บทที่ 812 การกู้คืนความจำ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ใช่ ทำไมเขาต่อต้านมากขนาดนี้

“เพราะ…มันดูแย่มาก!”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเติมน้ำตาลให้”

จากนั้นเส้นหมี่ก็วิ่งไปที่ห้องครัวทันทีเพื่อเอาน้ำตาลสองสามซองสำหรับชงกาแฟมา และเทลงในชามต่อหน้าเขา

แสนรัก “…”

“ได้แล้ว ดูสิ มันไม่ขมเลย ฉันใส่น้ำตาลลงไปเยอะมาก คุณดื่มมันอึกเดียว แล้วคุณจะไม่รู้สึกอะไรเลย”

เธอเกลี้ยกล่อมชายคนนั้น

แสนรักจ้องไปที่เธอ ดวงตาของเธอไม่แน่ใจ เหมือนกับตอนที่เธอเพิ่งถูกจับจากเมืองเคลียร์ให้มารักษาเขาในตอนนั้น และเธอก็ระมัดระวังตัวราวกับว่าเธอกำลังจะวางยาพิษเขาทุกนาที!

“ถ้าไม่อร่อย คุณตาย!”

แน่นอนประโยคถัดมาที่ออกมาจากปากของเขานั้นเหมือนกับประโยคในตอนนั้นไม่มีผิด

เส้นหมี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนมากขึ้น “ไม่ คุณเชื่อฉันสิ”

“…”

ในที่สุดชายคนนั้นก็รับมาดื่ม!

“อึก–”

“ผู้หญิงสมควรตาย! คุณโกหกผมอีกแล้ว!! กล้าดียังไงมาโกหกผมครั้งที่สอง!!”

มันยังคงขมและแรงกว่ารสชาติน้ำตาล ทันทีที่มันเข้าปากของชายคนนั้น เขาไม่เพียงแต่ถ่มน้ำลายออกมาเท่านั้น เขายังด่าเธออีกครั้ง

นิ้วของเส้นหมี่สั่นอย่างรุนแรงอีกครั้ง!

ใช่ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วจริงๆ

แต่ครั้งนั้นเธอได้ให้เขาดื่มเมื่อตอนเขามีสติสัมปชัญญะ

ดวงตาของเส้นหมี่แดง เธอมองเขาแบบนี้ และเกือบจะหัวเราะจนร้องไห้ออกมา

แสนรัก “…”

เธอร้องไห้เพื่ออะไร

สิ่งของของเธอช่างไม่น่าดื่มเหลือเกิน พูดไม่ได้หรือ

เส้นเลือดที่หน้าผากของเขาเต้นตุบๅ และมือที่ถือชามก็มีเส้นเลือดขึ้น

“ขอ……”

“อึก—”

“ขอโทษ” เส้นหมี่พูดได้เพียงคำว่าขอ ทันใดนั้นชายคนนั้นก็เทยาทั้งหมดที่เหลืออยู่ในชามลงคอ

จากนั้นเขาก็วางชามลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างแรง

เส้นหมี่ “!!!”

โอ้ เขาดื่มจริงเหรอ!!

เธอคิดว่าคราวนี้ให้ตายเขาก็ไม่ดื่มอีก

เส้นหมี่นิ่งกลายเป็นหินเป็นเวลานานก่อนจะหยิบชามขึ้นมาอย่างว่างเปล่า

“คุณแสนรัก ถ้าอย่างนั้น…ฉันเทน้ำให้นะ”

“ไสหัวไป!”

ผู้ชายที่หลับตาลง แลพเอนหลังลงบนเตียงทำเพียงแค่พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้าย

เส้นหมี่อ้าปากเหวอ…

เมื่อมองดูชายที่ไร้เดียงสาซึ่งไม่ต่างจากเด็กคนนี้ เธอก็ทำได้เพียง “ออกไป” อย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ออกไปเพราะเห็นแก่ความเชื่อฟังของเขา

เส้นหมี่ไปที่ห้องครัว และหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาทันที ก่อนจะส่งข้อความไปให้พิมแสง เพื่อนสนิทของเธอ

【เส้นหมี่: พิมแสง ข่าวดี เขาจำอดีตได้!!!】

【พิมแสง: จริงหรอ เธอตื่นเต้นเกินไปจนคิดไปเองหรือเปล่า】

เพื่อนสนิทยังคงไม่เชื่อ

เพราะหลังจากผ่านไปนาน ก็ไม่เคยมีสัญญาณที่ดีเลย ใครจะเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นมันคือบุคลิกที่แตกแยก ไม่ใช่การสูญเสียความทรงจำธรรมดาๆ

แต่คราวนี้หลังจากที่พิมแสงส่งข้อความนี้ออกไป กลับมีคำตอบที่รวดเร็วมาก

【เส้นหมี่: จริง ฉันเพิ่งต้มยาจีนให้เขาหนึ่งชาม แต่ตอนฉันเอามันมาให้เขา เขาไม่ได้ชิมเลย และบอกว่าเขาจะไม่ดื่มสิ่งที่ไม่พึงประสงค์แบบนี้อีก】

【พิมแสง: …..】

【เส้นหมี่: จากนั้นฉันก็จงใจเติมน้ำตาลเพื่อให้เขาดื่ม แต่ผู้ชายคนนี้ยิ่งถูกกระตุ้นมากขึ้นไปอีก เขาดุฉันว่าอย่าพยายามโกหกเขาอีก!!】

【เส้นหมี่: พิมแสง เธอรู้ไหม ฉันต้มยานี้ให้เขาแค่สองครั้ง ครั้งหนึ่งเมื่อเขาเพิ่งพาฉันกลับมาจากเคลียร์ เขาบังคับให้ฉันรักษาอาการนอนไม่หลับของเขา และอีกครั้งหนึ่งคือตอนนี้…】

ผู้หญิงคนนี้ตื่นเต้นกับการพิมข้อความมากจนในที่สุดเธอก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เธอต้องอดกลั้นเป็นเวลานาน และในที่สุดน้ำตาของเธอก็หยดลงบนโทรศัพท์

เมื่อพิมแสงเห็นมัน เธอก็ตะลึง และในที่สุดเธอก็เชื่อ

【พิมแสง: นั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก ในที่สุดความพยายามของเธอก็เป็นผล】

【เส้นหมี่: อืม…】

เธอไม่สามารถควบคุมได้อีกครั้ง

พิมแสงที่คิดถึงสิ่งนี้ก็มีความสุขเช่นกัน ก่อนเธอจะนึกอะไรขึ้นมาได้

【พิมแสง: สวยใสฉันคิดว่าเธอควรบอกหมอคนนั้นหน่อย ดูว่าเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากมีสัญญาณของการฟื้นความจำจริงๆ เธอต้องทำอะไรต่อไปถึงจะดีกับเขา เธอคิดว่าไง】

【เส้นหมี่: ใช่ๆ ฉันลืมไปเลยถ้าเธอไม่พูด ฉันจะติดต่อหมอเดี๋ยวนี้】

เส้นหมี่ได้รับการเตือนจากเพื่อนสนิทของเธอก็รีบเช็ดน้ำตาออกจากแก้มของเธอ และคลิกบนแพลตฟอร์มติดต่อของหมอชาวญี่ปุ่น

เส้นหมี่ “ศาสตราจารย์ ฉันเส้นหมี่นะคะ ฉันอยากจะบอกบางอย่างที่สำคัญมากกับคุ๕!”

จากนั้นก็อธิบายปฏิกิริยาของแสนรักบนแพลตฟอร์มการติดต่อนี้อย่างละเอียด

ข้อความถูกส่งไปแล้ว และทันใดนั้นเอง ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาชาวญี่ปุ่นก็ตอบกลับมา

ศาสตราจารย์ “นี่เป็นสิ่งที่ดี แสดงว่าบางสิ่งบางอย่างในบุคลิกภาพหลักของเขากำลังเริ่มฟื้นตัว เมื่อทุกอย่างตื่นขึ้น บุคลิกย่อยจะไม่มีอยู่อีกต่อไป”