ส่วนที่ 5 สมรภูมิดอกไม้เหลือง ตอนที่ 105 เสียงถอนหายใจของน้ำค้างแข็ง ไร้ผลต่อท้องฟ้ามืดมิด

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูงที่สุดในดินแดนทั้งมวล มีพลังอำนาจที่กดขี่สิ่งมีชีวิตอื่น โดยเฉพาะสัตว์ประหลาด ร่างวิญญาณและพวกที่คล้ายคลึงกัน

เมื่อได้ยินเสียงมังกรร้อง สาวงามทั้งสองก็หน้าซีดในทันที และเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังออกมาจากปากของพวกนาง ร่างวิญญาณของพวกนางเริ่มจางไปและเกือบที่จะแตกสลาย

เฉินฉางเซิงฉวยโอกาสนี้เพื่อใช้ย่างก้าวหยั่งเทวา เหยียบลงบนตำแหน่งดาวเจิ่น เขาถอยกลับคว้าอันหวากับรองแม่ทัพด้วยการโบกแขนเสื้อข้างขวา

การกวาดแขนเสื้อครั้งเดียวดูราวกับการกวาดดวงดาวนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้าราตรี โลกมืดมัวลงอย่างฉับพลัน

อันที่จริง นี่เป็นเพราะดวงดาวบนท้องฟ้าถูกบดบัง

จี๊ดจี๊ดหายไปจากตำแหน่งเดิมของนาง

มังกรยักษ์น้ำค้างแข็งปรากฏกายขึ้นบนท้องฟ้าราตรี

ร่างมังกรที่เหมือนกับแนวเทือกเขาบดบังแสงดาวเหนือหุบเขาไว้จนหมด

เป็นภาพที่งดงามที่สุดและน่ากลัวที่สุด

ในหมู่บ้านเกาหยาง อีกฝั่งของเทือกเขา ทหารขี้เมาคนหนึ่งเห็นภาพนี้บนท้องฟ้าและคิดว่าเขาเห็นตาฝาด

เมื่อเขาตระหนักว่าที่เห็นเป็นมังกรดำ เขาก็หมดสติไปในทันที

ไม่นานหลังจากนั้น คนหลายคนในหมู่บ้านเกาหยางเห็นมังกรดำทอดตัวอยู่บนท้องฟ้าราตรี เสียงกรีดร้องเสียงร้องไห้ดังขึ้นสลับแทนที่กันไปมาแต่ไม่เคยหายสิ้นไป

ไม่มีเสียงกรีดร้องหรือร้องไห้ในหุบเขา มีแต่วัตถุถูกแช่แข็งและแตกออก

ใยปราณนับไม่ถ้วนเปี่ยมไปด้วยพลังเย็นเยียบพุ่งออกมาจากปากของมังกรยักษ์น้ำค้างแข็งและลงมาสู่แผ่นดิน

ใยน้ำแข็งลอยไปตามอากาศสลายตัวเป็นผงละเอียดในขณะที่พื้นทะเลสาบแห้งเริ่มแตกร้าวในยามที่มันแข็งตัว ก่อนที่น้ำพุร้อนจะสามารถพ่นไอน้ำออกมา พวกมันก็ถูกแช่แข็งเป็นน้ำแข็งแวววาว จากนั้นน้ำแข็งก็ถูกแช่แข็งจนมันแตกออกอีกครั้ง!

ทุกสิ่งในโลกที่สัมผัสกับปราณเย็นเยียบนี้จะถูกแช่แข็งแล้วก็แตกออก!

นี่เป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดและน่ากลัวที่สุดของมังการยักษ์น้ำแข็งดำ ลมหายใจมังกรเยือกแข็ง!

ลมหายใจมังกรเยือกแข็งบรรจุไว้ด้วยเกล็ดน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ไม่ใช่เกล็ดน้ำแข็งทั่วไป เกล็ดน้ำแข็งพวกนี้ร่วงลงด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เป็นเหมือนกับห่าฝนที่ปกคลุมทะเลสาบและพื้นที่โดยรอบไว้จนหมด

เสียงฉีกขาดน่ากลัว รอยขาดเล็กๆ จำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนชุดของหนานเค่อ ร่องรอยการกัดกร่อนสามารถเห็นได้บนกระบี่กางเขนใต้ สัญญาณของการแตกร้าวมีให้เห็นบนด้าม

นางได้รับบาดเจ็บในทันที เลือดนางเปลี่ยนสีไปเพราะถูกแช่แข็งในอากาศ

เสียงหวีดหวิวแหลมสูงและโหดเหี้ยมดังออกมาจากปากนาง

สาวงามทั้งสองแตกกระจายเป็นประกายแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งไปด้านหลังนางและกลายร่างเป็นปีกสีเขียวงดงาม

แสงสีเขียวส่องสว่างอยู่ในทะเลสาบมืดมัว วาดเป็นเส้นจำนวนนับไม่ถ้วนยากที่จะจำแนกได้

หนานเค่อเป็นเหมือนสายฟ้าในยามที่นางพุ่งไปมาในอากาศอันเต็มไปด้วยน้ำแข็ง หลบลมหายใจมังกรเยือกแข็งที่ตกลงมาจากท้องฟ้าราตรี

ผนึกของหวังจื่อเช่อที่วางอยู่บนร่างจี๊ดจี๊ดตลอดหลายปีที่ผ่านมายังไม่ถูกกำจัดออกจนหมดและจี๊ดจี๊ดก็ยังไม่ได้ฟื้นคืนพลังกลับมาเต็มที่ ต่อให้นางฟื้นคืนพลังกลับมา นางก็ยังไม่ใช่มังกรยักษ์น้ำค้างแข็งที่เติบโตเต็มที่ พื้นที่ซึ่งนางใช้ลมหายใจมังกรเยือกแข็ง หากหนานเค่อสามารถที่จะบินออกไปจากพื้นที่ของลมหายใจมังกรเยือกแข็ง นางก็จะหนีออกจากหายนะนี้ได้

ในตอนนั้น แสงอีกสายก็เริ่มส่องสว่าง

ไม่ใช่ลำแสงสีเขียวที่เกิดจากปีกของหนานเค่อในความมืด แต่เป็นสีแดงอบอุ่นที่สะท้อนแสงอาทิตย์อัสดงในแม่น้ำ

สนธยาเต็มไปด้วยซากปรักหักพังและอาทิตย์อัสดงก็สะท้อนแสงบนท้องฟ้าราตรี

เช้ง กระบี่สั้นออกมาจากฝัก!

เฉินฉางเซิงได้ใช้กระบวนท่าจากเพลงกระบี่เวิ่นสุ่ยสามกระบวนท่าเพื่อเร่งความเร็วและเพิ่มระยะ แขวนดวงสุริยัน!

ประกายกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากฝัก คล้ายกับลำแสงสีทองจำนวนมากบนผิวแม่น้ำ พวกมันลอยขึ้นตามสายลม ตอนนี้ดูเหมือนเหมือนกับตาข่ายที่ทอดลงมาจากเรือประมง

เพลงกระบี่ที่สองของเพลงกระบี่เวิ่นสุ่ยสามกระบวนท่า

กระบี่นับไม่ถ้วนระเบิดออกทุกทิศทาง เจตจำนงกระบี่แหลมคมที่สุดตัดทุกสิ่งระหว่างฟ้าดิน กลายเป็นตาข่ายถี่ยิบ

หนานเค่ออาจรวดเร็วปานสายฟ้า แต่ถึงเป็นนางก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงตาข่ายกระบี่ในเวลาอันสั้นและหนีออกไปจากสวนที่เต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งแห่งนี้

หากนางพยายามทะลวงผ่านตาข่ายนี้ ลมหายใจมังกรที่ร่วงลงจากฟ้าจะแช่แข็งร่างของนางและทำให้แตกร้าว หากนางพยายามต้านทานลมหายใจมังกร กระบี่มากมายก็จะทิ่มแทงหัวใจนาง!

หากไม่มีสิ่งไม่คาดหมายเกิดขึ้น ชะตาของนางก็ถูกผนึกเอาไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ราชามารยังอยู่ตรงนี้

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เฉินฉางเซิงกับจี๊ดจี๊ดไม่สนใจราชามารอย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่เริ่มพวกเขาใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดไปที่หนานเค่อเท่านั้น

นี่เป็นเพราะหนานเค่อเป็นศัตรูที่อ่อนแอกว่า เป็นคนเดียวที่พวกเขาสามารถตีฝ่าออกไปได้ง่ายที่สุด

สำหรับราชามาร ด้วยความแข็งแกร่งของเฉินฉางเซิงกับจี๊ดจี๊ด ต่อให้พวกเขาใช้ทุกสิ่งที่มี ก็ไม่อาจทำร้ายแม้แต่เส้นผมบนศีรษะของเขา แล้วจะเสียแรงไปทำไม

และไห่ตี๋ก็ยังอยู่ที่นี่ ไม่ว่าเขาจะยินยอมร่วมมือกับมนุษย์หรือไม่ เขาก็รู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดและยังเป็นโอกาสสุดท้ายในคืนนี้

ลมหายใจมังกรเยือกแข็งที่เปี่ยมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงสู่สวนทะเลสาบและรวมถึงเกราะของไห่ตี๋อีกด้วย

ชุดเกราะสีดำถูกปกคลุมด้วยรอยรูปหยดน้ำฝนนับไม่ถ้วนในทันทีเมื่อน้ำแข็งกัดกร่อนชุดเกราะและผนึกคลื่นความแข็งแกร่งจากร่างกายของไห่ตี๋

ไห่ตี๋ข่อมโจมตีเป็นธรรมดา และเขาก็จะโจมตีอย่างเต็มกำลัง

ป้ายอนุสรณ์ศิลาสวรรค์ที่แตกหักฟาดใส่ราชามารราวกับภูเขาถล่มอย่างไร้เสียง!

ไห่ตี๋รู้ดีว่าต่อให้ราชามารบาดเจ็บสาหัสมีความแข็งแกร่งต่ำกว่าจุดสูงสุดอยู่มาก เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่ดี

เขาไม่ได้หลงผิดกับอาการบาดเจ็บของราชามาร แค่ชะลอเขาไว้สักครู่เท่านั้น

ตราบใดที่ราชามารไม่มาช่วย เฉินฉางเซิงอาจสำเร็จในการสังหารหนานเค่อ จากนั้นพวกเขาก็จะเปลี่ยนไปเป็นสามรุมหนึ่งและอาจจะมีความหวังริบหรี่

เห็นได้ว่านี่เป็นแผนของเฉินฉางเซิงมาตั้งแต่แรก และไห่ตี๋ก็ลงมือตามแผนนั้นพอดี

ราชามารคิดอะไรอยู่ เขาไม่สนใจป้ายอนุสรณ์ศิลาสวรรค์ที่แตกหักซึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า ไม่ได้หันไปมองบุตรสาวที่อาจตายได้ทุกเมื่อด้วยลมหายใจมังกรเยือกแข็งและปราณกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วน แต่กลับก้มหน้ามองที่กู่ฉิน นิ้วที่เรียวยาวมั่นคงวางลงบนสายและดีด

มันเป็นเสียงที่สะเทือนใจ

จากนั้น…มันก็เร็วขึ้น

เสียงดนตรีดังขึ้นอย่างปั่นป่วนราวกับต้นไม้นับพันโค่นล้มโครมคราม

เสียงดนตรีดังมาจากสายกู่ฉิน ไม่สนใจลมหายใจมังกรเยือกแข็งเพราะมันพุ่งไปทุกทิศทาง

ท้องฟ้าพร่างดาวถูกบดบังด้วยร่างกายของมังกรยักษ์น้ำค้างแข็ง บดบังหุบเขาและทะเลสาบจนมืดสนิท ส่วนลึกสุดของราตรี ทันใดนั้นประกายไฟนับไม่ถ้วนก็หลุกไหม้ในความมืด

ประกายไฟมาจากการบดขยี้และปะทะกัน ไม่ใช่หินกับหินหรือเหล็กกับเหล็ก แต่เป็นเสียงกู่ฉินปะทะและบดกับกระบี่

กระบี่นับไม่ถ้วนถูกส่งออกมาจากเพลงกระบี่แขวนดวงสุริยันกับลำนำชาวประมงสามบทเพลงต้านรับเสียงดนตรีจากกู่ฉิน

ทุกการปะทะจะเกิดเสียงปะทะและประกายไฟ

จากกระบี่หลายพัน เสียงฉินนับไม่ถ้วน การปะทะนับพันหมื่น ดอกไม้จากประกายไฟนับไม่ถ้วนเบ่งบานอยู่ในอากาศ ต้นไม้ไฟขนาดยักษ์ดูจะเติบโตขึ้นกลางอากาศ

ประกายไฟพวกนั้นตกลงบนพื้น แต่พวกมันไม่ได้ถูกแช่แข็งด้วยลมหายใจมังกรเยือกแข็ง พวกมันยังคงลุกไหม้ตอนที่ตกลงบนพื้น เปลวไฟกระเด็นออกมาจากลำต้นของต้นไม้

โลกพลันสว่างขึ้นอย่างมาก แต่เพราะแสงนี้ทำให้ความมืดมิดแจ่มชัดยิ่งขึ้น

เหมือนกับใบหน้าของราชามาร