บทที่ 1909 มีอะไรพิเศษ
“ไม่ใช่…เรื่องสินสอดหมั้นหมายหรอกเหรอ…เธอก็รีบบอกก่อนสิ ฉันตกใจแทบแย่…” เนี่ยอู๋หมิงยิ้มแหย จากนั้นก็มองแหวนในมือของเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยว่า “แหวนวงนี้…ไม่ใช่วงเดียวกับที่เธอเคยให้ฉันดูหรอกเหรอ”
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้นก็รีบตอบ “ไม่เลวนี่ มันคือวงเดียวกับที่ฉันให้คุณดูครั้งก่อนนั่นแหละ”
“ให้ตายสิ…เธอคงไม่ได้มาหาฉันเป็นพิเศษเพราะแหวนวงนี้หรอกนะ?” เนี่ยอู๋หมิงทำหน้างง “ค่าตัวฉันจะขึ้นลงหลายร้อยเหรียญทุกๆ นาที เวลาของฉันมีค่ามาก…”
“อย่าเพ้อเจ้อ” เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเนี่ยอู๋หมิง “ตกลงว่าคุณรู้จักไหม”
“ก็แค่แหวนวงเดียวไม่ใช่เหรอ ส่วนมันจะทำอะไรได้บ้างนั้น ฉันก็จนปัญญา” เนี่ยอู๋หมิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่รู้จักจริงๆ เหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิงด้วยความคลางแคลงใจเล็กน้อย
แหวนที่อยู่ในหอสมุดของพันธมิตรอู๋เว่ย เป็นแค่หนึ่งในสิ่งของที่ขโมยมาจากตระกูลเนี่ยเท่านั้น ถ้าว่ากันตามหลักแล้ว แหวนสองวงนี้เป็นแหวนแม่ลูก จึงมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก เนี่ยอู๋หมิงเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเนี่ย เขาจะไม่รู้จักได้ยังไง
“คุณอย่ามาโกหกฉัน ฉันไม่ได้ถามเล่นๆ นะ” เยี่ยหวันหวั่นแทบจะทนไม่ไหว
“ฉันจะบอกให้นะน้องโหย่วหมิง มิตรภาพของเราเป็นยังไง…กะอีแค่แหวนวงเดียวฉันจะไปโกหกเธอทำไมล่ะ รู้จักก็บอกรู้จัก ไม่รู้จักก็บอกไม่รู้จักสิ ฉันก็พูดกับเธอจริงจังเหมือนกัน ว่าฉันไม่รู้จักจริงๆ” เนี่ยอู๋หมิงกล่าวอย่างจนใจ
เยี่ยหวันหวั่นพิจารณาเนี่ยอู๋หมิงอย่างละเอียด ก็เห็นได้ชัดว่าเนี่ยอู๋หมิงไม่ได้โกหกเธอ เขาไม่รู้เรื่องที่มาที่ไปของแหวนวงนี้จริงๆ
“น้องสาว เธอจะตะบี้ตะบันถามฉันเรื่องแหวนวงนี้ไปทำไม อย่าบอกนะว่าแหวนวงนี้มีอะไรพิเศษเหรอ” ใบหน้าของเนี่ยอู๋หมิงเต็มไปด้วยคำถาม
เยี่ยหวันหวั่นส่ายหัวทันที เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าแหวนวงนี้ทำอะไรได้บ้าง ถ้ารู้จะก็คงไม่มาถามเขาหรอก
“งั้น…มีความประทับใจอะไรกับแหวนวงนี้บ้างไหม…”
ในตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็หยิบแหวนแม่ลูกอีกวงที่เอามาจากหอสมุดของพันธมิตรอู๋เว่ย ยื่นให้เนี่ยอู๋หมิง
“นี่มันไม่ใช่แบบเดียวกันกับแหวนของเธอเหรอ…” ใบหน้าของเนี่ยอู๋หมิงดูสับสนเล็กน้อย
“คุณลองดูให้ละเอียดๆ สิ” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้น เนี่ยอู๋หมิงก็พลิกดูต่อไป จนเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็เอ่ยว่า “ไม่ค่อยเหมือนจริงๆ แฮะ…ไม่ว่าจะวัสดุหรือฝีมือในการทำแหวนก็เทียบไม่ได้กับวงที่เธอมี”
เนี่ยอู๋หมิงพูดเหมือนกับที่ผู้อาวุโสใหญ่บอกทุกคำ เยี่ยหวันหวั่นเองก็รู้มานานแล้ว
“นี่น่าจะเป็นแหวนแม่ลูกนะ…คุณไม่คุ้นสักนิดเลยเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
แหวนวงนี้ถูกขโมยมาจากตระกูลเนี่ย ถ้าพูดตามหลักการแล้ว ถ้าแหวนวงนี้มีความสำคัญจริง เนี่ยอู๋หมิงคงไม่เพิกเฉยเช่นนี้
“แหวนแม่ลูกงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดดังนั้น เนี่ยอู๋หมิงก็จ้องไปยังเยี่ยหวันหวั่นด้วยท่าทางงุนงง
“ใช่ บนมือฉันเป็นวงแม่ อีกวงเป็นวงลูก” เยี่ยหวันหวั่นอธิบาย
“บ้าฉิบ…น้องสาว นี่เธอดูถูกฉันว่าไม่มีการศึกษาเหรอ? เนี่ยอู๋หมิงเขวี้ยงแหวนลงบนโต๊ะ “แหวนแม่ลูกกะผีสิ”
“นี่ไม่ใช่แหวนแม่ลูกเหรอ?”
เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าประหลาดใจ เมื่อกี้ผู้อาวุโสใหญ่เพิ่งบอกว่านี่เป็นแหวนคู่แม่ลูกชัดๆ
“ไม่ใช่แหวนคู่แม่ลูกแน่นอน นี่มันแหวนเป็ดแมนดารินชัดๆ” เนี่ยอู๋หมิงหัวเราะพร้อมกล่าว “ฉันเคยตั้งแผงลอยขายเครื่องประดับในประเทศจีนนะ ฉันคุ้นเคยกับของพวกนี้ดี!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
เมื่อลองนึกดูดีๆ ตอนที่เจอกับเนี่ยอู๋หมิงครั้งแรก เนี่ยอู๋หมิงก็กำลังตั้งแผงลอยขายของจริงๆ…
“แหวนเป็ดแมนดารินเหรอ…” เยี่ยหวันหวั่นเริ่มงุนงงมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเข้าใจที่ผู้อาวุโสใหญ่บอกเรื่องแหวนแม่ลูก แต่แหวนเป็ดแมนดารินนั้นหมายความว่ายังไง
ในตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นจ้องเนี่ยอู๋หมิงเขม็ง แล้วหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยถามเขาว่า “เอ่อคือ…แหวนเป็ดแมนดารินคืออะไรเหรอ?”
——————————————————
บทที่ 1910 แหวนคู่รัก
เนี่ยอู๋หมิงวางแก้วกาแฟในมือลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา พลางจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยความประหลาดใจ “ให้ตายสิ น้องสาว ไม่เอาน่า…แม้แต่แหวนเป็ดแมนดารินเธอก็ไม่รู้จักเหรอ…แหวนเป็ดแมนดารินไง เป็ดแมนดารินมันอยู่กันเป็นคู่ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากแหวนคู่รัก”
“แหวนคู่รักงั้นหรอ?”
สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นดูแปลกไป แหวนในมือของตัวเอง กับแหวนที่ขโมยมาจากตระกูลเนี่ยเป็นแหวนคู่รักเหรอ?! นี่เป็นเรื่องตลกระดับโลกเลยมั้ง
ถ้าบอกว่าเป็นแหวนแม่ลูก เยี่ยหวันหวั่นยังพอเข้าใจ แต่แหวนคู่รักนี่เป็นเรื่องบ้าบออะไรกัน ถ้านี่เป็นแหวนคู่รักจริง แล้ว…แล้วแหวนอีกวงเป็นของใครล่ะ?
ซือเยี่ยหานไม่รู้ความหมายของแหวนด้วยซ้ำ หรือว่า…จะเป็นตัวเองในตอนนั้น…กับจี้ซิวหร่าน?!
มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ซือเยี่ยหานเก็บรักษาแหวนคู่รักของตัวเองกับจี้ซิวหร่านเป็นอย่างดีมานานหลายปี…ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า…หากซือเยี่ยหานรู้ความจริงขึ้นมา…
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกสั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้ ฉายาราชาน้ำส้มสายชูแห่งเอเชียไม่ได้ถูกมอบให้โดยเปล่าประโยชน์ หากซือเยี่ยหานล่วงรู้ความจริง แหวนวงนี้ก็เป็นมหันตภัยชัดๆ!
