อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1039 ขลุ่ยหยก
เวินเส้าหยีเห็นขนมดอกไม้เหล่านั้น เปลวไฟในดวงตาก็ลุกโชนเพิ่มขึ้น

“แม้ว่าจะตายไปแล้ว เจ้าก็ต้องการเก็บขนมดอกไม้ที่เขามอบให้เจ้าไว้หรือ? เจ้ายิ่งอยากเก็บ ข้าก็ยิ่งอยากจะทำลาย”

ขนมดอกไม้ยั่วโทสะของเวินเส้าหยี

แรงสังหารของเวินเส้าหยีปะทุ เขาไม่ได้ออมมือเมตตาอีก กำลังภายในอันมหาศาลเปรียบได้กับทะเลโลหิต ปรารถนาที่จะทำลายแหวนมิติให้สิ้นซาก

อุณหภูมิสูงเกินไปแรงสังหารก็คุกรุ่นเกินไป

ม่านตาของกู้ชูหน่วนหดลง

แรงสังหารแข็งแกร่งมาก

กระบวนท่าที่น่าเกรงขามเช่นนี้ หากว่าตกอยู่บนตัวของนาง เกรงว่าแม้แต่เศษกระดูกของนางก็คงจะไม่เหลือ

กู้ชูหน่วนพยายามสุดชีวิตคิดจะขัดขืน แต่ทำอะไรไม่ได้อยู่ภายใต้แรงกดดันของยอดฝีมือระดับหก นางไม่มีโอกาสได้ตอบโต้โดยสิ้นเชิง ทำได้เพียงมองดูกระบวนท่าของเวินเส้าหยีตกลงมาโดยทำอะไรไม่ได้

ระหว่างที่ใกล้จะตาย ที่นางกลัวยิ่งกว่าก็คือแหวนมิติจะถูกเวินเส้าหยีทำลาย

ในห้วงเวลาวิกฤติ แหวนเล็กๆวงหนึ่งกลับเปล่งแสงที่มีแรงสังหารอันแข็งแกร่งออกมา พร้อมกับเสียงขลุ่ยอันเงียบสงบเสียงหนึ่ง ทำนองของเสียงขลุ่ยกระแทกเข้ากับพลังฝ่ามือของเวินเส้าหยี เกิดเป็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ห้องลับเกิดการสั่นคลอนสองสามครั้ง ลักษณะเหมือนกับว่าจะพังทลายลงเช่นนั้น

แหวนปล่อยพลังอานุภาพอันน่าอัศจรรย์อย่างฉับพลัน นี่ไม่ว่าผู้ใดก็คิดไม่ถึง

แม้แต่เวินเส้าหยีก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

หลังจากเกิดการปะทะ เวินเส้าหยีก็ถูกสะเทือนจนถอยไปก้าวหนึ่ง เขาที่ได้ภายในรับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วรับการโจมตีนี้ไม่ไหว กระอักเลือดออกมาจากมุมปาก มือสองข้างก็สั่นเทาสองสามครั้ง

เขาเพ่งมองขลุ่ยที่ลอยออกมาจากแหวนมิติติดๆ รวมทั้งรัศมีแสงป้องกันที่ขลุ่ยได้จัดวางออกมา

“ขลุ่ยอันนี้…..เป็นของอี้เฉินเฟย……ระดับเจ็ด……….เป็นนาง……..นางควบคุมกักเก็บไว้ในแหวนมิติ”

“เจ้าไม่เพียงแค่ผนึกขนมดอกไม้เอาไว้ เจ้ายังผนึกขลุ่ยเอาไว้อีก ใช้ประโยชน์จากพวกเขาและแหวนให้ช่วยกันปกป้องไว้…..หึ…..”