ถึงแม้ว่าอยากจะช่วยเหลือเจ้าเด็กผู้บำเพ็ญเหล่านี้ แต่สุดท้ายแล้วบุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำก็เป็นเพียงแค่วิญญาณอาวุธตนหนึ่งเท่านั้น เขาเองก็สิ้นไร้หนทาง แม้กระทั่งในขณะนี้ สิ่งที่เขาใส่ใจมากยิ่งกว่าก็คือ “ข้ารายงานการลาดตระเวนขึ้นไปแล้ว หวังว่าการลาดตระเวนจะสามารถไปถึงได้ทันการณ์ สังหารสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาหน้าใหม่เหล่านี้ไปได้ มิฉะนั้นหากให้ข้าหนีออกไป เช่นนั้นก็จะเกิดภัยพิบัติมากขึ้นแล้ว”
สามารถบรรลุภายใต้สภาพที่ถูกคุมขังทรมานในโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญได้เช่นนี้ อีกทั้งสายโลหิตยังสูงส่ง เมื่อใดที่หลบหนีออกไป ในอนาคตทุกสิ่งทุกอย่างนี้ก็มิอาจพูดได้อย่างชัดเจนแล้ว ด้วยศักยภาพที่อีกฝ่ายแสดงออกมา ก็มีความหวังที่จะไปถึง ‘สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาขั้นสุดยอด’
“ขวับๆ” รยางค์แต่ละเส้นของเจ้าทะเลหุบเหวลึกผู้มีร่างสูงแปดพันลี้ บนผิวหนังมีลวดลายตัวอักษรบ่อน้ำแน่นขนัด เกี่ยวกระหวัดกับโซ่ตรวนเส้นแล้วเส้นเล่าที่แทรกผ่านภายในร่างกายอย่างอ่อนๆ หมายจะดึงลากออกไปด้านนอกอย่างสุดกำลัง
“โผล่หัวออกมาให้ข้า ออกมาสิ!”
รยางค์สิบหกเส้นของเจ้าทะเลหุบเหวลึกดึงอย่างสุดกำลัง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
แต่ไม่ว่าเขาจะฉุดลากอย่างไร โซ่ตรวนเหล่านี้กลับไม่ถูกดึงออกมาเลยแม้แต่เส้นเดียว!
“ไม่ทำลายค่ายกลกดดันแห่งนี้ ข้าก็หนีออกไปมิได้หรอก” หลังจากนั้นเจ้าทะเลหุบเหวลึกก็เริ่มดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ร่างกายปรารถนาที่จะเพิ่มความสูง รยางค์แต่ละเส้นยังคงรัดเกี่ยวโซ่ตรวนเอาไว้ แต่กลับออกแรงในทิศทางตรงกันข้าม หมายจะดึงลากให้ค่ายกลขนาดใหญ่ที่เกี่ยวกระหวัดอยู่กับโซ่ตรวนฉีกเปิดออกมา
เคร้งๆๆ
โซ่ตรวนเหล่านี้ทุกเส้นล้วนพังทลายลง! บังคับกดดันสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาผู้ยิ่งใหญ่อย่างเจ้าทะเลหุบเหวลึกเอาไว้ที่ความสูงแปดพันลี้ ยามที่เจ้าทะเลหุบเหวลึกดึงลากโซ่ตรวนอย่างบ้าคลั่ง ทั่วทั้งโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญก็สั่นสะท้านน้อยๆ ทุกหนแห่งของห้วงอากาศต่างก็เริ่มแหลกสลาย ดูเหมือนว่าระยะเวลาชั่วพริบตาเดียว ห้วงอากาศทุกตารางนิ้วทั่วทั้งโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญต่างก็แหลกสลายและผสานกลับเข้าด้วยกัน เผยให้เห็นโซ่ตรวนที่ราวกับลวดลายลับจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่หลังกำแพง
โซ่ตรวนลวดลายลับจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับกรงขังขนาดยักษ์ที่หุ้มห่อทั้งโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญเอาไว้ อีกทั้งยังผนึกโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญเอาไว้ด้วย
ครืน…โลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญสั่นสะเทือน โซ่ตรวนลวดลายลับจำนวนนับไม่ถ้วนที่ราวกับกรงขังเปล่งประกายระยิบระยับจับตา
เจ้าทะเลหุบเหวลึกไม่ยอมจำนน “ถึงกับมิอาจดิ้นรนออกมาได้ ข้าไปถึงสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาแล้ว แต่ถึงกับยังไม่สามารถทำลายค่ายกลแห่งนี้แล้วหนีออกไปได้เลย!”
