บทที่ 1977 ความขัดแย้งภายใน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ความคาดหวังของหลี่เสี่ยวไปถูกเติมเต็ม

หลังจากเขาอีกสามคนก็ก้าวขึ้นมา

คนแรกเป็นชายสวมหน้ากากสีทอง เขาปลดปล่อยแสงสีทองที่สว่างไสว

คนที่สองเป็นชายชราสวมหมวกทรงกรวยและถือไม้เท้า เขาปลดปล่อยแสงสีเขียวออกไปรอบๆ

คนที่สามเป็นหญิงผอมเพรียวในชุดสีชมพู ใบหน้าของนางถูกปิดไว้ด้วยผ้าคลุมหลังจากนางท่องบทกวีผีเสื้อแสงจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นและบินอยู่รอบๆตัวนาง

ทั้งสามสร้างบทกวีชั้นยอดในระดับเดียวกับหลี่เสี่ยวไป

นี่ทําให้หลี่เสี่ยวไปสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก“โลกนี้มีวิญญาณที่ช่วยสร้างบทกวีอยู่มากมายและด้วยประสบการณ์ของผู้ใช้วิญญาณพวกเขาจึงสามารถสร้างบทกวีชั้นยอด

คนทั้งสี่อยู่ในอาณาเขตของตนและชําเลืองมองกัน

ชายหนุ่ม ชายชรา และหญิงสาวจ้องมองหลี่เสียวไป๋ คนทั้งสามรู้จักกันแต่หลี่เสี่ยวไปเป็นคนใหม่

“เขาคือผู้ใด?”

“พรสวรรค์ของเขาไม่ดีนัก เขาสร้างบทกวีชั้นยอดได้อย่างไร?”

“คนผู้นี้ค่อนข้างน่าสนใจ”

อาจารย์เจียงเห็นหลี่เสี่ยวไป์และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ดีมากเสี่ยวไปดูเหมือนวันนี้เจ้าจะทําได้ดีทํางานหนักต่อไป”

สุดท้ายหลี่เสี่ยวไปก็ถูกพลังงานลึกลับเคลื่อนย้ายไปยังสนามแข่งขันรอบต่อไป

“นี่คือรอบที่ห้า บัณฑิตโปรดอดทนรอ” เสียงสายหนึ่งดังขึ้นในใจของหลี่เสี่ยวไป

หลี่เสี่ยวไปเข้าใจทันที ความก้าวหน้าของแต่ละคนแตกต่างกัน บทกวีของข้าเพียงพอให้ข้าผ่านเข้าสู่รอบที่ห้าโดยตรง

“นี่เป็นกฎที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล

“แต่นหมายความว่าผู้ใช้วิญญาณที่มาถึงรอบนี้ทุกคนต้องสร้างบทกวีที่ชั้นยอดและมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถผ่านไปได้ แรงกดดันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

หลี่เสี่ยวไปมองไปรอบๆและพบใบหน้าที่คุ้นเคยสองคน

พวกเขาเป็นชายหนุ่มและหญิงสาวจากรอบก่อนหน้า

เมื่อเห็นหลี่เสี่ยวไป๋ หญิงสาวพยักหน้าให้เขา ดูเหมือนนางกําลังยิ้มอยู่ภายใต้ผ้าคลุมในทางตรงข้ามชายหนุ่มค่อนข้างเย่อหยิ่ง หลังจากเห็นสายตาของหลี่เสี่ยวไปมองมาที่เขา เขาปิดเปลี อกตาลงทันที

รอบที่ห้าในเวลานี้มีเพียงพวกเขาสามคน

“ข้าสงสัยว่าชายชราผู้นั้นถูกส่งไปรอบที่เท่าใด

“ข้าควรแสร่งพักผ่อนในเวลานี้

หลังจากรอคอยอยู่สักพัก ในที่สุดรอบที่ห้าก็เริ่มขึ้น

มีผู้เข้าแข่งขันมากกว่ายี่สิบคน หลี่เสี่ยวไปรู้สึกกดดันเล็กน้อย

หัวข้อของการแข่งขันรอบนี้คือการเดินทาง เวลาจํากัดเช่นเดิม

การเดินทาง? หัวข้อนี้เหมือนฤดูใบไม้ผลิ มันกว้างและแต่งง่าย แต่การสร้างบทกวีชั้นยอดเป็นเรื่องยาก!” ชายหนุ่มถอนหายใจ

หญิงสาวคิด “ข้าไม่ชํานาญหัวข้อนี้ ข้าควรทําอย่างไร?

หลี่เสียวไปไตร่ตรอง “ข้าจะใช้กวีบทใด?”

หลังจากครุ่นคิด เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรใช้บทกวีระดับตํานาน ผลลัพธ์จะยอดเยี่ยมเกินไปแต่เขาก็ไม่สามารถใช้บทกวีระดับต่ําเกินไปมิฉะนั้นเขาอาจถูกส่งกลับไปรอบก่อนหน้า

หลี่เสี่ยวไปรู้สึกกังวลเล็กน้อย มันไม่ง่ายเลยที่จะประเมินสถานการณ์

เขารู้ความสามารถของตนเอง แต่เขาไม่รู้ความสามารถของคนอื่นๆ เขาไม่รู้ว่าควรใช้บทกวีใดเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้

ในรอบนี้ข้าไม่ควรท่องบทกวีคนแรก หลี่เสี่ยวไปบอกตัวเอง

เขารออย่างอดทน

หลังจากไม่กี่นาที บัณฑิตคนแรกก็เริ่มท่องบทกวีของเขา หลังจากนั้นอีกสองสามคนก็เริ่มท่องแสงหลากหลายสีสันส่องประกายขึ้น

หลี่เสี่ยวไปถอนหายใจกับตนเอง ดูเหมือนบทกวีชั้นยอดจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างคนเหล่านี้ทําได้ดีในรอบแรกแต่รอบนี้พวกเขาอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น

หลี่เสี่ยวไปยังรอคอยต่อไป เมื่อเวลาใกล้หมด ในที่สุดเขาก็ได้ยินบทกวีชั้นยอดจากชายหนุ่มเย่อหยิ่งคนก่อนหน้า

เขาท่องบทกวีเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งใหญ่คล้ายกับสงครามบนหลังม้าที่ต่อสู้กันด้วยหอกร่างกายของเขาปลดปล่อยแสงสีทองออกมาและมีเสียงหอกปะทะกันดังขึ้นชัดเจนว่ามันเป็นบทกวีชั้นยอด

บทกวีชั้นยอดล่าดับที่สองมาจากหญิงสาวผ้าคลุมหน้า

นางท่องบทกวีที่หญิงสาวมองออกไปนอกหน้าต่างและฟังเรื่องราวของนักเดินทางมันค่อนข้างน่าประทับใจ

“เอาล่ะ ถึงคราวของข้าแล้ว” หลี่เสียวไปเริ่มท่องบทกวีของเขา

“ดอกท้อร่วงลงบนเสื้อของชาวบ้าน เสียงเกวียนดังมาจากทุกแห่งหน ชายชราแต่งกายเรียบง่ายเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลและแดดแสงที่เจิดจ้าเคาะประตูเพื่อขอน้ำชา”

ทุกคนรู้สึกประทับใจกับบทกวีของหลี่เสี่ยวไป

“กวีที่ดี! มันบรรยายฉากและการกระทําที่อยู่เบื้องหลัง มันประสานกันได้อย่างดี”

“มันบรรยายถึงทิวทัศน์ อารมณ์ก็น่าสนใจ เด็กผู้นี้เป็นคนสุภาพ เขาไม่บุกเข้าไปในบ้านโดยตรง”

“บทกวีแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของเขา บัณฑิตหนุ่มผู้นี้มีอนาคตจริงๆ!”

บัณฑิตที่อยู่รอบๆหลี่เสี่ยวไปมองเขาด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากเดิม

หลี่เสี่ยวไปสูดหายใจลึกและแสร้งหมดแรง

การแสดงของข้าค่อนข้างดี ข้าไม่ได้รับความสนใจมากนักแต่ก็ไม่ได้ไร้ความสามารถ

หลี่เสี่ยวไปค่อนข้างพอใจกับตนเอง

แต่หลังจากชั่วครู่เขากลับตกตะลึง บัณฑิตส่วนใหญ่ล้มเหลวในการสร้างบทกวี

“นี่คือการแข่งขันบทกวีระดับโลก แต่ข้าไม่สามารถแสดงผลงานที่ดี ช่างน่าละอายนัก”

“ข้าทําดีที่สุดแล้วแต่ยังไม่สามารถสร้างบทกวีที่น่าพอใจ ข้าล้มเหลว แต่ข้าไม่เสียใจกับมัน!”

“การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าแล้ว ข้าได้ฟังบทกวีชั้นยอดถึงสามบท”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในกรณีเลวร้ายที่สุด ข้าก็จะกลับไปรอบแรก”

บัณฑิตที่ไม่ได้ท่องบทกวีบางคนไร้กังวลขณะที่บางคนรู้สึกละอายใจ

หลี่เสี่ยวไปสงบนิ่งแต่หัวใจสั่นไหว “พวกเจ้ายังรู้สึกภูมิใจได้อย่างไร?”

เขาได้รับความสนใจมากเกินไปอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกพึงพอใจแต่ผู้ใดจะคิดว่าบัณฑิตเหล่านั้นจะไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้

“เห้อ…ข้าประเมินพวกเขาสูงเกินไป” หลี่เสี่ยวไปคิด

ครั้งนี้เขาผ่านเข้าสู่รอบที่เก้าโดยตรง

หลังจากรออยู่สักพัก ผู้คนก็มารวมตัวกัน คราวนี้มีผู้เข้าแข่งขันน้อยกว่าสิบคน

หลายคนเป็นบัณฑิตที่มีชื่อเสียง ส่วนใหญ่รู้จักกันอยู่แล้ว

เมื่อถึงจุดนี้ แรงกดดันของทุกคนก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น

“ข้าไม่สามารถสร้างความโกลาหลอีกครั้ง!” หลี่เสี่ยวไปกําหมัดและเตือนตัวเอง

แต่คราวนี้คู่แข่งของเขาทําได้ดี มากกว่าครึ่งสามารถสร้างบทกวีชั้นยอด

หลี่เสี่ยวไป์เป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่

เขาแสดงออกด้วยความประหม่าแต่สงบภายใน เขาเตรียมบทกวีไว้แล้ว

ด้วยแสงอันแผ่วเบา ระดับการบ่มเพาะของเขาก้าวเข้าสู่ระดับสี่ทันที นอกจากนั้นเขายังได้รรับวิญญาณดวงใหม่

คราวนี้เขาวางแผนมาอย่างพิถีพิถัน บทกวีของเขาอยู่ในระดับกลางๆ เขาสามารถก้าวไปข้างหน้าแต่ไม่โดดเด่นนัก

หลี่เสี่ยวไปรู้สึกมีควมสุข

“พรวด!”

เป็นเพียงเวลานี้ที่บางคนกระอักเลือดออกมา

“ฟุบ!”

บางคนล้มลงบนพื้น

ชายหนุ่มเย่อหยิ่งจากรอบก่อนหน้านั่งลงอย่างยากลําบาก หญิงสาวผ้าคลุมหน้าหน้าซีดและไออย่างต่อเนื่อง

มีเพียงหลี่เสี่ยวไป์เท่านั้นที่ยังยืนอยู่ที่เดิมและไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น

ทุกคนมองไปที่เขา

“เด็กหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งมาก! จนถึงตอนนี้เขาสามารถสร้างบทกวีชั้นยอดถึงสามบทแล้ว”

“เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ดูเหมือนเขายังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมด”

“น่าประทับใจ! หลังการแข่งขันครั้งนี้ ข้าต้องผูกมิตรกับเขา!”

หลี่เสี่ยวไป “…”

เขาพูดไม่ออก

“สวรรค์ ทุกคนทุ่มสุดตัวแล้วงั้นหรือ?”

เขาอยากแสงไอออกมาเป็นเลือด แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว เขาไม่สามารถแสดงละครฉากนั้น

หลีเสียวไปถูกส่งเข้าสู่รอบถัดไปด้วยท่าทางสบายๆ