บทที่ 1917 ละครน้ำเน่า
เวลานี้อารมณ์ของเยี่ยหวันหวั่นปั่นป่วนอยู่บ้าง ข้อมูลที่ได้รับจากการที่ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนช่วยเธอสะกดจิตครั้งนี้มากเกินไปแล้วจริงๆ แต่นอกจากความทรงจำที่สมบูรณ์สองส่วนนี้ ในนั้นยังมีความทรงจำที่ค่อนข้างกระจัดกระจายเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ฉากบางส่วนที่เนี่ยอู๋โยวเก็บเนี่ยหลิงหลง รวมถึงฉากในสภาพแวดล้อมอันเลวร้าย และฉากที่ตัวเองเผชิญหน้ากับหมาป่าที่เรียกได้ว่ายิบย่อย…
ผ่านไปสักพัก เยี่ยหวันหวั่นก็มาถึงร้านกาแฟที่คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นเปิดบริการที่โรงเรียนชื่อเยี่ยน
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่น พนักงานร้านกาแฟหลายคนก็แสดงอาการหวาดกลัวเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด หลังรีบเข้าไปเสิร์ฟกาแฟหนึ่งแก้วให้เยี่ยหวันหวั่นแล้ว ก็ถอยออกไปไกลทันที
ขณะเอนพิงบนโซฟา อารมณ์ของเยี่ยหวันหวั่นเริ่มแจ่มชัดขึ้นทีละน้อย
จากความทรงจำครั้งนี้ ในที่สุดซือเยี่ยหานก็ไม่มีที่ซ่อนตัวอีกต่อไป ตลอดเวลาที่ไม่ยอมรับตัวตนของตัวเอง ตอนนี้ไม่ทำอะไรก็ความแตกเองแล้ว
ตอนแรกสุด จุดประสงค์ที่เยี่ยหวันหวั่นมารัฐอิสระ ไม่ใช่แค่มาหาซือเยี่ยหาน แม้ว่าในใจจะโกรธเคือง แต่เธอก็ไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าซือเยี่ยหานทำแบบนี้ทำไม ทำไมต้องลบความทรงจำของตัวเอง ทำให้เธอจึงกลายเป็นเยี่ยหวันหวั่นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเธอแม้แต่น้อย
เยี่ยหวันหวั่นถึงขั้นเคยนึกครั้งหนึ่งว่า ผู้หญิงที่ซือเยี่ยหานรักจะใช่เยี่ยหวันหวั่นตัวจริงคนนั้นที่ตายไปแล้วหรือเปล่า ส่วนตัวเองอย่างมากก็เป็นแค่ตัวแทนของเยี่ยหวันหวั่นเท่านั้น
แต่ดูจากการที่ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนช่วยให้ตัวเองฟื้นคืนความทรงจำครั้งนี้แล้ว เยี่ยหวันหวั่นนึกไม่ถึงสักนิดว่า การล้างความทรงจำกระทั่งแปรเปลี่ยนกลายเป็นคนอื่นกลับเป็นคำร้องขอของตัวเอง…เยี่ยหวันหวั่นคาดไม่ถึงจินตนาการไม่ออกจริงๆ
ในตอนที่ตัวเองยังเป็นเนี่ยอู๋โยว เธอประสบพบเจอกับอะไรกันแน่
หลังจากซือเยี่ยหานพาเนี่ยอู๋โยวกลับประเทศจีน เนี่ยอู๋โยวก็ราวกับศพเดินได้ กระทั่งไม่ลังเลที่จะทำร้ายตัวเอง สุดท้ายก็ใช้ความตายมาข่มขู่ซือเยี่ยหาน ให้ซือเยี่ยหานลบความทรงจำของเธอ…
แม่งเอ๊ย ถ้ารู้ว่าตามหาความทรงจำจะยุ่งยากขนาดนี้ ปีนั้นเธอคงไม่ทำอย่างนั้นแล้ว
ตอนนี้ที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นประหลาดใจยิ่งกว่าคือ ตอนที่ผู้อำนวยการชื่อเยี่ยนช่วยสะกดจิตเธอ แทนที่จะพูดว่าตัวเองฟื้นคืนความทรงจำ ไม่สู้พูดว่าความทรงจำกลายเป็นหนังฉายในส่วนลึกของสมองเธออีกรอบมากกว่า
ความรู้สึกอย่างนี้ประหลาดมาก ถึงไม่เหมือนประสบการณ์ของตัวเองแต่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกร่วม
ผ่านการสะกดจิตครั้งนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็จำได้ในที่สุด ว่าผู้อาวุโสจินท่านนั้นของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์…มิน่าละแรกเห็นจึงรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง ที่แท้ตัวเองก็เกือบตายด้วยน้ำมือของเขาแล้ว
นอกจากผู้อาวุโสจิน ผู้ชายที่เห็นไม่ชัดคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมต้องอยากให้ตัวเองตายด้วย
อีกอย่างหากวิเคราะห์จากข้อมูลการสะกดจิต ชายคนนั้นเหมือนไม่ค่อยอยากให้ตัวเองตาย แต่แววเกลียดชังในดวงตาของชายคนนั้น จนถึงตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นก็ยังไม่ลืมเลือน มันเป็นความเคียดแค้นชิงชังที่ทำให้คนเสียวสันหลังวาบ
นอกจากนั้น ชายคนนั้นก็เอาแต่พูดว่าตัวเองทรยศเขา
หรือว่า…
เยี่ยหวันหวั่นพลันมโนถึงละครน้ำเน่า แต่ว่า คิดดูดีๆ ก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้
ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นคาดไม่ถึงสุดๆ ซือเยี่ยหานอุ้มเนี่ยอู๋โยวที่บาดเจ็บหนักขึ้นมา แต่ปากกลับเรียกเธอว่าเสี่ยวเฟิง…
ต่อให้โง่แค่ไหนเยี่ยหวันหวั่นก็รู้จักเสี่ยวเฟิงในคำพูดของซือเยี่ยหาน
“เสี่ยวเฟิง ไป๋เฟิง?”
หัวคิ้วของเยี่ยหวันหวั่นขมวดขึ้นเล็กน้อย อย่าบอกนะ ว่าเนี่ยอู๋โยวก็คือไป๋เฟิง ไป๋เฟิงก็คือเนี่ยอู๋โยว ทั้งสองก็คือคนคนเดียวกันตั้งแต่แรก!
พอคิดดูอย่างละเอียด ทุกคนต่างก็รู้ว่าจี้ซิวหร่านกับเนี่ยอู๋โยวตระกูลเนี่ยนั้นหมั้นหมายกัน แต่ตอนนี้ คนที่หมั้นหมายกับจี้ซิวหร่านกลับเปลี่ยนเป็นตัวเอง…
———————————————————
บทที่ 1918 นี่คืออยากขึ้นสวรรค์
“หรือว่าเนี่ยอู๋โยว่ก่อตั้งพันธมิตรอู๋เว่ยแล้วเปลี่ยนชื่อไปเป็นไป๋เฟิง เรื่องนี้แม้แต่ซือเยี่ยหานก็ไม่รู้?” เยี่ยหวันหวั่นพึมพำในลำคอ
ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นก็อธิบายได้แล้ว ทุกอย่างสามารถอธิบายได้โดยสมบูรณ์
ทำไมพันธมิตรอู๋เว่ยเข้าใจผิดว่าเธอคือผู้นำของพันธมิตรอู๋เว่ย นั่นเป็นเพราะ…นอกจากเธอจะเป็นเนี่ยอู๋โยวแล้วยังมีตัวตนอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งก็คือผู้นำของพันธมิตรอู๋เว่ย ไป๋เฟิง!
