ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 832 เขาปฏิบัติกับเขาแตกต่างออกไป
เส้นหมี่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้นัก ตั้งแต่ลูกชายทั้งสองก็ถูกรับตัวมา ตอนนี้จิตใจของเธออยู่ที่เหล่าลูกน้อยทั้งหมด
“หม่ามี๊ ทั้งๆที่ใบหน้าของคุณก็ฟื้นฟูจนหายดีแล้ว ทำไมไม่เอาออกมาให้แด๊ดดี้เห็นได้เห็นล่ะ ผมคิดว่าแด๊ดดี้ต้องจำคุณได้แน่ คุณดูสิ พี่กาวิน เขายังจำได้เลย”
“อืม”
วันนี้ ที่เดอะวิวซีไม่มีคนจ้องมองพวกเขาแม่ลูก สองพี่น้องจึงใช้โอกาสนี้แอบเข้ามาหาหม่ามี้ใกล้ๆ หลังจากนั้นถามเธอออกไปอย่างไม่เข้าใจ
เส้นหมี่ได้แต่ถอนหายใจออกมา
ทำไมเธอจะไม่อยากถอดใบหน้าปลอมอันนี้ออกล่ะ
แต่ว่า ถอดออกแล้วยังไงล่ะ? เขาเห็นเธอแล้ว จะชอบหรือเปล่า?
กาวินกับดลธีสองคนนั้น เขายังจำพวกเขาไม่ได้เลย สิ่งที่เขาจำได้ มีเพียงแค่ชื่อของพวกเขา ตั้งแต่เขาได้พบดลธีกับกาวินมองดูแวบเดียวก็รู้แล้ว
นั่นเหมือนคนแปลกหน้า บนสีหน้าแฝงไปด้วยความสงสัย
ดังนั้น เธอเองก็พิจารณาถึงความเป็นได้ในข้อนี้ ถ้าเขาจำเธอได้ และก็จำได้เพียงแค่ชื่อของเธอล่ะ เมื่อเธอถอดใบหน้าปลอมอันนี้ออกมาแล้ว เขาได้เห็นเธอแล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไร?
อีกทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุด หัวหน้าบอดี้การ์ดของไชยันต์ได้วิเคราะห์สิ่งเหล่านั้นออกมาว่า เขาพูดว่า การตายของกาวิน เบื้องหลังต้องมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่
สิ่งที่เขาต้องการจะจัดการไม่ใช่เพียงแค่แสนรักเท่านั้น แต่เป็นตระกูลเทวเทพทั้งตระกูล!
งั้นตอนนี้เธอเอาตัวเองแสดงตัวออกมา คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่?
เธอไม่ยินยอมที่จะกลายเป็นจุดอ่อนของเขา ลากเขาไปตาย
“เหล่าลูกน้อยอย่าพึ่งรีบร้อน เรื่องเรื่องนี้ หม่ามี๊ยังไม่ได้พิจารณาให้ดี อาการของแด๊ดดี้ยังไม่คงที่ หม่ามี๊ต้องการให้ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยบอกเขา”
สุดท้ายเส้นหมี่ก็ปลอบใจเด็กๆทั้งสองด้วยประโยคนี้
เด็กๆได้ฟังแล้ว ทันใดใบหน้าน้อยๆรูปไข่ก็หงิกงอขึ้นมา
งั้นคือเมื่อไหร่กัน?
สองพี่น้องรีบร้อนอย่างมาก แต่ว่า เมื่อหม่ามี๊ไม่ยินยอม พวกเขาก็ไม่ได้งอแง แล้วก็เชื่อฟังอย่างว่าง่าย อยู่ที่เดอะวิวซีนี้ทุกวันได้แต่เรียกเธอว่าคุณน้า
อีกทั้งไชยันต์ได้เห็นแล้ว ก็ไม่ได้สงสัยอะไร
เขานึกว่าเพราะว่าเส้นหมี่ก็เป็นแม่คนหนึ่ง ข้างๆเธอก็มีลูกสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จึงทำให้หลานชายทั้งสองชื่นชอบเธออย่างนั้น
จนวันนี้ขวัญเมืองได้มาที่นี่อย่างกะทันหัน
“คุณท่าน ดิฉันได้ยินว่าหลานชายของคุณทั้งสองท่านจะถูกรับตัวกลับไปแล้ว วันนี้จึงตั้งใจซื้อแห้วกับแป้งมันสำปะหลังมา อยากจะทำขนมที่พวกเขาชอบทานให้พวกเขาสักหน่อย”
“ดีดี รีบไปทำเถอะ”
ไชยันต์ได้ยินแล้ว มองไปที่หลานทั้งสองก็ยิ้มออกมาทันทีจึงบอกให้เธอรีบไปทำ
ตาแก่คนนี้ สำหรับเรื่องของเด็กๆแล้ว ขอแค่ร้องขอมาเขาตอบรับทั้งนั้น
สำหรับเขาแล้ววางไว้ในปากก็กลัวว่าจะสลาย กุมเอาไว้ในมือก็กลัวว่าจะหล่น ตอนนี้ทันใดก็มีเชฟฝีมือดีคนหนึ่งมาทำของกินให้พวกเขา เขาจะไม่ตอบรับได้อย่างไร?
ขวัญเมืองดีใจอย่างมากจึงถือวัตถุดิบเข้าไปแล้ว
พอดี เส้นหมี่กับแสนรักพึ่งจะออกมาจากห้องรักษา เธอได้เห็นฉากฉากนี้แล้ว อึ้งไปเล็กน้อย
“คุณขวัญคนนี้ชอบเด็กมากหรือคะ เพื่อลูกชายของคุณแสนรักทั้งสองคนตั้งใจมาทำของกินให้พวกเขาโดยเฉพาะ”
“……”
แสนรักที่กำลังเดินอยู่ตรงทางเดินยกหางตาขึ้นมามอง เดิมทีไม่ได้มีความสนใจสักนิด เมื่อได้ยินว่าน้ำเสียงของผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังคนนี้ไม่ค่อยจะพอใจนัก ดวงตาของเขาทั้งสองที่ไม่ได้มีอารมณ์ใดๆ
ในที่สุดก็มองไปที่สวนดอกไม้แวบหนึ่ง
“เธอชอบลูกสาวของคุณ?”
“หืม?”เส้นหมี่ที่อยู่ด้านหลังนิ่งไปทันที “……ไม่น่าจะชอบนะ”
เธอไม่ได้เข้าใจสิ่งที่ชายหนุ่มถามออกมาอย่างกะทันหัน มาคิดๆดูแล้วไม่ว่าก่อนที่ตัวเองจะมาที่เดอะวิวซี หรือซ่อมแซมใบหน้าเสร็จแล้วค่อยมาที่นี่
รินจังของเธอ เหมือนกับว่าผู้หญิงที่ชื่อขวัญเมืองคนนี้ ก็ไม่ได้แสดงออกมาว่าชื่นชอบแม้แต่น้อย
ในที่สุด เธอก็ส่ายหน้า
ปรากฏว่า เธอพึ่งจะปฏิเสธ ทันใดชายหนุ่มก็มองมาที่เธอด้วยสายตาที่ว่าโง่เง่าจริงๆ
“ดังนั้น ทำไมคุณถึงได้ถามอะไรที่สิ้นคิดแบบนี้”
“……”
จริงๆเลย ไอ้คนนี้!
แต่ว่าเธอโมโหก็ส่วนโมโห ได้รับการเตือนสติจากเขาแบบนี้ ทันใดก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว ผู้หญิงที่ชื่อขวัญเมืองคนนี้ เดิมทีแล้วไม่ใช่เพราะว่าชื่นชอบลูกๆของเขาทั้งสอง
แต่เพราะว่า เธอทำเพื่อเอาใจคนที่อยู่เบื้องหลัง
เส้นหมี่รู้สึกไม่ดีขึ้นมาแล้ว เธอทนมองคนอื่นเอาลูกๆของตัวเองมาเป็นเครื่องมือไม่ได้หรอก
“คุณแสนรัก ทั้งๆที่เป็นแบบนี้แล้ว งั้นก็อย่าให้พวกเด็กๆได้เข้าใกล้กับเธอสิ แบบนี้มีจุดประสงค์บางอย่างในการเข้าใกล้เด็กๆ ฉันไม่มีทางให้พวกเขาทำสำเร็จอย่างลุล่วงหรอก”
“แล้วแต่คุณ”
ชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างหน้าพูดออกมาอีกหนึ่งประโยคเบาๆ
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ก้าวเท้ายาวๆเดินไปที่ลิฟต์ด้านโน้น แล้วขึ้นชั้นบนไปแล้ว
เส้นหมี่ดีใจขึ้นมา ทันใดก็รีบวิ่งไปที่สวนดอกไม้
“คุณชายชินจัง พวกคุณเล่นอยู่ที่นี่นี่เอง เมื่อสักครู่น้องสาวกำลังหาพวกคุณอยู่ สามารถมาเล่นกับพวกคุณได้ไหมคะ เธออยู่ที่ห้องของน้า”
เธอเดินเข้ามาพร้อมทั้งโบกมือทักทายเด็กๆสองคนนี้
เด็กสองคนนี้กำลังเล่นเป็นเพื่อนคุณปู่ทวด ทันใดได้เห็นหม่ามี๊แล้ว ทันใดนั้น พวกเขาก็วางของเล่นที่อยู่ในมือลง วิ่งมาทางหม่ามี๊อย่างรวดเร็ว
“ได้ครับ พวกเราจะไปตอนนี้แหละ”
หลังจากนั้น เจ้ากระต่ายน้อยทั้งสองก็วิ่งออกไปอย่างไม่เห็นฝุ่นแล้ว