คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1535
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งนาที เจ้าศักดินาเคนนี่ก็กลับมามีสติอีกหน เขามองโมนิก้าด้วยความรักใคร่และเอ่ยปากว่า “ไม่เจอกันนาน ยอดรัก! ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าเป็นยังไงบ้าง?”
“ฉัน… ฉันสบายดี!” โมนิก้ากัดริมฝีปาก ขณะตอบอย่างอ่อนโยน
โมนิก้าไม่ได้สบประสานสายตากับเจ้าศักดินาเคนนี่ เธอดูเว้นระยะห่างกับเขาเล็กน้อย
โมนิก้ารู้สึกขอบคุณเจ้าศักดินาเคนนี่เสมอ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอคงตายไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เธอคงไม่มีโอกาสได้ให้กำเนิดแอมโบรสเช่นกัน
แต่ว่าโมนิก้าได้กลับไปอยู่กับแดร์ริลแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่อยากจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าศักดินาเคนนี่ แดร์ริลก็อยู่ด้านข้างนี้เอง
“เสด็จพ่อ ท่านแม่…”
แอมโบรสไม่สามารถซ่อนความสุขในใจของเขาได้ “ครอบครัวของเราได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งแล้ว! เราอย่าจากกันอีกเลยนะครับ”
แอมโบรสพูดอย่างจริงจัง เขาวาดฝันถึงอนาคตที่สวยงาม
เรื่องครอบครัวทำให้เขามีความสุขที่สุด
เจ้าศักดินาเคนนี่หัวเราะด้วยความโล่งอก เขาลูบศีรษะของแอมโบรสและพูดว่า “ดีจริง ๆ เจ้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก แอมโบรส พ่อจะจัดการให้พวกเจ้าสองคนย้ายเข้ามาอยู่ในวัง เราจะไม่พรากจากกันอีกแล้ว…”
เมื่อเขาพูดประโยคสุดท้ายจบ เจ้าศักดินาเคนนี่ก็ยิ้มและมองไปที่โมนิก้า “ยอดรักของข้า คิดเห็นอย่างไรล่ะ?”
เจ้าศักดินาเคนนี่ไม่กังวลว่าจะขาดแคลนสาวงามเคียงข้าง ในเมื่อเขาได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิ เขาจะมีสาวงามมากน้อยเท่าไหร่ก็ได้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคิดว่าโมนิก้าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก และไม่มีใครแทนที่เธอได้
“ฉัน…”
โมนิก้ากัดริมฝีปากของเธอ เธอต้องการปฏิเสธ แต่เธอไม่อาจปฏิเสธออกมาตรง ๆ ได้ เมื่อเห็นความหวังในดวงตาของแอมโบรส
ฟลอเรียนเดินเข้าไปหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขาคุกเข่าและพูดว่า “ยินดีด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาท! ครอบครัวของพระองค์ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งแล้ว”
เมื่อเขาตะโกนออกไวแบบนั้น ฟลอเรียนก็ยิ้มอย่างเคารพยำเกรง แต่เขากลับรู้สึกกระวนกระวายใจมาก
เขาลืมแอมโบรสและโมนิก้าไปได้อย่างไร เขาส่งคนไปฆ่าเธอกับลูกเมื่อสิบปีที่แล้ว
ฟลอเรียนไม่อยากตบหัวแล้วลูบหลังใคร แต่เขาไม่มีทางเลือก
ฟลอเรียนทำได้เพียงสนับสนุนเจ้าศักดินาเคนนี่ ในขณะที่เขาจะเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป เขาจะทำเช่นนั้นเพื่อเกียรติยศและเงินทอง
“ยินดีด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาท!”
เลโอนาร์โดและฝูงชนต่างก็คุกเข่าเช่นกัน
‘นายว่าขี้ข้าพลอย!’
สโลนขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางเจ้าเล่ห์ของฟลอเรียน เธอได้แต่สาปแช่งเขาในใจ
เจ้าศักดินาเคนนี่หัวเราะและยิ้ม เขาอารมณ์ดีมาก เขาโบกมือและพูดว่า “ข้าราชบริพารทั้งหลาย ลุกขึ้นเถิด ประกาศออกไป ข้าจะแต่งตั้งแอมโบรส ดาร์บีเป็นเจ้าชาย และโมนิก้า วอห์นเป็นจักรพรรดินีตลอดไป”
“เดี๋ยวก่อน!”
มีคนขัดจังหวะคำพูดของเขา จากนั้นร่างหนึ่งลุกขึ้นช้า ๆ ใบหน้าของเขายังคงซีดเซียว แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
เขาคือแดร์ริล!
แดร์ริลยิ้มเย้ยหยันขณะที่เขามองไปที่เจ้าศักดินาเคนนี่ “ผมรู้สึกขอบคุณที่คุณดูแลโมนิก้ามาอย่างยาวนาน แต่การขโมยหญิงอันเป็นที่รักของคนอื่นไปเป็นของตัวเองนั้นช่างไร้เหตุผล”
แดร์ริลพูดอย่างสุภาพ เขาไม่เคยพบกับเจ้าศักดินาเคนนี่มาก่อน แต่โมนิก้าบอกว่าเขาเป็นคนที่มีศีลธรรมและหลักการ
ดังนั้นเมื่อเจ้าศักดินาเคนนี่และแอมโบรสดีต่อกัน เขาก็ไม่ว่าอะไร และไม่คิดจะห้ามพวกเขาด้วย เจ้าศักดินาเคนนี่เองก็เคยช่วยเลี้ยงดูลูกของเขามา
แต่เจ้าศักดินาเคนนี่เพิกเฉยต่อความจริงที่ว่า อีกฝ่ายยังอยู่บนโลกใบนี้ เขาต้องการให้แอมโบรสและโมนิก้าอยู่ในวัง และแดร์ริลก็รับเรื่องนั้นไม่ได้
พรึ่บ!
สีหน้าของเจ้าศักดินาเคนนี่มืดมน เขาจ้องไปที่แดร์ริลด้วยความเย้ยหยัน
ในจังหวะนั้นเอง ฝูงชนก็เริ่มเปิดการถกเถียงอย่างเร่าร้อน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“เจ้าศักดินาเคนนี่กับแดร์ริลกำลังทะเลาะกันเรื่องผู้หญิง?”
“คนหนึ่งเป็นถึงจักรพรรดิ และอีกคนคือเจ้าสำนักประตูสุราลัย พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อผู้หญิงคนคนเดียวงั้นเหรอ? น่าสนใจจริงๆ แถมผู้หญิงคนนี้ก็งดงาม…”