บทที่1024 จดหมายที่ตระกูลเหย้ส่งมา

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่1024 จดหมายที่ตระกูลเหย้ส่งมา
“เทียนจวิน ข้าน้อยติดต่อกับหัวหน้าหวางได้แล้ว คุณไปพบเธอตอนนี้ไหม?”

หนิงเจ๋อฮ่าวพูดถาม

เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า : “ในเมื่อฉันคือเทียนจวิน เธอเป็นเพียงแค่หัวหน้า ทำไมฉันจะต้องไปพบเธอ?ให้เธอมาพบฉัน”

หนิงเจ๋อฮ่าวก็รู้เหตุผลนี้ ไม่มีระดับสูงริเริ่มไปพบระดับล่างก่อน

แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ผิดปกติ หวังเซียวเซียวใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างไม่มีเหตุผล ตอนนี้ก็จะดึงคนเขามาเป็นพวกอีก ถ้าหากท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะทำให้อีกฝ่ายเอือมระอา

เรื่องดีกลายเป็นเรื่องร้าย งั้นก็แย่แล้ว!

เย่เซิ่งเทียนมองความกังวลในใจของเขาออก พูดอย่างไม่สนใจว่า : “เหล่าหนิง คุณจำไว้นะ ไม่ว่าเขาเป็นใคร ในเมื่อเขาเป็นระดับล่าง งั้นก็ควรเป็นเขาที่มาพบฉัน ฉันไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ทำงานร่วมกันกับเธอ เป็นความสัมพันธ์ของเบื้องบนกับผู้ใต้บังคับบัญชา”

หนิงเจ๋อฮ่าวตกใจ

นี่คือเย่เซิ่งเทียนกำลังหยั่งเชิงหวังเซียวเซียว

ถ้าหากหวังเซียวเซียวสนับสนุนด้วยใจจริง งั้นเธอก็จะไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ ในทางกลับกัน ก็จะสนใจความสัมพันธ์ของเบื้องบนและผู้ใต้บังคับบัญชากับเย่เซิ่งเทียน

ถ้าหากว่าหวังเซียวเซียวต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง เธอจะทำตัวสูงส่ง ไม่มีทางมาพบเย่เซิ่งเทียน

หนิงเจ๋อฮ่าวรีบพูดว่า : “งั้นข้าน้อยติดต่ออีกครั้ง ให้เธอมาพบคุณ”

เย่เซิ่งเทียนพูดด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า : “ไม่ต้อง ถ้าหากหวังเซียวเซียวมีใจ จะมาด้วยตัวเอง หากต้องคอยไล่ตามตื๊อก็ไม่ใช่ท่าทีของการทำข้อตกลงกัน พวกเราไม่จำเป็นต้องสนใจเธอขนาดนั้น”

หนิงเจ๋อฮ่าวไม่ค่อยเข้าใจความคิดของเย่เซิ่งเทียนเท่าไหร่

มิน่าล่ะเย่เซิ่งเทียนถึงกลายเป็นเจ้าเทพได้ จัดการทำลายตระกูลเซียวได้แล้ว

ความฉลาดหลักแหลมเหล่านี้ เขาทำไม่ได้

ในความเป็นจริงในมุมมองของเขา ในเมื่อต้องการทำงานร่วมกันกับหวังเซียวเซียว ตอนนี้ฝ่ายตนเป็นฝ่ายที่อ่อนแอ ก็ยิ่งควรที่จะริเริ่มแสดงความเป็นมิตร

ดึงหวังเซียนเซียนมาเป็นพวกต่างหากถึงจะสำคัญที่สุด

แต่เย่เซิ่งเทียนกลับเป็นว่าไม่ทำเช่นนี้ ในทางกลับกันได้ลองเชิงหวังเซียวเซียวแล้ว

นี่ถ้าหากยิ่งทำยิ่งเสีย ล่วงเกินหวังเซียวเซียวแล้ว งั้นก็เสียหายหนักมากแล้ว

เย่เซิ่งเทียนศึกษาวิจัยแดนทะลุเทพต่อไป ตอนนี้แดนของเขาเป็นแดนทะลุเทพหนึ่งวัง

แต่ระเบิดออกไปสุดกำลัง ฆ่าแดนทะลุเทพสองวังได้ สู้รบกับแดนทะลุเทพสามวังได้!

อย่างมากที่สุดสามารถข้ามผ่านได้สองแดน

นี่เป็ยขีดจำกัดแล้ว

แดนทะลุเทพ หนึ่งวังหนึ่งชั้นฟ้า

ทั้งหมดมีเก้าวังเก้าชั้นฟ้า

เขาจำเป็นจะต้องทะลวงเกาวังเก้าสวรรค์ภายในเวลาอันสั้นที่สุดให้ได้ มีเพียงแค่ทำแบบนี้ถึงจะกำจัดสรวงสวรรค์ได้

แต่ว่าก่อนที่จะทำลายสรวงสวรรค์ จะต้องช่วยแม่ออกมาก่อน

บีบบังคับให้ไปช่วย ไม่ได้แน่นอน

ทำแบบนั้นในทางกลับกันจะทำให้แม่ตกอยู่ในสภาพที่อับจน

จะต้องคิดหาทางแทรกตัวเข้าไป

วิธีโจมตีทำลายป้อมปราการที่ง่ายที่สุด ก็คือโจมตีจากข้างใน

ตอนนี้เขาต้องหาข้อมูลรายละเอียดของเจ้าพญาสวรรค์ทั้งแปดแห่งสรวงสวรรค์ และลูกน้อยของเจ้าพญาสวรรค์ทั้งแปด

วิชาพันหน้าของตระกูลเหย้เป็นสิ่งสำคัญ

ขอเพียงแค่จับอาวุโสได้ท่านหนึ่ง ตัวเองสวมรอยเข้าไป ก็มีหวังที่จะช่วยแม่ออกมาได้!

ควรสวมรอยใคร?

เย่เซิ่งเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

และในเวลานี้ เขาได้รับข่าวคราวของเหย้ซูหลิงอย่างไม่คาดคิดมาก่อนแล้ว

เย่เซิ่งทียนตกตะลึง หลังจากนั้นยิ้มอย่างเยือกเย็น

คิดไม่ถึงว่าตระกูลเหย้จะมีหน้ามาติดต่อเขาอีก!

การทำงานร่วมกันก่อนหน้านี้ ทางฝั่งตระกูลเหย้พูดจามั่วซั่ว เกือบทำให้เขาตายเลย

ครั้งนี้ เขาจะให้โอกาสตระกูลเหย้ได้ยังไงอีก

เขาไม่ไปคิดบัญชีแค้นกับตระกูลเหย้ ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว!

เขาเปิดข้อความ และกระเป๋าเอกสารที่เหย้ซูหลิงส่งมา หลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไรเลย

นี่หมายความว่าอะไร?

เย่เซิ่งเทียนเดาความคิดของตระกูลเหย้ไม่ออก

เปิดกระเป๋าเอกสารออก ระหว่างนั้นได้เขียนรายละเอียดการแนะนำมหาพญาเทพทั้งแปดแห่งสรวงสวรรค์ไว้ด้านบน และมีข้อมูลตัวตนของบุคคลลึกลับเหล่านั้นที่ไล่ฆ่าเขาด้วย

ตระกูลเหย้จะต้องแสดงความเป็นมิตร?

เย่เซิ่งเทียนหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง

ตระกูลเหย้เล่นเขาอย่างกับเป็นคนโง่จริงๆ ถึงช่วงเวลาแบบนั้น คิดไม่ถึงว่ายังคิดที่จะหลอกใช้ประโยชน์จากเขาเพื่อไปจัดการกับคนเหล่านี้

และตระกูลเหย้เอง กลับว่านั่งรอได้ผลประโยชน์ไปฟรีๆ!

ตระกูลเหย้ ช่างใช้อุบายที่ทำให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายเสียจริงๆ!