บทที่ 808 ความลับของเหล่าอสูร

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

เมื่อลิงเชื่อมวิญญาณตื่นขึ้นมันก็รู้ได้ทันทีว่ามันควรจะฆ่าตัวตายทันทีเพื่อให้ไม่ถูกหลิงตู้ฉิงมองเห็นความลับทั้งหมด เพราะการเชื่อมต่อความทรงจำนี้มันไม่มีวิธีอื่นเลยที่จะตัดขาดได้

“พวกเจ้ารีบหนีกลับไปที่สันเขาหมื่นอสูรเดี๋ยวนี้ และฝากเตือนเผ่าลิงเชื่อมวิญญาณของข้าด้วยว่าในอนาคตห้ามสู้กับชายผู้นี้เป็นอันขาด!” ลิงเชื่อมวิญญาณตะโกนขึ้นก่อนที่มันจะจบชีวิตของมันเองด้วยฝ่ามือพร้อมกับที่มันก็ระเบิดวิญญาณของตัวเองเพื่อลบการเชื่อมต่อทุกอย่างที่หลิงตู้ฉิงมีกับมัน ส่งผลให้มันตายลงอย่างสมบูรณ์

อันที่จริงมันมีอีกหลายสิ่งที่มันอย่างจะเอ่ยออกไป แต่เมื่อมันเห็นว่าความลับที่สำคัญที่สุดของเผ่าอสูรกำลังจะถูกหลิงตู้ฉิงเห็น ดังนั้นมันจึงรีบจบชีวิตตัวเองตัดหน้าทันที

อสูรที่มาปลุกลิงเชื่อมวิญญาณเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ลงเอยเช่นนี้มันก็รู้แล้วว่าทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุมของมัน มันรีบพุ่งตัวกลับเข้าไปในสำนักไร้ขอบเขตและตะโกนว่า “อสูรทุกตนตามข้ากลับไปที่สันเขาหมื่นอสูรผ่านประตูเคลื่อนย้าย! ส่วนพวกเจ้าสำนักไร้ขอบเขต หากพวกเจ้าไม่มีที่ไหนให้หลบซ่อน พวกเจ้าสามารถตามพวกข้าไปที่สันเขาหมื่นอสูรได้เช่นกัน!”

หลังจากพูดจบ มันก็รีบเปิดใช้งานประตูเคลื่อนย้ายและเดินเข้าไปด้านในทันที

ในเวลาเดียวกันนั้น หลิงตู้ฉิงก็ตะโกนขึ้นเช่นกัน “ทำลายสำนักไร้ขอบเขตและตัดขาดการเชื่อมต่อของประตูเคลื่อนย้ายนั่นซะ!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่มากับหลิงตู้ฉิงต่างก็รีบโจมตีค่ายกลป้องกันของสำนักไร้ขอบเขตทันที ส่วนทางด้านของหลิงตู้ฉิงก็ค่อย ๆ เดินไปหาศพของลิงเชื่อมวิญญาณและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ฉลาดนักนะ ฆ่าตัวตายก่อนที่ข้าจะรู้ความลับทั้งหมดไอ้ลิงสารเลว!”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงจึงคว้าศพของลิงเชื่อมวิญญาณขึ้นมาและโยนไปให้กับหลิงยี่เทียน และพูดว่า “ยี่เทียน เจ้าเก็บศพมันเอาไว้ให้เก๋าหยูกิน ด้วยเนื้อของอสูรขอบเขตมหาจักรพรรดิ เก๋าหยูจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว!”

จากนั้นในเวลาไม่นาน ค่ายกลป้องกันของสำนักไร้ขอบเขตก็พังทลายลง ซึ่งซวนหยวนก็เห็นว่าที่ประตูเคลื่อนย้ายยังคงเปิดใช้งานอยู่ และมีคนพยายามจะเดินเข้าไปในมัน เขาจึงรีบคว้าร่างผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นเอาไว้และทำลายประตูเคลื่อนย้ายในทันที..

หลังจากนั้นบรรดาคนของสำนักไร้ขอบเขตที่หนีไม่ทันก็ถูกหลิงตู้ฉิงสังหารจนหมดไม่มีเหลือในข้อหาที่พวกเขาบังอาจสมคบคิดกับเหล่าอสูร

“เปิดคลังสมบัติของสำนักไร้ขอบเขตออก จากนั้นพวกเจ้า อาณาจักรจันทรา สันเขาทรราช สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ สำนักเต๋าสวรรค์ ภูเขาฟีนิกซ์และป่าภูตนางฟ้าแบ่งสมบัติกันไปเท่า ๆ กัน” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น

จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็หันไปพูดกับหลิงยี่เทียนทางโทรจิตว่า “ยี่เทียน เจ้าจงให้คนของเจ้าที่เจ้าสามารถไว้ใจได้ไปสืบหาที่ตั้งของอาณาจักรที่ชื่ออาณาจักรผู้กล้าและสภาอสูรศักดิ์สิทธิ์ จงจำไว้ให้ดีว่าเจ้าจะต้องส่งแต่คนที่เจ้าไว้ใจได้เท่านั้นให้ไปสืบเรื่องนี้”

