ตอนที่ 939: การต่อสู้ของเมืองอัคนี (3)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 939: การต่อสู้ของเมืองอัคนี (3)

ในการที่จะยึดเอาเมืองอัคนีให้ได้ในรวดเดียว ไป่เจี้ยนได้เตรียมตัวมาอย่างสมบูรณ์ ในขั้นแรก เขาได้โน้มน้าวตระกูลผู้พิทักษ์อื่นจากความสัมพันธ์ของพ่อของเขากับผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวนและให้พวกเขาช่วยหนุนหลัง หลังจากนั้นเขาได้เข้าไปในทวีปด้วยตัวเอง เพื่อโน้มน้าวทหารรับจ้างที่อยู่ในระดับสูงสุดมากกว่ายี่สิบกลุ่ม แต่ละกลุ่มนั้นเทียบเท่ากับตระกูลสันโดษ ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมานานหลายพันปี พวกเขามีประวัติศาสตร์และพลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีเซียนผู้คุมกฎเท่านั้น พวกเขายังมีสมาชิกอย่างน้อยหมื่นคนด้วยเช่นกัน

นี่เป็นการรวมกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาในตอนนี้ กลุ่มทหารรับจ้างทุกกลุ่มได้เข้ามาทางประตูมิติที่สร้างขึ้นโดยพ่อของไป่เจี้ยนและผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวน มีคนหลายล้านคนอยู่ที่นี่ในตอนนี้และแต่ละคนก็สุดยอดทั้งนั้นและมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการต่อสู้ซึ่งน่าเกรงขามมาก พวกเขามีจำนวนมากกว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีหลายเท่า

ในขณะที่มีจอมยุทธหลายคนมารวมตัวกันในเมืองอัคนีในตอนนี้ กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีไม่ได้ตระหนักถึงการมาของพวกเขาเลย เนื่องจากมีกลิ่นอายผสมปนเปกันไปในเมือง ในตอนที่พวกเขาอยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตรจากเมือง ยามที่กำแพงถึงรู้ว่าพวกเขามา ยามบอกผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบกำแพงเมืองทันที

ผู้รับผิดชอบเป็นเซียนสวรรค์ เขามาถึงที่กำแพงในชุดเกราะที่เป็นทังสเตนทั้งหมด ในขณะที่เขาเพ่งมองไปที่กลุ่มคนจำนวนมากที่ใกล้เข้ามาอย่างช้า ๆ

“หืม มีคนหลายคนกำลังมา ดูความเป็นระเบียบของพวกเขาสิ พวกเขาต้องมาด้วยจุดประสงค์ไม่ดีแน่ นี่เป็นข่าวร้าย พวกเขาต้องการที่จะมายึดเมืองอัคนีหรือไม่ ? พวกนั้นไม่รู้เลยหรอว่ามีตระกูลที่ทรงพลังคอยหนุนหลังพวกเราอยู่ ? ” หัวหน้าบนกำแพงเมืองเหยียดขณะที่ความเย้ยหยันปรากฏอยู่ในตาของเขา จากนั้นเขาก็หันไปหาคนข้าง ๆ “แอนดราธ อยู่ที่นี่และป้องกันมันเอาไว้ ข้าจะไปแจ้งท่านรองเจ้าเมือง”

“ขอรับ ! “

หัวหน้ารีบไปที่ปราสาทกลางของเมืองอัคนีอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไปรายงานโหยวเยว่

กลุ่มใหญ่ของไป่เจี้ยนได้อยู่ห่างออกไป 5 กิโลเมตรจากเมืองแล้วในขณะที่โหยวเยว่ได้ทราบข่าวนี้ จอมยุทธทุกคนที่อยู่ในเมืองอัคนีสัมผัสได้ถึงพวกนั้นได้ในที่สุด เพราะพวกนั้นเข้ามาใกล้มากแล้วและหลายคนแสดงท่าทางไม่สบายใจออกมา

ในปัจจุบันนี้ ไม่มีใครในทวีปที่ไม่รู้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมีตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางและเมืองทหารรับจ้างคอยหนุนหลังอยู่ ยังมีกลุ่มหรือองค์กรไหนที่กล้าจะมายั่วยุกลุ่มกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีที่เป็นที่รู้จักกันดีอีกหรือ ? ถ้าเป็นแบบนั้น กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีก็คงไม่สามารถที่จะควบคุมเหมืองทังสเตนมาได้นานขนาดนี้ ไม่เช่นนั้นมันคงจะถูกแบ่งกันไประหว่างตระกูลสันโดษและตระกูลโบราณไปนานแล้ว

โหยวเยว่เคร่งเครียดทันทีเมื่อรู้ว่ากำลังจะมีคนมาโจมตี ลางร้ายเริ่มปรากฏในใจของนางมานานแล้ว นางรู้ว่าการก่อตั้งเมืองขึ้นมาอย่างเป็นทางการคงจะไม่สงบสุขเหมือนที่พวกเขาต้องการ ในเวลาเดียวกัน นางก็รู้ดีว่าคนที่กล้าที่จะมายุ่งกับพวกเขาในตอนนี้ต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากเป็นแน่ นี่เป็นเพราะพวกเขามายุ่งกับเมืองในเวลานี้พอดี เวลาที่คนที่มีชื่อเสียงหลายคนของทวีปได้มารวมตัวกัน พวกเขาต้องมีแผนที่ยอดเยี่ยมแล้วแน่แน่

โหยวเยว่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ที่สุด นางไม่ต้องการที่จะเพิกเฉยแม้แต่นิดเดียว นางเริ่มติดต่อจอมยุทธของกลุ่มทหารรับจ้างทันที ก่อนที่จะไปที่กำแพงเมืองกับเจียงหยาง ซู หยุนคง ไป๋ไฮ และเจียเต๋อไท่

ผู้บุกรุกกลุ่มใหญ่ได้หยุดอยู่อย่างเงียบ ๆ ห่างออกไปจากเมือง 5 กิโลเมตร ถ้ามีคนมองลงไปจากกำแพงเมือง พวกเขาคงจะเห็นกลุ่มคนสีดำขนาดใหญ่ที่เปล่งประกายไปด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่สูงตระหง่าน

ไป่เจี้ยนและเซียนผู้คุมกฎอีกประมาณ 20 คนจากกลุ่มทหารรับจ้างได้นั่งอยู่บนสัตว์อสูรระดับ 5 อยู่ด้านหน้าสุดในตอนนี้ แม้ว่าประตูเมืองจะถูกเปิดกว้างอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่รีบเข้าโจมตี

พวกเขาต้องการที่จะจัดการกับจอมยุทธทั้งหมดที่รวมอยู่ในเมืองอัคนีและแยกพวกเขาไม่ให้มาสนับสนุนได้ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มโจมตี

ถ้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลสันโดษและตระกูลโบราณ พวกเขาก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่กลุ่มของไป่เจี้ยนออกไปได้ด้วยกำลังของพวกเขาเอง

โหยวเยว่ยืนอยู่อย่างไร้อารมณ์ที่กำแพงเมือง คิ้วของนางขมวดแน่น ในขณะที่นางเคร่งเครียด นางรู้ดีว่าลางร้ายที่นางรู้ก่อนหน้านี้ได้มาถึงแล้วในที่สุด

เจียงหยาง ซู หยุนคง ไป๋ไฮ และเจียเต๋อไท่ยืนอยู่ข้าง ๆ โหยวเยว่ พวกเขาทั้งหมดมองไปที่กลุ่มคนสีดำด้านล่าง

“บอกชื่อของเจ้ามา ! ทำไมพวกจ้ามารวมกันหลายคนด้านนอกแบบนี้ในตอนที่เมืองของพวกเรากำลังจะฉลองตัดริบบิ้น ! ? อธิบายมาเดี๋ยวนี้ ! ” ไป๋ไฮคำรามออกมา เสียงที่ดังของเขาระบิดออกไปในท้องฟ้าเหมืองเสียงฟ้าร้อง และกระจายออกไปทั่วรัศมีหลายสิบกิโลเมตร

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเจ้าเรียกพวกเราว่าพันธมิตรพิชิตอัคนีก็ได้ เจ้าน่าจะต้องรู้แล้วว่าทำไมพวกเราถึงได้มารวมกันมากมายเช่นนี้ในวันนี้ อีกไม่นาน เมืองแรกของทวีปที่ทำมาจากทังสเตนทั้งหมดก็จะตกเป็นของพวกเรา พันธมิตรพิชิตอัคนี ! ” ไป่เจี้ยนหัวเราะออกมาดังในขณะที่ความบ้าคลั่งปรากฎอยู่ในแววตาของเขา

“หืม เจ้าอย่าบังอาจที่จะเอาเมืองอัคนีของพวกเราไปเชียว ! ” ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของโหยวเยว่โกรธเกรี้ยว เมืองอัคนีเป็นเรื่องที่เจี้ยนเฉินฝากเอาไว้กับนางก่อนที่เขจะจากไป ดังนั้นมันจึงเป็นของเจี้ยนเฉิน ในตอนนี้มันก็ได้ถูกสร้างเสร็จหลังจากที่พยายามด้วยความยากลำบากมาหลายปี นางจะปล่อยให้เมืองถูกแย่งชิงไปได้ยังไงกัน ?

ไป่เจี้ยนจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่โหยวเยว่ ขณะที่เขายิ้มอย่างชั่วร้าย “เจ้าต้องเป็นองค์หญิงเกอหลัน โหยวเยว่ ของอาณาจักรเกอซุนแน่ คู่หมั้นของเจี้ยนเฉิน หืม เจี้ยนเฉินโชคดีจริง ๆ ที่ขโมยหัวใจของหญิงที่น่ารักขนาดนี้ไปได้ แต่น่าเสียดาย นับจากวันนี้เป็นต้นไป คู่หมั้นของเขาต้องตกเป็นของข้า เขาได้ขโมยบางอย่างจากข้าไปและทำให้ข้า องค์ชายไป่เจี้ยน เจ็บปวดและอับอาย ข้าจะมอบความเจ็บปวดและความอับอายคืนกลับไปมากกว่านั้นอีกหลายเท่า”

เสียงของไป่เจี้ยนเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายและมันสะท้อนไปทั่วทั้งเมืองเนื่องจากความดังของมัน ทุกคนได้ยินคำที่เขาปรามาสโหยวเยว่

เมืองตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายทันที ทุกคนในเมือง ไม่ว่าจะเป็นแขกหรือเป็นสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้วางเรื่องต่าง ๆ ที่ทำอยู่และรีบไปที่กำแพงเมือง บางคนที่ทรงพลังกว่าคนอื่นยังแม้แต่บินไปที่นั่นด้วย

ปัง ! ในวัง หมิงตงทุบไปที่โต๊ะหินในซุ้มที่เขานั่งอยู่ เขาพูดออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “เจ้าบ้าคนไหนกล้าที่จะดูถูกคู่หมั้นของน้องชายข้า ? ข้าจะไม่ปล่อยมันไปแน่”

“พวกเราไปดูกันว่าใครมันกล้าที่จะดูถูกน้องสะใภ้ของพวกเรา ข้าจะฉีกมันเป็นชิ้น ๆ ” เถี่ยต้ายืนขึ้นมา และโกรธด้วยเช่นกัน

“ในตอนนี้เจี้ยนเฉินไม่ได้อยู่ที่นี่ พวกเราจะปล่อยให้คู่หมั้นของเขาถูกคนอื่นดูถูกไม่ได้ พวกเราไปสอนบทเรียนให้กับพวกนั้นกัน” หวังยี่เฟิงพูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว เขาเอามือขึ้นมาที่ปากของเขาและผิวปาก จากนั้นสัตว์อสูรตัวยาว 5 เมตรก็โผล่อออกมา และหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

“เสี่ยวเฟย พวกเราบินไปที่ทิศที่กำแพงเมืองอยู่กันเถอะ มีบางคนกำลังยั่วยุพวกเรา พวกเราต้องแสดงให้พวกนั้นเห็นว่าพวกเราเป็นยังไง” หวังยี่เฟิงกระโจนขึ้นไปที่หลังของสัตว์อสูรทันทีและมันก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและมุ่งหน้าไปที่กำแพงเมือง

หมิงตงและคนอื่นก็มุ่งหน้าไปที่กำแพงเมืองหลังจากนั้น

“ท่านปู่จุน ท่านย่าหวัง เมืองอัคนีดูเหมือนกำลังจะเจอปัญหา ข้าอยากรู้ว่าใครกันที่กล้ามาที่เมืองอัคนีในตอนนี้” หญิงสาวพูดออกมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนางในขณะที่นางพักอยู่ที่วัง เสียงของนางเต็มไปด้วยความพอใจและความรู้สึกยั่วยวน คนที่จิตใจอ่อนแอคงจะตกตะลึงเมื่อในเสียงนั้นเป็นแน่

หญิงคนนี้คือเทียนมู่หลิงจากตระกูลโบราณเทียนมู่

“ทุกคนรู้ว่าเมืองอัคนีมีคนหนุนหลังอยู่ที่ทวีปเทียนหยวน ถ้าคนพวกนั้นไม่โง่ คนพวกนั้นก็คงเตรียมการมาอย่างมากมายในช่วงเวลาที่มีค่าแบบนี้ พวกเขาไม่กลัวคนที่หนุนหลังกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเลยแม้แต่น้อย บางทีนี้อาจจะซับซ้อนกว่าที่พวกเราเห็น พวกเราไปดูกันเถอะ” ปู่จุนพูดออกมา ทั้งสามคนเดินทางไปที่กำแพงเมือง

กลุ่มคนภายในเมืองพุ่งไปที่ทิศทางของกำแพงเมือง ถนนเต็มไปด้วยผู้คน และแม้แต่ท้องฟ้ายังเต็มไปด้วยเซียนสวรรค์และเซียนผู้คุมกฎหลายคน

เกือบทุกคนเป็นแขกที่มาร่วมพิธีเปิดเมืองอย่างเป็นทางการ

คนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันอยู่บนกำแพงเมือง มันเต็มไปด้วยผู้คนในพริบตาเดียว ทั้งหมดยืนอยู่ด้านบนด้วยชุดที่แตกต่างกัน

หมิงตงและคนอื่น ๆ มารวมตัวกันรอบ ๆ โหยวเยว่ในขณะที่พวกเขาสังเกตไปที่กองทัพใหญ่อย่างเคร่งเครียด พวกเขาถามขึ้นมา “พวกเจ้าเป็นใครกัน ? พวกเจ้าต้องการจะทำอะไรกัน ? “

โหยวเยว่โกรธจนหน้าซีดไปหมด “พวกเขาอ้างว่าเป็นพันธมิตรพิชิตอัคนี และพวกเขาต้องการที่จะยึดเมืองอัคนีของพวกเรา” เสียงของนางเต็มไปด้วยความโกรธที่ปิดเอาไว้ไม่มิด

“พันธมิตรพิชิตอัคนี ตามที่ชื่อว่านั่น ไม่ได้หมายความว่าพวกนั้นเป็นพันธมิตรที่จะมากำจัดพวกเราอย่างนั้นหรือ ? หืม พวกนั้นกล้ามากที่ประกาศที่จะต่อต้านพวกเรา” ใบหน้าของหมิงตงมืดครึ้มอย่างมาก

“ผู้คนที่พวกนั้นนำมานั้นทรงพลังมาก ข้าไม่สามารถมองผ่านคนประมาณ 20 คนที่อยู่ด้านหน้าสุดไปได้เลยแม้แต่น้อย พวกเขาทั้งหมดเป็นเซียนผู้คุมกฎอย่างนั้นหรือ” เจ้าอ้วนน้อย คำรามออกมา

ตาของเถี่ยต้าเบิกขึ้นเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ เขาเริ่มคันมือและกระตือรือร้นที่เข้าไปต่อสู้ในขณะที่จิตวิญญาณต่อสู้ลุกโชนอยู่ในตาของพวกเขา เขาพูดด้วยเสียงทุ้มและนุ่มนวล “เซียนผู้คุมกฎ ? ข้าอยากจะเห็นว่าพวกนั้นนั้นทรงพลังเพียงใด”

“เห็นได้ชัดว่าพวกนั้นเตรียมตัวมาอย่างดี พวกเราจะประมาทไม่ได้” ไป๋ไฮเคร่งเครียดในขณะที่เขาขมวดคิ้ว

ตาของเจียงหยาง ซู หยุนคงเย็นชาในขณะที่เขาจ้องไปที่พวกนั้น เขาคำรามออกมา “เมืองอัคนีเป็นของหลานของข้า หืม ของของตระกูลเจียงหยางไม่ใช่อะไรที่ใครจะจะมาอ้างตัวและเอาไปได้”

เมื่อเห็นว่ามีกลุ่มใหญ่จากตัวแทนจากหลายกลุ่มในทวีปได้มารวมตัวกันที่กำแพงเมือง ไป๋ไฮอดไม่ได้ที่จะเหยียดออกมามากกว่าเดิม เขาประสานมือออกไป “ทุกคน พวกเจ้าเป็นสมาชิกขององค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงหลายองค์กรในทวีปเทียนหยวน วันนี้ พวกเจ้าทั้งหมดจะได้เป็นพยานว่าข้า ไป่เจี้ยน จะแสดงให้พวกเจ้าดูว่า พันธมิตรพิชิตอัคนีจะยึดเมืองที่สร้างมาจากทังสเตนทั้งหมดได้อย่างไร ในตอนนี้ นั่งและดูอยู่ข้าง ๆ ไป หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เมืองอัคนีจะกลายเป็นเมืองพิชิตอัคนี ในเวลาเดียวกัน งานตัดริบบิ้นจะเป็นไปตามแผนและจะเป็นการเปิดเมืองพิชิตอัคนีในฐานะที่เท่าเทียมกับเมืองหลวงทั้งเจ็ดของทวีป”