บทที่ 805 จับตัวประกัน

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

หลังจากเวลาผ่านไปมากกว่า 3 เดือน อาณาจักรอ้าวเฟิงทั้งหมดก็ถูกปกคลุมด้วยทะเลเลือดเหลือแค่เพียงเมืองหลวงเท่านั้นที่ยังคงไม่ถูกกลืนกิน และถูกล้อมไว้ด้วยทะเลเลือด

เหล่าผู้คนที่ดูสถานการณ์อยู่ต่างเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายในทะเลเลือดนั้นมีร่างมนุษย์โลหิตจำนวนเป็นสิบ ๆ ล้านตนยืนอยู่ ซึ่งมีร่างของคนผู้หนึ่งยืนนำหน้าราวกับว่าเขาคือแม่ทัพของพวกมัน

“ไอ้สารเลวปีศาจโลหิต จงก้าวออกมาคุยกับข้าอย่างลูกผู้ชาย!” ลั่วหยูเฮง จักรพรรดิอาณาจักรอ้าวเฟิงตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเคียดแค้น

ร่างของหลิงตู้ฉิงเดินออกมาจากทะเลเลือด จากนั้นเขามองไปที่ลั่วหยูเฮิง และพูดว่า “เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริง ๆ ที่ยังไม่หนีไป! เอาล่ะในเมื่อเรื่องราวมันลงเอยมาถึงขนาดนี้แล้วเจ้ามีอะไรจะสั่งเสียก็ว่ามา”

“ไอ้สารเลว เจ้าฆ่าคนมากขนาดนี้เจ้าไม่กลัวสวรรค์จะลงทัณฑ์เจ้าบ้างเหรอไง?” ลั่วหยูเฮงตะคอกกลับ

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “มันก็จริงที่ข้าฆ่าคนของเจ้าไปเยอะ แต่เจ้าไม่เห็นงั้นเหรอว่าข้ายังอยู่ดีแถมเมฆดำกลับไม่มีทีท่าว่าจะปรากฏ ดังนั้นมันก็เห็นได้ชัด ๆ อยู่แล้วว่าสวรรค์เห็นด้วยกับการฆ่าของข้าครั้งนี้! อันที่จริงเจ้าไม่ควรพูดถึงเรื่องทัณฑ์สวรรค์เลยจริง ๆ พวกเจ้าเองนั้นเป็นคนของตำหนักเซียนมืด ด้วยความชั่วที่พวกเจ้าเคยฆ่าล้างคนมามากมาย ข้าก็ยังไม่เห็นว่าพวกเจ้าจะโดนสวรรค์ลงทัณฑ์สักที ดังนั้นข้าจะโดนสวรรค์ลงทัณฑ์ได้ยังไงจริงไหม?”

ลั่วหยูเฮงจ้องเขม็งไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยแววตาเดือดดาล เพราะคำพูดของหลิงตู้ฉิงมันทำให้ลั่วหยูเฮงไม่สามารถอ้างหลักคุณธรรมได้อีกต่อไป

“เจ้าเป็นใครกันแน่? ทำไมเจ้าถึงเพ่งเล็งอาณาจักรของข้าแบบนี้?” ลั่วหยูเฮงถามขึ้น “ข้าไม่เชื่อว่าที่เจ้าดั้นด้นมาทำลายอาณาจักรของข้าแบบนี้มันจะเป็นเพราะเหตุผลแค่ข้าโจมตีเผ่าภูตนางฟ้า เจ้ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับนังพวกนั้นกันแน่?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “มีอยู่ 2 เหตุผลที่ทำให้ข้าตัดสินใจทำลายอาณาจักรของเจ้า ข้อแรกตอนนี้เผ่าภูตนางฟ้าได้มาอยู่ในความคุ้มครองของข้าแล้ว ข้าชอบพวกนาง ดังนั้นข้าจึงไม่อนุญาตให้ใครมารังแกพวกนางอย่างที่เคยเป็นมา! ส่วนเหตุผลที่สองก็คือเป็นตัวเจ้า! เพราะเจ้าบ่มเพาะเต๋าดวงใจจักรพรรดิ ดังนั้นเจ้าจึงขวางเส้นทางการพัฒนาของลูกชายข้า”

“แต่ด้วยเหตุผลที่เจ้าสามารถรวบรวมทั้งอาณาเขตนี้ให้เป็นปึกแผ่นและทำให้มันกลายเป็นอาณาจักรของเจ้าทั้งหมด มันก็หมายความว่าเจ้าเองก็มีความสามารถที่ไม่เลว ดังนั้นข้าจึงจะให้ทางเลือกแก่เจ้า เจ้าจงออกมาสู้กับจักรพรรดินีภูตนางฟ้าซะ หากเจ้าชนะข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่ถ้าเจ้าแพ้ ข้าจะให้นางฆ่าเจ้าซะ หรือถ้าเจ้าเลือกที่จะไม่ออกมา ข้าจะเป็นคนฆ่าเจ้าด้วยมือของข้าเอง!”

ลั่วหยูเฮงหัวเราะด้วยสีหน้าเย้ยหยัน จากนั้นเขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ตอนนี้ข้ามีตัวประกันเป็นภูตนางฟ้ามากกว่า 8,000 ตน เมื่อไหร่ที่เจ้าโจมตี ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมด!”

ลั่วหยูเฮงจะกล้าตกลงกับเงื่อนไขของหลิงตู้ฉิงได้ยังไง? ระดับการบ่มเพาะของเขาตอนนี้อยู่แค่เพียงขอบเขตราชัน แต่จักรพรรดินีภูตนางฟ้านั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตมหาจักรพรรดิ หากเขารับคำท้ามันก็เท่ากับเขารนหาที่ตายไม่ใช่เหรอไง?

ส่วนทางในการหนีไปนั้นเขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน เพราะเขาคือผู้ที่บ่มเพาะเต๋าดวงใจจักรพรรดิ หากเขาหนีไปความพยายามทั้งหลายที่เขาทุ่มเทลงไปทั้งชีวิตมันจะกลายเป็นสูญเปล่าในทันที

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เจ้าเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า? ข้าไม่ใช่คนของเผ่าภูตนางฟ้าสักหน่อย เจ้าคิดว่าการเอาชีวิตของพวกนางมาขู่ข้าแบบนี้ข้าจะหวั่นไหวงั้นเหรอ? ข้าขอปรับความเข้าใจของเจ้าใหม่สักหน่อย ที่ข้ามาที่อาณาจักรของเจ้าในวันนี้ก็เพราะข้าต้องการทำลายอาณาจักรของเจ้าไม่ใช่เพื่อมาช่วยชีวิตเหล่าภูตนางฟ้าที่เจ้าจับตัวเอาไว้ ดังนั้นชีวิตของภูตนางฟ้า 8,000 กว่าตนนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาข้าเลยแม้แต่น้อย เอาล่ะในเมื่อเจ้าปฏิเสธการตายอย่างมีเกียรติที่ข้ายื่นให้ งั้นก็อย่าโทษข้าที่ศพของเจ้ามันจะน่าอนาถจนบรรพบุรุษของเจ้าเองยังต้องหลั่งน้ำตา!”

หลังจากพูดจบ หลิงตู้ฉิงควบคุมให้ทะเลเลือดถาโถมเข้าใส่กำแพงเมืองหลวงของอาณาจักรอ้าวเฟิงทันที

ลั่วหยูเฮงและคนของเขา เมื่อเห็นเช่นนี้จิตใจของพวกเขาก็กลายเป็นตึงเครียดสุดขีด

ลั่วหยูเฮงตะคอกกลับด้วยสีหน้าเย็นชา “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะไม่สนใจนังพวกนี้อย่างที่เจ้าพูดหรอก ทหารของข้าเมื่อไหร่ที่ทะเลเลือดนั่นมาถึงกำแพง พวกเจ้าจงฆ่านังพวกนั้นให้หมด!”

เมื่อสิ้นเสียงคำสั่ง เหล่าทหารของอาณาจักรอ้าวเฟิงก็รีบพาภูตนางฟ้าทั้ง 8,000 ตนขึ้นไปยืนอยู่บนขอบกำแพงเมืองเพื่อที่พวกเขาจะได้มั่นใจว่าหลิงตู้ฉิงจะได้เห็นฉากการฆ่าชัด ๆ เมื่อทะเลเลือดโถมเข้ามาถึงกำแพง

ทางด้านของจักรพรรดินีภูตนางฟ้า เมื่อนางเห็นว่าคนของนางถูกนำตัวขึ้นไปอยู่บนกำแพงเพื่อรอการประหาร จิตใจของนางก็ระส่ำระส่ายและรู้สึกเจ็บปวด

ในตอนนี้เผ่าของนางเหลือจำนวนแค่ไม่กี่แสนเท่านั้นเอง หากหลิงตู้ฉิงสามารถช่วยเหลือภูตนางฟ้าทั้ง 8,000 ตนนี้ได้มันคงจะดีเป็นอย่างมาก แต่ว่าเรื่องราวมันดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้วนางเองก็รู้ดีว่าพวกนางคงไม่อาจถอยให้ลั่วหยูเฮงได้เหมือนกัน

หรือต่อให้หลิงตู้ฉิงยอมถอยจริง ๆ ท้ายที่สุดภูตนางฟ้า 8,000 ตนที่ถูกจับตัวเอาไว้ก็คงไม่ถูกปล่อยตัวออกมาเหมือนเดิม..

ดังนั้นบางทีการตายมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อจบความเจ็บปวดของเหล่าภูตนางฟ้าที่ถูกจับตัวเอาไว้!

จักรพรรดินีภูตนางฟ้าข่มความขมขื่นของนางเอาไว้ในใจ และเบนหน้าไปทางอื่นไม่กล้าสบตากับเหล่าภูตนางฟ้าทั้ง 8,000 ตน

หลิงตู้ฉิงมองไปยังเหล่าภูตนางฟ้าทั้ง 8,000 ตนที่ถูกจับมายืนอยู่บนกำแพง และหัวเราะด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นเขาหันไปหาซวนหยวน เทียนซ่ง ซวนหยวนตู่ และบรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิที่เหลือและพูดว่า “พวกเจ้าจงกระจายกันออกไปล้อมเมืองไว้ทุกทิศทางอย่าให้ใครในเมืองหนีออกไปได้! โดยเฉพาะไอ้พวกผู้เชี่ยวชาญที่อยู่บนกำแพงเมือง ในเมื่อพวกมันกล้าที่จะท้าทายข้าแบบนี้ ข้าจะให้พวกมันได้ลิ้มรสถึงความเจ็บปวดอย่างแท้จริง!”

ซวนหยวนตู่รีบตอบรับทันที “ท่านผู้ส่งสาสน์โปรดวางใจได้เลย ข้าจะไม่ให้ใครหลุดรอดออกไปได้แน่นอน!”

ซวนหยวนเองก็ตอนรับด้วยสีหน้าจนใจ “เฮ้อ…ข้า..ข้าจะทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน!”

เทียนซ่งแสดงสีหน้าลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่แล้วสุดท้ายเขาก็ตอบกลับด้วยสีหน้าหดหู่ “ข้าจะช่วยก็แล้วกัน…”

ไม่ใช่ว่าเขาบอกจุดประสงค์ในการมาไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเขามาที่นี่เพียงเพราะแค่อยากจะดู? แต่แล้วไหงตอนนี้หลิงตู้ฉิงกลับลากให้เขาร่วมลงมือด้วย? สันเขาทรราชของเขายังไม่ทันตัดสินใจเลยว่าจะร่วมขบวนไปกับหลิงตู้ฉิง แต่ตอนนี้เขากลับถูกสถานการณ์ลากให้เข้าร่วมซะอย่างนั้น…

อย่างไรก็ตามใน เมื่อหลิงตู้ฉิงเอ่ยปากขึ้นแบบนี้ เขาเองก็ไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าตอนนี้หลิงตู้ฉิงยังคงดูมีเหตุผลคุยด้วยได้ แต่ถ้าหากเขาเอ่ยปากปฏิเสธไปจนทำให้หลิงตู้ฉิงโมโหขึ้นมาจนกลายเป็นคนเก่า แบบนั้นสันเขาทรราชไม่ต้องถูกทำลายจนย่อยยับงั้นเหรอ?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เทียนซ่งก็ได้แต่จำใจยอมร่วมมือด้วย

ทางด้านของเซียงกวน บรรพบุรุษของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกจนใจเช่นกัน เขารู้สึกเสียใจมาก ๆ ที่วันนี้เขาถูกความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองเข้าครอบงำจนทำให้เขาต้องมาที่นี่

แต่ถึงแม้เขาจะเสียใจเขาก็ยังคงข่มอารมณ์และพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าจะลงมืออย่างเต็มที่!”

หลิงตู้ฉิงไม่ใส่ใจว่าคนเหล่านี้จะคิดอะไร เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้ว เขาจึงหันไปหาลั่วหยูเฮง และควบคุมให้ทะเลเลือดที่ล้อมรอบเมืองหลวงของอาณาจักรอ้าวเฟิงที่อยู่ด้านหลังของเขานั้นก่อร่างเป็นกำแพงสูงเสียดฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้บรรดาผู้คนจากกองกำลังอื่น ๆ ที่กำลังแอบมองสถานการณ์อยู่รอบนอกเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองหลวงของอาณาจักรอ้าวเฟิง

ส่วนเรื่องที่คนเหล่านั้นจะส่งจิตสำนึกของตนเองเข้าไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ด้านในนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะด้วยเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิจำนวนมากที่ติดตามหลิงตู้ฉิงมา หากมีใครกล้าส่งจิตสำนึกมาแอบมองมันก็เท่ากับรนหาที่ตาย

เมื่อกำแพงเลือดสร้างขึ้นเสร็จ หลิงตู้ฉิงจึงสั่งให้โม่หยูถังเอาง้าวเทวะพินาศมาส่งให้ จากนั้นเขาชี้ง้าวเทวะพินาศไปที่เหล่าภูตนางฟ้าทั้ง 8,000 ตนบนกำแพงเมืองและตะโกนว่า “ในนามของข้า ข้าข้อปฏิเสธพลังแห่งความตายในบริเวณที่ข้าปรารถนา!”