บทที่ 833 ส่งเสริม

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 833 ส่งเสริม
ไชยันต์มองตามพวกเขาเรียกได้ว่าโมโหออกมาเป็นอย่างมาก!

“หมอคิตตี้ คุณไม่เห็นหรือไงว่าพวกเขากำลังเล่นกับผมอยู่ ทำไมถึงได้เรียกให้พวกเขาออกไป”ตาแก่คนนี้ ร้อนรนขึ้นมา เพียงเพราะว่าเรื่องเล็กแค่นี้ก็กล่าวโทษเส้นหมี่ขึ้นมา

เส้นหมี่ทำได้เพียงเดินเข้ามา หลังจากนั้นกล่าวคำขอโทษอย่างยิ้มแย้ม

“ต้องขอโทษด้วยค่ะคุณท่าน ฉันไม่ทันได้สังเกตเห็นคุณ เด็กน้อยคนนั้นของฉันที่อยู่ด้านบนเอาแต่พูดว่าอยากเจอพี่ชาย เมื่อสักครู่ฉันเพื่อที่จะพาคุณแสนรักไปรักษา จึงทำได้เพียงเอาเธอไว้ในห้องด้านบน ต้องขอโทษจริงๆค่ะ”

ไชยันต์:“……”

จ้องมองไปที่หมอสาวคนนี้ ในที่สุด เขาก็ไม่พูดอะไรออกมา

นี่เป็นลักษณะท่าทางที่แปลกมาก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ที่เด็กทั้งสองจะมา เขาก็ไม่ได้มีความอดทนต่อเด็กสาวคนนั้นสักเท่าไหร่

แต่ตอนนี้ หลังจากที่เขามีพวกเขาทั้งสองแล้ว เหมือนกับว่าแม้แต่กับเด็กสาวคนนั้น ก็อ่อนโยนลงมาก

แต่ว่า……

เขาเงยหน้ามองไปยังด้านบนตอนนี้ชายหนุ่มก็ได้มาถึงที่หน้าประตูห้องแล้ว ทนไม่ไหวที่จะหงุดหงิดขึ้นมาอีก

ไอ้คนชั่วคนนี้ ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่รับเด็กทั้งสองคนนี้มา ใครก็แตะต้องไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้เป็นหมอสาวคนนี้ล่ะ เธออยากจะทำอะไรกับพวกเขายังไง? เขาไม่พูดอะไรสักคำ?

ภายในใจของไชยันต์ยิ่งไม่พอใจขึ้นมาอย่างมากแล้ว!

——

เรด พาวิเลี่ยน

ม็อกโกตั้งแต่กลับมาเมื่อวันนั้น เขาก็กลับไปที่ค่ายทหารแล้ว หลังจากนั้น เป็นเวลานานที่ไม่ได้ออกมา

มินตรารู้สึกไม่พอใจต่อคนที่หวังเอาไว้

ในเวลานี้ขวัญเมืองที่ไปที่เดอะวิวซีบ่อยๆ ยังได้ส่งข่าวที่ไม่ค่อยดีมาให้เธออีก

“คุณป้า ฉันได้ยินว่า คุณท่านจะส่งหลานของเขาไปเรียนที่คิวเอสวายค่ะ”

“คุณพูดว่าอะไรนะ คิวเอสวาย?!!”

มินตราได้ยินชื่อสถานที่นี้ ทันใดก็ระเบิดออกมา!

คิวเอสวายนั้น นั่นเป็นสถานที่แบบไหน? นั่นเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดของเมืองหลวงแห่งนี้ ที่นั่นไม่ได้เกี่ยวกับเงินทองหรืออำนาจใดๆ เด็กๆทั้งหมดที่สามารถเข้าไปได้นั้น ต่างต้องใช้ความสามารถของตัวเองจริงๆถึงจะได้เข้าไป

อีกทั้งเมื่อได้เข้าไปแล้ว พอเรียนจบกลับมา ต่างก็กลายเป็นคนที่มีความสามารถที่สุด เก่งที่สุดของประเทศนี้

มินตราโมโหจนจะเป็นจะตาย

เพราะว่า เมื่อเธอนึกถึงลูกม็อกโกของเธอในปีนั้น

ตอนเด็กๆม็อกโกก็ฉลาดหลักแหลมมาก นิสัยก็ดี แต่ว่าในตอนนั้นเธอกับไชกุทั้งสองอยากจะนำเขาส่งเข้าเรียนที่คิวเอสวาย

แต่กลับถูกไชยันต์ขัดขวางเอาไว้

เขาพูดว่า ถ้าเขาเข้าไปแล้ว จะต้องถูกคนกล่าวหาว่าตระกูลเทวเทพนั้นให้สินบน ส่งหลานของตัวเองเข้าไป แบบนี้จะทำลายชื่อเสียงอันเลื่องลือของโรงเรียนแห่งนี้ที่มีมาเป็นร้อยปี

แต่ตอนนี้ล่ะ?

เจ้ากระต่ายน้อยสองคนนั้น พึ่งจะหกขวบ เรียนอยู่ชั้นประถมหนึ่ง เขาถึงกลับอดใจไม่ไหวอยากส่งพวกเขาไปที่นั่นแล้ว

มีสิทธิ์อะไร?

มินตราเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อหลานสาววางสายไป เธอจึงโทรหาลูกชายที่อยู่ในค่ายทหารทันที

“ลูกม็อกโก แม่……แม่คิดยังไงก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมคุณปู่ของลูกถึงได้ลำเอียงแบบนี้ ตอนเด็กๆลูกก็ไม่ได้แย่ ทำไมเขาถึงได้ทำกับลูกแบบนี้ ทั้งๆที่ก็เป็นลูกหลานของเขาเหมือนกัน ทำไมถึงได้หนาบางต่างกันแบบนี้นะ”

“……”

ผ่านไปสักพัก ถึงได้ยินเสียงของม็อกโกดังออกมาจากสายโทรศัพท์:“แม่ครับ ทำไมคุณถึงได้ชอบพูดอะไรเหลวไหลแบบนี้ ปีนั้นที่ผมไปไม่ได้ เพราะว่าผมเก่งไม่พอต่างหาก”

“ไร้สาระ!”มินตรากรีดร้องออกมาทันใด!

“คุณไม่เก่งตรงไหน ปีนั้นคุณพึ่งจะสิบสองขวบ ก็ได้รับถ้วยรางวัลด้านการกีฬา โรงเรียนที่มีชื่อเสียงต่างมาแย่งตัวคุณ คุณจะไม่มีคุณสมบัติเพียงพอได้อย่างไร”

เธอพูดออกมาอย่างเดือดดาลพร้อมทั้งตบโต๊ะไปด้วย

ม็อกโกได้ยินแล้ว ในที่สุดก็ได้หมดความอดทนลง

เขามองว่าไร้สาระสิ้นดีขี้เกียจจะไปสนใจ จึงพูดออกไปหนึ่งประโยคว่า:“พอเถอะ ผมกำลังยุ่งอยู่ วางแล้วนะ”หลังจากนั้นเขาก็วางสายไปจริงๆ

ผู้ช่วยที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ด้านข้าง อดใจไม่ไหวที่จะถามออกมา:“เป็นอะไรเหรอ ถูกแม่บอกให้รีบแต่งงานอีกแล้วเหรอ”

“รีบแต่งงานอะไรล่ะ ตั้งใจฝึกซ้อมการยิงปืนของคุณไป”

ภายในใจของม็อกโกกำลังหงุดหงิด ทนไม่ไหวจึงด่าออกมา

ผู้ช่วยได้ยินแล้ว ยิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิม :“ผมไม่ได้หยุดสักหน่อย ก็กำลังซ้อมอยู่นี่ไง อย่าโมโหสิ พวกเราก็แค่อยากจะกินลูกอมงานแต่งของลูกพี่ใหญ่ต่างหากล่ะ”

“ไม่มี!”

“จะเป็นไปได้อย่างไร แล้วคุณหนูใหญ่ของตระกูลหิรัญชาที่มาครั้งที่แล้วล่ะ ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของพวกคุณทั้งสองไม่เลวเลยนะ”

ทันใดนั้น ผู้ช่วยคนนี้ก็พูดถึงแสงดาวขึ้นมา

เมื่อม็อกโกได้ยินชื่อนี้แล้ว ในที่สุด ความโมโหที่ถูกเก็บกดเอาไว้ภายในใจก็ควบคุมไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว มองเห็นเพียงดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างแรง ปืนที่กำลังซ้อมยิงที่อยู่ในมือ

“ปัง——”

เสียงนี้ดังออกมา!

ลูกกระสุนอันนั้น ยิงเข้าไปที่ลูกกระสุนของผู้ช่วยคนนี้ที่ได้ยิงออกไปในเมื่อสักครู่จนกระเด็นออกไป

ผู้ช่วยเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างอึ้งทึ่ง!

เชี้ย!

นี่มันโหดมาก นี่เขาอยากจะทำอะไรกันแน่? แรงอาฆาตรุนแรงขนาดนี้

ผู้ช่วยเหงื่อซึมออกมาเต็มหลัง ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกแล้ว

แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกครั้งเดียวที่ม็อกโก ระเบิดความโมโหออกมาขนาดนี้ในสนามซ้อม

เมื่อม็อกโกกลับมายังห้องพัก ถอดเสื้อซับในที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อออก เขาเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ ในตอนที่เขาเดินผ่านกระจกบานนั้นในห้องน้ำ เขามองไปยังร่างกายที่แข็งแรงกำยำอย่างมากของตัวเองที่อยู่ในนั้น เขาหยุดนิ่งไปสักพัก

ใช่แล้ว ความจริงแล้วแม่ของเขาพูดไม่ผิดสักนิด

ตั้งแต่เล็กจนโต เขาม็อกโกนั้นก็เก่งกาจสามารถจริงๆ

แต่ว่า ความเก่งกาจของเขานั้นไม่ใช่สมอง แต่เป็นร่างกายอันนี้ ตั้งแต่เด็กของค่อนข้างชอบการออกกำลังกาย ตั้งแต่ชั้นประถมยังไม่ทันได้สำเร็จการศึกษา ก็ได้รับถ้วยรางวัลต่างๆจากการแข่งขันด้านกีฬาแล้ว