บทที่ 1907 พวกเราไม่ได้ปล้นมา
แหวนสองวงมีหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ จึงค่อนข้างน่าเหลือเชื่อไม่น้อย เยี่ยหวันหวั่นมั่นใจว่าแหวนสองวงนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน ถ้าหาที่มาของวงหนึ่งได้ ก็จะสามารถรู้ได้ว่าแหวนของตัวเองมีที่มายังไง และทำอะไรได้บ้าง
ก่อนหน้านี้ที่ซือเยี่ยหานเคยบอกว่า เธอเป็นคนมอบแหวนวงนี้ให้ซือเยี่ยหานด้วยตัวเอง และมันเป็นเครื่องประดับที่มีค่าที่สุดของเธอ รวมถึงตอนอยู่ประเทศจีนก็มีผู้มีฝีมือจะมาฉกเอาไป ดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นจึงสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ถึงคุณสมบัติของแหวนและที่มาของมัน
“เรื่องนี้เหรอ…ผู้นำเป็นคนทำจริงๆ นะ…”
ผู้อาวุโสใหญ่ก้าวขึ้นมาข้างหน้าพลางมองแก้วแหวนเงินทอง และวัตถุโบราณที่อยู่ในตู้อย่างครุ่นคิด
“แล้วนายยังจำได้ไหมว่าเอามาจากที่ไหนบ้าง” เยี่ยหวันหวั่นมองผู้อาวุโสใหญ่แล้วเอ่ยถาม
“ผมเคยเข้าร่วมมือกับผู้นำสองสามครั้งนะ…ย่อมจำได้แน่นอน….” จากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็จ้องไปยังตู้ใบนั้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด “เหมือนว่าจะปล้นมาจากตระกูลเสิ่น…” ผู้อาวุโสใหญ่ตอบ
“ตระกูลเสิ่นเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึงไปชั่วขณะ
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ผู้อาวุโสใหญ่ก็ส่ายหัว “ไม่ใช่ ตอนนั้นที่ปล้นจากตระกูลเสิ่นมามีแต่ทองคำแท่ง…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
“อ๋อ…ผมคิดออกแล้ว พวกเราไม่ได้ปล้นมา” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว
“พวกเราไม่ได้ปล้นมา…งั้นมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เยี่ยหวันหวั่นงงเป็นไก่ตาแตก
“ผู้นำ ลืมไปแล้วเหรอ ของพวกนี้พวกเราขโมยมาต่างหาก…” ผู้อาวุโสใหญ่จ้องเยี่ยหวันหวันเขม็ง พลางหัวเราะเบาๆ “นับดูแล้ว เหมือนจะหลายปีมาแล้วนะ”
“ขะ…ขโมยมาเหรอ?! ให้ตายสิ ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง นี่พวกเราเคยทำเรื่องไร้มโนธรรมขนาดนี้เลยเหรอ…พันธมิตรอู๋เว่ยทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร…ถึงได้ทำเรื่องลักเล็กขโมยน้อยแบบนี้” เป่ยโต่วมองไปยังผู้อาวุโสใหญ่และเยี่ยหวันหวั่น ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจสุดแสน
แม้ว่าพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเขาจะใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องนัก แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องอย่างลักเล็กขโมยน้อยมาก่อน
“ลักเล็กขโมยน้อยอะไร?” เมื่อได้ยินเป่ยโต่วกล่าวดังนั้น ผู้อาวุโสใหญ่ก็เหลือบตามองเป่ยโต่ว “แกน่าจะเข้าใจคำคำนี้ผิดไปนะ”
เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่ตู้ตามจิตใต้สำนึก นอกจากบรรดาอัญมณีแก้วแหวนเงินทองตระการตา ยังมีภาพวาดลายสือศิลป์…ของเหล่านี้ห่างไกลจากคำว่าเล็กน้อยไปมาก...
เป่ยโต่วจ้องไปยังตู้ใบนั้นอย่างครุ่นคิด ไม่นานนักก็นึกขึ้นได้ทันที “จอมโจรเจียงหยาง!”
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจเป่ยโต่วอีก เธอมองไปยังผู้อาวุโสใหญ่แล้วเอ่ยถาม “ผู้อาวุโสใหญ่ ยังจำได้ไหมว่าเรา…ไปขโมยมาจากที่ไหน”
“จำได้สิ” ผู้อาวุโสใหญ่พยักหน้า “พวกเราเคยไปขโมยกันครั้งหนึ่ง ขโมยที่บ้านตระกูลเนี่ย”
“ตระกูลเนี่ย…”
เมื่อผู้อาวุโสใหญ่กล่าวดังนั้น ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็เต็มไปด้วยความงุนงง ทำไมพวกเขาต้องไปขโมยของที่บ้านตระกูลเนี่ยด้วย…
แบบนี้ไม่ค่อยถูกต้องนัก น่าจะเป็นทำไมตระกูลเนี่ยถึงมีแหวนแบบเดียวกันกับแหวนของเธอมากกว่า
“เอ๊ะ…พี่เฟิง ทำไมแหวนมีสองวงแล้วล่ะ” เป่ยโต่วจ้องมองแหวนบนนิ้วของเยี่ยหวันหวั่น จากนั้นจึงมองแหวนที่อยู่ในมือของหญิงสาว ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงง
“ผู้อาวุโสใหญ่ มาดูแหวนวงนี้สิ” เยี่ยหวันหวั่นยื่นแหวนที่หยิบมาจากตู้ส่งให้เขาดู
ผู้อาวุโสใหญ่รับแหวนมาแล้วพินิจมองอย่างละเอียด จากนั้นไม่นานก็กล่าวว่า “แหวนวงนี้กับวงที่ผู้นำสวมอยู่มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว”
“โอ้…” เยี่ยหวันหวั่นอึ้งไปเล็กน้อย
“อันดับแรกเลยนะ วัสดุที่ใช้ทำแหวนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แหวนวงนี้ไม่ได้มีราคาเหมือนกับวงที่ผู้นำสวมอยู่ อย่างที่สองคือฝีมือในการทำแหวน แม้ว่าแหวนวงนี้จะสวยงามเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับของผู้นำแล้ว แหวนวงนี้เกรดต่ำกว่าอย่างน้อยสองระดับ อีกอย่างคือด้านหลังของแหวนวงนี้มีลวดลายเพิ่มขึ้นมา ถ้าไม่สังเกตให้ดีก็แทบจะแยกไม่ออก”
————————————————-
บทที่ 1908 หน้าด้านหน้าทนเกินไปแล้ว
เมื่อผู้อาวุโสใหญ่กล่าวจบ ก็ยื่นแหวนคืนให้กับเยี่ยหวันหวั่น
ในส่วนของวัสดุและฝีมือในการทำนั้น เยี่ยหวันหวั่นดูไม่ออก และไม่เห็นด้วยซ้ำว่ามีลายอยู่ด้านหลังแหวน แต่หลังจากที่ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว เยี่ยหวันหวั่นจึงพิจารณาแหวนอย่างละเอียด และพบว่าเป็นเหมือนกับที่ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวทุกประการ แหวนมีลวดลายเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ต้องนำแหวนสองวงนี้มาวางไว้ด้วยกันแล้วทำการเปรียบเทียบ จึงจะเห็นถึงความแตกต่าง
“ถ้าหาก…ฉันเดาไม่ผิดนะ นี่คงเป็นแหวนแม่ลูก” ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยออกมา
“แหวนตัวอักษร ? แหวนตัวอักษร ABCD น่ะเหรอ?” เป่ยโต่วดูงุนงงเป็นอย่างมาก
ผู้อาวุโสใหญ่ไม่สนใจเป่ยโต่วด้วยซ้ำ เขาอธิบายให้เยี่ยหวันหวั่นฟังต่อไป “ที่บอกว่าแหวนแม่ลูกคือแหวนคู่ วงหนึ่งเป็นแหวนหลัก ส่วนอีกวงเป็นแหวนเสริม…ตัวอย่างเช่น ถ้าสัญลักษณ์สูงสุดของพันธมิตรอู๋เว่ยคือแหวนหนึ่งวง เช่นนี้ ผู้นำก็คือแหวนหลัก คือเป็นตัวแทนระดับสูงสุด ส่วนผมที่เป็นผู้อาวุโสใหญ่ ถ้าผู้นำชื่นชมผมก็จะให้แหวนเสริมกับผมหนึ่งวง เพื่อแสดงว่าทั้งพันธมิตรอู๋เว่ยนี้ นอกจากผู้นำแล้ว ผมก็มีสถานะสูงสุดเช่นกัน อะไรประมาณนี้”
“ให้ตายสิ…ผู้อาวุโสใหญ่ นายมันหน้าด้านหน้าทนเกินไปแล้ว นี่จะบอกเป็นนัยๆ ใช่ไหม…โอ้วไม่ ชัดเลย!”