เธอปลอมตัวเป็นแบดเจอร์ตั้งนานแต่กลับกลายเป็นว่าก็คือตัวเธอเอง
แน่นอนว่า ความจริงของเรื่องนี้เป็นยังไง เยี่ยหวันหวั่นยังต้องไปถามจี้ซิวหร่าน
ไม่นานนัก เยี่ยหวันหวั่นก็หันกายออกจากโรงเรียนชื่อเยี่ยน
จากการสะกดจิตครั้งนี้ ถึงแม้ยังไม่รู้ชัดถึงที่มาและความหมายของแหวน แต่อย่างน้อยก็มีจุดทะลุผ่านแล้ว
ผู้อาวุโสจินของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์…
ช่วงบ่ายเยี่ยหวันหวั่นกลับมาถึงพันธมิตรอู๋เว่ย
เพิ่งมาถึงพันธมิตรอู๋เว่ย เยี่ยหวันหวั่นก็เรียกพวกชีซิงกับเป่ยโต่วรวมถึงผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามมา
“เชี่ย พี่เฟิง ทำไมพี่กลับมาเร็วขนาดนั้น ไม่ใช่เมื่อเช้าเพิ่งกลับไปโรงเรียนชื่อเยี่ยนเหรอ” เป่ยโต่วจ้องเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ไม่เพียงแค่นี้ เยี่ยหวันหวั่นที่รีบร้อนกลับมายังเรียกพวกเขามาที่ห้องทำงาน จำต้องเคร่งเครียดขนาดนั้นด้วยเหรอ
“จริงจังหน่อย” เยี่ยหวันหวั่นชำเลืองมองเป่ยโต่ว
“โอ้” เป่ยโต่วพยักหน้าและไม่พูดมากอีก
“พี่เฟิง มีอะไรชี้แนะเหรอ” ชีซิงมองเยี่ยหวันหวั่นขณะเอ่ยถาม
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “ฉันเตรียมลักพาตัวคน”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น พวกผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามก็ไม่ได้แปลกใจ ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยลักพาตัวคนก็เป็นเรื่องปกติมากไม่ใช่เหรอ
“พี่เฟิง เรื่องแค่นี้เองเหรอ ก็ลักพาตัวคนสิ ยังต้องเรียกรวมพลทุกคนด้วยเหรอ พี่เฟิง ลักพาตัวใคร ผมไปเองก็พอ” เป่ยโต่วหัวเราะหึๆ
“ผู้อาวุโสจิน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยตามตรง
“ผู้อาวุโสจิน?”
ทุกคนมองหน้าสบตากัน ต่างก็มีสีหน้าสงสัยเล็กน้อย ชั่วขณะนั้นยังไม่ได้คิดเชื่อมโยงกับผู้อาวุโสจินของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์
“ผู้อาวุโสจินคนไหน” เป่ยโต่วเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว
“กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ครั้งก่อนไม่ใช่มาเจรจาที่พันธมิตรอู๋เว่ยหรอกเหรอ ผู้อาวุโสจินคนนั้น” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วกับผู้อาวุโสสามเหมือนเห็นก็ผีไม่ปาน
กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์!?
นี่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเขาอยากขึ้นสวรรค์แล้วเหรอ?!
เมื่อก่อนขโมยของของตระกูลเนี่ย แย่งทรัพย์สินของตระกูลเสิ่นนั่นก็แล้วไป ยังไงเสียก็เป็นงาน…
ครั้งนี้อยู่ดีไม่ว่าดี จะตรงไปลักพาตัวผู้อาวุโสของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์เนี่ยนะ!
“พี่เฟิง พี่แน่ใจนะว่าไม่ได้ล้อเล่น” เป่ยโต่วเผยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์มีแนวคิดยังไง อย่าว่าแต่พันธมิตรอู๋เว่ยอย่างพวกเขา ต่อให้เป็นจี้หวงกับนายแห่งอาชูร่าฐานะอย่างนั้นก็ไม่อาจเทียบเคียงได้!
หาเรื่องกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ ก็เท่ากับตั๊กแตนห้ามเกวียน ขุดหลุมฝังตัวเอง!
“ผู้นำต้องคิดให้ถี่ถ้วน กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์…ยั่วยุไม่ง่ายนะครับ” ผู้อาวุโสสามรีบเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
ไม่ใช่ว่าพวกเขาพันธมิตรอู๋เว่ยกลัวว่าจะมีเรื่อง แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่าบนเขามีเสือก็ยังดันจะส่งแกะเข้าถ้ำเสือ นี่ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปหน่อย
“ฉันคิดดีแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
เวลานี้เป่ยโต่วชูนิ้วโป้งให้เยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าตะลึงงัน “พี่เฟิง พี่บ้าไปแล้ว พี่ช่างกล้าหาญชาญชัยจริงๆ …”
คนรัฐอิสระต่างรู้ดีว่าพันธมิตรอู๋เว่ยไร้ความเกรงกลัว ไร้คนขี้ขลาด แต่พูดก็พูดเถอะ ไม่กลัวตายคือไม่กลัวตาย แต่พวกเขาไม่เคยจะไปรนหาที่ตายนะ