ตอนที่ 2,135 : กรูกันเข้าไป!
“เท่าที่ข้ารู้มาไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรอำนาจทรราชหรือพันธมิตรร้อยวิญญาณ ล้วนขยันสร้างผลงานเอาใจพันธมิตร 7 สังหารนัก…อนิจจาแต่พันธมิตร 7สังหารควรเห็นพวกมันเป็นแค่ข้ารับใช้เท่านั้น มิใช่พวกเดียวกัน!”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น พอคนของพันธมิตร 7 ล่วงรู้ว่าหลังรอยแยกมิมีอันตราย พวกมันจึงไม่จำเป็นต้องกล่าวเตือนอะไร…อีกทั้งถ้าหากด้านในเป็นคลังสมบัติของยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนจริงๆ คนของพันธมิตร 7 สังหารยิ่งไม่อยากให้ผู้ใดเข้าไปแย่งชิง…ไม่เว้นกระทั่งคนของอำนาจทรราชกับร้อยวิญญาณ!”
“มิผิด มากคนย่อมมากความ เพิ่มอีกหนึ่งก็ต้องเฉือนแบ่งกันอีกหนึ่ง…ที่พันธมิตร 7 สังหารไม่กล่าวบอกอะไรพวกมัน คงเป็นเพราะไม่อยากให้พวกมันไปแย่งส่วนแบ่ง”
….
ผู้คนที่ล้อมรอบรอยแยกเริ่มกล่าวถึงประเด็นนี้กันอย่างหนาหู
และวาจาของพวกมันย่อมผ่านเข้าหูเฉินเฉวียนป้ากับหยินเฉวี่ยนหมิง ผู้นำ 2 พันธมิตรที่เกี่ยวข้องโดยตรง นั่นทำให้ใบหน้าพวกมันมืดคล้ำดำลงทันตาเห็น…
เพราะพวกมันเองก็กำลังคิดเช่นนั้นเหมือนกัน!
“ขนาดโอวฉิงที่กลัวตายเป็นที่สุดนั่นยังกล้าที่จะเข้าไปในรอยแยกโดยไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว…หากมองจากเรื่องนี้ย่อมหมายความว่ารอยแตกกลางความว่างนี่มิน่าจะมีอันตรายใดๆ…”
ลูกตา เฉินเฉวียนป้า ผู้นำพันธมิตรอำนาจทรราช ทอประกายเรืองวูบ จากนั้นค่อยหันไปส่งเสียงบอกระดับสูงของพันธมิตรอำนาจทรราชด้านหลัง “หากพวกเจ้าไม่กล้าเข้าไปก็จงเฝ้าอยู่ตรงนี้…ส่วนคนที่กล้าเข้าไป มากับข้า!”
กล่าวจบคำ ร่างเฉินเฉวียนป้าก็โจนทะยานเข้ารอยแยกกลางความว่างนั่นทันที
กว่าที่ระดับสูงของพันธมิตรอำนาจทรราชจะรู้ตัว พวกมันก็พบว่าแผ่นหลังของผู้นำพวกมันหายเข้าไปในรอยแยกกลางอากาศเสียแล้ว
ครู่ต่อมาสองตาพวกมันก็ทอประกายเรืองขึ้นมาวูบหนึ่ง เหินร่างติดตามเข้าไปกันหมดทันที
ไม่มีใครอยู่รอด้านนอกสักคน!
และฉากนี้ก็ทำให้บังเกิดความปั่นป่วนขึ้นในหมู่ที่ยืนมุงรอบรอยแยกอีกครั้ง
“ตัวบัดซบเฉินเฉวียนป้าช่างไวนักนะ!”