หลิงยี่เทียนถามกลับด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ท่านพ่อ สองสถานที่นี้มันมีอะไรพิเศษงั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง “เมื่อครู่พ่อเข้าไปดูความทรงจำของลิงนั่นมา ซึ่งมันทำให้พ่อได้ล่วงรู้ความลับว่าสองสถานที่นี้เป็นสิ่งที่พวกอสูรสร้างขึ้น แน่นอนว่าสภาอสูรศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกนำโดยเผ่าอสูร แต่สำหรับอาณาจักรผู้กล้านั้นคืออาณาจักรที่ถูกนำโดยมนุษย์ ซึ่งหากมองจากผิวเผินทั้ง 2 ฝ่ายต่างต่อสู้กันเรื่อยมาและมีแพ้ชนะบ้างสลับกันไป แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเผ่าอสูรนั้นได้แฝงกายเป็นชนชั้นปกครองของอาณาจักรผู้กล้าเรียบร้อยหรือไม่ก็พวกตัวตนระดับสูงที่เป็นมนุษย์ก็ร่วมมือกับพวกอสูรซะเอง…น่าเสียดายที่ไอ้ลิงนั่นมันตายเร็วไปหน่อย พ่อเลยได้ข้อมูลมาแค่นี้ นอกเหนือจากนั้นก็มีแต่ข้อมูลทั่วไปของเผ่ามัน”

สีหน้าของหลิงยี่เทียนเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันทีเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาพยักหน้าและพูดว่า “ข้าจะส่งคนที่ข้าไว้ใจที่สุดไปสืบเรื่องนี้แน่นอนท่านพ่อ!”

“อืมก็มีเท่านี้ล่ะ” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “เอาล่ะรีบแบ่งสมบัติกันให้เสร็จ หลังจากนี้พวกเรายังต้องไปทำลายหมู่บ้านกระบี่โลหิตกันต่อ!”

ในเวลาเดียวกัน หลิงฟ่างหัวก็รีบปรี่เข้ามาทันทีและถามขึ้นว่า “ท่านพ่อ วิชาที่ท่านใช้ดูความทรงจำของเจ้าลิงนั่นมันคืออะไรกัน? ท่านสอนให้ข้าหน่อยได้ไหม?”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยสีหน้าหนักแน่นและพูดว่า “เคล็ดวิชาอื่น ๆ พ่อยินดีถ่ายทอดให้เจ้าทั้งหมด แต่สำหรับเคล็ดวิชานี้พ่อไม่ถ่ายทอดให้เจ้าแน่นอน มันอันตรายเกินไป”

เคล็ดวิชาเชื่อมความทรงจำถึงแม้ว่าจะวิเศษก็จริง แต่มันก็เป็นเหมือนดาบสองคม

หากผู้ใช้ไม่เหนือกว่าฝั่งตรงข้ามจริง ๆ ผู้ใช้เองจะเป็นคนที่ถูกเล่นงาน

และที่สำคัญความทรงจำของหลิงฟ่างหัวนั้นมีความลับอยู่ต่าง ๆ ตั้งมากมายรวมไปถึงความลับของเขาด้วย หากเขาสอนให้และนางกลับนำไปใช้กับศัตรูที่บังเอิญแข็งแกร่งกว่านางขึ้นมา ความเสียหายที่จะบังเกิดขึ้นนั้นมันแทบจะคำนวณไม่ได้ ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำให้ลูกสาวของเขาผิดหวังในครั้งนี้

“ก็ได้!” หลิงฟ่างหัวทำหน้ามุ่ย

จากนั้นผ่านไปอีกพักใหญ่ เมื่อทุกคนแบ่งสมบัติกันจนเสร็จ พวกเขาก็พากันมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านกระบี่โลหิตกันต่อ

แต่แล้วเมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงหมู่บ้านกระบี่โลหิต นอกเหนือจากศพของเหล่าภูตนางฟ้าผู้น่าสงสาร 20 กว่าศพ คนอื่น ๆ ของหมู่บ้านกระบี่โลหิตก็จากไปกันหมดแล้ว

จักรพรรดินีภูตนางฟ้าเมื่อเห็นภาพเช่นนี้นางก็ได้แต่ทอดถอนใจ และเก็บศพคนของนางเพื่อนำกลับไปฝังที่ป่าภูตนางฟ้า

จากนั้นเมื่อทุกคนเห็นว่าหมู่บ้านกระบี่โลหิตไม่มีอะไรแล้ว หลิงตู้ฉิงจึงนำกลุ่มคนของเขากลับไปที่ป่าภูตนางฟ้าเพื่อปรึกษาหารือเรื่องในอนาคตกันต่อ

กองกำลังของสามอาณาเขตที่ล้อมรอบป่าภูตนางฟ้าในตอนนี้ล้วนถูกทำลายจนหมดแล้ว และแน่นอนว่าผู้ที่เข้าควบคุมทั้งสามอาณาเขตนี้ก็คือ หยูไท่ฉวน ซึ่งหลิงยี่เทียนเป็นคนแต่งตั้งเขาให้ได้รับหน้าที่ดูแลเพื่อที่อาณาจักรจันทราจะได้ไม่ต้องเสียแรงมาดูแลเอง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตอนนี้หยูไท่ฉวนเองก็ยังไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะปกครอง 3 อาณาเขตพร้อม ๆ กัน ดังนั้นเขาจึงร้องขอความช่วยจากตำหนักมังกรให้มาช่วยเขาอีกแรง