ผลลัพธ์นี้นับได้ว่าไม่ดีไม่ร้าย
แผนการในครั้งนี้…
ในความคาดหมายแต่เดิมของเขา สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คือเมื่อใดที่เขาบรรลุไปถึงสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกา ภายใต้การระเบิดอย่างสุดกำลังของค่ายกลปิดผนึก ถ้าหากผลาญสังหารเขาโดยตรง เช่นนั้นก็น่าอนาถเป็นอย่างยิ่งแล้ว! นี่ก็คือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการเอาไว้ แต่เขาก็สิ้นไร้หนทาง จำเป็นจะต้องบรรลุ มิฉะนั้นก็คงจะไม่มีความหวังเลยแม้แต่นิดเดียว
สถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือเขาสามารถทำลายค่ายกลปิดผนึกได้ภายในคราวเดียว! ทั้งยังสามารถทำลายทั้งโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญ ผลาญสังหารผู้บำเพ็ญที่มีอยู่ได้ แล้วหนีไปอย่างสบายๆ! รอกว่าจะถึงเวลาที่ผู้แกร่งกล้าคละถิ่นที่น่าหวาดหวั่นจำนวนหนึ่งมาถึง เขาก็คงหนีไปไม่รู้ถึงไหนต่อไหนแล้ว
สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ดีไม่ร้าย! ค่ายกลปิดผนึกก็มิได้ล้ำเลิศถึงเพียงนั้น มิได้ทำให้เขาตายในทันที! แต่ก็มิได้อ่อนด้อยจนถูกเขาทำลายและหนีไปได้เช่นนั้น
“ลูกพี่ใหญ่!” เจ้าทะเลหุบเหวลึกหยุดดิ้นรน หากแต่อาศัยการรับสัมผัสของสายโลหิต สัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่แกร่งกล้าอีกตนหนึ่งที่สถานที่ห่างไกลแห่งหนึ่งนอกห้วงมิติอันไร้ขีดจำกัด นั่นคือสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาเผ่าพันธุ์เดียวกันตนหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับเขาที่สุด เพราะว่าในมิติคละถิ่นไร้ขีดจำกัด ยิ่งระยะทางห่างไกล ก็ยังสามารถสร้างการรับสัมผัสได้
หนึ่งคือต้องเป็นสายโลหิตเดียวกัน! สองก็คือพลังยุทธ์ต้องแข็งแกร่งพอ อย่างน้อยก็ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกา
เจ้าทะเลหุบเหวลึกมีสายโลหิตสูงส่ง ในสายโลหิตนี้ของเขา มีผู้ที่สำเร็จเป็นสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาก่อนหน้าเขาถึงสามท่านแล้ว!
“หืม เฉิงหาวหรือ” ณ บริเวณอันห่างไกลไร้ที่สิ้นสุด มีคนร่างยักษ์สูงตระหง่านที่เดิมทีกำลังหลับสนิทอยู่ กาลมิติโดยรอบเขาปิดผนึก ต่อให้ผู้แกร่งกล้าคละถิ่นคนอื่นๆ ผ่านทางมา ก็ยากที่จะค้นพบตัวเขาได้
ขณะนี้เองเขาก็ลืมตาขึ้น
ดวงตาของเขามีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของโลกทิพย์โบราณดั้งเดิมเป็นอันมาก ผิวกายมีประกายน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนไหลโคจร มีโลกแห่งแล้วแห่งเล่าก่อกำเนิดขึ้นท่ามกลางประกายน้ำ ในโลกของประกายน้ำเหล่านั้นก็มีสิ่งมีชีวิตคละถิ่นธรรมดาสามัญที่อ่อนแอตนแล้วตนเล่ากำลังดำรงชีวิตอยู่ด้วย
“ฮ่าฮ่า เฉิงหาว น้องชายของข้า เจ้าบรรลุไปถึงระดับโลกาแล้วหรือ” คนร่างยักษ์สูงตระหง่านผู้นี้เผยสีหน้ายินดี ภายใต้สายโลหิตเดียวกันกับพวกเขา จำนวนสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงก็มากมายจนเหนือธรรมดา แต่จะต้องไปถึงระดับโลกาเท่านั้นเขาจึงจะเห็นเป็นพี่น้องได้
“ใช่แล้ว ข้าเพิ่งจะบรรลุ แต่ว่าข้าถูกคุมขังเอาไว้ภายในโลกแห่งหนึ่ง ข้าไม่สามารถดิ้นรนให้หลุดออกมาได้ ต้องการความช่วยเหลือ และจะต้องรวดเร็วด้วย! ผู้แกร่งกล้าระดับโลกาใต้อาณัติของผู้บำเพ็ญเจ้าดินแดนก็ต้องได้รับข่าวแล้วเช่นเดียวกัน แล้วก็จะต้องมุ่งหน้ามาด้วยความเร็วสูงสุดเป็นแน่” จิตวิญญาณของเจ้าทะเลหุบเหวลึกถ่ายเสียงพูด
“พื้นที่นั้นของเจ้าเป็นอาณาเขตที่ผู้บำเพ็ญควบคุมอยู่” คนร่างยักษ์สูงตระหง่านเป็นกังวลอยู่บ้าง
“ลูกพี่ใหญ่ ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด” เจ้าทะเลหุบเหวลึกเอ่ยอย่างร้อนรน
เขาก็รู้ว่านี่เป็นอาณาบริเวณของผู้บำเพ็ญ สิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่น่าหวาดหวั่นมากพออย่างแท้จริงย่อมไม่มีทางเข้ามาพัวพันง่ายๆ แน่นอน
“เอาล่ะ! วางใจเถิด ข้าจะรายงานขึ้นไป จะต้องมีสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาที่อยู่ใกล้ที่สุดตรงไปช่วยเจ้าอย่างแน่นอน ข้าจะต้องช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาตนที่สี่ที่เผ่าพันธุ์ข้าให้กำเนิดขึ้นมาออกมาให้จงได้! พูดถึงการสั่งสม ถึงอย่างไรพวกเราก็แข็งแกร่งกว่าผู้บำเพ็ญมากมายเหลือเกินแล้ว” คนร่างยักษ์สูงตระหง่านเอ่ยขึ้นในทันใด เพียงรับสัมผัสผ่านสายโลหิต เขาก็สามารถระบุตำแหน่งของเจ้าทะเลหุบเหวลึกได้อย่างแน่ชัดแล้วรายงานขึ้นไปเพื่อเริ่มทำการช่วยเหลือแล้ว!
เจ้าทะเลหุบเหวลึกจิตใจผ่อนคลาย
ตัวเขาเองหนีออกไปไม่ได้ ก็ได้แต่ขอให้เผ่าพันธุ์เดียวกันช่วย ถึงแม้ว่าผู้แกร่งกล้าคละถิ่นระดับโลกาในบรรดาผู้บำเพ็ญจะร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องซ่อนตัวอยู่ภายในโลกกำเนิดของตนเท่านั้น จึงจะสามารถเรียกได้ว่าไร้ซึ่งศัตรู! ทำได้เพียงแค่ยึดมั่น เริ่มทำการต่อสู้ในระยะประชิด ก็ร้ายกาจกว่าสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาตั้งไม่รู้เท่าใด ที่น่าหวั่นเกรงที่สุดก็คือเจ้าดินแดน! เจ้าดินแดนผู้ยิ่งใหญ่ พลังยุทธ์ก็สูงส่งลึกล้ำยากคาดคะเน จึงสามารถปกป้องคุ้มครองดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลได้อย่างแท้จริง
แต่เจ้าดินแดนมีอยู่ทั้งสิ้นเพียงเก้าคนเท่านั้น มีจำนวนน้อยนิดเป็นอย่างยิ่ง
……
เจ้าทะเลหุบเหวลึกจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เหมาะสมกับตนเอง แล้วจึงมุ่งความสนใจไปยังบรรดาผู้บำเพ็ญกลุ่มใหญ่ภายในเมืองเมฆาแดงเหล่านั้น สำหรับเขาแล้วผู้บำเพ็ญเล็กจ้อยอ่อนแอที่มิใช่แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตคละถิ่นเหล่านี้ก็คือมดปลวก ย่อมไม่สามารถเปรียบเทียบกับชีวิตของตัวเขาเองได้อยู่แล้ว! ตนจัดการเรื่องราวอย่างเหมาะสมแล้วจึงมาเหยียบย่ำมดปลวกที่อ่อนแอเหล่านี้ให้ตายจนหมดสิ้น!
“หนีเร็ว เร็ว เร็วเข้า กระจายตัวกันไปให้หมด”
“กระจายตัวกันไปให้หมด ในทิศทางที่แตกต่างกัน หนีเร็ว หนีเร็ว! ถ่วงเวลาเอาไว้ให้นานที่สุด เพียงแค่สามารถถ่วงเวลาไปจนผู้แกร่งกล้าคละถิ่นมาสังหารเจ้าทะเลหุบเหวลึก พวกเจ้าก็มีทางรอดแล้ว!” เงารางของบุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำล่องลอยอยู่กลางอากาศพลางถ่ายเสียงเอ่ยกระตุ้นผู้บำเพ็ญทุกคน
เหล่าผู้บำเพ็ญหนีกระจัดกระจายกันไปแล้ว ดูเหมือนว่าต่างก็เคลื่อนไหวกันตามลำพังทั้งสิ้น
รอบกายของพวกเขาทุกคนต่างก็มีพลังค่ายกลคุ้มครอง ซึ่งก็คือพลังค่ายกลบางส่วนที่บุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำโคจรนั่นเอง
“ล้างผลาญ” เจ้าทะเลหุบเหวลึกนึกคิดในใจ
ภายในอาณาเขตกฎเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบอยู่รอบกายเขา พลังอันไร้รูปร่างเคลื่อนเข้ามา ผู้บำเพ็ญทุกคนต่างก็รู้สึกว่าร่างกายนิ่งงัน ความเร็วลดลงในทันใด แต่ก็ยังคงสามารถต้านทานเอาไว้ได้
“วิญญาณอาวุธตัวเล็กจ้อยยังสามารถโคจรพลังเล็กๆ น้อยๆ มาคุ้มกันเจ้าเด็กพวกนี้เอาไว้ได้ด้วยอย่างนั้นหรือ จะมีประโยชน์หรืออย่างไรกัน” เจ้าทะเลหุบเหวลึกยิ้มเยาะ พลังคุ้มกันเพียงเล็กน้อยเท่านี้ทำให้เหล่าผู้บำเพ็ญสามารถมองข้ามสิ่งมีชีวิตคละถิ่นธรรมดาสามัญเหล่านั้นได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาอย่างเจ้าทะเลหุบเหวลึก ก็ยังคงน่าขันเป็นอย่างยิ่ง! เจ้าทะเลหุบเหวลึกก็ยังคงต้านทานทั้งค่ายกลปิดผนึกเอาไว้ได้ พลานุภาพของตัวเขานั้นน่าหวาดหวั่นเพียงใด
สวบ
เขาก้าวยาวๆ ก้าวหนึ่งอย่างรวดเร็วเหลือเกิน เพียงก้าวเดียวก็เหยียบไปทางผู้บำเพ็ญท่านหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด ผู้บำเพ็ญผู้นั้นเงยหน้าอย่างสิ้นหวัง ก็ได้เห็นเท้าใหญ่ราวกับภูเขาขนาดมหึมาลูกหนึ่งปกคลุมท้องฟ้าแล้วเหยียบตรงลงมา เหยียบจนผู้บำเพ็ญผู้นี้กลายเป็นผุยผงในทันใด!
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าทะเลหุบเหวลึกจะดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ ต้านทานค่ายกลปิดผนึก อีกทั้งยังถ่ายเสียงให้กับจิตวิญญาณลูกพี่ใหญ่… บรรดาผู้บำเพ็ญเหล่านั้นก็ได้หนีกระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศแล้ว ตอนนี้ผู้ที่หนีไปได้ช้าที่สุดก็อยู่ห่างออกไปกว่าร้อยล้านลี้แล้ว แต่เจ้าทะเลหุบเหวลึกก้าวยาวๆ เพียงก้าวเดียวก็ไปถึงที่นั่นแล้วเหยียบผู้บำเพ็ญผู้นั้นจนตาย
ความเร็วรวดเร็วกว่าบรรดาผู้บำเพ็ญมากมายเหลือเกิน
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” เจ้าทะเลหุบเหวลึกกวาดสายตามอง แล้วระบุตำแหน่งเป้าหมายแรกในบรรดาผู้บำเพ็ญที่มีอยู่ทั้งหมดของเขา…จ้าวหิมะเหิน!
ตงป๋อเสวี่ยอิงก็เริ่มหนีเอาชีวิตรอดแล้วเช่นกัน
ถึงอย่างไรเขาก็เคยทดสอบกระตุ้นรอยประทับบนข้อมือมาก่อนแล้ว แต่ก็ไร้ประโยชน์ อาณาเขตกฎเกณฑ์ของเจ้าทะเลหุบเหวลึกส่งผลกระทบต่ออาณาบริเวณกว้างโดยรอบ ก็ย่อมไม่มีทางจากไปได้อยู่แล้ว อันที่จริงแล้ว ถ้าหาก ’หยวน’ ลงทุนทุ่มเทหลอมวัตถุคุ้มกันชีพเพื่อเด็กคนหนึ่งมากพอจริงๆ ก็ยังสามารถต้านทานกฎเกณฑ์ของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาตนหนึ่งได้… แต่ในท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ตงป๋อเสวี่ยอิงและจักรพรรดิเป่ยเหอได้มาครอบครองก็เป็นเพียงแค่เคล็ดการหลบหนีที่สามารถกระตุ้นได้สามครั้งซึ่งเหลือทิ้งเอาไว้ยังสถานที่ต้องห้ามทางเดินเขี้ยวอสรพิษเคล็ดหนึ่งเท่านั้นเอง
ถ้าหากผู้แกร่งกล้าคละถิ่นระดับโลกามิได้สังเกต ก็ย่อมสามารถหนีไปได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว
แต่คิดหนีภายในอาณาเขตกฎเกณฑ์ใต้จมูกของพวกเขาอย่างนั้นหรือ เคล็ดการหลบหนีนี้ก็ยังไม่เพียงพออยู่แล้ว
“ก่อนหน้านี้ข้ายังคิดว่ารอให้การต่อสู้ครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว ถ้าหากมิได้ของกำนัลจากเจ้าดินแดน เช่นนั้นก็จะมุ่งหน้าไปยังโลกแห่งที่สามแล้ว คิดไม่ถึงว่าเจ้าทะเลหุบเหวลึกจะถึงกับบรรลุไปถึงระดับชีวิตคละถิ่นระดับโลกาแล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงเองก็รู้สึกจนใจ ไม่เหมือนกันกับผู้บำเพ็ญจำนวนมากมายในโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญ เขามีร่างแยก ดังนั้นก็ย่อมไม่หวาดกลัวการตายตกไปของร่างแยกอยู่แล้ว
“ดูท่าทาง การขัดเกลาที่เหล่าเจ้าดินแดนให้กับเด็กรุ่นใหม่ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยพึมพำ
……
เจ้าทะเลหุบเหวลึกระบุตำแหน่งจ้าวหิมะเหินผู้เป็นเป้าหมายแรก แต่เพราะเคล็ดลับหยดน้ำที่ตงป๋อเสวี่ยอิงที่ตระหนักรู้ขึ้นมาใหม่ ความเร็วในการเหินทะยานจึงจัดอยู่ในไม่กี่สิบอันดับแรกของบรรดาผู้บำเพ็ญเกือบสองหมื่นคนที่หนีไปทั่วสารทิศ! ก็ย่อมเป็นไม่กี่สิบอันดับแรกที่หนีไปได้ไกลที่สุดอยู่แล้ว
เจ้าทะเลหุบเหวลึกระบุตำแหน่งไปยังทิศทางของจ้าวหิมะเหินแล้วเดินไปทีละก้าวๆ
เขาไม่เร่งร้อนสังหารตงป๋อเสวี่ยอิง หากแต่ก้าวหนึ่งก้าว สังหารหนึ่งคนไปตามทิศทางนี้! ทุกฝีก้าวล้วนต้องเหยียบผู้บำเพ็ญตาย บีบเข้าไปยังทิศทางที่ตงป๋อเสวี่ยอิงอยู่อย่างต่อเนื่อง
“มาแล้ว”
ก้าวหนึ่งก้าว สังหารหนึ่งคน
ฝีก้าวขนาดมหึมายาวกว่าพันลี้ นอกจากนี้ความเร็วของเขายังรวดเร็วเหลือเกิน เท้าหนึ่งที่เหยียบย่างลงไปก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้เลย
“คิดไม่ถึงว่าข้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาตนหนึ่ง” ผู้บำเพ็ญหันหน้ามองไปด้านหลัง แม้แต่อัตราเร็วก็เชื่องช้าลงเสียแล้ว เขารู้ดีว่าต่อให้วิ่งเร็วกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ฝ่าเท้าขนาดมหึมาเหยียบลงมา ผู้บำเพ็ญผู้นี้สายตาสงบนิ่ง แผละ… กลายเป็นผุยผงไปในทันที
จากนั้น
เจ้าทะเลหุบเหวลึกก็มุ่งหน้าไปต่อ
“จะถึงคราวข้าแล้วหรือ ไม่นะ!” จักรพรรดิเป่ยเหอก็กำลังหลบหนีเช่นกัน เขาเป็นเพียงแค่ระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์เท่านั้น ด้านอัตราเร็วก็ยิ่งมิใช่ความเชี่ยวชาญของเขาด้วย ความเร็วในการหลบหนีของเขาก็นับได้เพียงว่าเป็นระดับทั่วไปอย่างยิ่งในบรรดาผู้บำเพ็ญเท่านั้น เขากำลังเข้าใกล้การก้าวหนึ่งก้าว สังหารหนึ่งคนของเจ้าทะเลหุบเหวลึกที่อยู่ด้านหลังในไม่ช้าแล้ว
…………………