บทที่ 1923 ต้องชอบแม่ฉันแน่ๆ
“ใช่ๆๆ!” เป่ยโต่วรีบเดินขึ้นมาด้านหน้าแล้วแก้มัดให้แม่ของตัวเอง
“แม่ เกิดอะไรขึ้น แม่ไม่ได้ถูกรถชนนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลหรอกเหรอ ทำไมถึงถูกคนของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ลักพาตัวมาได้? นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?!” เป่ยโต่วงงเป็นไก่ตาแตก
แม่ของเขาเป็นแค่คนธรรมดาๆ กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ลักพาตัวแม่ของเขามาเพื่ออะไรกัน?!
“แม่…คงไม่ใช่ว่า ไอ้เฒ่าจินคนนั้นแอบชอบแม่อยู่หรอกนะ?!” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าเป่ยโต่วก็เต็มไปด้วยความกังวล
ตอนนี้หญิงสูงวัยดูอิดโรยเล็กน้อย เธอหันไปมองเป่ยโต่วแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว มีเรื่องอะไรกลับไปค่อยว่ากัน!” ผู้อาวุโสสามกล่าว
“ไปตรวจดูบนรถซิว่ามีเครื่องติดตาม หรือเครื่องระบุตำแหน่งไหม ถ้ามีก็ถอดออกให้หมดแล้วก็เอารถไปซ่อนซะ” ผู้อาวุโสสองกล่าว
จากนั้นไม่นาน รถบรรทุกสามคันก็ถูกนำไปซ่อนในที่ลับ และทุกคนต่างก็กลับไปยังพันธมิตรอู๋เว่ยทันที
……
ตอนนี้ ภายในสำนักงานของพันธมิตรอู๋เว่ย
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งดื่มน้ำไปหนึ่งอึก เป่ยโต่วก็พาแม่ของตัวเองเข้ามายังด้านในสำนักงาน
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกสับสนเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เกิดเรื่องอะไรขึ้น
“พี่เฟิง นี่แม่ผมเอง!” เป่ยโต่วรีบร้อนรายงานเยี่ยหวันหวั่น
“เอ่อ…” เยี่ยหวันหวั่นยิ่งงงมากขึ้นเมื่อได้ยินเป่ยโต่วกล่าว เป่ยโต่วพาแม่ของเขามาที่นี่ทำไม?
“สวัสดีค่ะคุณป้า” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มทักทายหญิงสูงวัย
หญิงสูงวัยหันมาทางเยี่ยหวันหวั่นแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
“พี่เฟิง พี่ต้องช่วยแม่ผมนะ แม่ผมถูกไอ้แก่จินลักพาตัวไปแล้วขังไว้บนรถ ไอ้หมาแก่ตัวนั้น มันต้องชอบแม่ผมแน่ๆ เลยครับ!” ใบหน้าของเป่ยโต่วเต็มไปด้วยความโกรธแค้น จากนั้นก็พูดต่อ “ไอ้กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์เวรนี่ ทำเป็นสร้างภาพว่าเป็นคนดี แต่กลับมาทำเรื่องต่ำช้าแบบนี้ ผมจะล้างแค้นมันสิบแปดชั่วโคตรเลยคอยดู!”
“อย่าพูดพล่อยๆ สิ” หญิงสูงวัยเหลือบตามองเป่ยโต่ว
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก เรื่องนี้มันชักจะยังไงๆ แล้วสิ!
“แม่ นี่คือบอสของผม ผู้นำแห่งพันธมิตรอู๋เว่ย!” เป่ยโต่วแนะนำเยี่ยหวันหวั่นให้แม่ของเขารู้จัก
“อืม” หญิงสูงวัยมองไปทางเยี่ยหวันหวั่นแล้วพยักหน้า “ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกชายฉันมาตลอดนะคะ”
“ยินดีค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นตอบรับ
“ใช่แล้วค่ะ คุณป้า ทำไมคนของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ถึงลักพาตัวคุณป้าไปล่ะคะ?” เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ถ้ากลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ลักพาตัวเป่ยโต่วไป เธอยังพอเข้าใจได้ แต่นี่กลับลักพาตัวแม่ของเป่ยโต่ว...
“เรื่องนี้คงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันละมั้ง ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน” หญิงสูงวัยตอบด้วยท่าทางอิดโรย
วินาทีถัดมา หางตาของหญิงสูงวัย ก็เหลือบไปเห็นแหวนบนนิ้วมือของเยี่ยหวันหวั่น ในแววตามีความตกใจอย่างที่อธิบายไม่ถูก
“เป่ยโต่ว ฉันมีธุระต้องไปจัดการสักหน่อย นายดูแลคุณป้าให้ดีละ”
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นหันไปเอ่ยกำชับกับเป่ยโต่วแล้ว ก็รีบร้อนออกไปจากสำนักงาน
หลังจากที่เยี่ยหวันหวั่นกลับมา เธอก็ขังผู้อาวุโสจินไว้ในฐานที่มั่นลับของพันธมิตรอู๋เว่ย ไม่ได้ซ่อนไว้ที่สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรอู๋เว่ยแต่อย่างใด
ไม่นานนัก เยี่ยหวันหวั่นและคนอื่นๆ ก็มาถึงฐานที่มั่นลับ ผู้อาวุโสจินและชายวัยกลางคนสองคน ถูกล่ามโซ่เหล็กไว้
“พวกนายออกไปก่อน” เยี่ยหวันหวั่นสั่งหัวหน้าสาขาย่อยหลายคน
“ครับ…”
เมื่อได้ยินเยี่ยหวันหวั่นออกคำสั่ง บรรดาหัวหน้าสาขาย่อยต่างก็ออกไปจากตรงนั้น เหลือแค่เยี่ยหวันหวั่นคนเดียว
เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็มองไปยังผู้อาวุโสจินที่กำลังดีดดิ้นอย่างหนัก พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสจิน ฉันว่าเรามาคุยกันดีๆ ก็ได้นะ”
“ไป๋เฟิง เธอคิดจะทำอะไรกันแน่?! ฉันจะบอกให้นะ เธอทำแบบนี้เท่ากับท้าทายกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์อย่างโจ่งแจ้ง เธอคิดจะเป็นศัตรูกับกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ใช่ไหม?” ผู้อาวุโสจินมองเยี่ยหวันหวั่นและตะโกนออกมาอย่างเย็นชา
——————————————————-
บทที่ 1924 อย่าบอกนะว่าเธอคือเนี่ยอู๋โยว
“เหอะ” เยี่ยหวันหวั่นแค่นหัวเราะเบาๆ “ตอนนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์หรอกนะ คนที่ฉันตามหาคือคุณ ไม่ใช่กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์”
เยี่ยหวันหวั่นนั่งลงบนโซฟา พลางยิ้มอย่างเยือกเย็น
“หาฉันเหรอ?!”
ผู้อาวุโสจินขมวดคิ้วแน่น
“ผู้อาวุโสจิน ในปีนั้น กริชของคุณ…เกือบจะคร่าชีวิตฉันเลยนะ” เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองผู้อาวุโสจิน แล้วกล่าวอย่างใจลอย
“ปีนั้น? กริช?”
