เยี่ยนจ้าวเกออยู่ในเทวรูป มองสบตากับยอดฝีมือระดับสูงของภูเขาหิมะไพศาล
หลังจากเพ่งตามองไป เขาพบว่าคนที่อยู่รอบๆ มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สี่คน มหาปรมาจารย์สิบกว่าคน
ในกลุ่มจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สี่คน มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้ายหนึ่งคน จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง ขั้นรวมรูประยะกลางหนึ่งคน จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ขั้นรวมรูประยะต้นสองคน
เมื่อนับไป๋จื่อหมิงซึ่งเพิ่งจะลอยขึ้นไปยังโลกซ้อนโลกได้ไม่นาน ก่อนหน้านี้ภูเขาหิมะไพศาลมียอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อยห้าคนคอยคุ้มครอง
ไป๋จื่อหมิงเคยบอกว่า ภูเขาหิมะไพศาลของตนไม่ใช่ขุมกำลังที่เข้มแข็งที่สุดในโลกยมทะยาน
และเขาไม่ใช่คนที่เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่แล้วลอยขึ้นมาเป็นคนแรกของโลกยมทะยาน
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเงียบๆ ‘ที่นี่เป็นโลกที่มีการพัฒนาอารยธรรมวรยุทธ์ รุ่งเรืองกว่าโลกแปดพิภพในตอนนี้อย่างที่คิดไว้’
กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอยังไม่มีเวลาไปพิจารณาเรื่องเหล่านี้ในตอนนี้
ปัจจุบันตัวเขาอยู่ในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่เกิดความผิดปกติ เผชิญอันตรายรอบด้าน ยังมีพวกคังฮูหยินกับถานจิ่นคอยจับจ้องตาเป็นมัน
หากน้ำวนสีเลือดหายไป บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์กลับคืนสู่สภาพเดิม พวกคังฮูหยินกับถานจิ่งอาจจะลงมือทันที
นอกจากนี้ พวกถานจิ่นซึ่งเป็นจอมยุทธ์สำนักแสงสว่าง ยังมาเพื่อรับหลัวจื้อเทาเจ้าสำนักแสงสว่างกลับโลกซ้อนโลก ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายผู้นี้ถ้าหากกลับมาได้ สภาพการณ์ของเยี่ยนจ้าวเกอจะอันตรายกว่าเดิม
อุตส่าห์ได้มาถึงโลกยมทะยานแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอจำเป็นต้องใคร่ครวญว่าจะติดต่อกับหยวนเจิ้งเฟิง ผู้เป็นอาจารย์ปู่ของตนอย่างไร
สถานการณ์เบื้องหน้านี้ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้อยู่บ้าง
คนของภูเขาหิมะไพศาลมือเท้ากลับเร็วนัก ไป๋จื่อหมิงเพิ่งลอยขึ้นไปได้ไม่นาน ทางพวกเขาก็สร้างศาลคนเป็นขึ้นมาแล้ว
ตนอาศัยหยกแขวนที่ไป๋จื่อหมิงมอบให้ จิตสายหนึ่งฝากไว้กับหมอกควันสีเขียวมรกตมายังสถานที่แห่งนี้ ในลักษณะคล้ายๆ กับการเข้าฝัน
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่า ศาลคนเป็นที่ภูเขาหิมะไพศาลใช้บูชาไป๋จื่อหมิง ความจริงมีประโยชน์เช่นนี้เอง เพื่อให้บรรพบุรุษที่ลอยขึ้นไปของตนยังคงติดต่อกับลูกศิษย์บนโลกยมทะยาน สำหรับชี้แนะสั่งสอนได้ง่ายๆ
ไป๋จื่อหมิงก่อนหน้านี้ไม่ได้กำหนดตำแหน่งของโลกยมทะยานอย่างแม่นยำ ดังนั้นความสามารถนี้จึงไม่อาจใช้ได้ตรงจุดนัก
การจุติที่สำเร็จเป็นครั้งแรกในตอนนี้ คนที่จุติลงมากลับเป็นตนเอง ไม่ใช่ไป๋จื่อหมิง
ขณะมองคนในภูเขาหิมะไพศาลที่มีสีหน้าคาดหวังยินดี ตัวปลอมเช่นเยี่ยนจ้าวเกอยามนี้มีความรู้สึกกดดันมหาศาล
เดิมทีเขาคิดจะพึ่งพาการนำทางของหยกแขวน ช่วยให้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของตัวเองลงไปยังโลกยมทะยานโดยตรง กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอขบคิด หรือว่าตนจะต้องสวมรอยอีกแล้ว?
‘น่าจะไม่ง่ายขนาดนั้นกระมัง? ไม่อย่างนั้นไป๋จื่อหมิงคงไม่มอบหยกแขวนให้ข้าง่ายๆ เช่นนี้ หรือจะไม่กลัวว่าข้าจะหลอกลวงคนในสำนักที่อยู่บนโลกยมทะยานของเขา?’
ชายหนุ่มคิดในใจ เห็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ซึ่งเป็นผู้นำของจอมยุทธ์ภูเขาหิมะไพศาลที่อยู่เบื้องหน้า ความยินดีบนใบหน้าสลายไป สายตาเปลี่ยนเป็นสงสัยและระแวดระวัง
เมื่อเห็นดังนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบว่าการคาดเดาของตนไม่ผิด คิดจะเป็นร่างทรงต้มตุ๋นยังไม่ง่ายขนาดนั้น
ชายชราที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้ายสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง “ขอถามว่าท่านเป็นผู้ใด ไฉนจึงมีหยกแขวนวิญญาณจุติของศิษย์พี่ไป๋?”
จอมยุทธ์ในภูเขาหิมะไพศาลยังไม่ทันสังเกต หมอบกราบกรานเทวรูปของไป๋จื่อหมิงอย่างยินดีต่อ
ผู้อาวุโสระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ของภูเขาหิมะไพศาลทั้งสี่คนนั้นไม่ได้ห้ามปรามคนในสำนัก พวกเขาไม่ทราบถึงเบื้องหลังของเยี่ยนจ้าวเกอ และไม่รู้สถานการณ์ของไป๋จื่อหมิง จึงต้องระวังตัวไว้ก่อน ไม่กล้ารบกวนหรือสะกิดความโกรธชายหนุ่ม
เยี่ยนจ้าวเกอตอบตามตรง “ข้าแซ่เยี่ยน ชื่อเยี่ยนจ้าวเกอ ตอนนี้อยู่บนโลกซ้อนโลก โชคดีที่ได้รู้จักกับท่านผู้อาวุโสไป๋”
“ต่อมาได้ทราบจากท่านผู้อาวุโสไป๋ว่า มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งของข้าที่ตอนนี้อยู่ในโลกยมทะยาน ดังนั้นจึงตั้งใจตามหา ข้าได้รับความช่วยเหลือจากท่านผู้อาวุโสไป๋ ยืมหยกแขวนวิญญาณจุติชิ้นนี้มา และได้เชื่อมต่อกับทุกท่าน ก่อนหน้านี้ไม่เข้าใจสถานการณ์ ขออภัยที่วู่วาม”
คนสี่คนนั้นมองหน้ากันเอง ครุ่นคิดครู่หนึ่ง คนที่เป็นผู้นำโบกมือให้คนอื่น บอกให้พวกเขาออกไปก่อน
ทุกคนต่างงงงัน แต่ก็เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าสำนัก ต่างผละไปอย่างพร้อมเพรียง ด้านในตัววังเหลือเพียงยอดฝีมือซึ่งเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ของภูเขาหิมะไพศาลสี่คน
คนที่เป็นผู้นำเอ่ย “คุณชายเยี่ยนเกรงใจไปแล้ว ศิษย์พี่ไป๋ยอมมอบหยกแขวนวิญญาณจุติให้ท่านยืม คุณชายเยี่ยนก็คือสหายของภูเขาหิมะไพศาลของพวกเรา กลับไม่ทราบว่าผู้อาวุโสของท่านมีชื่อแซ่ว่าอะไร?”
ไป๋จื่อหมิงยังไม่อาจเชื่อมต่อหยกแขวนวิญญาณจุติกับโลกยมทะยานได้โดยสมบูรณ์
มิฉะนั้นเขาคงจะลองติดต่อกับคนในสำนักของตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว
เหตุที่ให้เยี่ยนจ้าวเกอยืม ประการแรกเพื่อผูกมิตรกับชายหนุ่ม สร้างบุญคุณขึ้น อีกประการก็ใช่ว่าจะไม่ได้คิดอาศัยพลังของเขาทำให้พิธีกรรมสำเร็จ
ถึงอย่างไร เยี่ยนจ้าวเกอก็มักจะมีการกระทำที่น่าตกใจเสมอ โดยเฉพาะในด้านความรู้แต่ละอย่าง ด้านค่ายกลยิ่งทำให้ผู้คนต้องร้องอุทาน
และตอนนี้ความจริงก็ได้พิสูจน์แล้ว ว่าไป๋จื่อหมิงคาดเดาถูกต้อง
ในเรื่องนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกับผู้อาวุโสทั้งสี่ของภูเขาหิมะไพศาลต่างรู้อยู่แก่ใจดี ไม่จำเป็นต้องยกขึ้นมาพูดถึงอีก
เยี่ยนจ้าวเกอว่า “อาจารย์ปู่ของข้าแซ่หยวน ชื่อกลางเจิ้ง ชื่อท้ายเฟิง”
อีกฝ่ายครั้นได้ยินชื่อของหยวนเจิ้งเฟิง ก็พลันงงงันขึ้นมา ต่างมองหน้ากันและกัน
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายไม่ถูกต้องนัก กล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสไป๋เล่าว่าเคยเจอกับอาจารย์ปู่ของข้ามาก่อน ก่อนหน้านี้ในตอนที่ลอยไปยังโลกซ้อนโลก อาจารย์ปู่ของข้าก็เคยมาร่วมพิธีที่ตำหนักน้ำแข็งบนภูเขาหิมะไพศาลด้วย”
บนใบหน้าของยอดฝีมือทั้งสี่ของภูเขาหิมะไพศาลปรากฏรอยยิ้มขื่นขม
คนหนึ่งในกลุ่มถอนใจเล่าว่า “ขอไม่ปิดบัง พวกเราต่างรู้จักท่านหยวน อาจารย์ของท่าน ถึงแม้ว่าจะพบหน้ากันไม่กี่ครั้ง แต่ก็จำได้ดี กระนั้น…”
เขาส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “ก่อนที่ศิษย์พี่ไป๋จะลอยขึ้นไปเคยบอกไว้ว่า ท่านหยวนอาจจะได้เลื่อนสู่ขั้นเทวะสำแดงในอีกไม่นาน แต่คุณชายเยี่ยนท่านเกรงว่าจะไม่อาจเห็นเขาลอยขึ้นไปบนโลกซ้อนโลกได้ชั่วคราว”
เยี่ยนจ้าวเกอถาม “ไฉนจึงเป็นเช่นนั้น?”
อีกฝ่ายตอบว่า “ปราชญ์เทียมฟ้า อาจารย์ปู่ของท่านเดิมทีเป็นแขกของหอพัดคลื่นบนโลกยมทะยานของเรา ก่อนหน้านี้หอพัดคลื่นถูกสำนักตะวันซ้อนทำลายอย่างหนัก อาจารย์ปู่ของท่านแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกศิษย์ของหอพัดคลื่น แต่สำนักตะวันซ้อนก็ให้ความสำคัญยิ่ง ใช้หลุมพรางขังเขาไว้ในตาน้ำทะเลของทะเลตะวันตก”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็ตกใจ
เขาเคยได้ยินไป๋จื่อหมิงพูดถึงสำนักตะวันซ้อน นับเป็นขุมกำลังอันดับหนึ่ง และสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกยมทะยานในหลายปีมานี้
ยอดฝีมือที่ลอยไปยังโลกซ้อนโลกของสำนักนี้มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งคน ว่ากันว่าถึงขั้นที่สร้างสำนักไว้บนโลกซ้อนโลก เพียงแต่ยังไม่ได้หยั่งรากที่ทะเลหวงเจียเท่านั้น
ผู้อาวุโสภูเขาหิมะไพศาลคนนั้นเล่าต่อว่า “ท่านหยวนมีพลังน่าตกใจ แม้แต่เจ้าสำนักตะวันซ้อนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา สำนักตะวันซ้อนครั้งนี้ฉวยโอกาสตอนเขารับมือไม่ทัน ใช้หลุมพรางขังเขาไว้ในตาน้ำทะเล จากนั้นก็โจมตีอย่างฉับพลัน ถึงทำลายล้างสำนักพัดคลื่นได้สำเร็จ”
เยี่ยนจ้าวเกอถามเสียงทุ้ม “อาจารย์ปู่ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ผู้อาวุโสของภูเขาหิมะไพศาลว่า “หลังจากสำนักตะวันซ้อนทำลายหอพัดคลื่นแล้ว ก็รวบรวมยอดฝีมือมากมายไปที่ทะเลตะวันตก แต่กลับไม่อาจทำอะไรอาจารย์ปู่ของท่านได้ ได้แต่อาศัยชัยภูมิของตาน้ำทะเลวางค่ายกลขังเขาไว้ ทั้งสองฝ่ายตอนนี้ติดอยู่ในสภาวะยื้อยัน สำนักตะวันซ้อนน่าจะวางแผนค่อยๆ เคี่ยวกรำพลังของเขา”
………………..