บทที่ 746 ถูกล้อม

The king of War

จู่ๆ เห็นคนมากมายขนาดนี้ หานเซี่ยวเทียนและกวนเจิ้งซานต่างก็มีสีหน้าตื่นตระหนก

“พวกแกเป็นใคร?กล้ามาหาเรื่องถึงเยี่ยนเฉินกรุ๊ป อยากตายเหรอ?”

หานเซี่ยวเทียนก้าวออกไปข้างหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ

ในเวลานี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังฝูงชนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ต่อหน้าฉัน หลินซง ถามฉันว่าอยากตายเหรอ?แกนี่กล้ามากนะ!”

ตระกูลหลิน?

หานเซี่ยวเทียนได้ยินว่าตระกูลหลินสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันใด

ในเยี่ยนตู ที่กล้าเรียกตัวเองว่าตระกูลหลินก็มีเพียงแค่ตระกูลหลินหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเท่านั้น

หลังจากคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้แล้ว หานเซี่ยวเทียนและกวนเจิ้งซานต่างก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึม โดยเฉพาะหานเซี่ยวเทียน ใบหน้าแฝงไว้ด้วยความรู้สึกสำนึกผิด

เขาด่าคนตระกูลหลินอย่างโกรธเคืองว่าอยากตายเหรอท่ามกลางผู้คน นี่เหมือนเป็นการสร้างศัตรูให้หยางเฉินอีก

ในสายตาของหานเซี่ยวเทียนและกวนเจิ้งซาน แม้ว่าหยางเฉินจะแข็งแกร่งแต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็แข็งแกร่งมากเหมือนกัน ไม่ใช่ตระกูลแบบพวกเขาที่เพิ่งมาถึงไม่สามารถเทียบได้เลย

“ดูแล้ว ตระกูลหลินจะรอไม่ได้ที่อยากจะโดนทำลายแล้วสินะ?”

หยางเฉินพูดขึ้นทันใด

ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลินซงก็เปลี่ยนไป มองไปที่หยางเฉิน นัยน์ตาของเขาโหดเหี้ยมมาก ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า “ทำลายตระกูลหลินของฉันเหรอ?แกนี่พูดจาสามห้าว!”

ครั้งที่แล้วที่ตระกูลหลินพาคนไปตระกูลเย่ พยายามจะบังคับให้เย่ม่านแต่งเข้าตระกูลหลิน หลินซงก็เกือบถูกหยางเฉินฆ่าตาย ต่อมาก็ถูกหม่าชาวตีจนสลบอีก

ต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น สำหรับหลินซงแล้วนี่เป็นเรื่องที่น่าละอายที่สุดในชีวิต

เมื่อก่อนตระกูลหลินกลัวหยางเฉิน แต่ตอนนี้ตระกูลหลินไม่กลัวแล้ว

“พาคนกลับไปตอนนี้ ฉันจะยังให้โอกาสตระกูลหลินได้ยืนอยู่ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูต่อไป”

หยางเฉินพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย เหมือนกับกำลังพูดเรื่องทั่วไปเรื่องหนึ่ง แค่เขาต้องการก็สามารถทำให้ตระกูลหลินถูกทำลายได้จริงๆ

“หยางเฉิน ฉันรู้ว่าระหว่างแกกับตระกูลเย่และตระกูลอวี๋เหวินมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ตอนนี้อวี๋เหวินเกาหยางและเย่ม่านต่างก็ถูกลอบสังหาร ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือเปล่า ไม่มีตระกูลเย่และตระกูลอวี๋เหวินที่ให้การสนับสนุนแก แกคิดว่าแกยังจะทำอะไรฉันได้เหรอ?”

หลินซงยิ้มเยาะถามขึ้น

เพียงเพราะหลินซงที่กล้าพาคนมาปิดล้อมเขาที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป หยางเฉินก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตระกูลหลินถึงกล้าทำแบบนี้

ตระกูลเซวลอบสังหารผู้นำตระกูลมหาเศรษฐีหลายตระกูลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหยางเฉิน และหลังจากนั้นก็สัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์มหาศาลกับตระกูลมหาเศรษฐีอื่นๆ

ด้วยสถานะของตระกูลเซว ตระกูลเฉกเช่นตระกูลหลินจะละทิ้งโอกาสที่จะมีความสัมพันธ์กับตระกูลเซวได้ยังไง?

“ไอ้พวกโง่ ถูกเขาหลอกใช้ยังไม่รู้ตัว ”

หยางเฉินพูดเสียดสี

เซวหยวนป้าอยากจะไปจากเยี่ยนตูแต่จัดการเองไม่ได้ คนตระกูลหลินกลับทำตัวเหมือนคนโง่มาหาเรื่องวุ่นวายให้หยางเฉิน

นี่ไม่ใช่เพราะเขาต้องการใช้ตระกูลหลินมาสกัดกั้นหยางเฉินหรอกเหรอ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่เซวหยวนป้าจะมีโอกาสไปจากที่นี่ได้

“แกว่าใครโง่?”

หลินซงโกรธและตะโกนอย่างโกรธเคือง “หยางเฉิน ฉันจะบอกแกให้นะ อีกไม่นานแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็จะกลายเป็นห้าตระกูลแห่งเยี่ยนตูแล้ว”

“ไม่เพียงเท่านี้นะ ตระกูลเย่ ตระกูลอวี๋เหวิน และก็ตระกูลหวง เพราะว่าผู้นำบาดเจ็บสาหัส ไม่นานก็จะถูกพวกเราห้าตระกูลร่วมมือกันทำลายแล้ว”

“แกยังกล้าคุยโวโอ้อวดบอกว่าพวกเราโง่เหรอ?”

“ฉันจะบอกให้ แกน่ะสิไอ้โง่!”

หลินซงหลุดเปิดเผยข้อมูลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้หยางเฉินรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย

ตอนนี้มีความสมดุลระหว่างแปดตระกูลเยี่ยนตูแล้ว แต่ตอนนี้เย่ม่าน อวี๋เหวินเกาหยางและหวงเทียนเชิงทั้งหมดถูกลอบสังหารและยังคงกำลังช่วยชีวิตอยู่

ผู้นำของทั้งสามตระกูลไม่อยู่แล้ว ตระกูลจะต้องสับสนวุ่นวายเป็นแน่

อีกทั้งตระกูลเซวยังให้ความช่วยเหลือตระกูลอื่นๆ เกรงว่าทั้งสามตระกูลอาจจะถูกตระกูลอื่นร่วมมือกันกดดัน

ด้วยวิธีนี้ ตระกูลเย่ ตระกูลอวี๋เหวิน และตระกูลหวงอาจถูกทำลายลงอย่างแท้จริง

ตระกูลเซวนี่เลือกใช้วิธีที่ดีจริงๆ!

ถึงอย่างนั้น หยางเฉินก็ยังไม่มีเจตนาจะล่าถอย และความโหดเหี้ยมในดวงตาของเขาก็ดุร้ายยิ่งขึ้นไปอีก

“แกแน่ใจนะว่าจะไม่พาคนกลับไป?”

ดวงตาของหยางเฉินเต็มไปด้วยความดุร้ายที่น่ากลัว

เมื่อถูกหยางเฉินจ้องมอง หลินซงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น แต่ความกังวลบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที เมื่อเขาคิดว่าเขาได้พาผู้แข็งแกร่งมาเกือบร้อยคน

“ไอ้บ้า!ไอ้โง่!แกไม่เข้าใจเหรอว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ แกถูกห้อมล้อมด้วยผู้แข็งแกร่งเกือบ 100 คนจากตระกูลหลินของฉัน แค่คำเดียวฉันก็ฆ่าแกได้!”

หลินซงแผดเสียงด้วยความโกรธ

หยางเฉินมองหลินซงด้วยสายตาเยือกเย็น “ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว งั้นฉันก็ขอประกาศว่า พวกแกถูกฉันล้อมไว้หมดแล้ว!”

“5555……”

หลินซงอึ้งอยู่ชั่วครู่แล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ เมื่อเขาหัวเราะ ผู้แข็งแกร่งกว่าร้อยที่ตระกูลหลินพามาต่างก็พากันหัวเราะ

ทางเข้าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมีแต่เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของผู้คน

“น่าขำจริงๆ ไอ้โง่นี้ กล้าพูดว่าเขาคนเดียวล้อมคนของพวกเราเกือบร้อยคน?โง่จริงๆ!”

หลินซงยิ้มกว้างพูดขึ้นและชี้ไปที่หยางเฉิน ด้วยท่าทางหยิ่งผยองมาก

“ไอ้สารเลว!พวกแกกล้าพูดแบบนี้กับคุณหยาง ยกโทษให้ไม่ได้!”

หานเซี่ยวเทียนโกรธจนตัวสั่น อดใจไม่ไหวแล้วที่จะเข้าไปฆ่าหลินซงในตอนนี้

ในสายตาของเขา หยางเฉินเป็นเทพแห่งชายแดนเหนือ ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกเช่นนี้

กวนเจิ้งซานก็โกรธจัด แต่รู้ตัวดีว่าตัวเองช่วยอะไรหยางเฉินไม่ได้ ทำได้เพียงจ้องมองด้วยความโกรธ

หลินซงชี้ไปที่หยางเฉินด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งและพูดว่า “ไอ้หยางเฉิน ฉันขอสั่งให้แกคุกเข่าและขอร้องฉันตอนนี้และยอมจำนนต่อฉัน บางทีฉันอาจจะใจดีไว้ชีวิตแกก็ได้!”

“แกเนี่ยนะ?”

หยางเฉินเย้ยหยัน

“ใช่อ่ะสิ ก็……”

“ปัง!”

หลินซงยังไม่ทันพูดจบ เขาก็พูดไม่ออก จู่ๆ ก็มีมือมาบีบที่คอของเขาแน่นในขณะนี้

“แกเนี่ยนะ คู่ควรให้ฉันยอมจำนน?”

เสียงของหยางเฉินดังขึ้นข้างหูของหลินซง หลินซงตกใจมากเกือบจะเสียสติ

สำหรับผู้แข็งแกร่งที่หลินซงพามาเกือบร้อยคนของตระกูลก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก

บางคนถึงกับขยี้ตาอย่างแรงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

หยางเฉินซึ่งยืนอยู่ห่างจากหลินซงมากกว่าสิบเมตร ในชั่วพริบตากลับปรากฏตัวต่อหน้าหลินซง และคว้าคอของหลินซงด้วยมือเดียว ยกร่างเขาขึ้น เท้าพ้นจากพื้น

“รีบปล่อยคุณชายซง!”

มีคนพอรู้สึกตัวจึงแผดเสียงใส่หยางเฉินด้วยความโกรธทันที

หยางเฉินกลับไม่มองพวกเขาแม้แต่น้อย เงยหน้ามองหลินซงที่ถูกเขาใช้มือข้างเดียวบีบคอยกขึ้น หรี่ตาพูดว่า “แค่เสือไม่แผลงฤทธิ์ ตระกูลหลินก็คิดว่าฉันเป็นแมวป่วยเหรอ?”

“ให้ฉันยอมจำนน?”

“จะไว้ชีวิตฉัน?”

“แกเนี่ยนะ?”

ทุกคำพูดของหยางเฉินเปรียบเสมือนดาบที่คมกริบ

หลิงซงนอกจากจะกลัวมากแล้ว เขายังอยากคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา แต่ว่าถูกหยางเฉินบีบกลั้นลมหายใจ แม้แต่จะพูดเขายังพูดไม่ได้ นับประสาอะไรกับคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา

หานเซี่ยวเทียนและกวนเจิ้งซานต่างก็ตกตะลึง หานเซี่ยวเทียนที่รู้ตัวตนของหยางเฉินดีก็ยังโอเค แต่ในความเข้าใจของกวนเจิ้งซานนั้นรู้เพียงว่าหยางเฉินเป็นคนแข็งแกร่งมาก แม้ว่าเขาจะสู้ได้ ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากขนาดนั้น

แต่ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ หยางเฉินสามารถปรากฏตัวต่อหน้าหลินซงจากระยะไกลกว่าสิบเมตรในชั่วพริบตา และยกหลินซงด้วยมือเดียว จะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร?