บทที่ 1911 สมกับที่เป็นพี่ชายน้องสาวกันจริงๆ
หลังจากฟังมาครึ่งค่อนวัน ถึงแม้เยี่ยหวันหวั่นจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เนี่ยอู๋หมิงกล่าวสักเท่าไร แต่กลับรู้สึกว่าคำพูดของเขาค่อนข้างมีน้ำหนัก…
“อีกอย่างนะ เธอลืมของที่ฉันขายให้เธอ ตอนที่เราเจอกันครั้งแรกไปแล้วเหรอ?” หลังพูดจบ ใบหน้าของเนี่ยอู๋หมิงก็ปรากฏแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาอีกครั้ง
เยี่ยหวันหวั่นจะลืมของที่ซื้อมาจากแผงของเนี่ยอู๋หมิงได้ยังไง เพราะมันทำให้เธอดูมีออร่าเปล่งประกายในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของตระกูลเยี่ย
“งานหัตถกรรมพวกนั้นเป็นฝีมือของฉันทั้งนั้นแหละ ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ฉันเลยรู้เรื่องพวกนี้ดี นี่เป็นแหวนเป็ดแมนดารินแน่นอน เธอวางใจเถอะ” เนี่ยอู๋หมิงกล่าว
“เอาล่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นไม่มีอะไรจะพูด แต่ที่เนี่ยอู๋หมิงกล่าวไว้ก็ไม่ผิดเลย ในเรื่องนี้เนี่ยอู๋หมิงค่อนข้างรอบรู้มากกว่าผู้อาวุโสใหญ่มาก ยังไงซะ เนี่ยอู๋หมิงก็สามารถทำงานฝีมือด้วยตัวเองได้ อีกทั้งฝีมือของเขานั้นดีถึงขั้นหาตัวจับยาก ความจริงข้อนี้ไม่สามารถหักล้างได้
“แต่ก็นะ…พูดกันตามตรง แหวนเป็ดแมนดารินของผู้ชายนั้นทำได้ประณีตมาก แต่พอเทียบกับแหวนของเธอแล้ว แหวนของเธอดูสวยกว่า อีกอย่างฝีมือแกะสลักต้นไม้ต้นนี้ก็ดูพิถีพิถันมาก…น้องสาว ฉันให้เธอร้อยนึง ขายให้ฉันเถอะนะ” เนี่ยอู๋หมิงกล่าวพลางหัวเราะแหะๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็เหลือบตามองเนี่ยอู๋หมิงทันที “ไม่ขาย”
“เธอดูความขี้งกของตัวเองสิ ฉันเกลียดเธอจริงๆ” เนี่ยอู๋หมิงเหลือบตามองเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก อะไรที่ทำให้เขามั่นใจจนกล่าวหาว่าเธอขี้งก ถึงเธอจะขี้งกจริง แต่เมื่อเทียบกับเนี่ยอู๋หมิงแล้ว เธอใจป้ำกว่าเขามาก…ช่างสมกับที่เป็นพี่ชายน้องสาวกันจริงๆ…
หลังจากส่งเนี๋ยอู๋หมิงกลับไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ติดต่อจี้ซิวหร่านอีกครั้ง
ย้อนกลับไปในปีนั้น เธอเป็นคู่หมั้นของจี้ซิวหร่าน หากนี่คือแหวนเป็ดแมนดารินจริงๆ แล้วละก็ แหวนวงนี้ต้องเป็นแหวนของจี้ซิวหร่านอย่างแน่นอน
ไม่นานนัก จี้ซิวหร่านก็มาถึงที่นัดหมายอย่างตรงเวลา
ชายหนุ่มแอบอมยิ้มกรุ้มกริ่ม และนั่งลงข้างๆ เยี่ยหวันหวั่นอย่างเป็นธรรมชาติ
“มีเรื่องด่วนเหรอ” จี้ซิวหร่านจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น มุมปากของเขา ยังคงมีรอยยิ้มราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
“อันนี้…เป็นของคุณรึเปล่าคะ” เยี่ยหวันหวั่นหยิบแหวนของผู้ชายขึ้นมาแล้ววางลงข้างกายของจี้ซิวหร่าน
จี้ซิวหร่านเหลือบมองแหวนด้วยหางตาแล้วอมยิ้ม แล้วกล่าวว่า “จะเป็นของผมได้ยังไง ตอนงานประมูลผมเคยบอกคุณแล้วว่า ผมสวมแหวนวงนั้นแค่วงเดียว และนายแห่งอาชูร่าก็ประมูลไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่ของคุณเหรอคะ…”
เยี่ยหวันหวั่นทำหน้างุนงงถึงขีดสุด ตกลงแล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่!
แหวนเป็ดแมนดารินของผู้หญิงเป็นของเธอ ส่วนแหวนเป็ดแมนดารินของผู้ชาย ต้องไม่ใช่ของซือเยี่ยหานแน่นอน เพราะซือเยี่ยหานไม่รู้ที่มาของแหวน และคุณสมบัติของแหวนวงนี้เลย…กระทั่งตอนนี้ แม้แต่จี้ซิวหร่านก็ยังปฏิเสธ…
เป็นไปได้ไหมว่า…ตัวเองเคยไปสวมแหวนเป็ดแมนดารินคู่กับคนอื่นอีก?!
ในขณะนี้ สมองของเยี่ยหวันหวั่นกำลังประมวลความน่าเหลือเชื่อที่สุดแห่งปี แม้แต่ลมหายใจก็ยังปฏิเสธเธอทั้งหมด ว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน
หากเนี่ยอู๋โยวเคยสวมแหวนเป็ดแมนดารินกับผู้ชายคนอื่น เกรงว่าคงเป็นข่าวฉาวไปทั่วทั้งรัฐอิสระนานแล้ว…
อีกอย่าง เนี่ยหลิงหลงกับเนี่ยอู๋โยวตัวปลอม ต้องพูดจายุแยงตะแคงรั่วให้จี้ซิวหร่านได้ยินแน่นอน นี่เท่ากับเป็นการหักหน้าจี้หวงอย่างแรง…
นี่ไม่ใช่แหวนแม่ลูก แต่ก็ตามหาเจ้าของแหวนเป็ดแมนดารินที่เป็นผู้ชายไม่เจอเช่นกัน…
“เอ่อคือ…แล้วคุณรู้จักแหวนสองวงนี้ไหมคะ”
เยี่ยหวันหวั่นยื่นแหวนเป็ดแมนดารินให้จี้ซิวหร่าน
“ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยครับ แต่ดูจากลวดลายและขนาด น่าจะเป็นแหวนคู่รักเป็ดแมนดาริน ทำไมเหรอ คุณจะให้ผมเหรอ” ดวงตาของจี้ซิวหร่านฉายแววอ่อนโยน พร้อมกับเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
เข้าใจผิด นี่เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว…
—————————————————————-
บทที่ 1912 ช่วยสุภาพหน่อยได้ไหม?
“เอ่อ…นี่ไม่ใช่ของของฉันหรอกค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นกล่าวด้วยความเขินอายเล็กน้อย
“ผมแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง” จี้ซิวหร่านหัวเราะเบาๆ
ก่อนหน้านี้ เยี่ยหวันหวั่นเคยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดของเนี่ยอู๋หมิง แต่ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นกลับเชื่อหมดใจ เพราะแม้แต่จี้ซิวหร่านก็บอกว่า นี่คือแหวนคู่รักเป็ดแมนดาริน น่าจะไม่ผิดแน่
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกปวดหัวแทบระเบิด แหวนเป็ดแมนดารินผู้หญิงเป็นของเธอ แต่แหวนเป็ดแมนดารินผู้ชายมีที่มาอย่างไร ยังคงเป็นปริศนา…
“เสี่ยวเฟิง แหวนวงนี้ยังมีความหมายอื่นอีกไหม” จี้ซิวหร่านถามด้วยความสงสัย
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นตอบพลางส่ายหัว
สำหรับจี้ซิวหร่านนั้น เยี่ยหวันหวั่นไม่คิดร้ายกับเขาแน่นอน และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำด้วย หากจี้ซิวหร่านคิดจะทำร้ายเธอ เกรงว่าเธอคงตายไปนานแล้ว คงไม่อยู่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้
“เสี่ยวเฟิง แหวนเป็ดแมนดารินที่เธอสวม น่าจะมีอายุหลายปีแล้ว ฝีมือในการทำไม่ใช่แนวของยุคนี้ และแหวนอีกวงก็ทำจากวัสดุที่ใหม่กว่า แหวนสองวงนี้น่าจะไม่ได้อยู่ในยุคเดียวกัน” จี้ซิวหร่านหัวเราะเบาๆ
“คุณจะบอกว่า แหวนคู่นี้ไม่ใช่แหวนเป็ดแมนดารินเหรอคะ?” เยี่ยหวั่นหวั่นถามด้วยความสงสัย
“เป็นแหวนเป็ดแมนดารินนั่นแหละ” จี้ซิวหร่านตอบ “แต่มันแปลกนิดหน่อยที่แหวนสองวงนี้ ไม่ได้ทำขึ้นโดยคนๆ เดียวกัน และอาจไม่ได้ทำขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันด้วยซ้ำ ผมก็ไม่เข้าใจ ไม่ค่อยเจอเหตุการณ์แบบนี้”
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นอยากร้องไห้มากแต่ไม่มีน้ำตา ตอนแรกคิดว่าความจริงของแหวนจะปรากฏแล้ว แต่ไม่คิดเลย…ว่าเรื่องราวจะยิ่งสลับซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ!
หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับจี้ซิวหร่านแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็กลับไปยังพันธมิตรอู๋เว่ย เพื่อไปรับต้าไป๋กับบีรุส และลืมเรื่องแหวนไปเสียสนิท
หรือว่า ต้องขอให้ผู้อำนวยการของโรงเรียนชื่อเยี่ยนสะกดจิตให้ตัวเองเสียก่อน เผื่อจะจำอะไรได้บ้าง
เช้าตรู่ของอีกวัน เยี่ยหวันหวั่นก็ขอให้เป่ยโต่วขับรถพาตัวเองไปยังโรงเรียนชื่อเยี่ยน
……
เมื่อมาถึงเขตประกาศภารกิจของโรงเรียนชื่อเยี่ยน ก็มีทหารรับจ้างระดับสูงหลายคนเข้ามาขวางทางเยี่ยหวันหวั่นไว้
“บอส ในที่สุดบอสก็กลับมาแล้ว” ทหารรับจ้างระดับ S คนหนึ่งมองมายังเยี่ยหวันหวั่นพร้อมกล่าว “ช่วงนี้เราโชคดีมาก เราทำคะแนนเกียรติยศได้มาทั้งหมดห้าหมื่นแต้ม…”
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
หลังจากยืนยันความถูกต้องของคะแนนทหารรับจ้างแล้ว เยี่ยหวั่นหวั่นก็ไม่พูดอะไรสักคำ แล้วรีบโทรหาผู้อาวุโสสอง และขอให้ผู้อาวุโสสองเอาเงินมาก้อนหนึ่ง เพื่อจ่ายเงินค่าจ้างให้กับทหารรับจ้างระดับ S
“บอส เรายังต้องรับทำภารกิจต่อไปอีกไหม?”
ทหารรับจ้างหลายคน มองดูยอดเงินในบัตรด้วยความพึงพอใจ ใบหน้ามีรอยยิ้มและความใส่ใจที่เพิ่มมากขึ้น
“ฮ่าๆ บอส บอสอู้ฟู่จริงๆ พวกเราเคยคิดกันนะว่าถ้าบอสไม่จ่ายเงิน เราจะฆ่าบอสทิ้งซะ…” ทหารรับจ้างระดับ S ที่มีร่างกายสูงใหญ่คนหนึ่งหัวเราะอย่างเซ่อๆ
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ช่วยสุภาพกว่านี้หน่อยได้ไหม
“บ้าบอ พวกเราวางแผนฆ่าบอสตั้งแต่เมื่อไรกัน บอสอย่าไปฟังเขาพูดจาเหลวไหล!”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่แปลได้ว่า ฉันรู้แล้ว
“รับภารกิจต่อไปเถอะ” ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ออกคำสั่ง
“ครั้งนี้พวกเราโชคดีที่ทำภารกิจจบได้โดยเร็ว บอสครับ นี่เป็นงานใหญ่ คงไม่ได้จำกัดเวลาใช่ไหม” ทหารรับจ้างระดับ S คนหนึ่งเอ่ยถาม
“ไม่จำกัดเวลา” เยี่ยหวันหวั่นตอบเขาในทันที
เมื่อได้รับคำมั่นสัญญาจากเยี่ยหวันหวั่นแล้ว ทหารรับจ้างระดับ S หลายคนก็ตอบรับภารกิจกันเป็นจำนวนมาก ภายในนามของเยี่ยหวันหวั่น
ส่วนเยี่ยหวันหวั่นหลังจากได้รับคะแนนทหารรับจ้างห้าหมื่นคะแนนแล้ว ก็เตรียมตัวไปพบผู้อำนวยการเพื่อสะกดจิต เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าแหวนวงนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร