คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1534

จากนั้นดวงตาของเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรดก็แปลเปลี่ยนเป็นมีเมตตายิ่งขึ้น “แอมโบรส ตอนนี้พ่อเป็นจักรพรรดิแล้ว เจ้าเองก็เป็นเจ้าชายแล้ว ดีใจหรือเปล่า?”

แม้ว่าแอมโบรสจะไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ของเขา แต่เจ้าศักดินาเคนนี่ก็ไม่เคยลืมช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันเมื่อเห็นชายหนุ่ม เขายังคงคิดว่าเด็กหนุ่มเป็นลูกชายของเขา

“อื้ม!”

แอมโบรสพยักหน้าอย่างมีความสุข “กระหม่อมมีความสุข! กระหม่อมมีความสุขมากเหลือเกิน! ขอแสดงความยินดีกับเสด็จพ่อด้วยพะยะค่ะ”

แอมโบรสไม่สนใจเรื่องที่จะได้เป็นเจ้าชาย เพราะเขามัวแต่มีดีใจที่ได้เจอเจ้าศักดินาเคนนี่

‘อะไร? นั่นแอมโบรส ลูกชายของฉันงั้นเหรอ?’

แดร์ริลตกอยู่ในภวังค์ขณะที่เขามองคนทั้งสองด้วยความงุนงง หัวใจของเขาเต้นแรงและพูดไม่ออก

หลังจากที่เขากลับมาอยู่กับโมนิก้า แดร์ริลก็ได้รู้ว่าเขามีลูกชื่อแอมโบรส ดาร์บี้ แต่เขาไม่เคยเห็นหน้าเด็กคนนั้นเลย เขารู้ว่าแอมโบรสเคยอาศัยอยู่ในพระราชวังกวนเป๋งมาหลายปี ดังนั้นเขาจึงเรียกเจ้าศักดินาเคนนี่เป็นพ่อ

เขารู้ว่าเขาพลาดแล้ว ในตอนที่ได้เห็นแอมโบรสร้องเรียกเจ้าศักดินาเคนนี่ว่าพ่อ

เขาเคยเห็นเด็กคนนี้ที่สุสานโบราณของลิโป้ แต่แอมโบรสเคยอยู่กับเมแกน ดังนั้นแดร์ริลจึงคิดว่าเขาเป็นลูกชายของเมแกนและเคนต์

แดร์ริลมองไปที่แอมโบรส เขาคิดว่ามันค่อนข้างตลก และในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกผิดและตื่นเต้นเล็กน้อย

“แอมโบรส”

เจ้าศักดินาเคนนี่ยิ้มและมองไปที่แอมโบรส “หลายปีที่ผ่านมานี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? แล้วท่านแม่ของเจ้าเป็นอย่างไร?”

เจ้าศักดินาเคนนี่แทบจะสงบใจไว้ไม่ไหวได้เมื่อเขานึกถึงโมนิก้า

“เสด็จพ่อ!” ใบหน้าของแอมโบรสมืดลง เขาดูน่าสงสาร “กรัหม่อมกับท่านแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปีแล้ว กระหม่อมตามหาแม่มาโดยตลอดแต่ก็หาไม่พบ แต่หลายปีมานี้กระหม่อมค่อนข้างโชคดี กระหม่อมได้พบปรมาจารย์ที่ทรงพลัง และได้เรียนรู้อะไรมากมาย!”

เจ้าศักดินาเคนนี่หัวเราะด้วยความโล่งอก เขาพยักหน้าและพูดว่า “ดี ดีมาก ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าจะแข็งแกร่งไม่น้อย เจ้าสามารถอยู่เคียงข้างข้าและช่วยข้าจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้ ฟังดูเข้าท่าไหม?”

เขาได้ตำแหน่งจักรพรรดิเท่านั้น เขายังต้องการคนที่คอยช่วยเหลือเขาอีกมาก

เขาเห็นแอมโบรสเป็นลูกของตัวเอง เขาจึงไว้ใจเด็กหนุ่มมากที่สุด การมีแอมโบรสอยู่เคียงข้างเขา มันช่างสมบูรณ์แบบ

“เยี่ยมไปเลย!” แอมโบรสไม่ได้คิดอะไรมาก เขาพยักหน้าเห็นด้วยในทันที

เจ้าศักดินาเคนนี่และแม่ของเขาคือบุคคลสองคนที่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด เขาไม่ต้องการจะแยกจากพวกเขาอีกต่อไป

“แอมโบรส!”

ทันใดนั้นเองก็มีคนเรียกชื่อเขา จากนั้นโมนิก้าก็ค่อย ๆ เดินฝ่าฝูงชนเข้าไปหาแอมโบรส เธอน้ำตาคลอเบ้าทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอพูด “แอมโบรส แอมโบรสลูกแม่ ในที่สุดแม่ก็ได้พบลูกแล้ว…”

ในขณะนั้น โมนิก้าดีใจและตื่นเต้นมาก! มันเป็นโอกาสที่มีความสุข! ไม่เพียงแต่แดร์ริลจะไม่ตาย แต่เธอยังได้พบกับลูกชายที่พลัดพรากกันไปนานของเธอด้วย!

น้ำตาไหลอาบแก้มของเธอเนื่องจากความตื่นเต้นขณะที่โมนิก้าคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ เธอดีใจจนพูดไม่ออก

“แม่!”

แอมโบรสตัวสั่น เขาทั้งตระหนกและดีใจ!

จากนั้นแอมโบรสก็วิ่งไปหาโมนิก้าและฝังตัวเองไว้ในอ้อมแขนของเธอ เขาร้องออกมาว่า “แม่ นี่แม่จริง ๆ ใช่ไหมครับ? แม่ ผมคิดถึงแม่มาก! ผมคิดถึงแม่!”

แอมโบรสตั้งใจบ่มเพาะระดับพลังยุทธของเขาในช่วงสิบปีที่ผ่านมาอย่างหนัก เขายังเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรับประสบการณ์เพิ่มเติม เขามีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน และเขาจะไม่ร้องไห้ง่าย ๆ

แต่ทันทีที่เขาได้เห็นโมนิก้า เขาก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

แอมโบรสตามหาข่าวคราวของโมนิก้ามาหลายปีแล้ว เขาอยากเจอแม่อีกครั้ง และตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้เห็นแม่ของตัวเองอีกครั้ง น้ำตาจึงไหลออกมา

“แอมโบรส แอมโบรสของแม่ อย่าร้องไห้ ไม่ต้องร้อง…” โมนิก้ากอดเขาแน่น เธอยังคงปลอบเขาอย่างอ่อนโยน ในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้สึกผิดจนพูดไม่ออก

ฮือฮา…

ผู้ชมต่างมองหน้ากันในขณะที่พวกเขาก็เสร็จคุยกันเงียบ ๆ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงของแดร์ริลเหรอ? ทำไมลูกของเธอถึงเรียกเจ้าศักดินาเคนนี่ว่าพ่อได้ล่ะ?”

เจ้าศักดินาเคนนี่ทั้งประหลาดใจและดีใจเช่นกัน เขามองโมนิก้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่

เขาไม่ได้เจอเธอมาหลายปีแล้ว แต่เธอก็ยังเหมือนเดิม เงียบขรึม อ่อนหวาน และมีเสน่ห์ เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ

“ยอดรัก!”