก

เจี้ยนเฉินไม่สนใจคำตอกกลับของผู้อาวุโสทั้งสองแล้วจ้องไปสมาชิกเผ่ารอบ ๆ เขาพูดขึ้นมาเสียงดัง “ทุก ๆ คนเห็นด้วยกับความคิดของข้าหรือความคิดของสองผู้อาวุโส ? “

“เมื่อคิดกลับไปว่าครั้งหนึ่งพวกเราเคยรุ่งโรจน์เพียงใด พวกเราอาจจะตกต่ำแต่พวกเราจะไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ข้าสนับสนุนผู้คุมกฎ”

“ภายใต้การนำของผู้คุมกฎเท่านั้นที่จะทำให้เผ่าพวกเรากลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง เพื่ออนาคตของเผ่าเต่า ข้าสนับสนุนทุกการตัดสินใจของผู้คุมกฎ…”