“กองกำลัง…แหวน…แหวนแม่ลูก…” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น หากเป็นอย่างที่ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว ถ้างั้น… ข้อมูลของแหวนสองวงนี้ก็กว้างมากเกินไป…แหวนแม่ลูกสองวงนี้เป็นตัวแทนของอะไรกันแน่…
“ผู้นำ ผมไม่ได้บอกว่าแหวนวงนี้เป็นตัวแทนของกองกำลังอะไรทั้งนั้น ผมแค่ยกตัวอย่างเท่านั้นเอง” ผู้อาวุโสใหญ่อธิบาย
“นายแน่ใจนะว่าพวกเราขโมยมาจากตระกูลเนี่ย?” เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย
ทำไมพวกเขาถึงขโมยมาได้…ไม่สิ ทำไมตระกูลเนี่ยถึงมีแหวนวงนี้…
“แน่ใจสิ” ผู้อาวุโสใหญ่ตอบ “เพราะว่าพวกเราเคยขโมยแค่บ้านตระกูลเนี่ย…ของทั้งหมดในตู้ใบนี้ ก็ขโมยมาจากที่บ้านตระกูลเนี่ยทั้งนั้นแหละ…”
“เอาล่ะ หมดธุระแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นโบกไม้โบกมือ และรีบออกจากหอสมุด
หลังจากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็โทรหาเนี่ยอู๋หมิงทันทีโดยแทบจะไม่ได้หยุดพัก หญิงสาวนัดให้เนี่ยอู๋หมิงออกมาเจอกัน ที่ร้านกาแฟใกล้เคียง
ราวสองชั่วโมงถัดมา เนี่ยอู๋หมิงรีบร้อนมาถึงร้านกาแฟชนิดไฟลนก้น และเห็นเยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่ตรงโต๊ะประจำ
“ฮ่าๆ น้องสาวที่แสนดี…เธอตัดสินใจจะซื้อยาถอนพิษแล้วใช่ไหม? พี่บอกเธอแล้ว วางใจเถอะ พี่ไม่คิดเธอแพงหรอก ยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน…แต่ชีวิตของเธอมันมีค่ามากกว่านั้น ถ้าฉันคิดราคาเธอน้อยไป ก็เท่ากับดูถูกเธอ เหมือนตบหน้าเธออีก…ไม่งั้นเธอก็จ่ายขำๆ สักสองร้อยล้านเป็นไง…” เนี่ยอู๋หมิงนั่งอยู่ตรงข้ามเยี่ยหวั่นหวั่น พลางกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ได้แต่คิดในใจ ‘คุณไปปล้นเอาเถอะ ร้อยสองร้อยล้านงั้นเหรอ…ฉันยอมถูกพิษตายเสียยังดีกว่า!’
“ไม่ใช่เรื่องกู่พิศวาสหรือเรื่องถอนพิษหรอก” เยี่ยหวันหวั่นจ้องเนี่ยอู๋หมิงพลางเอ่ยถาม คุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่อีกไหม?”
เมื่อได้ยินเยี่ยหวันหวั่นกล่าวดังนั้น เนี่ยอู่หมิงก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งและดูสับสนเล็กน้อย “นี่เธอรู้ได้ยังไง…”
“ว่าแล้ว…” เยี่ยหวันหวั่นกล่าวพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ถึงฉันจะขอของหมั้นหมายเล็กๆ น้อยๆ จากคุณชายตระกูลเสิ่น…แต่ฉันก็ทำเพื่อเธอนะน้องสาว ให้ตายสิ คุณชายตระกูลเสิ่นเธอก็ไม่เอา เธอจะขึ้นสวรรค์แล้วเหรอไง?” เนี่ยอู๋หมิงกล่าวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหม่า
“นี่คุณไปรับของขวัญหมั้นหมายลับหลังฉันเหรอ?!” เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยความโกรธแค้น
“งั้นแบ่งให้เธอนิดนึงก็ได้ ฉันเอาเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์…ส่วนเธอเอาไปสามสิบเปอร์เซ็นต์…” เนี่ยอู๋หมิงกล่าวหน้าตาเฉย
“อย่าเพ้อเจ้อ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้…ฉันขอถามคุณนะ ตกลงคุณรู้จักแหวนวงนี้ไหม?” เยี่ยหวันหวั่นยกมือขวาขึ้นพร้อมกับกัดฟันกรอด