บทที่ 780 การเดินทางของเหล่าภูตดิน

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

หลังจากที่ได้รับการอนุญาตจากหลิงตู้ฉิงว่าพวกเขาสามารถตามร่วมทางไปด้วยได้ บรรดาภูตดินจึงรู้สึกเบาใจลงเป็นอย่างมาก

จากนั้นบรรดาภูตดินจึงเริ่มทำการคัดเลือกว่าใครจะรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันให้กับเหล่าภูตดินหนุ่มทั้งห้าของพวกเขา

เพื่อเป็นการปกป้องภูตดินหนุ่มทั้งห้าที่มีความสำคัญเท่ากับความอยู่รอดของเผ่าพวกเขา เหล่าภูตดินจึงส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด 10 ตนที่แข็งแกร่งที่สุดในพวกเขาให้รับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ ซวนหยวนตู่

ที่พวกเขายอมทุ่มสุดตัวขนาดนี้ก็เพราะหนทางรอดและอนาคตของพวกเขาในเวลานี้ไม่ได้อยู่ในอาณาเขตเหยาชานอีกต่อไปแล้ว มันกลายเป็นอยู่ที่โลกภายนอก

เมื่อคัดเลือกว่าใครจะไปใครจะอยู่กันเสร็จเรียบร้อย ตอนนี้ทุกคนจึงเหลือแค่เพียงรอเวลาให้ หลงเฉิน โม่หยูถัง และอุลบา ทำภารกิจกอบกู้เผ่าภูตดินของพวกเขาเสร็จ

หลังจากนั้น 7 วันต่อมา ในที่สุดทั้งสามก็ถูกปล่อยตัวออกมาด้วยสภาพอิดโรย แต่ในทางกลับกันเหล่าสาว ๆ ของเผ่าภูตดินกลับมีสีหน้าที่อิ่มเอิบเป็นสัญญาณว่าพวกเขาทั้งสามได้ทำภารกิจสำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี

โม่หยูถังค่อย ๆ เดินกลับมาหาหลิงตู้ฉิงด้วยสภาพที่ย่ำแย่กว่าหลงเฉินและอุลบา เมื่อเขาเดินมาถึงหลิงตู้ฉิง เขาก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนแรง “นายท่าน ข้าเกือบตายเพราะท่าน!”

“ท่านอาจารย์ ข้าก็แทบจะไม่ไหวเช่นกัน!” อุลบาก็พูดขึ้นเช่นกันด้วยสีหน้าหดหู่

ในทางกลับกัน หลงเฉินกลับพูดขึ้นด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนว่า “นายท่าน หากพวกนางไม่เร่งอะไรมากและทำกันแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ข้าคงพอจะเต็มใจอยู่ แต่นี่พวกนางช่างรุนแรงและเร่งเร้ากันเหลือเกิน แม้ตอนนี้ข้ายังพอไหว แต่ถ้ายังทำต่อไปอีกสัก 4-5 วัน ข้าก็คงต้องขอลาเหมือนกัน…”

หลิงตู้ฉิงพ่นลมหายใจ “หึ! ดี! ในเมื่อเจ้ายังพอไหว ถ้างั้นก็จงไปลากรถมังกรต่อเลย! อ๋อและอีกอย่าง แบก 2 คนนี้ขึ้นหลังเจ้าไปที่รถมังกรด้วย เมื่อทุกอย่างพร้อม ข้าจะเดินทางออกจากที่นี่ทันที!”

ซวนหยวนตู่พูดขึ้นแทรกทันที “ไม่เป็นไรท่านผู้ส่งสาสน์ เดี๋ยวข้าจะให้คนของข้าเป็นคนแบกพวกเขาไปส่งเอง ตอนนี้ทั้งสองนับได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของเยาวชนเผ่าเราในอนาคตแล้ว ดังนั้นโปรดให้พวกเราได้อำนวยความสะดวกให้กับพวกเขาแทนเถอะ”

เมื่อพูดจบ ภูตดินขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุด 2 ตนก็เดินมาแบกโม่หยูถังและอุลบาขึ้นหลังไปส่งที่รถมังกร จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปที่ป่าภูตนางฟ้าต่อในทันที

“ท่านผู้ส่งสาสน์ เผ่านี้เหมาะที่จะให้หลาน ๆ ของข้ามีสัมพันธ์ด้วยไหม?”

“ท่านผู้ส่งสาสน์ เผ่านี้ดีไหม?”

“ท่านผู้ส่งสาสน์?”

“……”

ตลอดทางตั้งแต่ออกจากอาณาเขตเหยาชาน ซวนหยวนตู่ถามคำถามเช่นนี้ย้ำ ๆ กับหลิงตู้ฉิงตลอดเวลา หวังว่าเขาจะได้เจอกับเผ่าที่เหมาะสมที่จะให้คนของเขามีสัมพันธ์ด้วยโดยเร็วที่สุด

แน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจเลยในเรื่องของรูปร่างหน้าตาว่าฝั่งตรงข้ามจะแปลกประหลาดแค่ไหน

เผ่าของเขาที่ใกล้จะสูญพันธ์อยู่รอมร่ออยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลามาสนใจอะไรกับเรื่องไร้สาระเหล่านั้น เขาขอแค่ฝั่งตรงกับเป็นเพศหญิงและสามารถตั้งครรภ์ให้กับเผ่าของเขาได้ก็พอ

หลิงตู้ฉิงพูดกับซวนหยวนตู่อย่างใจเย็นว่า “ข้าขอเตือนไว้ก่อนว่าเจ้าห้ามใช้กำลังขืนใจหญิงสาวเผ่าอื่น ๆ เด็ดขาด หากพวกนางไม่ยอม พวกเจ้าต้องเลิกตอแยกับพวกนางทันที พวกเจ้าต้องเข้าใจว่าหากพวกนางไม่ยินยอมพร้อมใจ บุตรที่กำเนิดมาจะกลายเป็นเด็กที่มีปม ซึ่งนั่นไม่เป็นผลดีต่อเผ่าของเจ้าเลยที่มีสมาชิกเผ่าเช่นนั้น และที่สำคัญอีกอย่างก็คือมันจะกลายเป็นว่าพวกเจ้าสร้างศัตรูกับเผ่าอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก ซึ่งมันไม่นานหรอกที่พวกเจ้าจะโดนรุมโจมตีจากเผ่าอื่น ๆ มากมาย”

“หรือถ้าจะให้พูดอีกอย่างก็คือ เผ่าพวกเจ้าคงหลีกเลี่ยงจากการค่อย ๆ สูญพันธ์ได้เพราะพวกเจ้าคงถูกคนเผ่าอื่นฆ่าตายกันจนหมดก่อนนั่นล่ะ”

“แต่ว่าเผ่าของเรามีเวลาเหลือไม่มากแล้วนะท่านผู้ส่งสาสน์!” ซวนหยวนตู่ตอบกลับด้วยสีหน้ากังวล

อี้ลั่วเอ๋อส่ายหัวและพูดแทรกขึ้นว่า “เอาแบบนี้ไหม ไว้รอพวกเจ้าเดินทางไปถึงป่าภูตนางฟ้าของข้าก่อน แล้วจากนั้นเดี๋ยวข้าจะคัดเลือกหญิงสาวเผ่าข้ามาให้เจ้า 20 นาง เพื่อให้คนของเจ้าแต่งงานกับพวกนาง แต่ว่าข้ามีเงื่อนไขคือคนของพวกเจ้าทุกคนจะต้องสาบานกับพวกนางด้วยว่าจะรักและทะนุถนอมพวกนางเป็นอย่างดี”

ซวนหยวนตู่รีบพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณ ๆ องค์หญิงอี้ ท่านช่างมีน้ำใจกับเผ่าของข้าจริง ๆ ข้าให้สัญญากับท่านได้เลยว่าคนของเผ่าข้าจะดูคนของท่านเป็นอย่างดีที่สุดแน่นอน!”

อี้ลั่วเอ๋อพยักหน้าตอบรับด้วยสีหน้าพึงพอใจ

นางวิเคราะห์เผ่าภูตดินพวกนี้ได้สักระยะแล้ว ซึ่งนางก็เห็นว่าอันที่จริงภูตดินพวกนี้ก็มีอุปลักษณะนิสัยที่ใช้ได้และถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนน้อย แต่ในเรื่องคุณภาพความแข็งแกร่งของตัวบุคคลนั้นนับได้ว่าอยู่ในระดับที่น่ากลัว ดังนั้นถ้าหากนางใช้ประโยชน์จากการที่เผ่าของนางมีสมาชิกอยู่เป็นจำนวนมากมาใช้ประโยชน์เพื่อทำให้นางมีพันธมิตรเช่นนี้ได้ เผ่าของนางจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก

ชิวเจี้ยนปิงก็เป็นอีกคนหนึ่งที่คิดแบบนี้เช่นกัน นางกระซิบถามหลิงตู้ฉิงว่า “นายท่าน อันที่จริงข้าเองก็สามารถโน้มน้าวให้คนเผ่าของข้าแต่งงานกับคนของเผ่าภูตดินได้เหมือนกัน แต่มันจะติดปัญหาอยู่อย่างตรงที่อาณาเขตเหยาชานนั้นแห้งแล้งเป็นอย่างมาก คนของเผ่าข้าคงมาอาศัยอยู่ไม่ได้แน่ ข้าอยากรู้ว่านายท่านพอจะมีวิธีการแก้ปัญหานี้ได้บางไหม?”

อี้ลั่วเอ๋อยิ้มให้กับชิวเจี้ยนปิง และพูดว่า “ไม่ใช่ว่าปัญหาของเจ้ามันง่ายมากเลยไม่ใช่เหรอ เจ้าก็แค่ให้เผ่าของเจ้าส่งผู้หญิงเผ่าเจ้ามาหาเหล่าลิงหนุ่มภูตดินที่กำลังติดตามนายท่านอยู่แบบนี้ จากนั้นก็ให้พวกเขาร่วมหลับนอนกันจนตั้งครรภ์ จากนั้นเจ้าก็ให้หญิงสาวเผ่าเจ้ากลับไปที่เผ่าของเจ้าก่อน และเมื่อไหร่ที่พวกนางคลอดบุตรที่มีสองสายเลือดออกมา เจ้าก็ค่อยส่งบุตรที่มีสองสายเลือดเหล่านั้นไปที่เผ่าภูตดินอีกครั้งเพื่อให้พวกเขาผลิตทายาทเพิ่มก็ได้”..

หลิงตู้ฉิงหัวเราะและพูดว่า “วิธีการของลั่วเอ๋อก็ใช้ได้เหมือนกัน เจ้าจงตัดสินใจเอาเองก็แล้วกันเจี้ยนปิง ว่าเจ้าจะเริ่มส่งข่าวไปหาเผ่าของเจ้าเมื่อไหร่!”

ชิวเจี้ยนปิงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นเมื่อไหร่ที่ข้ามีโอกาส ข้าจะส่งข้อความเรื่องนี้ไปให้กับเผ่าของข้าทันทีเลยก็แล้วกัน เพื่อให้พวกเขาลองตัดสินใจดูว่าเอาอย่างไร หากพวกเขาตกลง ข้ามั่นใจว่าเผ่าของข้าจะต้องมีตัวตนที่แข็งแกร่งคล้ายกับอุลบาเกิดขึ้นแน่นอน”

ทางด้านของอุลบาที่ถูกพาดพิงในเวลานี้ก็เอาแต่นั่งก้มหน้าไม่พูดกับใคร

เขารู้สึกสับสนกับตัวเองเล็กน้อยเพราะเขาพึ่งถูกรุมทึ้งจากลิงสาวเผ่าภูตดินถึง 5 ตน แถมยังกลายเป็นพ่อลิงโดยที่เขาไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนอีกต่างหาก

และเมื่อยิ่งเขาคิดถึงเรื่องลูกของเขาที่กำลังจะเกิดเขาก็ยิ่งหดหู่ เพราะเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าใช่ลูกของเขาจริงหรือเปล่า เพราะภูตดินทั้งห้านางต่างก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนกระหน่ำพวกเขาทั้งสามคนอย่างเท่าเทียมกัน โดยที่ไม่มีใครบริจาคทายาทน้อยไปกว่าใครเลย

“อันที่จริงถ้าพวกเจ้ามีโอกาส พวกเจ้าก็สามารถไปที่อาณาจักรจันทรา ซึ่งอยู่ในอาณาเขตนภาและตามหาลูกชายของข้าที่เป็นจักรพรรดิของที่นั่น และให้เขาคัดเลือกหญิงสาวมนุษย์ที่เหมาะสมและยินยอมให้กับพวกเจ้าได้” หลิงตู้ฉิงให้ตัวเลือกกับซวนหยวนตู่เช่นกัน

หลิงตู้ฉิงรู้สึกว่าเผ่าภูตดินนี้นั้นน่าเวทนาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงเสียเวลาแนะนำสักหน่อย

แต่แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ได้รับประกันว่าลิงสีเหลืองเหล่านี้จะมีหญิงสาวมนุษย์คนไหนที่ยอมเป็นภรรยาของพวกเขาหรือเปล่า

“ขอบคุณท่านผู้ส่งสาสน์!” ซวนหยวนตู่รีบโค้งคำนับ

จากนั้นในระหว่างที่พวกเขาเดินทาง หลิงตู้ฉิงก็มอบหมายหน้าที่ใหม่ให้กับโม่หยูถัง ซึ่งก็คือการให้เขาคอยแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าต่าง ๆ และเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับโลกภายนอกให้กับเหล่าภูตดินได้ฟัง

ต้องรู้ว่าเหล่าภูตดินคือพวกที่แทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับเผ่าอื่น ๆ ภายนอกเลย รวมไปถึงมารยาทที่พวกเขาควรกระทำเมื่อเจอกับเผ่าอื่น ๆ ด้วย

ทางด้านของเหล่าภูตดินก็ตั้งใจฟังทุกอย่างที่โม่หยูถังเล่าให้ฟัง หรือชี้แนะเป็นอย่างดีราวกับว่าโม่หยูถังเป็นครูของพวกเขา

หลังจากที่พวกเขาเดินทางผ่านเผ่าต่าง ๆ มากมาย ท้ายที่สุดเหล่าภูตดินก็ตกลงปลงใจเลือกเผ่าปีศาจดิน ซึ่งทางฝั่งเผ่าปีศาจดินเองก็ยินยอมเช่นกัน

หากจะให้พูดกันตามจริงแล้วต่อให้จะมีเผ่าบนโลกนี้มากมายขนาดไหนที่เกลียดชังเผ่าภูตดิน หนึ่งในนั้นจะต้องไม่มีรายชื่อของเผ่าปีศาจดินแน่นอน

เพราะเผ่าของพวกเขาทั้งคู่ต่างบ่มเพาะธาตุดินเหมือนกัน ดังนั้นการแต่งงานของพวกเขาจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมกันเป็นที่สุด

จากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางกันต่อ ซึ่งในระหว่างทางหญิงสาวทั้งสามของเผ่าปีศาจดินก็ตั้งครรภ์กับเหล่าภูตดินหนุ่มจนได้และเมื่อพวกนางตั้งครรภ์ พวกนางก็ยิ่งกลายเป็นที่หวงแหนของพวกภูตดินไปโดยปริยาย

จากนั้น 80 ปีต่อมา ในที่สุดคณะของพวกเขาทั้งหมดก็เดินทางถึงภูมิภาคตงซวน ซึ่งจากจุดที่พวกเขาอยู่มันก็ไม่ไกลจากป่าภูตนางฟ้าแล้ว…