ก่อนอื่น หลัวซิวได้เข้ามาที่ตำหนักเทวสว่าง ภายในตำหนักมีเทวเทพองหนึ่ง ด้านหลังศีรษะมีแสงสว่างของวงแหวนแห่งทวยเทพเก้าวง

ทั่วทั้งภายในตำหนักเทวสว่างเต็มไปด้วยออร่ากฎสว่าง ทำให้หลัวซิวรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

“เจ้าหนุ่ม เจ้าหมายจะเข้าร่วมค่ายสว่าง ด้วยความรับผิดชอบว่าจะกำจัดความดำมืดและความชั่วร้ายทั้งหมดบนโลกใบนี้ได้หรือไม่?” เสียงของชายชราคนหนึ่งค่อย ๆ ดังขึ้น

หลัวซิวหันไปมองด้วยแววตาสงสัย กลางตำหนักมีชายชราท่านหนึ่งสวมชุดคลุมยาวสีขาว อีกทั้งหนวดเครายังเป็นสีขาว รอบกายของเขาพันล้อมรอบไปด้วยแสงสว่างสีทอง ให้ความรู้สึกถึงเทพศักดิ์สิทธิ์

“ข้าอยากรู้ว่า หากข้าเข้าร่วมค่ายสว่าง จะมีประโยชน์ใดต่อข้า” หลัวซิวเอ่ยถามอย่างไม่อ้อมค้อม

“เข้าร่วมค่ายสว่าง เป็นนักยุทธ์ใต้บัญชาของเทวสว่าง เพียงแค่เจ้าสั่งสมแต้มคุณความดีมากพอ ก็จะได้รับโอกาสในการเข้าไปในแดนกฎดั้งเดิม”

“จะได้รับแต้มคุณความดีได้อย่างไร?” หลัวซิวถามต่อ

“เข่นฆ่าศัตรูจากค่ายมืด ตามผลการฝึกตนที่แตกต่าง จะได้รับแต้มคุณความดี” ชีปะขาวพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

จากนั้นหลัวซิวก็เดินหน้าเข้าไปที่ตำหนักเทวมืด ภายในตำหนักก็มีเทวเทพองค์หนึ่งเช่นกัน อีกทั้งชายชราในชุดคลุมยาวสีดำ หากเข้าร่วมค่ายมืด โจมตีคู่ต่อสู้จากค่ายสว่างจะได้รับแต้มห้วงกระบี่ แต้มห้วงกระบี่ที่มากเพียงพอสามารถแลกโอกาสเพื่อเข้าไปในแดนกฎดั้งเดิมได้

เช่นนั้นหากคำนวณออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเข้าร่วมค่ายสว่างหรือค่ายมืดก็ไม่ได้มีข้อแตกต่างแต่อย่างใด หากจะมี ก็น่าจะอยู่ที่ความแตกต่างของแดนกฎดั้งเดิม

“ร่างแยกนี้ของข้าบำเพ็ญหลักกฎความตาย อีกทั้งกฎเทวมืดถือเป็นหนึ่งในสาขาแยกของกฎความตาย แดนกฎดั้งเดิมของค่ายมืด บางทีอาจจะมีประโยชน์ต่อข้าในการสัมผัสรู้แดนกฎของข้า”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลัวซิวก็เลือกที่จะเข้าร่วมค่ายมืด

“เจ้าหนุ่ม ยินดีด้วยเจ้าได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของค่ายมืด พวกเราค่ายมืดมีความเชื่ออยู่เพียงข้อเดียว พลังที่แกร่งกล้าเท่านั้นจึงจะเป็นนิรันดร์!”

ชายชราสวมชุดคลุมดำยาวยื่นนิ้วออกมาจิ้มไปที่กลางอากาศ สำแสงสีดำช่อหนึ่งตกลงบนหน้าอกของหลัวซิว รวมกันเป็นตราประทับสีดำชิ้นหนึ่ง

ที่บริเวณใกล้ ๆ ตำหนักเทวมืด มักจะมีกลุ่มจอมยุทธ์ของค่ายสว่างเดินสำรวจไปมา เมื่อใดก็ตามที่มีคนเลือกเข้าร่วมค่ายมืด เพียงแค่อีกฝ่ายเดินออกมาจากตำหนักเทวมืด ก็จะลงมือล้อมโจมตีทันที

ดังนั้นเมื่อหลัวซิวเพิ่งเดินออกจากตำหนักเทวมืด จอมยุทธ์หลายคนจากค่ายสว่าง ก็สังเกตุเห็นตราประทับค่ายมืดที่อยู่ตรงหน้าอกของเขา

“ลงมือ ฆ่ามัน!”

จอมยุทธ์หลายคนจากค่ายสว่างเข้าปิดล้อมในทันที ไม่ใช่จอมยุทธ์แห่งค่ายสว่างทุกคนที่จะฝึกตนพลังแห่งเทวสว่าง มีจอมยุทธ์บางคนที่ฝึกตนAttrอื่น ๆ เช่นธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุอัสนีเป็นต้น

และถึงแม้จะเป็นAttrเดียวกัน ก็ยังมีส่วนที่แตกต่างอยู่ดี เช่นจอมยุทธ์ธาตุไฟ มีจอมยุทธ์ที่ฝึกตนเพลิงอัคคีค่อนไปทางสายมืด และก็มีจอมยุทธ์บางคนที่ฝึกตนเพลิงอัคคีค่อนไปทางสว่าง

สำหรับหลัวซิวได้ครอบครองมกุฎอัคคีนภาเหลือง นั่นคือระบบหนึ่งของวิชาพลังอมตะภูตอัคคีร้อยแปร

จอมยุทธ์หลายคนจากค่ายสว่างลงมือพร้อมกัน พายุลมโหมกระหน่ำในทันที เพลิงอัคคี พลังแห่งเทวสว่างหลากหลายสีสัน ถาโถมเข้ามาจากเหนือศีรษะของเขา

หลัวซิวหัวเราะเสียงเย็น มือหนึ่งเอื้อมออกไปกลางอากาศ ทันทีที่เขาพลิกมือ อัคคีดำก็หลวมรวมเป็นฝ่ามือตบลงไป

ฝ่ามืออัคคีดำบดขยี้ทำลายโซน จอมยุทธ์ค่ายสว่างเจ็ดแปดคนที่กรู่กันเข้ามา ทันใดนั้นก็ถูกตบจนแตกละเอียดกลายเป็นละอองเลือด

จอมยุทธ์เหล่านี้ผลการฝึกตนนั้นมากสุดไม่เกินมหายุทธ์ช่วงกลาง หลังจากหลัวซิวฆ่าทุกคนทิ้งหมดแล้ว ก็ได้รับสี่สิบกว่าแต้มห้วงกระบี่

แต้มห้วงกระบี่จะถูกบันทึกลงในตราประทับค่ายกลโดยอัตโนมัติ ส่วนผลการฝึกตนของหลัวซิว ที่ค่ายมืดถูกกำหนดว่าอยู่ในแดนมหายุทธ์ขั้นห้า

เช่นนั้นก็หมายความว่า ผลการฝึกตนตั้งแต่มกุฎยุทธ์ขั้นห้าขึ้นไป ต่างก็อยู่ในขอบเขตที่เขาสามารถลงมือฆ่าได้