กองกำลังย่อยเพียงสามกองของพวกตงป๋อเสวี่ยอิงเหาะเหินออกมาจากเมืองเมฆาแดงเพื่อไปช่วยเหลือ
เพราะมีตงป๋อเสวี่ยอิงสำแดงเคล็ดวิชาวิญญาณแผ่ปกคลุมบริเวณรอบๆ บรรดาสิ่งมีชีวิตคละถิ่นก็มิอาจคุกคามได้ กองกำลังย่อยเพียงสามกองไปช่วยเหลือก็เพียงพอแล้ว ความเร็วของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นจนถึงขีดสุด ส่วนอีกด้านหนึ่ง เจ้าทะเลหุบเหวลึกก็บัญชาสิ่งมีชีวิตคละถิ่นกลุ่มใหญ่ ตัวเขาเองก็เคลื่อนทะยานก้าวใหญ่หมายจะสังหารอย่างสุดกำลัง
“เจ้าทะเลหุบเหวลึกคลุ้มคลั่งไปเสียแล้ว ถึงกับปรากฏร่างจริงเลยทีเดียว”
“เขาจะต้องคลุ้มคลั่งไปแล้วอย่างแน่นอน คราวนี้ถ้าหากการสังหารล้มเหลว เขาก็จะไม่มีโอกาสสังหารอีกต่อไปแล้ว พวกเราผู้บำเพ็ญห้าเมืองร่วมมือกันจัดการเขาก็เป็นเรื่องง่ายดายแล้วล่ะ”
พวกตงป๋อเสวี่ยอิงแต่ละคนอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง
เพราะว่าพวกเขาคิดค้นค่ายกลรบขนาดใหญ่ที่ดัดแปลงให้ง่ายลงออกมาแล้ว มีจักรพรรดิกานฉวีและจ้าวสวรรค์พิสุทธิ์สองคนในห้าคนที่คิดค้น ‘ค่ายกลผลาญชีพห้าธาตุ’ ออกมาในตอนนั้นอยู่ ทั้งยังมียอดฝีมือทางด้านค่ายกลมากมายร่วมแรงกัน ในที่สุดก็ดัดแปลงได้สำเร็จ ค่ายกลรบขนาดใหญ่ที่ดัดแปลงให้ง่ายลงนี้ได้ละทิ้งลูกไม้ที่ใช้ต่อกรกับการต่อสู้แบบกลุ่มไปมากมาย แต่ใช้เพื่อการต่อสู้ระยะประชิดเป็นหลัก
“เร็วๆๆ เจ้าทะเลหุบเหวลึกผู้นี้คลุ้มคลั่งไปเสียแล้ว”
“ฮ่าฮ่า…มาแล้ว!”
ในที่สุดพวกตงป๋อเสวี่ยอิงก็ร่วมมือกันกับกองกำลังย่อยหกกองของเมืองเฉิงกวงและเมืองจันทร์ยะเยือกอย่างตื่นเต้นอยู่บ้าง! เหตุผลหลักก็คือสิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่ล้อมรอบอยู่ด้านนอกเมืองเมฆาแดงในตอนนี้ยิ่งเพิ่มขึ้นมากมายเหลือเกิน เกรงว่าจะมีสิ่งมีชีวิตคละถิ่นสามส่วนของทั้งโลกทิพย์มาอยู่ที่นี่แล้ว! บวกกับความคลุ้มคลั่งของเจ้าทะเลหุบเหวลึก ส่งผลให้กองกำลังของเมืองเฉิงกวงและเมืองจันทร์ยะเยือกในครั้งนี้ทวีความยากลำบากขึ้นมาอยู่พอสมควร
เคราะห์ดีที่รวมตัวกันได้สำเร็จ
“พวกเรารวมตัวกันสำเร็จ เจ้าทะเลหุบเหวลึกก็ตายแน่แล้ว”
“รีบกลับไปยังเมืองเมฆาแดงโดยเร็วที่สุด สร้างค่ายกลรบขนาดใหญ่”
“เร็วสิ ข้ารอไม่ไหวแล้วนะ”
“รอคอยวันนี้มาเนิ่นนาน เนิ่นนานเหลือเกินแล้ว”
เหล่าผู้บำเพ็ญต่างก็พากันตื่นเต้นยินดี
กองกำลังย่อยเก้ากองที่รวมตัวกันนี้กลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าทะเลหุบเหวลึกกลับเดินมุ่งหน้ามาทางเมืองเมฆาแดงด้วยนัยน์ตาทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ
“ยังไม่หนีไปอีกหรือ” ในขณะเดียวกันกับที่พวกตงป๋อเสวี่ยอิงกลับไปยังเมืองเมฆาแดง ก็สังเกตเห็นเจ้าทะเลหุบเหวลึก เดิมทีคิดว่าเจ้าทะเลหุบเหวลึกสังหารล้มเหลวแล้วก็จะหลบหนีไปในทันที แต่พวกเขามั่นใจในตนเองเป็นอย่างยิ่ง ได้เตรียมพร้อมเอาไว้เป็นอย่างดีอยู่ก่อนแล้ว เชื่อว่าอาศัยค่ายกลรบขนาดใหญ่ที่ผู้แกร่งกล้าของเมืองทั้งห้าแห่งร่วมมือกันสำแดง…อัตราเร็วในการเหินทะยานเพิ่มขึ้น ก็จะต้องสามารถไล่ตามเจ้าทะเลหุบเหวลึกแล้วสังหารเขาได้อย่างแน่นอน
“ไม่หนีก็ดี ทำให้พวกเราสะดวกยิ่งขึ้นอีก”
“เขามั่นใจในตัวเองมากเกินไปแล้วกระมัง”
ผู้บำเพ็ญจำนวนมากถ่ายเสียงวิพากษ์วิจารณ์
แต่ก็ยังมีผู้บำเพ็ญบางคนที่รู้สึกไม่สงบอยู่รางๆ! เพียงแต่ตอนนี้ลูกธนูก็อยู่บนคันธนูแล้ว ผู้บำเพ็ญของเมืองทั้งห้าร่วมมือกันแล้ว ค่ายกลรบขนาดใหญ่ก็สร้างเสร็จแล้ว ทุกคนไม่มีเหตุผลใดๆ ให้เนิ่นช้าอีก
ฟิ้ว!
กองกำลังย่อยเก้ากองร่อนลงมาในเมืองเมฆาแดง กองกำลังย่อยอื่นๆ อีกหกกองต่างก็พากันตื่นเต้นหาใดเปรียบ
เหล่าผู้บำเพ็ญเริ่มรวมตัวกัน เริ่มเรียงตัวเป็นค่ายกลรบขนาดใหญ่ในทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะราวกับสายฟ้าฟาดก็ดังกึกก้องทั่วฟ้าดิน “ดีมาก พวกเจ้าผู้บำเพ็ญของเมืองทั้งห้ามารวมตัวกันหมดแล้ว!”
เหล่าผู้บำเพ็ญในเมืองที่กำลังจัดเรียงตัวเป็นค่ายกลรบขนาดใหญ่ต่างก็สะดุ้งคราหนึ่ง ตงป๋อเสวี่ยอิงเองก็หัวใจสั่นสะท้าน ในบรรดาพวกเขามีบางคนที่รู้สึกไม่สงบอยู่รางๆ จากการที่เจ้าทะเลหุบเหวลึกมิได้เร่งร้อนหนีไป แต่ก็มิได้คิดอะไรมาก รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในการควบคุม แต่รอยยิ้มอันวิปลาสของเจ้าทะเลหุบเหวลึกในตอนนี้… ทำให้ผู้บำเพ็ญทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกอกตกใจ!
“แย่แล้ว”
“เขา เขาหมายความว่าอย่างไรกัน”
“หรือว่าเขาอยู่นอกเมืองเมฆาแดงเนิ่นนานถึงเพียงนี้ มิใช่เพื่อสังหาร แต่เพื่อรอให้พวกเรามารวมตัวกันเล่า”
“เพราะเหตุใดกัน นี่มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ถ้าหากมีพลังยุทธ์เพียงพอ เขาก็ไม่ล้างผลาญพวกเราไปเรียบร้อยตั้งนานแล้วหรอกหรือ”
“เป็นไปไม่ได้หรอก! เขาถูกลงโทษพันธนาการและกดดัน แต่จ้าวหิมะเหินทำให้สิ่งมีชีวิตคละถิ่นธรรมดาสามัญมิอาจคุกคามได้ด้วยกำลังของเขาคนเดียว…จะคุกคามพวกเราผู้บำเพ็ญมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน เช่นนั้นนี่ก็มิใช่การทดสอบแล้วล่ะ”
ขณะนี้แต่ละคนเกิดความคิดต่างๆ มากมายขึ้นมาภายในใจ
……
“ดีมาก พวกเจ้าผู้บำเพ็ญของเมืองทั้งห้าต่างก็มารวมตัวกันหมดแล้ว!” เสียงของเจ้าทะเลหุบเหวลึกยังคงก้องสะท้อนอยู่ระหว่างฟ้าดิน ร่างกายของเขาก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน! สูงหนึ่งพันสองร้อยลี้ สูงหมื่นลี้ สูงหนึ่งแสนลี้… ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน
บาดแผลจำนวนหนึ่งบนผิวหนังตลอดร่างเขาเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว บนผิวหนังปรากฏอักขระสีฟ้าน้ำทะเลอันแปลกประหลาดเป็นรูปร่างตัวอักษร ‘บ่อน้ำ’ ทั่วทั้งฟ้าดินล้วนสั่นสะเทือน นอกจากนี้พลังแห่งโลกาของโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญนี้ยังพุ่งเข้าไปภายในร่างกายของเจ้าทะเลหุบเหวลึกอย่างบ้าคลั่งด้วย
พูดกันอย่างจริงจังแล้ว
เป็นร่างกายของเจ้าทะเลหุบเหวลึกที่กำลังดูดกลืนพลังแห่งโลกาบริเวณรอบๆ อย่างบ้าคลั่ง ถึงแม้ว่าโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญนี้จะมีการสกัดกั้น แต่เขากลับสามารถฝืนดูดกลืนได้!
นอกจากนี้กฎเกณฑ์บริเวณรอบๆ ก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นด้วย เจ้าทะเลหุบเหวลึก…การดำรงอยู่ของเขาเป็นระดับขั้นเดียวกันกับโลกแห่งหนึ่ง ตัวเขาเองก็คือพื้นฐานของโลก! และตอนนี้เจ้าทะเลหุบเหวลึกก็เปลี่ยนเป็นน่าหวาดหวั่นขึ้นเป็นอย่างมาก ร่างกายของเขาถึงขนาดที่ทำให้การกดดันของกฎเกณฑ์ของโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญนี้ร่นถอยไป นอกจากนี้ยังเริ่มเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์บริเวณรอบๆ อีกด้วย
“นี่ นี่มันเป็นอะไรไปแล้วเล่า”
“นี่…”
เหล่าผู้บำเพ็ญเกือบสองหมื่นคนต่างพากันเงยหน้าปากอ้าตาค้าง เกิดความหนาวเหน็บขึ้นในหัวใจ
ร่างกายของเจ้าทะเลหุบเหวลึกขยายใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน การดำรงอยู่ของเขาถึงขนาดที่เริ่มส่งผลกระทบต่อกฎเกณฑ์บริเวณรอบๆ ทั่วทั้งเมืองเมฆาแดงล้วนอยู่ภายในอาณาเขตของกฎเกณฑ์นี้ พวกตงป๋อเสวี่ยอิงแต่ละคนต่างก็อดที่จะเกิดความรู้สึกจงรักภักดีมิได้…แกร่งกล้าเกินไปเสียแล้ว! พลังยุทธ์ของทั้งสองฝ่ายยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่ชวนให้คนสิ้นหวังเลยทีเดียว
“เพล้งๆๆ” ห้วงอากาศโดยรอบกำลังแหลกสลาย เผยให้เห็นโซ่ตรวนที่ราวกับลวดลายลับจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่หลังกำแพง
โซ่ตรวนลวดลายลับจำนวนนับไม่ถ้วนผนึกทั้งโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญเอาไว้อย่างแน่นหนา!
ความเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์ที่เกิดจากเจ้าทะเลหุบเหวลึก ปะทะกันกับกฎเกณฑ์ของโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญ
“นี่ นี่ต้องมิใช่สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงอย่างแน่นอน สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงที่โลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญย่อมไม่มีทางแข็งแกร่งถึงเพียงนี้แน่” อูเสี่ยวมองดูเจ้าทะเลหุบเหวลึกที่รูปร่างขยายใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลันแล้วก็อดหัวใจสั่นสะท้านมิได้
“แย่แล้ว มีเรื่องยุ่งยากใหญ่เสียแล้วสิ รีบไปเร็วเข้า” จักรพรรดิเป่ยเหอกลับตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง เขากระตุ้นรอยประทับในกำไลข้อมือในทันใด หมายจะไปจากโลกใบนี้
ฟึ่บ!
เขาเพิ่งจะกระตุ้น แต่กฎเกณฑ์บริเวณรอบๆ กลับฝืนกดดัน ทำให้การกระตุ้นของจักรพรรดิเป่ยเหอล้มเหลว
เจ้าทะเลหุบเหวลึกผู้กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงยังเหลือบมองไปทาง ‘จักรพรรดิเป่ยเหอ’ ปราดหนึ่ง มุมปากมีรอยยิ้มเยาะ “โอ้ เคล็ดการหลบหนีอันร้ายกาจยิ่งอย่างนั้นหรือ น่าเสียดายที่ไร้ประโยชน์”
ถึงแม้ว่า…
นี่คือเคล็ดวิชาที่ ’หยวน’ เหลือทิ้งเอาไว้ แต่ว่านั่นคือเคล็ดวิชาที่แฝงอยู่ในก้อนหินใหญ่ที่หยวนเหลือทิ้งเอาไว้ในสถานที่ต้องห้าม ‘ทางเดินเขี้ยวอสรพิษ’ แห่งหุบเขาเขี้ยวหักในตอนนั้น ผู้บำเพ็ญทุกคนที่สามารถเข้าไปในก้อนหินใหญ่ก้อนนั้นได้ล้วนสามารถได้เคล็ดวิชานี้มาครอบครองกันทั้งสิ้น เคล็ดการหลบหนีนี้สามารถกระตุ้นได้สามครั้ง! เคล็ดวิชาที่ได้ได้อะไรมาอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้ มิอาจนับได้ว่าล้ำค่า ทั้งยังมิอาจทลายเปิดอาณาบริเวณระลอกคลื่นกฎเกณฑ์ของสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาท่านหนึ่งได้อีกด้วย
“สามหาวนัก!” เสียงตะคอกเสียงหนึ่งก้องสะท้อนไปทั่วทั้งโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญ
เงารางของบุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำที่สูงตระหง่านหาใดเปรียบผู้หนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ เขาจ้องมองเจ้าทะเลหุบเหวลึกอย่างเดือดดาล เห็นเพียงว่าโซ่ตรวนเส้นแล้วเส้นเล่าที่ทะลุผ่านอย่างแน่นขนัดอยู่ภายในร่างกายเจ้าทะเลหุบเหวลึกเริ่มต้นระเบิดออกจนหมด ประกายทองจำนวนนับไม่ถ้วนสว่างวาบขึ้น พลานุภาพพุ่งทะยานขึ้นจนสูงถึงขีดสุด โซ่ตรวนแต่ละเส้นต่างก็กดดันอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ร่างกายที่ขยายขึ้นของเจ้าทะเลหุบเหวลึกไม่เพียงแต่จะมิอาจขยายขึ้นได้เท่านั้น แต่ยังถูกกดดันให้เริ่มหดเล็กลงอีกด้วย
พวกตงป๋อเสวี่ยอิงแต่ละคนจำได้ว่าบุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำผู้นั้นก็คือวิญญาณอาวุธแห่งตำหนักชี้นำ แต่ละคนมองดูร่างกายของเจ้าทะเลหุบเหวลึกหดเล็กลงแล้วก็อดเกิดความคาดหวังขึ้นมาในใจมิได้
“วิญญาณอาวุธตนหนึ่งก็มาโหวกเหวกโวยวายต่อหน้าข้าได้” เจ้าทะเลหุบเหวลึกขบกรามคำราม เขาต้านทานอย่างสุดความสามารถ แต่ร่างกายของเขาก็ยังถูกบีบอัดให้หดเล็กลงจนถึงที่สุด
นี่คือค่ายกลจำนวนหนึ่งที่เจ้าดินแดนในตอนนั้นติดตั้งเอาไว้ป้องกันนักโทษคละถิ่น บัดนี้ก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาจนหมด
ถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าดินแดนผู้ยิ่งใหญ่ ที่ต่อกรในตอนนั้นล้วนเป็นนักโทษคละถิ่นระดับ ‘สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูง’ ทั้งสิ้น สามารถป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ พลังคุกคามของค่ายกลก็ยังไปถึงระดับโลกาแล้ว! นี่สำหรับเจ้าดินแดนคนหนึ่งแล้วก็สิ้นเปลืองความคิดไปไม่น้อยเลยทีเดียว
“วิ้งๆๆ”
โซ่ตรวนลวดลายลับจำนวนนับไม่ถ้วนนอกกำแพงของทั้งโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญต่างก็กำลังเปล่งประกาย ทั้งยังดูดกลืนพลังคละถิ่นในบริเวณรอบๆ อย่างบ้าคลั่ง พลานุภาพระเบิดออกมาถึงขีดสุด ค่ายกลขนาดใหญ่นี้ถูกกระตุ้นจนหมด ป้องปรามเจ้าทะเลหุบเหวลึกผู้นี้
นี่จึงจะเป็นพลังขีดจำกัดสูงสุดของค่ายกล
ร่างกายเจ้าทะเลหุบเหวลึกถูกกดดันจนหดเล็กลงอย่างที่สุด สุดท้ายก็หดเล็กลงจนถึงความสูงแปดพันลี้แล้วจึงหยุดลง
“อะไรกัน” บุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำตกตะลึงอย่างใหญ่หลวง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพียงแค่วิญญาณอาวุธตนหนึ่งเท่านั้น ขณะนี้ก็เคลื่อนย้ายพลังค่ายกลจนถึงขีดสุดแล้ว ก็เพียงแค่ทำให้อีกฝ่ายบีบอัดจนถึงแปดพันลี้นี้เท่านั้น! ต้องรู้ไว้ว่า…ถึงจะต้านทานพลังที่สูงถึงขีดสุดของค่ายกล ก็ยังสามารถคงความสูงแปดพันลี้เอาไว้ได้เช่นเดิม ทุกการเคลื่อนไหวของร่างกายที่สูงแปดพันลี้ต่างก็มีอานุภาพอันไร้ที่สิ้นสุด แข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
“หึหึหึ…ยังมีลูกไม้อันใดอีกหรือไม่เล่า” เจ้าทะเลหุบเหวลึกมองดูเงารางของบุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำผู้นั้นแล้วยิ้มยิงฟันอย่างโหดเหี้ยม “โลกที่ให้เหล่ามดปลวกตัวเล็กจ้อยขัดเกลาแห่งหนึ่ง ก็คงไม่มีผู้แกร่งกล้าคละถิ่นระดับโลการักษาการณ์ในระยะยาวหรอกกระมัง ฮ่าฮ่า! วิญญาณอาวุธตัวเล็กจ้อยอย่างเจ้า ทำอะไรก็ไม่ได้หรอก”
บุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำอดที่จะเกิดความขมขื่นใจขึ้นมาไม่ได้
ผู้แกร่งกล้าคละถิ่นระดับโลการักษาการณ์อย่างนั้นหรือ เป็นไปได้อย่างไรกัน!
ผู้แกร่งกล้าคละถิ่น ตัวเองก็เทียบเท่ากับโลกใบหนึ่งแล้ว! แบ่งร่างแยกร่างหนึ่งออกมา พลังยุทธ์ก็จะอ่อนแอลงไปส่วนหนึ่ง ดังนั้นเมื่อออกไปต่อสู้ภายนอก โดยทั่วไปแล้วก็มีเพียงแค่ร่างแยกหลักที่แข็งแกร่งที่สุดร่างเดียวเท่านั้น! เหลือร่างที่ค่อนข้างอ่อนแอเอาไว้ที่โลกกำเนิดของตน! ร่างแยกหลักเพียงแค่ร่างเดียวเท่านั้น… ต่างก็ต้องรักษาการณ์สถานที่สำคัญเอาไว้ จะมาอยู่ที่โลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญสำหรับขัดเกลาเด็กเมื่อวานซืนได้อย่างไรกัน
ถึงอย่างไรผู้แกร่งกล้าคละถิ่นระดับโลกาก็มีจำนวนจำกัดเป็นอย่างยิ่ง
“เป็นไปได้อย่างไรกัน เป็นไปได้อย่างไร! สิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูง เดิมทีการบรรลุไปถึงสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาก็ยากเย็นเป็นอย่างยิ่งอยู่แล้ว อีกทั้งนักโทษคละถิ่นยังเผชิญกับการกดดันพันธนาการอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย! ร่างกายของเขาก็ยังมิได้ไปถึงสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงขั้นสมบูรณ์ เมื่อใดที่ไปถึงขั้นสมบูรณ์ ก็ต้องส่งเขาเดินไปสู่ความตายอย่างแน่นอนแล้ว ไม่สามารถทิ้งเอาไว้ที่นี่ได้หรอก” บุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
เขาเข้าใจกระจ่างดี
เจ้าทะเลหุบเหวลึกผู้นี้คงจะสำเร็จระดับขั้นสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงขั้นสมบูรณ์แล้ว แต่กลับมิได้บรรลุ! ภายใต้สถานการณ์ที่มิได้บรรลุนี้ เขาก็ฝืนตระหนักรู้วิธีการที่จะบรรลุไปถึงระดับโลกา
นี่ช่างล้ำเลิศเหลือเกิน!
นอกจากนี้…
เพราะว่าเลือกผู้ที่มิได้เป็นขั้นสมบูรณ์ในบรรดาสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูง ก็ยังต้องให้แรงกดดันกับผู้บำเพ็ญมากพอสมควร ที่เลือกโดยทั่วไปล้วนเป็นสายโลหิตสูงส่งทั้งสิ้น สายโลหิตของเจ้าทะเลหุบเหวลึกตรงหน้าผู้นี้ก็ค่อนข้างสูงส่งเช่นกัน
“สายโลหิตสูงส่ง ภายใต้ผลกระทบกดดันของโลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญ ต่างก็สามารถไปถึงสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาได้อย่างนั้นหรือ” บุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำเกิดความหนาวเหน็บขึ้นในใจ ตั้งแต่โลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญของตนกำเนิดขึ้นมาก็ไม่เคยมีเรื่องราวเช่นนี้มาก่อนเลย! เพราะว่าสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับสูงที่ไปถึงระดับโลกามีไม่ถึงหนึ่งในล้านคนเสียด้วยซ้ำ! ที่โลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญ ระดับความยากก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า
ความเป็นไปได้เช่นนี้ช่างต่ำเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งบัดนี้ที่โลกทิพย์แห่งการบำเพ็ญก็เพิ่งจะผลัดเปลี่ยนเจ้าทะเลหุบเหวลึกมาเพียงแค่หกท่านเท่านั้นเอง
แต่โผล่มาอีกตนหนึ่ง ฝืนบรรลุไปถึงสิ่งมีชีวิตคละถิ่นระดับโลกาอย่างนั้นหรือ
“หมดกัน”
“บรรดาเจ้าเด็กผู้บำเพ็ญของโลกใบนี้จบเห่กันหมดแล้ว” บุรุษร่างสูงผอมในอาภรณ์ดำรู้ว่าท่าไม่ดี
เขาไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไปแล้ว
……………………