อาณาเขตที่สำนักไร้ขอบเขตตั้งอยู่นั้นอยู่ติดกับอาณาจักรอ้าวเฟิง ดังนั้นการเดินทางของหลิงตู้ฉิงจึงใช้เวลาชั่วครู่เดียวก็เดินทางไปถึง
เมื่อหลิงตู้ฉิงเดินทางไปถึง ค่ายกลป้องกันของสำนักไร้ขอบเขตก็ถูกเปิดใช้งานขึ้นอย่างเต็มกำลังเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้รอบสำนักมีม่านพลังขนาดใหญ่ป้องกันอยู่
“ท่านผู้ส่งสาสน์ ท่านต้องการให้ข้าทำลายค่ายกลป้องกันของสำนักไร้ขอบเขตให้ไหม?” ซวนหยวนตู่ถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงโบกมือ “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเมื่อถึงเวลาเมื่อไหร่ข้าจะให้เจ้าลงมือแน่นอน พวกเขาเตรียมการมาค่อนข้างดี อันดับแรกให้ข้าคุยกับพวกเขาก่อน”
สำนักไร้ขอบเขตกับอาณาจักรอ้าวเฟิงนั้นไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าสำนักไร้ขอบเขตจะมีคนน้อยกว่า แต่พวกเขาก็มุ่งเน้นการป้องกันมารวมกันอยู่ที่สำนักเพียงอย่างเดียวไม่ได้กระจายตัวกันออกไปปกป้องหัวเมืองต่าง ๆ เหมือนกับอาณาจักรอ้าวเฟิง และที่สำคัญสำนักของพวกเขามีมหาวิถีเต๋าคอยเกื้อหนุน ดังนั้นความแข็งแกร่งในด้านการป้องกันของสำนักพวกเขานั้นย่อมเหนือกว่าเมืองหลวงของอาณาจักรอ้าวเฟิงแน่นอน
เมื่อเห็นว่าสำนักไร้ขอบเขตยังคงนิ่งเงียบเอาแต่หลบอยู่ในสำนัก หลิงตู้ฉิงจึงตะโกนขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าไม่คิดจะโผล่หน้าออกมาคุยกับข้าบ้างเลยงั้นเหรอ? แล้วไอ้อสูรที่คอยหนุนหลังพวกเจ้ามันหายหัวไปไหนแล้ว? ในฐานะที่เป็นอสูร เจ้าก็ควรจะกล้ามากกว่านี้บ้างใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง อสูรตนหนึ่งที่มีรูปร่างเป็นลิงแต่มีปากแหลมเหมือนอินทรีย์ก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ตามที่เจ้าต้องการ ข้าอยู่นี่แล้ว!”
เมื่อเห็นอสูรปรากฏกายขึ้น คิ้วของหลิงตู้ฉิงขมวดเข้าหากันทันทีพร้อมกับพูดให้คนของเขาได้ยินว่า “ลิงเชื่อมวิญญาณ!”
แค่เพียงมองครู่เดียว หลิงตู้ฉิงก็รู้ว่ามันคืออสูรอะไรและตัวเขาเองก็ไม่ได้กลัวมันเช่นกัน เหตุผลที่เขาขมวดคิ้วก็เพราะเขากังวลในความปลอดภัยของครอบครัวเขาที่อยู่ข้างหลัง ดังนั้นเขาจึงตั้งใจพูดชื่อของมันออกไปดัง ๆ เพื่อให้เหล่าบรรพบุรุษของสำนักมหาอำนาจรู้ตัวและใช้พลังของพวกเขาช่วยปกป้องคนที่เหลือ
ความสามารถของลิงเชื่อมวิญญาณนั้นคือมันสามารถอ่านใจคนได้ ซึ่งถ้ามันใช้ทักษะนี้กับคนในครอบครัวของเขา ความลับหลายอย่างที่เกี่ยวกับครอบครัวของเขาจะถูกเปิดเผย ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น
เมื่อได้ยินชื่อลิงเชื่อมวิญญาณ กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังหลิงตู้ฉิงก็แสดงสีหน้าแตกต่างกันออกไป เหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสูงกว่าราชันต่างพากันใช้พลังของพวกเขาเองปกป้องจิตสำนึกของพวกเขาและพยายามผ่อนคลายความคิดทุกอย่างของตนเองไม่ให้คิดถึงสิ่งใดให้มากที่สุด
แต่สำหรับบรรดาคนในครอบครัวของหลิงตู้ฉิงที่ไม่รู้ว่าลิงเชื่อมวิญญาณคืออะไร พวกเขาต่างก็พากันมึนงง ยกเว้นก็แต่มี่ไลที่รีบเปิดใช้อาณาเขตสวรรค์ของนางปกป้องทุก ๆ คนเอาไว้
“อย่าคิดอะไรทั้งนั้น!” มี่ไลตะโกนขึ้น “อสูรตนนั้นคือลิงเชื่อมวิญญาณ มันสามารถอ่านความคิดพวกเจ้าได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงยี่เทียนรีบพูดขึ้นทันที “ท่านแม่ ปล่อยให้ข้าได้ใช้พลัง!”
พลังแห่งความศรัทธาเปล่งประกายออกจากร่างของหลิงยี่เทียนทันที และเกื้อหนุนเข้ากับอาณาเขตสวรรค์ของมี่ไล
มี่ไลพยักหน้าด้วยสีหน้าพึงพอใจ “ทุกศรัทธาล้วนมีเหตุผลของตนเอง ด้วยเหตุผลและเจตจำนงของศรัทธาเหล่านี้มันย่อมทำให้ลิงเชื่อมวิญญาณนั่นสับสนจนไม่อาจรู้ได้ว่าความคิดไหนเป็นของใคร เยี่ยมมาก! ตอนนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวลกับไอ้ลิงนั่นแล้ว!”
นางใช้พลังของเวลาเกื้อหนุนหลิงยี่เทียนที่ใช้พลังจากจิตใจผู้คน แนวความคิดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิชาหยินหยางโกลาหลผกผันของหลิงตู้ฉิง
เมื่อเห็นว่าครอบครัวของเขาเองสามารถรับมือกับสถานการณ์อันตรายนี้ได้อย่างเหมาะสม หลิงตู้ฉิงจึงได้แต่ยิ้มอย่างพึงพอใจพลางคิดในใจว่าตอนนี้ทุก ๆ คนโตขึ้นมากแล้ว และมีความสามารถเพียงพอที่จะปกป้องตัวเองมากขึ้นจนเขาอาจจะวางใจได้ในบางเรื่อง..
เมื่อหมดห่วงแล้ว หลิงตู้ฉิงจึงหันกลับมาจ้องลิงเชื่อมวิญญาณและพูดว่า “เผ่าอสูรของเจ้านี่โง่งมดีจริง ๆ ก่อนหน้านี้ลิงเชื่อมวิญญาณอย่างเจ้าก็เหลือกันอยู่น้อยมากอยู่แล้ว และวันนี้พวกมันกลับส่งเจ้ามาตายที่นี่อีกตัว”
ลิงเชื่อมวิญญาณหัวเราะ “มันก็ไม่แน่หรอกว่าวันนี้จะเป็นใครที่ตาย! ด้วยการสนับสนุนจากข้า เจ้าคิดเหรอว่าเจ้าจะสามารถทำลายสำนักไร้ขอบเขตได้ง่าย ๆ?”
ในระหว่างที่มันพูดกับหลิงตู้ฉิง มันก็เริ่มใช้ทักษะอ่านความคิดของหลิงตู้ฉิงไปด้วย
อันที่จริงที่มันถูกส่งมาที่สำนักไร้ขอบเขตนั้นเป็นเพราะเบื้องบนต้องการให้มันจัดการกับหลิงตู้ฉิงโดยเฉพาะ ดังนั้นมันจึงไม่สนใจที่จะอ่านความคิดของคนอื่น ๆ เลย
มันคิดในใจว่าถ้าหากมันไม่สามารถจัดการกับหลิงตู้ฉิงได้จริง ๆ อย่างน้อย ๆ หากมันได้ข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์กลับไปบอกกับเผ่าของมันก็ยังดี ยกตัวอย่างเช่น ที่มา หรือแผนการในอนาคตของหลิงตู้ฉิงอะไรเทือกนั้น
แต่น่าเสียดายที่มันไม่รู้ตัวเลยว่าอันที่จริงแล้ว หลิงตู้ฉิงนั้นอยากให้มันรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่มากที่สุด
หลิงตู้ฉิงยิ้มและถามว่า “นี่เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าเจ้าจะสามารถต้านทานข้าได้? เผ่าอสูรส่งเจ้ามาตนเดียวหรือว่ามีอสูรตนอื่น ๆ อยู่ด้วยล่ะ? ว่าแต่เจ้ารู้รึเปล่าว่าขนาดอาณาจักรอ้าวเฟิงที่มีตำหนักเซียนมืดหนุนหลังยังถูกข้าทำลายไปแล้วเลย?”
