ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 724 เรื่องน่ายินดีทั้งสอง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ในคลื่นมิติเวลาที่ปั่นป่วน มีอาณาเขตมิติแตกต่างกัน ความเร็วของเวลาก็ไม่เหมือนกัน บัดเดี๋ยวเร็วบัดเดี๋ยวช้า

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แม้แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่อาจยึดกุมการเคลื่อนที่ของเวลาในตอนนี้ได้

เขาสงบจิตใจ ย้ายความสนใจทั้งหมดไปที่การฝึกฝนของตัวเอง

การฝึกฝนของตัวเขาในตอนนี้ยังอยู่ในขั้นสั่งสม คิดจะประสานรูปกับญาณ เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง ขั้นรวมรูประยะกลางย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

นี่เกี่ยวข้องกับเส้นทางสามบริสุทธิ์หนึ่งร่าง อันเป็นวิธีการฝึกฝนของเยี่ยนจ้าวเกอ มันมอบพลังต่อสู้ที่เหนือกว่าจอมยุทธ์คนอื่นในระดับเดียวกันให้แก่เขา แต่ก็เป็นเส้นทางที่ยากลำบากเส้นหนึ่งเช่นกัน

กระนั้นการเข้าไปในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬและได้ผลพลอยได้มามากมายในครั้งนี้ ก็ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอไร้แรงกดดันในด้านการสั่งสมทรัพยากรอีก

ก่อนหน้านี้ได้รับสมบัติมากมายจากในสุสานมังกร ครั้งนี้ได้รับของวิเศษที่กองอยู่ด้านใต้แท่นบูชาดุจภูเขา ยิ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพของเยี่ยนจ้าวเกอไปอีกขั้น

ในตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอแค่ต้องตั้งใจฝึกฝน ก้าวเดินบนเส้นทางอย่างมั่นคงทีละก้าวก็พอ

การสั่งสมในด้านทรัพยากรยังไม่จำเป็นต้องวิตก ถึงขั้นที่ต่อให้มอบให้คนอื่นก็ยังมีอยู่เหลือเฟือ

ส่วนการได้กระดูกคุนเผิงมาในครั้งนี้ของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีเรื่องหนึ่ง

กระดูกคุนเผิงอันล้ำค่าชิ้นนี้ทำให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสะสมปราณพื้นฐานได้สำเร็จ ประหยัดเวลาที่ต้องใช้น้ำขัดเกลาศิลาซึ่งจำเป็นต้องอดทนใช้เวลาเคี่ยวกรำในตอนแรกไปมากมาย

ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเข้าใจวิชาคุนเผิงบรรพกาลของตัวเอง ก้าวเท้าก้าวสำคัญสำเร็จ

หลังจากสำรวจตัวเองอย่างต่อเนื่อง เยี่ยนจ้าวเกอก็แน่ใจว่า ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของตัวเองมีความเป็นไปได้ในการพัฒนาขึ้นอีกก้าวแล้ว!

รากฐานอันล้ำเลิศของตัวเอง การหล่อเลี้ยงด้วยทรัพยากรไร้ขีดจำกัด การเข้าใจวรยุทธ์ระดับสูง และการมีวาสนาที่เหมาะสม

ความสำเร็จร่วมกันจากเงื่อนไขมากมาย ทำให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก้าวข้ามคอขวดได้ครั้งแล้วครั้งเล่าในระยะเวลาสั้นๆ มีความหวังว่าจะกลายเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้น

เงื่อนไขมากมายทำให้ปาฏิหาริย์ที่แทบจะเลียนแบบไม่ได้อีกสำเร็จ ไม่อาจขาดไปแม้เพียงข้อเดียว

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอาจจะก้าวข้ามอุปสรรคที่ยอดฝีมือด้านวรยุทธ์ระดับสุดยอดจำนวนมากไม่อาจข้ามได้ตลอดชีวิต ไปสู่โลกใบใหม่ได้

เยี่ยนจ้าวเกอนั่งหันหน้าเข้าหาร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ตั้งใจสัมผัสการเปลี่ยนแปลงจากร่างกายของมัน

การก้าวไปด้านหน้าแต่ละก้าวของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ความจริงเป็นการมอบประสบการณ์และความเข้าใจที่คุ้มค่าให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอเป็นจำนวนมาก

ถึงแม้ว่าจะฝึกฝนคนละวรยุทธ์ แต่ว่าประสบการณ์ในการฝึกปรือนี้ถึงอย่างไรก็เป็นของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่เหมือนกับการเกิดความรู้สึกรู้แจ้งจากการฟังประสบการณ์ของคนอื่น

สำหรับจอมยุทธ์ทุกๆ คนแล้ว นี่เป็นประสบการณ์ที่หายากและมีค่ามหาศาล

ในอีกมุมหนึ่ง ยังเป็นวาสนาที่ยิ่งใหญ่ของตัวเยี่ยนจ้าวเกอเองด้วย

การหลอมร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มผู้ช่วยที่แข็งแกร่งเท่านั้น การฝึกปรือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยังส่งผลดีต่อตัวเยี่ยนจ้าวเกอเองด้วย เหมือนกับทรัพย์สมบัติที่ไม่อาจประเมินค่า ทำให้ลดทางโค้งบนเส้นทางการฝึกฝนวรยุทธ์ในหลายปีมานี้ของเยี่ยนจ้าวเกอไปได้มาก

สามารถเลื่อนจากระดับบรรลุธรรมเป็นศักดิ์สิทธิ์ สำเร็จเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ในตอนที่ยังมีอายุน้อยขนาดนี้ได้ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่ใช่ไม่มีส่วนช่วย

แน่นอนว่าในระหว่างการฝึกปรือ ตัวเขากับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมีจุดที่แตกต่างกันมากมาย ยังจำเป็นต้องใช้การคัดกรองอย่างละเอียดเอง โดยการเก็บส่วนที่ดีเอาไว้

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกนั่งอยู่บนพื้น แสงสว่างสีทองและสีดำรอบตัวกะพริบ ประกอบกันเป็นหมอกแสง

หมอกแสงค่อยๆ ขยายขึ้นเหมือนกับท้องทะเล

มันลืมตาสองข้าง ในม่านตาทั้งสองต่างปรากฏภาพที่เหมือนกัน

ในยุคโบราณกาล มหาสมุทรแรกที่กว้างใหญ่ไพศาลมองไปไม่เห็นขอบเขตมีน้ำทะเลซัดสาดอย่างต่อเนื่อง

คุนเผิงขนาดใหญ่สุดเปรียบปานล่องลอยอยู่บนผิวน้ำ เมื่อเข้าไปในน้ำกลายเป็นปลาคุน ครั้นออกจากน้ำกลายเป็นนกเผิง

ขณะที่ว่ายอยู่ในมหาสมุทร เหมือนกับแผ่นดินขนาดเล็ก ยากจะกะขนาดความยาวของตัวมัน

ขณะที่บินอยู่กลางอากาศ เพียงกระพือปีกเพียงครั้งเดียวก็ลอยขึ้นสู่สวรรค์ ไม่เห็นร่องรอยอีก

นอกจากคุนเผิงโบราณที่เคยอยู่ในยุคบรรพกาลตัวนี้ ด้านในท้องทะเลของโลกใบนี้ยังมีสัตว์ยักษ์โบราณจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ร่วมกันอาละวาดอยู่ในยุคบรรพกาลด้วย

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่ประสานร่าง รูป และวิญญาณได้โดยสมบูรณ์แล้ว ก็เหมือนกับสร้างโลกใบหนึ่งขึ้นในร่างกาย

จุดลมปราณทั่วทั้งร่างในตอนนี้ต่างสั่นสะเทือนเบาๆ

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่ตอนนี้ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย มีเพียงแค่เรื่องเดียวที่ต้องขบคิด

นั่นคือทำลายสิ่งกีดขวางระหว่างด้านนอกและด้านใน เชื่อมต่อจักรวาลในร่างกายของตัวเองกับจักรวาลในโลกภายนอก ประสานจุดลมปราณของตัวเองกับดวงดาวที่แท้จริง

ด้วยเหตุนี้ จุดลมปราณจึงกลายเป็นเทวะ

พังผืดชั้นนี้ครั้นถูกเจาะทะลุ ก็เปิดประตูของโลกใบใหม่ในทันที

ทำลายนภา เห็นเทวะสำแดง

ด้วยเหตุนี้ พลังของจอมยุทธ์จึงเพิ่มขึ้นมา

ไม่จำเป็นต้องมาก ขอแค่หลอมได้แค่จุดลมปราณเดียว ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านคุณสมบัติทันที

ต่อมาหากจุดลมปราณที่หลอมมีมากขึ้นเท่าไร พลังก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บนเกาะชินเหอในทะเลหวงเจีย เยี่ยนจ้าวเกอได้ต่อสู้กับพวกหนงอวี่ซวนและเฉิงซงจากสำนักแสงสว่าง

เฉิงซง ผู้อาวุโสสำนักแสงสว่าง มีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้น

หากอยู่ในระดับเดียวกัน ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมีความมั่นใจว่าจะเล่นงานเขาจนไม่อาจดูแลตัวเองในการดำรงชีวิตได้อีก

ทว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย กลับไม่ใช่คู่มือของเฉิงซงที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้น

จำเป็นต้องพึ่งพาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงขึ้นไปจึงจะสู้กับเฉิงซงได้

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่ฝึกฝนวิชาคุนเผิงบรรพกาล พลัง ความเร็ว และความอึดต่างเหี้ยมหาญถึงขีดสุด แต่หากสู้กันนาน ต่อให้พยายามก็ใช่ว่าจะเอาชนะเฉิงซงได้

นี่คือความแตกต่างระหว่างขั้นเทวะสำแดงและขั้นรวมรูป จุดลมปราณจะหลอมเป็นเทวะได้หรือไม่ จะเชื่อมต่อกับจักรวาลภายในและภายนอกได้หรือไม่ จะประสานเสียงกับดวงดาวได้หรือไม่ ย่อมมีความแตกต่างมหาศาลนัก

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกในตอนนี้ยืนอยู่บนธรณีประตูแล้ว แต่คิดจะก้าวข้ามไปกลับไม่ง่าย

เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสงบนิ่ง ไม่รีบไม่ร้อน

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกทางหนึ่งลองทำความเข้าใจโลกและจักรวาลด้านนอก ทางหนึ่งศึกษาวิชาอันน่าอัศจรรย์อย่างวิชาคุนเผิงบรรกาล

ในห้วงสติของตัวเอง เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสได้ว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเหมือนกับกลายร่างเป็นคุนเผิงตัวจริงเสียงจริง ล่องลอยอยู่กลางมหาสมุทรอย่างต่อเนื่อง

ทุกอย่างนี้เหมือนไร้สิ้นสุด การฝึกฝนเป็นการก้าวเท้าก้าวแรกมาตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่อาจก้าวเท้าสุดท้ายได้

เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสั่นไหวเล็กน้อย คุนเผิงที่เกิดจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพุ่งจากผิวน้ำ กลายเป็นนกเผิงยักษ์ พุ่งพาดผ่านอากาศ ลอยขึ้นด้านบนอย่างต่อเนื่อง

ท้องฟ้าเหมือนกับไร้จุดสิ้นสุด คุนเผิงกระพือปีกบินสูง ในที่สุดก็มีช่วงที่อิดโรย

ทว่าในขณะที่บิน นกเผิงยักษ์ก็หุบปีกอย่างฉับพลัน ถึงกับกลายเป็นปลาคุนขนาดมหึมากลางอากาศอีกครั้ง

ปลาคุนกระโจน เหมือนกับกับจะโดดเข้าไปในทะเลใหม่

ทะเลด้านบน

ทะเลบนท้องฟ้า

ทะเลดาว

หลังจากกระโดดเข้าไปในทะเลดาว นกเผิงยักษ์ก็กลายเป็นปลาคุนอีกครั้ง พลันเหมือนกับกระโจนเข้าไปในโลกใบใหม่

ร่างกายของเยี่ยนจ้าวเกอ ลืมสองตาข้างขึ้น

เขาเห็นร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเบื้องหน้าผุดลุกขึ้น แสงสว่างส่องระยิบระยับด้านในจุดไป๋ฮุ่ยที่อยู่กลางกระหม่อมบนศีรษะ

คุนเผิงตัวหนึ่งเพียงเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็เหมือนกับลอยขึ้นไปบนฟ้า จนระทั่งถึงสรวงสวรรค์ กลายเป็นดวงดาวพร่างพราว

แม้ว่าจะอยู่ในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา แต่ว่าในนาทีนี้ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสัมผัสได้ว่า ในทะเลดาวของจักรวาลภายนอก มีดวงดาวของจริงดวงหนึ่งตอบสนองต่อตัวเอง

ในพริบตาเดียวนั้น สติของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกคล้ายรวมเป็นหนึ่งกับดวงดาว ยืนอยู่กลางหาว ก้มมองโลกหล้าพร้อมกัน

สิ่งกีดขวางที่แข็งแกร่งถูกทำลาย ตัวมันกับฟ้าดินเข้าใกล้กันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

บัดนี้ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอทำลายนภาสำเร็จ ได้เห็นเทวะสำแดงเดช ก้าวจากระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย เป็นระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้น!

และในขณะเดียวกัน ถึงจะไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็สัมผัสได้ว่ากระแสปั่นป่วนของมิติเวลาอ่อนแอลง จนวังฝูงมังกรที่มีกงจักรมหาประกายกาฬปกป้องอยู่สามารถสลัดหลุดได้แล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอผุดกายขึ้นหัวเราะร่า “เจอเรื่องน่ายินดีสองอย่างพร้อมกัน พวกเราได้เวลากลับไปแล้ว!”