บทที่ 781 ซื้อภูตนางฟ้า

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

หลังจากเดินทางถึงภูมิภาคตงซวน อี้ลั่วเอ๋อก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะจากจุดนี้มันใกล้แล้วที่นางจะได้กลับไปถึงบ้านเกิดของนาง

“นายท่าน จากจุดที่เราอยู่ตอนนี้เหลือแค่อีกเพียง 6 อาณาเขตที่พวกเราต้องข้ามผ่านมันก็จะถึงป่าภูตนางฟ้าแล้ว!” อี้ลั่วเอ๋อพูดขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน “หากท่านแม่ของข้ารู้ว่าท่านกำลังจะไปเยือน แม่ของข้าจะต้องดีใจเป็นอย่างมากแน่ ๆ!”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “เจ้าสามารถบอกให้แม่ของเจ้ารู้ได้ว่าข้าเป็นใคร แต่สำหรับคนอื่นเจ้าอย่าเพิ่งบอกไปเด็ดขาด! ตอนนี้ข้ากำลังสืบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเผ่าของเจ้าอยู่ ดังนั้นหากมีคนรู้ว่าข้าเป็นใครมากขึ้นเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งสืบเรื่องต่าง ๆ ยากมากขึ้นเท่านั้น”

อี้ลั่วเอ๋อยิ้มและตอบกลับ “ทราบแล้วนายท่าน ข้าจะไม่บอกคนอื่นแน่นอนนอกจากแม่ของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น!”

“แล้วถ้าพ่อของเจ้าอยากรู้เรื่องของนายท่านล่ะ?” เปียนเฉียวเฉียวถามขึ้น

ถึงแม้ว่าเปียนเฉียวเฉียวจะไม่รู้เหมือนกันว่าหลิงตู้ฉิงเป็นใครมาก่อน แต่จากที่นางฟังอี้ลั่วเอ๋อคุยกับหลิงตู้ฉิงแล้ว นางก็แน่ใจว่าตัวตนของหลิงตู้ฉิงย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน

“เอ่อ…ข้าไม่มีพ่อหรอก” อี้ลั่วเอ๋อตอบกลับด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เปียนเฉียวเฉียวก็รีบตอบกลับด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ไอ้หยา ข้าขอโทษด้วยจริง ๆ ลั่วเอ๋อ ข้าไม่รู้”

“มันไม่ใช่แบบที่เจ้าคิด!” อี้ลั่วเอ๋อกลอกตา “พวกเราเผ่าภูตนางฟ้าไม่เหมือนกับพวกเจ้าเผ่ามนุษย์ที่จำเป็นจะต้องร่วมรักกันระหว่างชายหญิงเพียงอย่างเดียวเพื่อให้กำเนิดทายาท การถือกำเนิดของพวกเราเกิดขึ้นได้ 2 กรณี กรณีแรกก็คือการมีพ่อเหมือนกับพวกเจ้าเผ่ามนุษย์ กรณีที่สองก็คือการที่พวกเราไปวิงวอนขอบุตรต่อต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์”

“และด้วยฐานะของภูตนางฟ้าเพศชายในเผ่าของข้านั้นอยู่ต่ำกว่าเพศหญิงเป็นอย่างมาก และโดยเฉพาะในฐานะที่แม่ของข้าเป็นถึงจักรพรรดินี ดังนั้นแม่ขอข้าจึงยิ่งหาคู่ครองที่เหมาะสมได้ยากมากที่สุด สุดท้ายแม่ของข้าจึงตัดสินใจไปขอข้าจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แทน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงไม่มีพ่อยังไงล่ะ”

“อ๋อ!” คนอื่น ๆ ที่ได้ยินเช่นนี้ต่างก็พยักหน้ามองไปที่อี้ลั่วเอ๋อ

หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นเสริมเช่นกันว่า “ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั่นที่ลั่วเอ๋อพูดถึงก็คือร่างหยาบของมหาวิถีธาตุไม้ และด้วยลักษณะพิเศษของมหาวิถีธาตุไม้ที่มีพลังชีวิตสถิตอยู่หนาแน่นเป็นจำนวนมาก มันจึงมีความสามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตได้แบบนี้”

อี้ลั่วเอ๋อยิ้มและเอ่ยขึ้นต่อ “นายท่านช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก!”

แต่แล้วในระหว่างที่พวกเขามุ่งหน้าต่อไปเรื่อย ๆ พวกเขาก็ยังเจอกับปัญหาเดิม ๆ ซึ่งก็คือมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญโผล่มาก่อกวนพวกเขาอยู่เป็นระยะ ๆ เนื่องจากความโดดเด่นที่หลิงตู้ฉิงจงใจสร้างขึ้นเพื่อสนองความปรารถนาของตนเอง

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้นขวางทางพวกเขาอีกครั้ง แต่เมื่อเขาบินเข้ามาใกล้ เขาก็รู้สึกตกตะลึงกับภาพที่เห็นจนทำอะไรไม่ถูก

“นี่มัน…” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิอุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัวพลางคิดในใจ

ชายหนุ่มผู้นี้เป็นนายน้อยมาจากที่ไหนกันถึงขนาดมีภูตนางฟ้าอยู่ในความครอบครอง แถมยังมีเผ่าภูตดินที่มีความแข็งแกร่งอย่างน้อย ๆ ก็ขอบเขตไม่ต่ำกว่าจักรพรรดิจำนวนนับสิบคอยตามคุ้มกันอยู่เป็นพรวน และไหนจะรถมังกรที่หรูหราพร้อมกับมีทั้งมังกรและฟีนิกซ์มาลากรถให้อีก นี่มันจะหรูหราเกินไปหน่อยไหม?

ที่สำคัญหากเดาจากทิศทางที่ชายหนุ่มผู้นี้กำลังจะมุ่งหน้าไปมันก็คือป่าภูตนางฟ้า ชายหนุ่มผู้นี้มีเป้าหมายจะทำอะไรกันแน่?

“เจ้ามีอะไรรึเปล่า?” โม่หยูถังตะโกนถามขึ้น “หากเจ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญก็จงหลีกไปให้พ้นทาง อย่ามารบกวนการเดินทางของเจ้านายข้า”

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิถามกลับด้วยสีหน้าระมัดระวัง “ข้าชื่อ ปาชี่หง จากสำนักภูเขาขจี ข้าขอทราบได้ไหมว่าพวกท่านมาจากที่ไหนกัน?”

โม่หยูถังเหลือบมองที่หลิงตู้ฉิงก่อน จากนั้นเมื่อเขาเห็นว่าหลิงตู้ฉิงไม่มีท่าทีที่จะตอบเอง เขาจึงตอบกลับไปว่า “พวกข้ามาจากเขตแดนอุดรทมิฬ!”

“ที่แท้พวกท่านก็เป็นสหายจากแดนไกลนี่เอง ข้าขอชื่นชมในความพยายามของพวกท่านยิ่งนักที่เดินทางมาไกลถึงที่นี่” ปาชี่หงหัวเราะ “ถ้าให้ข้าเดา พวกท่านคงกำลังจะมุ่งหน้าไปที่ป่าภูตนางฟ้าเหมือนกันใช่ไหม?”

“ไปเหมือนกัน?” โม่หยูถังถามกลับ “เจ้าหมายความว่ายังไง?”

โม่หยูถังรู้สึกงุนงงเพราะคำพูดของปาชี่หงมันดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังมีหลายคนมุ่งหน้าไปที่ป่าภูตนางฟ้าเหมือนกัน..

ทางด้านของอี้ลั่วเอ๋อ เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นกังวลทันทีและตะโกนถามขึ้นว่า “มีอะไรเกิดขึ้นกับป่าภูตนางฟ้าของข้า?”

ปาชี่หงยิ้มและพูดว่า “พวกท่านยังไม่ได้ตอบข้าเลยนะว่าพวกท่านจะไปป่าภูตนางฟ้ารึเปล่า และเขตแดนอุดรทมิฬก็ออกจะกว้างใหญ่ พวกท่านช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าพวกท่านเป็นคนของสำนักไหนกัน?”

หลิงตู้ฉิงเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับคำถามย้อนไปย้อนมาของปาชี่หงเต็มทน ดังนั้นเขาจึงถามกลับไปตรง ๆ ว่า “ข้าคิดว่าเจ้าพูดมาตรง ๆ เลยดีกว่าว่าเจ้าต้องการอะไรเจ้าถึงได้มาขวางทางข้าไว้แบบนี้ หากเจ้ายังไม่ยอมเข้าประเด็นกับข้าตรง ๆ สักทีตอนนี้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสได้พูดกับข้าแบบสบายตัวอีกแล้วนะ”

ปาชี่หงยิ้มและส่ายหัว “ข้าแค่ต้องการผูกมิตรก็เท่านั้น แต่ในเมื่อพวกท่านหยาบคายกับข้าขนาดนี้ พวกท่านก็คิดซะว่าข้าไม่เคยมาทักทายพวกท่านก็แล้วกัน ข้าขอตัวล่ะ!”

ในความคิดของปาชี่หง เขาไม่ได้กลัวหลิงตู้ฉิงสักเท่าไหร่ แม้ว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงจะดูแข็งแกร่งก็ตามเพราะที่ตั้งของสำนักเขานั้นอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก หากมีปัญหาขึ้นมาจริง ๆ เขาก็สามารถหนีไปขอกำลังเสริมได้

แต่แล้วก่อนที่เขาจะทันได้จากไป หลิงตู้ฉิงกลับตะโกนขึ้นว่า “ไปจับตัวมันมาให้ข้า!”

“รับทราบท่านผู้ส่งสาสน์!” ซวนหยวนตู่ลงมือทันที

ด้วยความแตกต่างของระดับการบ่มเพาะ ซวนหยวนตู่สามารถคร่ากุมตัวปาชี่หงได้อย่างง่ายดายราวกับปอกกล้วย จนถึงขนาดที่ปาชี่หงยังรู้สึกตกตะลึงและสงสัยว่าภูตดินตนนี้มีระดับการบ่มเพาะขอบเขตไหนกันแน่?

“ไหนบอกข้ามาสิว่าเจ้ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้นอีกรอบ “หากเจ้ายังคงปากแข็ง ข้าจะเปลี่ยนวิธีเป็นการค้นดวงวิญญาณของเจ้าเพื่อหาคำตอบเอง”

ปาชี่หงรีบตอบกลับทันที “ข้าไม่มีจุดประสงค์อื่นจริง ๆ ข้าแค่สนใจในกลุ่มของท่านและอยากทำความรู้จักเท่านั้น!”

“เจ้าโกหก!” หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างเย็นชา “ปากแข็งขนาดนี้ งั้นข้าค้นดวงวิญญาณของเจ้าหาคำตอบเองก็แล้วกัน พวกเจ้ามาค้นดวงวิญญาณชายผู้นี้ให้ข้าที!”

กลุ่มภูตดินเมื่อได้รับคำสั่ง พวกเขาก็รีบทำตามบัญชาผู้ส่งสาสน์ของพระเจ้าที่พวกเขาเคารพอย่างสุดหัวใจในทันที

แต่ก่อนที่เหล่าภูตดินจะได้ลงมือ ปาชี่หงรีบตะโกนขึ้นก่อนว่า “สำนักเขาขจีของข้าอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้พวกเจ้ากล้าทำร้ายข้างั้นเหรอ? หากพวกเจ้าทำร้ายข้า สำนักของข้าจะต้องไม่ปล่อยพวกเจ้าแน่นอน! เฮ้! ฟังข้าบ้างสิ ไม่นะ! หยุดก่อน! ข้ายอมแล้ว ข้ายอมบอกพวกเจ้าแล้ว ที่ข้าเข้ามาทักพวกเจ้าก็เพราะข้าอยากจะซื้อภูตนางฟ้าของเจ้าก็แค่นั้นเอง!”

ในตอนแรกปาชี่หงคิดจะใช้ชื่อสำนักของเขาขู่กลุ่มของหลิงตู้ฉิง แต่แล้วเมื่อเขาเห็นว่าเหล่าภูตดินไม่มีท่าทีจะหยุดมือเลย เขาจึงจำยอมต้องพูดความจริงทั้งหมด

ทางด้านของอี้ลั่วเอ๋อ เมื่อได้ยินว่าแท้จริงแล้วชายผู้นี้ต้องการจะมาซื้อตัวนาง มันก็เหมือนนางถูกจี้ปมเก่าที่นางถูกจับไปขาย ส่งผลให้นางรู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก

“สำนักเขาขจีของเจ้าไม่ใช่สำนักมหาอำนาจด้วยซ้ำ เจ้ากล้าดียังไงถึงได้มาท้าทายป่าภูตนางฟ้าของข้าด้วยการเสนอขอซื้อภูตนางฟ้าแบบนี้!” อี้ลั่วเอ๋อพูดขึ้นด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “สำนักเขาขจีของเจ้าไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่อีกแล้วใช่ไหม!”

ปาชี่หงตะคอกกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เอาไว้เผ่าของเจ้ารอดตายเมื่อไหร่ถึงค่อยมาขู่ข้า!”