เมื่อได้ยินเยี่ยหวันหวั่นกล่าวดังนั้น ผู้อาวุโสจินก็ยิ่งมีสีหน้างุนงงเข้าไปใหญ่
“ผู้นำไป๋ เธอพูดเรื่องอะไรกันแน่ ปีนั้นอะไร กริชอะไร ฉันเกือบจะฆ่าเธอด้วยเหรอ?” ผู้อาวุโสจินเผยสีหน้ามึนงง
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้อาวุโสจิน เยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกว่ามันผิดปกติ
สีหน้าของผู้อาวุโสจินในตอนนี้ ไม่เหมือนกับการเสแสร้งแกล้งทำเลย
บางที ผู้อาวุโสจินแห่งกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ในตอนนั้นอาจจะไม่รู้จริงๆ ว่าเนี่ยอู๋โยวเป็นผู้นำแห่งพันธมิตรอู๋เว่ย
หากเป็นจริงดังนั้น การไปลักพาตัวผู้อาวุโสจินมามัดไว้ ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ
“ดี ถ้าคุณไม่แน่ใจ งั้นพวกเรามาเปลี่ยนวิธีการพูดกันสักหน่อย” เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่ผู้อาวุโสจินอีกครั้ง “คุณน่าจะรู้จักเนี่ยอู๋โยวใช่มั้ย”
เมื่อสิ้นเสียงพูดของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสจินก็หน้าถอดสีทันที
พอเห็นท่าทางเช่นนั้นของผู้อาวุโสจิน เยี่ยหวันหวั่นก็มีแผนอยู่ในใจ
ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสจินจะไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ ว่าเนี่ยอู๋โยวในตอนนั้น ก็คือไป๋เฟิงนั่นเอง
“เมื่อหลายปีก่อน เนี่ยอู๋โยวถูกกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ไล่ฆ่า และเกือบตายด้วยกริชของคุณ เรื่องนี้คุณไม่น่าจะลืมได้ลงนะ ผู้อาวุโสจิน” เมื่อกล่าวจบ ก็มีแสงเย็นอันน่าสะพรึงกลัวปรากฏในแววตาของเยี่ยหวันหวั่น
เมื่อได้ยินเยี่ยหวันหวั่นกล่าวดังนั้น ผู้อาวุโสจินก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่เชื่อสายตา “อย่าบอกนะว่า เธอ…เธอคือ เนี่ยอู๋โยว?!”
เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้พูดอย่างชัดเจนว่าเมื่อหลายปีก่อน เธอเกือบตายเพราะกริชของเขา ตอนนี้เธอเปลี่ยนเป็นเนี่ยอู๋โยวแทน
เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ว่าฉันเป็นใคร ถ้าอยากรู้สถานการณ์ในตอนนี้ คุณจำเป็นต้องตอบคำถามของฉันก่อน”
“ผู้นำไป๋ ผมว่า เราต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณพูดเรื่องอะไรอยู่” ผู้อาวุโสจินจ้องเยี่ยหวันหวั่นตาเขม็ง พลางอธิบาย
“จะไม่บอกใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองผู้อาวุโสจิน “ไม่เป็นไร ตอนนี้ไม่พูด เดี๋ยวพอถึงเวลานั้น คุณก็จะอ้อนวอนฉันเอง”
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็หันหลังจากไป
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นกลับไปแล้ว เหล่าหัวหน้าสาขาย่อยก็เดินเข้ามาปิดประตู
……
เช้าวันรุ่งขึ้น
ภายในพันธมิตรอู๋เว่ย
เป่ยโต่วและสมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยคนอื่นๆ กำลังเผชิญกับสถานการณ์เร่งด่วน
ราวสิบห้านาทีที่แล้ว กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เบื้องบนหลายคนมายังพันธมิตรอู๋เว่ย
คนที่เป็นหัวหน้า สวมหน้ากากสีเงินบดบังไว้ไม่ให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง
“รองประธานกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์…”
เมื่อเห็นชายสวมหน้ากาก ผู้อาวุโสสามและคนอื่นๆ ต่างก็ประหลาดใจ
รองประธานกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์คนที่สวมหน้ากากนั้น ว่ากันว่าเมื่อหลายปีก่อน ใบหน้าของเขาถูกไฟไหม้จากอุบัติเหตุ และเขาก็สวมหน้ากากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ผู้อาวุโสใหญ่เคยเห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้น มันไม่สามารถเปิดออกมาพบปะผู้คนได้จริงๆ
“ท่านรองประธานกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ แล้วยังมีผู้อาวุโสอีกหลายท่าน…นี่เป็นศึกที่ยิ่งใหญ่จริงๆ”
ไม่นานนัก เยี่ยหวันหวั่นที่ทราบข่าวก็รีบบึ่งมาที่นี่ หญิงสาวมองดูทุกคนในพันธมิตรอู๋เว่ย พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นชายที่สวมหน้ากาก เยี่ยหวันหวั่นก็นึกถึงเหตุการณ์หลังจากที่เนี่ยอู๋โยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ในขณะนั้น ชายที่สวมหน้ากากก็อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
“ผู้นำไป๋ จุดประสงค์ที่ฉันมาในครั้งนี้ ผู้นำไป๋ไม่ทราบเลยสักนิดจริงๆ เหรอ” รองประธานกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์จ้องมาที่เยี่ยหวันหวั่น พลางเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา