ตอนที่ 728 ลงทุน

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 728 ลงทุน
ถึงแม้ว่าราคาซื้อจะแตกต่างจากราคาที่แท้จริงของเหมืองทองคำกว่าเท่าตัว แต่เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นตัวแทนของรัฐบาล เป็นที่รู้กันว่าชาวบ้านไม่ควรมีปัญหากับข้าราชการ เฉินสี่ฉวนจึงรับปากว่าจะพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

หลังจากที่อีกฝ่ายจากไป เฉินสี่ฉวนก็ไปหาเส้นสายจำนวนหนึ่ง ขอให้สืบสาวประวัติของบริษัทแห่งนั้น การตรวจสอบครั้งนี้กลับทำให้เฉินสี่ฉวนยิ่งโมโหเดือดดาล

เพราะว่าถึงแม้บริษัทแห่งนั้นจะอยู่ภายใต้หน่วยงานของรัฐซึ่งกำกับควบคุมรัฐวิสาหกิจ แต่ก็ไม่ได้ทำกำไรใดๆ ให้กับหน่วยงาน หมายความว่าเป็นบริษัทที่ลงทุนด้านทรัพยากรทองคำและถ่านหินโดยเอกชนตั้งแต่ต้นจนจบ

บริษัทแห่งนี้มีอิทธิพลกว้างขวางอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่ผูกขาดแร่ทรัพยากรที่ปราศจากเหล็กประเภททองคำและถ่านหิน ลงทุนในทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้เป็นจำนวนมหาศาล มีอำนาจยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เฉินสี่ฉวนจะเทียบเคียงได้

แต่ว่าตอนที่เฉินสี่ฉวนไปศึกษาที่ซินเจียง ได้เป็นกองทหารอาสาสมัครอยู่สองปี มีความกล้าหาญและซื่อตรงในสายเลือด

ฝ่ายตรงข้ามต้องการจะซื้อเหมืองทองคำแแห่งนี้ของเขาโดยอ้างชื่อรัฐบาลยังไม่เท่าไหร่ แต่คิดจะใช้เส้นสายมากดขี่ข่มเหง กลับเป็นเรื่องที่ไม่ว่าอย่างไรเฉินสี่ฉวนก็ยอมรับไม่ได้ หลังจากคิดคำนวณตั้งแต่ต้นจรดปลายแล้ว วันต่อมาเขาก็ปฏิเสธเจตนาซื้อของอีกฝ่าย

ทว่าเฉินสี่ฉวนคาดไม่ถึงว่าหลังจากที่เขาปฎิเสธอีกฝ่ายไปแล้ว เรื่องราววุ่นวายกลับตามหลังมาติดๆ

ก่อนหน้านี้เพื่อเป็นการระดมทุน เฉินสี่ฉวนได้นำเอาเหมืองอันอุดมสมบูรณ์ไปจำนอง กู้เงินมาเป็นจำนวนสามพันล้านหยวน แต่ว่าเงินจำนวนนี้ถูกจ่ายมาทีละทอด เฉินสี่ฉวนจึงได้รีบเพียงพันล้าน

ตอนที่เฉินสี่ฉวนไปเจรจากับธนาคาร ให้จ่ายเงินก้อนจำนวนที่สองนั้น กลับถูกฝั่งธนาคารแจ้งว่า ขั้นตอนการกู้เงินของเขาฝ่าฝืนกฎข้อตกลง ไม่เพียงจะไม่ได้รับอีกสองพันล้านที่เหลือ แต่เงินอีกหนึ่งพันล้านที่อยู่ในมือของเขาแล้ว ก็ต้องส่งกลับคืนภายในสามเดือน

เรื่องนี้ทำให้เฉินสี่ฉวนที่เงินตึงมือเหมือนถูกฟ้าผ่ากลางแจ้ง อย่างไรก็ตามสามารถกู้ยืมเงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นได้ ใช่ว่าเฉินสี่ฉวนจะไม่มีเส้นสายภายใน พอสืบสาวราวเรื่องแล้ว ก็พบว่าคนที่รับผิดชอบตรวจสอบและอนุมัติเงินจำนวนนี้ให้กับเขา กลับถูกสั่งให้ออกจากธนาคารแห่งนั้นไปแล้ว

พอเป็นอย่างนี้ ใจของเฉินสี่ฉวนก็กระจ่างแจ้ง ว่านี่ต้องเป็นการเล่นสกปรกของบริษัทแห่งนั้นแน่ แต่ตอนที่เขากู้เงินนั้น ก็มีจุดที่ฝ่าฝืนกฎข้อตกลงอยู่จริง จึงได้แต่อ้ำอึ้งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เงินของธนาคารก็จำเป็นต้องคืน ไม่อย่างนั้นเหมืองถ่านหินของเขาทั้งสองแห่งจะถูกยึด ซึ่งความเสียหายนั้นหนักหนาเกินกว่าพันล้านหยวน

แต่เพราะเงินก้อนนั้นเฉินสี่ฉวนนำเอาไปจ่ายให้ทางรัสเซียแล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาจึงไม่อาจนำเงินก้อนนี้ออกมาได้

มิตรสหายข้างกายของเฉินสี่ฉวน ล้วนแนะนำเขาให้ยอมสงบสยบอารมณ์ เอาเหมืองทองแห่งนั้นยกให้กับฝ่ายตรงข้ามไป เพื่อจะได้เงินทุนเดิมคืนกลับมา แล้วยังได้กำไรอีกเล็กน้อยด้วย

เฉินสี่ฉวนเองก็ไม่ใช่คนดื้อรั้นขนาดคิดเอาไข่ไปชนกับหิน หลังจากคิดวิเคราะห์อยู่สองสามวัน ก็เห็นด้วยกับคำแนะนำของเพื่อน ดำเนินการติดต่อกลับไปยังบริษัทแห่งนั้น

แต่ที่ทำให้เฉินสี่ฉวนโมโหก็คือ อีกฝ่ายกลับผิดคำพูด ลดราคาซื้อต่ำลงไปจนเหลือแค่หกพันล้าน น้อยกว่าราคาที่เคยเสนอตอนแรกลงมากว่าครึ่ง

กำหนดคืนเงินธนาคารคือภายในสามเดือน แต่ว่าพอถึงเดือนที่สาม ขณะที่อีกฝ่ายรอดูธนาคารยึดเหมืองถ่านหินทั้งสองแห่งนั้นเอง เฉินสี่ฉวนกลับสามารถนำเงินจำนวนพันล้านหยวนมาคืนให้กับธนาคารได้อย่างเหนือความคาดหมาย

ที่แท้ กลางเดือนที่สาม เฉินสี่ฉวนติดต่อผู้ซื้อรายใหญ่จากต่างประเทศรายหนึ่ง ตกลงขายปุยฝ้ายและโรงงานของเขาทั้งหมด รวมแล้วเป็นจำนวนเงินถึงพันล้านหยวน

หลังจากได้รับรู้ข่าวนี้ บริษัทแห่งนั้นก็นึกเสียดายเช่นกัน เมื่อปีก่อนจึงส่งคนมาเจรจากับเฉินสี่ฉวนอีกครั้ง แต่กลับถูกเฉินสี่ฉวนไล่ไป การกระทำเหมือนอุจจาระรดหัวกันอย่างนี้ ใครๆ ก็คงทนรับไม่ได้!

“ลุงเฉิน เรื่องนี้ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้างครับ?”

หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินสี่ฉวนแล้ว เยี่ยเทียนก็เอ่ยปากถาม เขาไม่ใช่คนชอบจัดการอะไรทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างเฉินสี่ฉวน แต่เมื่อช่วยคนแล้วก็ต้องช่วยให้สุด เขาไม่รู้ว่าที่เฉินสี่ฉวนมาหาตัวเองคราวนี้ เพราะต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไร

เฉินสี่ฉวนแค่นยิ้มออกมา ถอนหายใจกล่าวว่า “จะเป็นยังไงได้ล่ะ เรื่องราวก็ลากยาวมากว่าครึ่งปีแล้ว ฉันเซ็นสัญญากับทางรัสเซียไว้เป็นเวลาหนึ่งปี ภายในระยะเวลาหนึ่งปี เงินต้องถึงมือเขา…”

