ตอนที่ 2254 กำเนิดราชาแมลง

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน

ครึ่งวันต่อมา ในห้องลับบนเกาะศักดิ์สิทธิ์ หานลี่นั่งไขว่ห้างอยู่บนฟูก ตรงหน้าของเขาเป็นลำแสงลูกบอลสีเหลืองอ่อนที่ลอยอยู่กลางอากาศ ด้านในนั้นมีน้ำเต้าสีเหลืองขนาดเท่ากับกำมือ

สมบัติชิ้นนี้เป็นหนึ่งในสามสุดยอดสมบัติล้ำค่าที่หานลี่ได้มันมาจากที่ซ่อนสมบัติลับชีหลิง

ส่วนอีกชิ้นหนึ่งเป็นหอกสีฟ้าที่มอบให้แก่อิ๋นเย่ว์

สมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้ายก็คือ “เรือศักดิ์สิทธิ์วิญญาณน้ำหมึก” ลำนั้น!

ภายในหอกสีฟ้าเล่มนั้น มีชิ้นส่วนของสมบัติล้ำค่าที่ไม่แน่ชัดจากแดนสวรรค์ทมิฬรวมอยู่ด้วย และมีลักษณะของทองคำและไม้ที่แปลกประหลาดอยู่หลายอย่าง

ส่วนเรือศักดิ์สิทธิ์วิญญาณน้ำหมึกไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่ แต่ยังมีความเร็วในการหลบหนีน่าประหลาดใจอีกด้วย อีกทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์ที่สามารถหายเข้าไปในความว่างเปล่าได้อีกด้วย เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันกับสมบัติล้ำค่าที่ใช้ในการเหาะเหินในแดนมารสามอันดับแล้ว ก็นับว่าควรค่าแก่ชื่อของมัน

มีเพียงแค่น้ำเต้าสีเหลืองเช่นนี้เท่านั้นที่ไม่รู้ว่าสร้างมาจากของสิ่งใด ไม่เพียงแต่จะมีความสามารถในเขาดูดซับพลังจิตสัมผัสได้แล้ว ฝาปิดของน้ำเต้านั้นดูเหมือนว่ามันฝังแน่นอยู่บนน้ำเต้าเสียอย่างนั้น และไม่สามารถเปิดมันออกด้วยวิธีธรรมดาทั่วไป

ในช่วงเวลาเพียงครู่หนึ่ง หานลี่ยังไม่อาจตรวจสอบได้ว่าข้างในนั้นใส่สมบัติอะไรเอาไว้ และก็ไม่รู้ว่าสมบัติชิ้นนี้มีไว้เพื่อทำอะไร

แต่ทว่าในตอนที่เข้าใช้มือจับน้ำเต้าส่วนบนเอาไว้แล้วเขย่าออกมาเบาๆ กลับมีเสียงดัง “ปังปังปัง” ลอยออกมาจากด้านใน แล้วก็เห็นว่าด้านในนั้นใส่ของที่ไม่เหมือนกันถึงแปดเก้าอย่าง

ด้วยความลึกลับของน้ำเต้าชิ้นนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องดึงดูดความสนใจของหานลี่เข้า

ในตอนที่เขาได้รับสมบัติชิ้นนี้จากแดนมารนั้น เขากล้ำกลืนฝืนกลืนมันลงไปในท้อง ใช้ปราณแท้จนสามารถหลอมรวมมันขึ้นมาได้ทั้งกลางวันกลางคืน

เป็นเช่นนี้หลายวันผ่านไป เมื่อมาถึงวันนี้ สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ในที่สุดก็สามารถหลอมรวมมาได้เกินกว่าครึ่ง และเพียงพอที่จะเปิดออกได้แล้วจริงๆ

ดวงตาหานลี่ปรากฏแสงวูบวาบจ้องมองไปที่น้ำเต้าอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง นิ้วทั้งสิบโผล่ขึ้นมาในทันที

เสียง “ปัง ปัง” ดังขึ้นมา!

อักษรรูนห้าสีหนาแน่นพุ่งออกมา จากนั้นอีกพริบตาเดียว ก็ค่อยๆ หายเข้าไปในน้ำเต้าจนไม่เหลือแม้แต่เงา

“เปิด”

หานลี่เอ่ยออกมาเสียงต่ำ มือข้างหนึ่งก็สร้างตราประทับแปลกประหลาดออกมา จากนั้นก็มีแสงสีทองสว่างวาบขึ้นมาจากด้านหลัง ภูตสามหัวหกปีกสีทองปรากฏออกมา ระหว่างคิ้วนั้นปรากฏเป็นพลังสีดำออกมา หลังจากที่ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาเวทย์สีดำสนิทก็ปรากฏขึ้นมา

ดวงตาเวทย์สีดำวูบไหวไปมาอย่างบ้าคลั่ง เกิดเสียงดังทะลุลอยออกมาในอากาศ ผลึกสีดำมืดพุ่งออกมาจากดวงตา ล้อมรอบพัวพันอยู่ตรงปากของน้ำเต้า

น้ำเต้าทั้งลูกนั้นสั่นไหว ฝาหลุดออกจากด้านบนด้วยอากาศบางเบา

เสียงตูมใหญ่ดังขึ้น!

ลำแสงสีเหลืองพุ่งออกมาจากด้านใน แล้วก็กลายเป็นดินทรายสีเหลืองหนาแน่น

เม็ดทรายเหล่านี้แต่ละเม็ดมีความใสวาวผิดปกติ และดูเหมือนว่าจะมีไออากาศสีเหลืองติดอยู่

และเมื่อมีจำนวนมากมายรวมตัวกันเช่นนี้ จึงกลายเป็นหมอกทรายสีเหลืองลอยอยู่ในชั้นอากาศ จนดูไม่สะดุดตาสักเท่าไร

หานลี่ที่มีท่าทีสงสัยออกมาในตอนแรกนั้น แต่เมื่อใช้จิตสัมผัสกวาดมองเข้าไปในหมอกทรายสีเหลืองแล้ว ก็กลายมาเป็นความประหลาดใจแทน

“เปลวไฟสีทองพายุทราย ที่แท้ก็คือสมบัติประเภทนี้ และยังถูกหลอมรวมใหม่อีกครั้งหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะรวมเข้ากับน้ำเต้านี้ได้อย่างสมบูรณ์ คงต้องขอบคุณบรรพชนชีหลิงท่านนั้น ที่สามารถรวบรวมสมบัติล้ำค่าเอาไว้ได้มากมายเช่นนี้” หานลี่เอ่ยพึมพำออกมา อดไม่ได้ที่จะใช้มือข้างหนึ่งเอื้อมออกไปคว้าหมอกทรายสีเหลืองนั้นเอาไว้

“ชวี่ชวี่” ดังออกมา แรงดูดที่มองไม่เห็นพุ่งออกจากหมอกทรายสีเหลืองในทันที

“ปัง” ดังออกมา ผลึกลำแสงวาบผ่านเข้ามาในหมอกทรายสีเหลือง เม็ดทรายแต่ละเม็ดกลิ้งไปมา จากนั้นก็รวมกันเป็นลูกบอลผลึกใสขึ้นมา พริบตาเดียวก็หนักขึ้นมาทันที

หมอกทรายในตอนที่ลูกบอลทรายปรากฏขึ้นมานั้น จู่ๆ โหมกระพือหนักกว่าเก่า แต่หลังจากที่เคลื่อนไหวอยู่ในระยะสั้นๆ แล้ว ก็หยุดลงอยู่ที่เดิมอย่างกะทันหัน

หานลี่เมื่อเห็นเข้า ไม่เพียงแต่รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

เขาที่ยื่นมือออกไปจับมาเมื่อครู่ แม้ว่าจะไม่ได้แสดงพลังจิตออกมาถึงหนึ่งส่วนสิบของพลังในร่างกาย แต่ว่าพลังอันยิ่งใหญ่นั้น เกรงว่าแม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับผสานอินทรีย์เองก็ยังไม่กล้าที่จะข้องแวะด้วย มาตอนนี้กลับไม่ใช่เพียงแค่ลูกบอลทรายเสียแล้ว

เปลวไฟสีทองพายุทรายอันนี้ช่างดูแปลกประหลาดเสียเหลือเกิน

หานลี่ในฐานะที่เป็นผู้รอบรู้เข้าใจเกี่ยวกับของโบราณที่หายากแล้วนั้น ก็รู้ว่าความเก่งกาจของทรายนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่เผชิญอยู่ในตอนนี้ แต่เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่น่าหวาดกลัวอีกสองอย่าง

“นี้ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่น่ายินดีเสียจริง! สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้จะต้องอยู่เพียงแค่ในมือของข้าเท่านั้น ถึงจะมีอิทธิฤทธิ์ได้มากถึงหนึ่งร้อยยี่สิบส่วน แต่ถ้าหากว่าเปลี่ยนเป็นผู้อื่น เกรงว่าบรรพชนชีหลิงท่านนั้น แม้แต่พลังครึ่งหนึ่งก็ไม่อาจแสดงออกมาได้” หานลี่มุมปากปรากฏรอยยิ้มออกมาทั้งยังเอ่ยกับตนเองอยู่สองสามประโยค จากนั้นก็นำเอาน้ำเต้าที่อยู่กลางอากาศกลับมาอยู่ในมือ ปากเอ่ยท่องอะไรบางอย่าง แล้วจึงยกมือขึ้นให้ของในมือพุ่งไปยังหมอกทรายที่สั่นไหวอยู่ไกลๆ

“ปัง” ดังออกมา!

ลูกบอลทรายนั้นสลายตัวออกไปเอง แล้วจึงม้วนตัวตกลงไปในหมอกทรายใหม่อีกครั้ง

หลังจากที่หมอกทรายเจือจางลงแล้ว กลับกลายเป็นงูหลามสีเหลืองขนาดใหญ่ยักษ์ที่พุ่งเข้าหาน้ำเต้าแทน

น้ำเต้าสีเหลืองอ่อนมีเสียงคำรามดังออกมาจากด้านใน จากนั้นงูหลามสีเหลืองนั้นก็ถูกดูดเข้าไปด้านใน ในขณะเดียวกันลำแสงด้านบนก็สาดส่องลงมา ฝาที่แต่เดิมตกลงมาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงได้ปรากฏขึ้นมาด้านบนอีกครั้ง จากนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนดังเดิมไม่ผิดแปลกไป

แขนเสื้อสะบัดพลิ้วไหว หลังจากที่ลำแสงสีทองม้วนตัวเคลื่อนไหวแล้ว น้ำเต้าในมือของเขาก็หายไปไม่เห็นแม้แต่เงา

และเมื่อหานลี่ที่ได้รับสมบัติล้ำค่ามาแล้ว ก็หลับตาลงภายในห้องลับแห่งนั้นเพื่อปรับลมหายใจ

หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ข้อมือก็สั่นไหว วงแหวนสีดำมืดสนิทลอยออกมา

หานลี่ร่ายคาถาออกมาสองสามประโยค จากนั้นก็ใข้นิ้วมือเคาะลงไปยังวงแหวนนี้อยู่สองสามครั้ง

ภายใต้ลำแสงสีทองอันบ้าคลั่งนี้ ของสีดำมืดบางอย่างพุ่งออกมาจากวงแหวน เพียงแค่พริบตาเดียว ก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่าเงียบไม่ขยับเขยื้อน

เป็นไข่แมลงสีดำที่พื้นผิวถูกปกคลุมไปด้วยเส้นเรียวสีม่วง มีขนาดเหมือนกับแตงโมในปริมาณที่ค่อนข้างมาก

หานลี่มองไปยังไข่ยักษ์นั้น คิ้วค่อยๆ ขมวดขึ้นมา มือข้างหนึ่งเคลื่อนออกมาเล็กน้อย แล้วจึงนำเอาของชิ้นนี้ย้ายไปยังด้านหน้า

นิ้วมือทั้งห้ากางออกจากกัน อีกมือหนึ่งก็กดลงไปบนไข่แมลงสีดำนั้น จากนั้นดวงตาทั้งสองก็หรี่เล็กลงปากขยับเคลื่อนไหวไปมา ราวกับว่ากำลังใช้เคล็ดวิชาลับอะไรเพื่อตรวจสอบอะไรบางอย่าง

หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่หนึ่ง ท่าทางของหานลี่ก็เปลี่ยนไป เผยความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งออกมา

“อีกเพียงแค่นิดเดียวก็จะสามารถทะลุออกมาจากเปลือกได้แล้ว ช่างเถอะ ให้ข้าช่วยอีกแรงเถอะ”

เสียงเอ่ยเพิ่งจบลง! หานลี่ก็สูดลมหายใจเข้าอย่างแรง ชั่วขณะนั้นนิ้วมือทั้งห้าที่กดลงไปบนไข่แมลงก็เกิดลำแสงสีทองขนาดใหญ่ขึ้น พลังจากปราณแท้มหาศาลก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วเข้าไปด้านใน

ไข่แมลงที่แต่เดิมที่ดูไม่โดดเด่นนั้น ลวดลายผลึกสีม่วงบนพื้นผิวนั้นส่องประกายแวววาวขึ้น และในขณะเดียวกันขนาดใหญ่ของมันก็เปลี่ยนไปมาหดตัวเล็กลงไม่แน่นอน

อีกเพียงแค่ชั่วเวลาครู่เดียว เสียงหัวใจ “ปังปัง” เริ่มเต้นดังออกมาจากไข่เหล่านั้น

จากเล็กไปใหญ่ ดังออกมาต่อเนื่อง แล้วค่อยๆ ชัดเจนขึ้นจนน่าผิดปกติ

ดวงตาของหานลี่กะพริบสั่นไหว พลังบริสุทธิ์จากปราณแท้พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ระเบิดออกไม่หยุดนิ่งราวกับว่าน้ำท่วม

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงเต็ม ไข่แมลงสีดำก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ขณะเดียวกันลำแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากด้านใน หลังจากนั้นชั่วครู่ ชายร่างเล็กสูงสามฉือผิวกายสีม่วงทองปรากฏขึ้นจากบนที่สูง

ชายร่างเล็กคนนี้มีมือและเท้าครบ ดวงตาผลึกใสราวกับหยก เพียงแต่เครา ผม ปาก จมูกทั้งหมดนี้ไม่มี ใบหน้าของเขาเหมือนว่าจะเห็นเพียงแค่ประกายแสงสีทองเท่านั้น

“นี่ก็คือราชาแมลงกัดกินทองที่เล่าลือกันสินะ!” หานลี่มองไปยังชายร่างเล็กผิวกายสีม่วงทอง อดไม่ได้ที่จะมีท่าทีแปลกประหลาดขึ้นมา

แต่ว่าในนาทีถัดมา ชายร่างเล็กผิวกายสีม่วงทองที่แต่เดิมดวงตาเอื่อยเฉื่อยสั่นไหวขึ้นมา จากนั้นก็หันไปมองทางด้านหานลี่

และเกือบจะในช่วงเวลาเดียวกันนั้น หานลี่ก็รู้สึกได้ว่าบริเวณต้นคอนั้นหนาวเหน็บขึ้นมา ลำแสงสีทองยาวสองนิ้วลอยออกมาโดยที่ไม่มีสัญญาณใด แล้วทันใดนั้นก็บิดเบี้ยวขึ้นในตรงกลางขึ้นมาทันที

สีหน้าของหานลี่เปลี่ยนไปในทันที ทั้งกายของเขาพร่ามัว แล้วหายออกไปจากที่เดิมราวกับว่าเป็นภูตผี

ลำแสงสีทองก้าวผ่านไปทีละดวง ชั่วขณะก็แวบผ่านพื้นที่ว่างไปไปอย่างเหลือเชื่อ แล้วก็หายลับไปในภวังค์

ด้วยความเปลี่ยนแปลงไปมานี้ ร่างกายของหานลี่ก็ปรากฏขึ้นมาในมุมมุมหนึ่งของห้องลับ

และเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นมา กลับมีใบหน้าประหลาดใจขึ้นมา ทันใดเขาก็ขยับมือขึ้นมาข้างหนึ่ง ลูบลงไปบริเวณต้นคอของเขา

ผลกลายเป็นว่าต้นคอทั้งสองข้างของเขาที่ดูเหมือนจะเรียบเนียนจนผิดปกติ แต่ละด้านกลับปรากฏเป็นเส้นเลือดออกมา ถึงแม้ว่าเส้นเลือดนั้นจะดูเบาบางจนผิดแปลกไปราวกับว่าถูกถูด้วยใบมีดคมอย่างไรอย่างนั้น

และด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายหานลี่ แล้วเขาจะได้รับบาดเจ็บได้โดยง่ายเช่นนี้ได้อย่างไร นี้ช่างเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ!

ในใจของหานลี่ตกตะลึง ดวงตากวาดมองไปยังชายร่างเล็กผิวกายสีม่วงทองที่ยืนอยู่ไม่ไกลแล้ว ท่าทางดูสง่างาม และในทันใดนั้นเขาก็อ้าปากออกมา กัดปลายลิ้นแล้วพ่นละอองเลือดออกมา ขณะเดียวกันนิ้วมือของเขาก็ชี้ออกมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ละอองเลือดของเขาม้วนตัวพุ่งออกมาแล้ว กลับกลายเป็นอักษรรูนสีเลือดที่ไม่รู้จักอยู่ในอากาศ เมื่อถูกหานลี่กระตุ้นเข้า มันจึงเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นราวกับขนาดของถัง จู่ๆ ก็เริ่มที่จะสั่นไหวขึ้นมา

ในขณะเดียวกัน ชายร่างเล็กผิวสีม่วงทองก็สั่นไหว ระหว่างคิ้วของเขาปรากฏอักษรรูนขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดถั่ว แล้วก็หายเข้าไปในหน้าผากจนไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย

หานลี่เอ่ยออกมาเสียงต่ำ ชายร่างเล็กผิวสีม่วงทองก็โค้งคำนับลง กายสั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับว่าได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบางอย่างเข้า

แต่ว่าในวินาทีถัดมา ชายร่างเล็กก็ยืดตัวขึ้นมาในทันที นิ้วมือทั้งสิบชี้ไปยังหานลี่

ประกายดาบยาวแพรวพราวระยิบระยับปรากฏขึ้นตรงหน้าของหานลี่ แล้วฟาดลงมาราวสายฟ้าฟาด

และก่อนที่ประกายของดาบนั้นจะทันได้สัมผัสกับกายของหานลี่นั้น อากาศหนาวเย็นหนาแน่นก็ม้วนตัวลงมาก่อน ปกป้องลำแสงวิญญาณที่ดูเหมือนว่าจะไม่อาจหยุดยั้งมันเอาไว้ได้

และด้วยพลังยุทธ์ในตอนนี้ของหานลี่แล้ว เมื่อสัมผัสเข้ากับความหนาวเย็นนี้เข้า ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านขึ้นมา แขนขาทั้งสี่ของเขาดูเฉื่อยชาขึ้นมา

และเมื่อเห็นประกายแสงแปลกประหลาดของดาบผสมผสานเข้าด้วยกัน แล้วฝาดลงมาตรงที่หานลี่จนหลายเป็นสิบๆ ส่วน จากนั้นลมหายใจหนาวเย็นดังขึ้น

ชายร่างเล็กผิวสีม่วงทอง ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีค้อนขนาดยักษ์กระแทกลงมาอย่างแรงบนศีรษะจนเกิดเสียงหึ่งๆ ดังขึ้นมา กายล้มลงไป อีกเพียงแค่นิดเดียวก็เกือบจะตกลงไปในอากาศ และเมื่อประกายแสงจากดาบนี้รับผลกระทบเข้าก็กระจัดกระจายออกไปโดยไม่รู้ตัว

หานลี่ใช้โอกาสนี้เพื่อบิดกายของเขา แปลงกายเป็นสายฟ้าสายหนึ่งเพื่อหลบหนีจากประกายขอบดาบ

และเกือบจะในเวลาเดียวกันนั้น อักษรรูนสีเลือดขนาดใหญ่ก็ได้กลายเป็นกลุ่มลำแสงเลือดพุ่งตรงไปยังหานลี่

ดวงตาของหานลี่เป็นประกายขึ้นมา ระหว่างคิ้วจู่ๆ ก็ปรากฏเป็นผลึกจิตสัมผัสออกมานับไม่ถ้วน แล้วทั้งหมดก็หายไปยังอักษรรูนสีเลือด

อักษรรูนที่แต่เดิมนั้นเคลื่อนไหวไปมา จู่ๆ ก็กลายเป็นหนาแน่นขึ้นมา แล้วก็เริ่มที่จะเคลื่อนไหวมาอย่างกะทันหัน

จู่ๆ ก็เกิดเสียงแหลมคมขึ้นมา ตามมาด้วยเสียง “ปัง ปัง” ดังออกมา จากนั้นก็พลิกกายแล้วล้มลงไป