“ผิดแล้ว…ผู้อาวุโสใหญ่ของพันธมิตรอู๋เว่ยบอกว่านี่เป็นแหวนแม่ลูก ผู้อาวุโสใหญ่มีความรู้รอบด้าน นับเป็นคนที่รอบรู้ที่สุดของพันธมิตรอู๋เว่ยเลยนะ…” เยี่ยหวันหวั่นบ่นพึมพำ
หากต้องให้เลือกระหว่างผู้อาวุโสใหญ่กับเนี่ยอู๋หมิง เยี่ยหวันหวั่นจะต้องเลือกเชื่อถือผู้อาวุโสใหญ่อย่างแน่นอน…อย่างน้อยผู้อาวุโสใหญ่ก็ค่อนข้างน่าเชื่อถือมากกว่า
“แล้วผู้อาวุโสใหญ่ของพวกเธอ…เขามีเมียไหมล่ะ?” ในตอนนี้ เนี่ยอู๋หมิงมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วถาม
เมื่อได้ยินเนี่ยอู๋หมิงถามดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็ส่ายหัวทันที แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้อาวุโสใหญ่มีเมีย
“เห็นไหม นั่นก็ถูกแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่แห่งพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเธอ มีชื่อเสียงมากในรัฐอิสระ ในเรื่องไม่มีลูกมีเมีย ไม่มีลูกสะใภ้ ว่ากันว่าตั้งแต่หนุ่มจนแก่ไม่เคยมีความรัก เธอว่าคนแบบนี้ เขามีความรู้กว้างขวาง ความรู้หลายแขนงไม่ใช่ปัญหา แต่เรื่องแหวนเป็ดแมนดาริน…เรื่องราวเกี่ยวกับคู่รัก เขาเข้าใจกับผีน่ะสิ” ใบหน้าของเนี่ยอู๋หมิงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ในขณะที่เขาคุยโวไปเรื่อยๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็มีท่าทางครุ่นคิด สายตาของเธอจับจ้องไปยังเนี่ยอู๋หมิง ในใจของเธอแบ่งออกเป็นสองทีม มีเวลาให้เตะบอลเข้าประตูสิบวินาที แล้วจากนั้นก็เอ่ยถามว่า “งั้น…คุณล่ะ มีแฟนแล้วหรือยัง…”
เนี่ยอู๋หมิงพูดไม่ออก
“เหอะๆ…แฟนน่ะ ตอนเกิดไม่ได้เอามา ตายไปก็เอาไปไม่ได้…ฉันไม่มีหรอกนะ” เนี่ยอู๋หมิงส่ายหัวด้วยท่าทางจริงจัง
“แต่…ถึงตอนนี้จะไม่มี แต่ในอดีตก็เคยมีนะ…” เนี่ยอู๋หมิงกล่าวเสียงเรียบ
“โอ๊ะ? สาวบ้านไหนตาบอดขนาดนั้นเนี่ย?” เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกอยากกินเผือกขึ้นมาทันที
ทันใดนั้น เนี่ยอู๋หมิงก็ตกอยู่ในภวังค์โดยไม่มีลางบอกเหตุ มีแววประหลาดปรากฏในดวงตาของเขา เป็นความรู้สึกโดดเดี่ยวที่อธิบายไม่ได้
เยี่ยหวันหวั่นที่เห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น ดูแล้วเรื่องนี้ท่าจะยาว…
“มันเป็นเรื่องในอดีตทั้งนั้น ใครไม่เคยมีความรักร้อนแรงแบบวัยรุ่นบ้าง…ใครไม่เคยมีรักหวานแหววบ้าง…
เธอไม่ต้องไปสนใจเรื่องพวกนั้นหรอก ฉันจะบอกเธอตามตรงนะ ว่านี่ไม่ใช่แหวนคู่แม่ลูกล้านเปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นแหวนแม่ลูกจริง ฉันยอมให้เธอกระทืบหัวฉันเลย แหวนสองวงนี้เป็นแหวนเป็ดแมนดารินจริงๆ” เนี่ยอู๋หมิงกล้าสาบาน
จากนั้น เนี่ยอู๋หมิงก็ขอให้เยี่ยหวันหวั่นถอดแหวนออกทันที และเริ่มทำการเปรียบเทียบแหวนทั้งสองวง
“เธอดูนะ เรามาวิเคราะห์วัสดุกันก่อนเลย ถ้าเป็นแหวนแม่ลูก คนทำแหวนต้องเป็นคนๆ เดียวกัน มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่แหวนทั้งสองวงจะเป็นคนละเกรดกัน
อย่างที่สอง ดูลวดลายที่ด้านหลังสิ แหวนวงนั้นของเธอไม่มีลายเส้น ส่วนแหวนวงนี้กลับมีลายเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย ทั้งหมดดูเหมือนต้นอ่อนต้นเล็กๆ ต้นกล้าเป็นตัวแทนของผู้ชาย และดอกไม้เป็นตัวแทนของผู้หญิง อย่างสุดท้าย แหวนของเธอเป็นขนาดของผู้หญิง และแหวนอีกวงก็เห็นได้ชัดว่าเป็นขนาดนิ้วของผู้ชาย ถ้าเป็นแหวนแม่ลูกจะแบ่งเพศไปทำไมล่ะ? บ้าบอ” เนี่ยอู๋หมิงอธิบายยาวเหยียด