ในระหว่างที่พูดขึ้น ในใจของหลิงตู้ฉิงก็นึกถึงภาพที่อาณาจักรอ้าวเฟิงถูกเขาทำลายและยิ่งไปกว่านั้นเขายังนึกรายละเอียดของ 2 สุดยอดวิชาที่ไม่มีอยู่ในโลกเบื้องล่างนี้เพื่อเตรียมที่จะใช้พวกมันทำลายสำนักไร้ขอบเขต
แน่นอนเมื่อเขาคิดเช่นนี้ลิงเชื่อมวิญญาณก็ติดกับ
เมื่อเห็นภาพหลิงตู้ฉิงทำลายอาณาจักรอ้าวเฟิงนั้น ลิงเชื่อมวิญญาณก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย แต่เมื่อมันเห็น 2 สุดยอดวิชาที่หลิงตู้ฉิงคิดจะใช้มันก็รู้สึกตื่นตระหนกในอำนาจของพวกมัน!
แต่เมื่อมันสงบสติลงได้มันก็เริ่มที่จะเห็นวิถีเต๋าที่อยู่ในเคล็ดวิชา ซึ่งมันก็อดไม่ได้ที่จะพยายามทำความเข้าใจในวิถีเต๋าพวกนั้นเพื่อพัฒนาตัวมันเอง
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “โอ้? นี่เจ้าลิงตัวน้อยขอบเขตมหาจักรพรรดิกล้าที่จะแอบดูความคิดของข้างั้นเหรอ? นี่เจ้ารู้รึเปล่าว่าในอดีตแม้แต่ราชาของเผ่าเจ้าเองยังไม่กล้าที่จะสบสายตากับข้าเลย! เอาล่ะในเมื่อตอนนี้เจ้าดูความคิดของข้าไปแล้ว ดังนั้นข้าจะขอดูความคิดของเจ้าบ้างก็แล้วกันว่าพวกอสูรอย่างเจ้ามันมีแผนการอะไรซ่อนเอาไว้อีก!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็ใช้ทักษะลับที่เขามีเชื่อมต่อความทรงจำของลิงเชื่อมวิญญาณเข้ากับของเขา ซึ่งมันก็เป็นทักษะเดียวกับที่หยิงหยิงเคยใช้กับเขาในอดีต
เขาถ่ายโอนความทรงจำส่วนหนึ่งของเขาแลกเปลี่ยนกับความทรงจำของลิงเชื่อมวิญญาณในทันที
ต้องไม่ลืมว่าเขาคือตัวตนที่เหนือล้ำกว่าคนทั่วไป แถมเขายังมีความทรงจำที่ทรงพลังและต้องห้ามอีกมากมาย ดังนั้นแค่ส่วนหนึ่งของความทรงจำของเขามันก็มีอำนาจพอที่จะแลกเปลี่ยนกับความทรงจำของลิงเชื่อมวิญญาณได้ทั้งหมด
หลิงตู้ฉิงยิ้มกว้างเมื่อเขาได้เห็นความลับบางอย่างของเผ่าอสูรจากความทรงจำของลิงเชื่อมวิญญาณ
ในเวลาเดียวกัน อสูรที่อยู่ในสำนักไร้ขอบเขตตัวอื่น ๆ ก็ปรากฏกายออกมาจากค่ายกลป้องกัน และรีบพุ่งตัวเข้าไปหาลิงเชื่อมวิญญาณและตะโกนว่า “ตื่นเดี๋ยวนี้!”
เหล่าอสูรตนอื่น ๆ รู้ได้ในทันทีว่าตอนนี้เรื่องราวมันกลับผกผันเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากพวกเขาสามารถสังเกตได้จากสีหน้าของหลิงตู้ฉิงที่ยิ้มกริ่มด้วยความเบิกบาน แต่ในทางกลับกันลิงเชื่อมวิญญาณกลับแสดงสีหน้าทนทุกข์ทรมาน
เมื่อถูกปลุก ลิงเชื่อมวิญญาณก็ลืมตาขึ้นทันที จากนั้นเขาหัวเราะอย่างขมขื่นและพูดว่า “พวกเจ้ารีบหนีกลับไปที่สันเขาหมื่นอสูรเดี๋ยวนี้ และฝากเตือนเผ่าลิงเชื่อมวิญญาณของข้าด้วยว่าในอนาคตห้ามสู้กับชายผู้นี้เป็นอันขาด!”
เมื่อพูดจบ มันฆ่าตัวตายโดยการซัดฝ่ามือใส่หัวของตัวเองทันที!