เรื่องที่เฉินเฉวียนป้าคิดได้ หยินเฉวี่ยนหมิงผู้นำพันธมิตรร้อยวิญญาณก็คิดได้เช่นกัน กล่าวไปมันยังรู้จักโอวฉิงดีกว่าเฉินเฉวียนป้าเสียอีก ย่อมรู้ว่าโอวฉิงนั้นกลัวตายกว่าผู้อื่นมากขนาดไหน
ทว่าคนเช่นนั้นกลับโดดเข้ารอยแยกไปอย่างไร้ลังเล นี่ก็มากพอจะบอกให้รู้แล้วว่าในรอยแยกนี่ไร้ซึ่งภยันตรายใดๆ
นอกจากนั้นพลังฝีมือของโอวฉิงยังด้อยกว่ามันหลายขุม!
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นเฉินเฉวียนป้า หรือหยินเฉวี่ยนหมิง ก็ไม่รู้เลยว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังรอยแยก แล้วใช่มันอันตรายหรือไม่…ถึงแม้คนของพันธมิตร 7 สังหาร พันธมิตรพันสารท กับพันธมิตรหมื่นโบราณจะเข้าไปก่อนแล้วก็ตาม แต่พวกมันยังไม่กล้าเข้าไป ด้วยไม่คิดว่าด้านในจะปลอดภัยสำหรับพวกมัน!
ในบรรดาระดับสูงๆของพันธมิตร 7 สังหาร พันธมิตรพันสารทและพันธมิตรหมื่นโบราณ ด่านพลังฝึกปรือของพวกมันส่วนใหญ่ก็บรรลุเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนทั้งสิ้น
นอกจากนั้นผู้นำของทั้ง 3 พันธมิตรนั้น ก็ยังบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน!
ดังนั้นการที่ด้านในอาจจะไม่เป็นอันตรายต่อตัวตนเหล่านั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นอันตรายสำหรับพวกมันด้วย เพราะพลังของพวกมันนับว่าอ่อนด้อยกว่าตัวตนระดับสูงเหล่านั้นมาก
ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงไม่กล้าเข้าไป
ทว่ามาตอนนี้พอได้เห็นหนูขี้ขลาดกลัวตายเป็นที่สุดอย่างโอวฉิงหาญกล้าโดดเข้าไปอย่างไร้ลังเลตาไม่กระพริบ พวกมันก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป
วูบ! วูบ! วูบ! วูบ!
……
เพียงครู่เดียวคนของพันธมิตรร้อยวิญญาณที่นำโดยผู้นำอย่างหยินเฉวี่ยนหมิง ก็โดดเข้ารอยแยกท่ามกลางความว่างเปล่า หายตัวไปต่อหน้าต่อตาของทุกคนจนหมด…
“คนของพันธมิตรอำนาจทรราชกับร้อยวิญญาณเข้าไปกันหมดแล้ว!”
หลายคนอุทานออกมา
“เท่าที่ข้ารู้มาดูเหมือนนายน้อยของพันธมิตร 7สังหารโอวฉิงผู้นั้นเป็นดั่งนายน้อยรุ่นที่ 2 อย่างแท้จริง…คนเช่นนี้เห็นชีวิตตัวเองสำคัญเป็นที่สุด!คนที่วันๆหวังแต่จะหาความสำราญย่อมหวาดกลัวความตายยิ่งกว่าใคร! เพราะหากตาไป…มันก็มิอาจเสวยสุขจากอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่บิดาปูทางเอาไว้ได้อีก!!”
ไม่ทราบว่าเป็นใครที่พูดขึ้นมา
แต่ทันทีที่มันพูดจบคำ มันก็ได้รับความเห็นชอบจากคนมากมายทันที
“เพราะแบบนี้คนของพันธมิตรอำนาจทรราชและร้อยวิญญาณจึงรู้สึกว่าหลังรอยแยกนี้สมควรไร้อันตรายใดๆ?”
คนที่ออมุงอยู่ย่อมไม่ขาดคนที่มีความคิด จึงง่ายที่จะคาดเดาเรื่องราว
“สมควรเป็นเช่นนั้น”
“ในเมื่อพันธมิตรอำนาจทรราชกับร้อยวิญญาณก็เข้าไปกันหมด เช่นนั้นพวกเรายังจะรออะไรเล่า!!”
“ไป! พวกเราเข้าไปกัน!!”
……
ทันใดนั้นผู้ฝึกตนไร้มากมายทั้งมีพันธมิตรและไม่มีพันธมิตรก็รีบโดดเข้ารอยแยกกันอย่างไม่หวาดกลัวอีก ร่างแล้วร่างเล่าหายลับไปในรอยแยกกลางอากาศ
เพียงครู่เดียว จำนวนคนที่ห้อมล้อมอยู่รอบๆรอยแยกกลางอากาศก็เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง
แน่นอนว่ายังมีหลายคนที่ยังยืนรอไม่กล้าเข้าไปเพราะลังเลอยู่
“หลายคนแห่กันเข้าไปหมดแล้ว…พวกเราจะเข้าไปด้วยหรือไม่ผู้เฒ่าเฮยหยา?”
ระดับสูงของพันธมิตรอีกาทมิฬหันไปมองถาม ‘ผู้เฒ่าเฮยหยา’ ผู้นำของพวกมันทันที หลังจากที่ยืนละล้าละลังกันอยู่พักหนึ่งแต่ไม่กล้าตัดสินใจ
ตัว ผู้เฒ่าเฮยหยา ผู้นำพันธมิตรอีกาทมิฬเองก็ยังคิดไม่ตกเช่นกัน
หากแต่ที่มันคิดไม่ตกกลับไม่ใช่เรื่องรอยแยกอะไร ภาพในใจของมันตอนนี้ ที่ฉายวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ก็คือ ฉากความว่างเปล่าที่บิดเบือนราวกับถูกพับไปพับมานั่น…!
หลังจากนั้นก็เป็นฉากที่ฉุนหวู่ ร่างแยกเป็นสองเสี่ยง…
ฉุนหวู่ผู้นั้น ไม่เพียงเป็นอาวุโส 1 ของพันธมิตรร้อยวิญญาณ แต่ยังเป็นสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 3 เปลี่ยนที่ติดอยู่ใน 200 อันดับแรกของรายนามยอดเซียนอีกด้วย…
ทว่าตัวตนระดับนั้นกลับถูกชายชุดดำฆ่าตายได้อย่างง่ายดาย
สำหรับคนที่อ่อนแอกว่าฉุนหวู่อย่างมัน จะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้กับชายชุดดำ?
จังหวะนี้ใจของมันพลันเต้นช้าลงคล้ายอ่อนกำลัง ความสิ้นหวังยังเริ่มกัดกินอยู่ภายใน บังเกิดความท้อแท้ขึ้นมาด้วยรู้สึกว่าคงเป็นเรื่องยากเย็นเหลือเกินที่ชั่วชีวิตนี้จะมีวันที่มันสามารถฆ่าชายชุดดำเพื่อชำระแค้น และล้างความอัปยศอดสูของพันธมิตรอีกาทมิฬของมันได้…
ด้วยเหตุนี้ในใจของมันจึงรู้สึกไม่ยินยอม ยังไม่ยินยอมถึงที่สุด! ฉากเรื่องราวนั่นจึงฉายวนซ้ำในหัว ราวกับมันพยายามจะมองหาอะไรบางอย่าง…
อนิจจาหลังคิดซ้ำไปซ้ำมา มันก็ไม่ได้อะไรเลย
มันไม่อาจแลเห็นได้เลยว่าในห้วงควางว่างที่บิดเบือนนั่นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่เห็นว่าที่แท้ชายชราชุดดำฆ่าฉุนหวู่ได้อย่างไร…
“หืม?”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกหาว่า ‘ผู้เฒ่าเฮยหยา’ ผู้นำพันธมิตรอีกาทมิฬจึงฟื้นคืนสติ สลัดภาพในใจ ขณะเดียวกันก็ฟังคำถามจากคนที่เรียกซ้ำอีกครั้ง
“ในเมื่อพันธมิตรอำนาจทรราชกับพันธมิตรร้อยวิญญาณก็พากันไปหมดแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีอันใดต้องกลัวอีก…ไปกันเถอะ!”
ผู้เฒ่าเฮยหยาตัดสินใจขั้นเด็ดขาดออกมาทันที ก่อนที่จะเหินร่างนำกลุ่มพันธมิตรอีกาทมิฬหายเข้าไปในรอยแยกกลางหาว
“คนของอีกาทมิฬก็เข้าไปกันแล้ว…”
“ผู้นำพันธมิตรอีกาทมิฬ ผู้เฒ่าเฮยหยาคนนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ระวังตัวเองมากที่สุดคนหนึ่งของนครแห่งบาปเรา…หาไม่แล้วมันคงไม่อยู่มาได้จนถึงวันนี้ ด้วยการเอาแต่หลบหน้าชายชุดดำ!”
“นั่นสิ ชายชุดดำฆ่าคนของอีกาทมิฬไปตั้งมาก เรียกว่าแทบจะฆ่าคนของอีกาทมิฬไปกว่าครึ่งแล้วด้วยซ้ำ แถมยังฆ่าเจียวจ้านยอดฝีมืออันดับ 2 ของอีกาทมิฬไปอีก คนของอีกาทมิฬสมควรเกลียดชายชุดดำเข้ากระดูกดำ แต่มันกลับระงับอารมณ์ยังกำชับให้ทุกคนในพันธมิตรสงบเสงี่ยเจียมตัว…”
“กับคนที่ระมัดระวังตัวเองแบบนี้ยังกล้าเข้าไปในรอยแยกนั่น…พวกเรายังลังเลอะไรกัน?”
……
หลังคนของพันธมิตรอีกาทมิฬโดดเข้าไปในรอยแยกกลางความว่างเปล่ากันหมด ผู้ฝึกตนไร้สังกัดรอบๆหลายคนก็เริ่มติดตามเข้าไป
ไม่ทันไรคนที่เหลือก็ลดลงไปอีกครึ่งหนึ่ง
ส่วนที่ยังรั้งรอและเหลืออยู่ด้านนอกตอนนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ยังกังวลเรื่องรอยแยกกลางอากาศ ด้วยมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับพวกมัน และไม่แน่ใจว่าจะต้องเจอกับอะไรหากเข้าไปในนั้น
หากไม่เจออันตรายอะไรก็ดีไป แต่หากเจออันตรายขึ้นมาก็เสี่ยงตายตกแล้ว!
ในขณะเดียวกันก็มีคนที่พึ่งเดินทางมาถึงเช่นกัน
“หืม!? รอยแยกมิติรึ!?”
ชายชราที่พึ่งเดินทางมาถึงคนหนึ่ง ถึงกับตาลึกวาวทันใดเมื่อเห็นรอยแยกกลางหาว น้ำเสียงของมันยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“รอยแยกมิติ?”
หลายคนถึงกับหันขวับไปมองมันด้วยความสนใจทันที
เมื่อชายชราผู้นั้นสัมผัสได้ถึงการมองมาของคนมากมาย มันก็กระแอมไอลดอาการตื่นเต้นอย่างออกหน้าออกตา ค่อยกล่าวออกมาว่า “หากข้าจำมิผิด สิ่งนี้เรียกว่ารอยแยกมิติ เป็นการฉีกขาดพื้นที่…โดยทั่วไปแล้วมีแต่ผู้ที่สามารถข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปได้แล้วเท่านั้นที่จะกระทำได้…”
“นั่นหมายความว่ามีเพียงยอดคนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านอัสนีสวรรค์ไปแล้วเท่านั้น ถึงจักสามารถฉีกเปิดพื้นที่เพื่อสร้างระนาบเทียม!”
“ข้ามิอยากจะเชื่อเลยว่าข้าจะมีชีวิตอยู่จนได้เห็นคลังสมบัติของยอดคนขอบเขตเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนที่สามารถข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ได้เช่นนี้!!”
หลังกล่าวจบคำก็ไม่รอให้ใครกล่าวถามอะไรอีก ชายชราผู้นั้นโจนทะยานเข้ารอยแยกกลางอากาศปานกระต่ายเปรียว!
“เมื่อครู่ ผู้เฒ่าคนนั้นกล่าวว่า…คลังสมบัติของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปแล้วงั้นหรือ?”
ครู่ต่อมาบางคนก็เริ่มฟื้นตัว มันสูดอากาศเข้าด้วยความตื่นเต้นค่อยกล่าวทวนออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ….นั่นมิใช่ตัวตนที่กำลังจักได้ขึ้นไปยังแดนสวรรค์และกลายเป็นเซียนอมตะหรือไร!?”
ผู้คนมากมายก็ทยอยกันรู้สึกตัว ใบหน้ายังเต็มไปด้วยความตกตะลึงเหลือเชื่อ
“เท่าที่ข้ารู้มาเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ไปแล้ว พลังในร่างจักเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังเซียนอมตะก่อนกำเนิด ซึ่งเป็นพลังงานที่มีระดับสูงล้ำยิ่งขึ้น…และมีเพียงพลังนั่นเท่านั้นถึงจักทรงอำนาจมากพอฉีกเปิดพื้นที่แล้วสร้างระนาบเทียม…”
“เช่นนั้นหมายความว่า รอยแยกที่อยู่ตรงหน้าของพวกเราตอนนี้…ก็คือรอยแยกมิติที่เกิดจากการฉีกเปิดพื้นที่ของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9เปลี่ยนที่ข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จ เพื่อเก็บสมบัติชั่วชีวิตไว้งั้นหรือ!?”
“ฟังเจ้าพูดหมายความว่า…9 ใน 10 ส่วน เบื้องหลังรอยแยกนี่ ก็คือคลังสมบัติของยอดคนที่กำลังจักขึ้นสวรรค์และกลายเป็นเซียนอมตะหรือ!?!”
“สวรรค์ช่วย! ข้ามัวแต่ลังเลอันใดอยู่ตั้งนาน…หากข้ารู้แบบนี้ข้ารีบเข้าไปนานแล้ว!!”
“บางครั้งการระมัดระวังมากเกินไปก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี”
…
หลังจากย่อยข้อมูลที่ได้ฟังจากชายชราหมดสิ้นแล้ว ผู้ฝึกตนที่ยังลังเลอยู่รอบนอกมากมายก็ตัดสินใจได้ พวกมันบ้าง 3 บ้าง 5 เหินร่างเขาสู่รอยแยกกลางอากาศทันที
รอยแยกกลางหาวนั้น ประหนึ่งปากกระหายเลือดของสัตว์ร้ายที่โหยหิว กลืนร่างผู้คนเข้าไปคนแล้วคนเล่าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มหนำ…
ครู่ต่อมาด้านนอกก็ไม่เหลือใครอีกต่อไป…
ถึงแม้หลังจากนั้นจะมีคนที่พึ่งมาถึงประปราย แต่ทั้งหมดก็ไม่คิดยืนรออะไร ตัดสินใจเหินเข้ารอยแยกกลางอากาศทันที
เพราะสุดท้ายเมื่อมาถึงแล้วไม่เจอใครอยู่ นั่นหมายความว่าทั้งหมดเข้าไปในรอยแยกเบื้องหน้ากันหมดแล้ว สมควรปลอดภัยไม่มีใดให้กังวล…
ครืน! ครืน!
ทันใดนั้นเสียงอากาศแตกระเบิดคำรามไม่หยุดพลันดังขึ้น 2 สำเนียงติดๆ ปรากฏร่างที่พุ่งวาบจากเส้นขอบฟ้ามาด้วยความเร็วสูงล้ำ! ชั่วพริบตาเดียว ทั้ง 2 ร่างที่อยู่ขอบฟ้าไกลลิบตาเมื่อครู่ ก็บรรลุถึงเบื้องหน้ารอยแยกกลางหาว…