ที่แท้ ถึงแม้เฉินสี่ฉวนจะคืนเงินกู้จำนวนหนึ่งพันล้านได้ แต่ก็ยังติดหนี้ทางรัสเซียอีกพันล้าน อีกทั้งหากต้องการขุดเหมืองทองได้อย่างราบรื่น อย่างน้อยเขาจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มอีกห้าร้อยถึงพันล้าน

ทว่าธุรกิจโรงงานที่เขาอาศัยสร้างเนื้อสร้างตัวขายทิ้งไปแล้ว เหมืองถ่านหินทั้งสองแห่งก็มีมูลค่าไม่เพียงพอ ภายใต้แรงกดดันอันไร้รูปร่าง กระทั่งตลาดค้าถ่านหินเองก็ยังเกิดปัญหา เขาจึงไม่มีเงินทุนที่จะลงทุนอีกต่อไป

จึงสรุปได้ว่า ตอนนี้เฉินสี่ฉวนได้รับแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอก

หากไม่มีเงินสูบฉีดเพียงพอ อย่าว่าแต่เงินลงทุนจำนวนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันล้านที่เขาลงทุนในรัสเซียจะสลายไปเป็นน้ำ กระทั่งค่าใช้จ่ายในทุกๆ เดือนสำหรับเหมืองถ่านหินสองแห่งในประเทศของเขา ก็คงไม่สามารถสานต่อไปได้ ได้แต่รอวันล้มละลายเพียงเท่านั้น

“เยี่ยเทียน เธอสนิทกับท่านผู้เฒ่าถังในฮ่องกง ที่ฉันมาหาเธอวันนี้ ก็เพื่อ…”

ในที่สุดเฉินสี่ฉวนก็เอ่ยเจตนาของตัวเองออกมา เวลานี้ที่เขาขาดแคลนที่สุดก็คือเงินทุน ขอเพียงมีเงินทุน เมื่อขุดทองคำในเหมืองทองที่รัสเซียออกมาได้ แรงกดดันที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ก็จะสลายหายไปราวกับเมฆหมอก

คราวก่อนตอนอยู่ที่รีสอร์ท เฉินสี่ฉวนเห็นท่าทีของถังเหวินหย่วนที่มีต่อเยี่ยเทียนอย่างชัดเจน ดังนั้นตอนนี้เมื่ออับจนหนทาง จึงไม่มีทางเลือกนอกจากมาหาเยี่ยเทียน ด้วยหวังจะได้เงินทุนจำนวนหนึ่งจากถังเหวินหย่วน

แม้ว่าหลังจากเห็นซ่งเฮ่าเทียนแล้ว เฉินสี่ฉวนจะรู้ว่า ขอเพียงผู้เฒ่าคนนั้นเอ่ยปากสักสองสามคำ ปัญหาทุกอย่างที่เขามีก็คงจะจัดการได้โดยง่าย แต่ว่าเฉินสี่ฉวนก็ยังมีศักดิ์ศรีของตัวเอง เขาเพียงอยากจะจัดการเรื่องนี้ด้วยการเจรจาทางธุรกิจ

หลังจากเฉินสี่ฉวนพูดประโยคนี้ออกมา กลับพบว่าเยี่ยเทียนเพียงมองที่เขา เขาอดลูบใบหน้าตนเองไม่ได้ กล่าวว่า “อ้าวเยี่ยเทียน เธอเอาแต่มองหน้าฉันทำไมกัน? ได้หรือไม่ได้ก็บอกมาสิ ถ้าไม่ได้ก็ถือว่าฉันไม่ได้พูดก็แล้วกัน!”

“ลุงเฉิน คุณนี่ไม่เลวเลย!”

เยี่ยเทียนมองเฉินสี่ฉวนแล้วยิ้มออกมา ยื่นมือไปยกกาทองแดงที่ต้มจนเดือด ล้างถ้วยให้เขาจนสะอาด หลังจากเติมชาจนเต็มถ้วยแล้ว ก็กล่าวว่า “ดื่มชาสิครับ เรื่องนี้ผมจะช่วยลุงเอง ลุงคิดจะจัดการอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น!”

เยี่ยเทียนไม่ใช่คนดีมากมายอะไร ถ้าหากเฉินสี่ฉวนบอกว่าจะให้เขาไปพูดกับซ่งเฮ่าเทียน อย่างมากสุดวันนี้เขาก็จะไปช่วยเกริ่นให้กับถังเหวินหย่วน แต่ว่าจะคุยกันไปถึงไหนนั้น เขาเองก็คงไม่เข้าไปถามให้มากความ

แต่เฉินสี่ฉวนเป็นเพื่อนที่ดี จึงไม่ขอร้องให้เยี่ยเทียนไปหาซ่งเฮ่าเทียนเพียงเพราะตัวเองไร้หนทางไป เรื่องนี้ทำให้เยี่ยเทียนรู้สึกโล่งใจอย่างมาก และพิสูจน์ได้ว่าเขามองคนไม่ผิด!

“จริง…จริงหรือ?” พอได้ยินคำพูดของเยี่ยเทียนแล้ว มือที่ถือถ้วยชาของเฉินสี่ฉวนก็สั่นเทาขึ้นมา

ช่วงเวลาที่ผ่านมาเฉินสี่ฉวนไปขอความช่วยเหลือจากคนมาไม่น้อย มีเจ้าของธุรกิจในแวดวงการค้า คนมีชื่อเสียงในวงการธนาคาร ในอดีตคนพวกนี้ล้วนนับเฉินสี่ฉวนเป็นพี่เป็นน้อง หรืออย่างน้อยก็มีความคิดในแนวทางเดียวกัน

แต่หลังจากคนเหล่านี้รู้ต้นสายปลายเหตุแล้ว ไม่มีสักคนที่คิดจะร่วมมือกับเฉินสี่ฉวน บางคนถึงขั้นปิดประตูใส่ไม่ยอมมาพบ จนเฉินสี่ฉวนได้ลิ้มรสถึงความอบอุ่นและความหนาวเหน็บในสังคมโลก

วันนี้เฉินสี่ฉวนมาหาเยี่ยเทียน เพียงหอบความหวังมาอย่างเลือนรางเท่านั้น แต่เขากลับไม่คาดคิดเลยว่า พอเล่าเรื่องจบ เยี่ยเทียนกลับตัดสินใจทันที

ถ้าหากเป็นตอนก่อนพบเจอซ่งเฮ่าเทียน บางทีเฉินสี่ฉวนอาจยังสงสัยในคำสัญญาของเยี่ยเทียน แต่ว่าเวลานี้ เขารู้ว่าเยี่ยเทียนมีคุณสมบัติเพียงพอจะพูดประโยคนั้นออกมาจริงๆ!

“ลุงเฉิน ทำไมผมจะต้องล้อลุงเล่นด้วยล่ะ? เรื่องนี้ผมจะช่วยเอง ลุงบอกขั้นตอนออกมาเลย!”

เห็นเฉินสี่ฉวนมีท่าทีกระตือรือร้น เยี่ยเทียนก็อดถอนหายใจอยู่ภายในไม่ได้ คนที่ทำธุรกิจการค้าได้ระดับเฉินสี่ฉวนล้วนต้องประสบความคับแค้นใจอย่างนี้ ถูกคนกดขี่จนแทบจะไร้หนทางเดิน เพียงเพราะเป็นประชาชนธรรมดาไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลใดๆ

เพียงแต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่เยี่ยเทียนจะจัดการได้ เหล่าชนชั้นอภิสิทธิ์ในประเทศ ล้วนมีมาแต่โบราณไม่เคยเสื่อมสลาย สิ่งที่เขาทำได้ มีเพียงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับมิตรสหายและครอบครัวตัวเอง

เฉินสี่ฉวนสูดลมหายใจเข้าลึก ข่มอาการตื่นเต้นในใจของตัวเองลง เอ่ยปากบอกว่า “เยี่ยเทียน ขอเพียงเธอทำให้ ถังเหวินหย่วนยอมรับปากลงเงินทุนก็พอแล้ว ฉันมีเส้นสายอยู่ทางรัสเซีย ทางนั้นจัดการได้ไม่ยากหรอก!”

“ทำไมต้องไปหาถังเหวินหย่วนด้วยล่ะครับ?” เยี่ยเทียนโบกไม้โบกมือ กล่าวว่า “ลุงเฉิน ในมือผมก็มีเงินอยู่นิดหน่อย ลุงต้องการเท่าไหร่ ผมให้ลุงยืมเรื่องก็จบแล้วไม่ใช่หรือ?”

แม้ว่าตอนอยู่ที่นิวยอร์ค เยี่ยเทียนจะเอาบัตรใบนั้นให้กับซ่งเวยหลัน แต่ว่าซ่งเวยหลันก็คืนให้กับลูกถึงสองร้อยล้านดอลลาร์อเมริกา เยี่ยเทียนจึงมีเงินใช้ไม่ขาดมือ

“เยี่ยเทียน แบบนั้นจะดีหรือ?” เฉินสี่ฉวนคิดอยู่สักครู่ แล้วบอกว่า “ถ้ายังไง ฉันจะถือว่าเธอร่วมหุ้นก็แล้วกัน ถึงเวลานั้นพวกเรามาร่วมพัฒนาทำเหมืองทองกัน!”

“อย่าเลยครับ ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอก ลุงบอกมาเลยว่าต้องการเงินเท่าไหร่ก็พอแล้ว!”

เยี่ยเทียนรีบส่ายหน้า พูดเป็นเล่นไป สินทรัพย์จำนวนสามหมื่นล้านดอลลาร์อเมริกาของซ่งเวยหลันเขายังไม่อยากรับไว้ ที่ไหนเลยจะมาพูดถึงเหมืองทองคำจำนวนแค่สามหมื่นล้านหยวน

ยิ่งด้วยสภาพจิตและการฝึกฝนของเยี่ยเทียนในปัจจุบัน ทำให้เขาเพียงอยากใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างสงบสุขกับครอบครัว ถ้าหากมีเวลาว่างขนาดนั้น สู้เอาไปฝึกฝนจิตใจในป่าเขาลึกห่างไกลผู้คนยังดีกว่า

“ประ…ประมาณสองพันล้านล่ะมั้ง?”

เห็นท่าทางยืนกรานของเยี่ยเทียนแล้ว เฉินสี่ฉวนก็คิดคำนวณอยู่ในใจครู่หนึ่ง แล้วบอกตัวเลขออกมา นอกจากจ่ายเงินจำนวนพันล้านให้กับทางรัสเซียแล้ว เขายังจำเป็นต้องใช้เงินตั้งต้นต่ออีกอย่างน้อยหนึ่งพันล้าน

“สองพันล้านหรือครับ? เงินของผมไม่พอจริงๆ ด้วยสิ ขาดไปนิดเดียวเท่านั้น” เยี่ยเทียนได้ยินแล้วส่ายหน้า ลุกขึ้นยืนบอกว่า “ลุงเฉิน ลุงรอก่อนนะ ผมจะไปหาคนที่มีเงินให้ลุง!”

“เยี่ยเทียน พวกเธอคุยธุระกัน แล้วดึงตัวแม่มาทำไมน่ะ?”

ยังไม่ทันถึงห้านาที เยี่ยเทียนก็ดึงตัวแม่มาเรือนหลังบ้าน หลังจากซ่งเวยหลันแนะนำตัวกับเฉินสี่ฉวนแล้ว ก็มองไปทางลูกชายอย่างงงงวย

เยี่ยเทียนไม่พูดอ้อมค้อม เอ่ยปากตรงๆ ออกมาว่า “แม่ครับ ผมแนะนำธุรกิจให้กับแม่ แม่สนใจจะลงทุนเหมืองทองคำหรือเปล่า?”