เอียนชิงเฉิงอธิบายไปว่า “คุณตาคะ อาจารย์ของหนูทำอะไรก็มีหลักการของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะคนพวกนั้นเอาแต่บีบบังคับอาจารย์ของหนูก็ไม่มีทางทำการสังหารครั้งใหญ่ แถมอาจารย์ก็พร้อมสอนหนูทุกอย่าง ความสามารถทั้งหมดของหนูก็เขานี่แลกเป็นคนมอบให้ ดังนั้นหนูไม่มีทางไปกับคุณตาเด็ดขาดค่ะ”
หานหนานเทียนสีหน้าเคร่งขรึม โมโหสุดขีด “งั้นแสดงว่าแกปฏิเสธสินะ?”
เอียนชิงเฉิงพยักหน้าด้วยสีหน้าที่หนักแน่น “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้คุณตาต้องผิดหวัง!”
หานหนานเทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “แล้วถ้าวันนี้ฉันจะเอาแกกลับไปให้ได้ล่ะ?”
เอียนชิงเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ถึงหานหนานเทียนจะเป็นตาของเธอ แต่ยังไงตอนนี้ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีความผูกพันอะไรกัน
“ถ้าคุณตายืนยันแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าหนูเสียมารยาทเลยนะคะ” พูดจบ เอียนชิงเฉิงก็ตั้งท่าพร้อมต่อสู้ พร้อมจ้องเขม็งไปที่หานหนานเทียน
“เหลวไหลสิ้นดี!” หานหนานเทียนเดือดดาล ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น
พอเห็นทั้งสองผิดใจกัน เอียนอานฉงจึงรีบลุกขึ้น แล้วเกลี้ยกล่อมไปว่า “พี่หานใจเย็นๆ ก่อน ชิงเฉิง รีบขอโทษคุณตาเร็ว!”
หานหนานเทียนโมโหสุดขีด ถลึงตา นั่งหายในอย่างหนักหน่วงอยู่บนเก้าอี้ พร้อมจ้องมองมาที่เอียนชิงเฉิง
เอียนชิงเฉิงทำหน้าเฉยชา ไม่มีทีท่าของความสำนึกผิดเลยสักนิด
เอียนอานฉงรู้สึกปวดหัว สายตามองสลับไปมาระหว่างหานหนานเทียนกับเอียนชิงเฉิง คิดอยู่ว่าจะเกลี้ยกล่อมทั้งคู่ยังไงดี
“นี่ชิงเฉิง คุณตาของแกก็ทำเพื่อแก ไม่ว่ายังไงแกก็ไม่ควรทำให้เขาโกรธนะ!” เอียนอานฉงมีเพียงต้องพูดกับเอียนชิงเฉิงก่อนเพราะยังไงเธอก็เป็นฝ่ายที่เด็กกว่า
เอียนชิงเฉิงไม่ใช่เด็กสาวที่เอาแต่เก็บซ่อนความทุกข์ไว้ในใจอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอคือผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่ฆ่านักบู๊ที่มามากมายแล้ว
“ชีวิตของหนูมันอยู่ในมือหนู ใครก็มันตัดสินใจแทนหนูไม่ได้ ความหวังดูของคุณตาหนูรับรู้ได้ แต่หนูไม่สามารถทำตามได้ค่ะ!”
เอียนชิงเฉิงจ้องมองหานหนานเทียนด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ จากนั้นก็โค้งคำนับแล้วพูดไปว่า “ขอตัวค่ะ!”
“หยุดนะ!” หานหนานเทียนตบโต๊ะ และยืนขึ้นอีกครั้ง
เอียนอานฉงทำห้าอับจน ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว
เอียนชิงเฉิงหยุดเดิน หันมองไปที่หานหนานเทียน แล้วพูดด้วยท่าทางที่เรียบเฉยว่า “คุณตาคะยังมีธุระอะไรอีกคะ?”
หานหนานเทียนพูดด้วยความโมโหว่า “วันนี้แกต้องไปกับฉัน!”
“ขอโทษด้วยค่ะ หนูยังยืนยันคำเดิม ไม่สามารถทำตามได้!” พูดจบ เอียนชิงเฉิงหมุนตัวแล้วเดินไปทางประตู
หานหนานเทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “แกคิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง จนแม้แต่ตาของตัวเองก็ไม่เห็นหัวแล้วเรอะ? เยี่ยม วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกเอง ทำให้แกรู้ว่าเหมือนคนยังมีคนเหนือฟ้ายังมีฟ้า!”
พูดจบ หานหนานเทียนก็คว้ามือไปที่เอียนชิงเฉิง
เอียนชิงเฉิงได้เตรียมที่จะฉีกหน้ากันแล้ว จึงเข้าทำการต่อสู้กับหานหนานเทียนทันที การต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งแดนครองฟ้าสองคน ห้องรับรองของตระกูลเอียนไม่สามารถรับไหวหลังผ่านไปหนึ่งกระบวนท่า โต๊ะเก้าอี้ทั้งหมดภายในห้องรับรองก็แตกละเอียดทันที
“ไปข้างนอก!” เอียนชิงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม ส่วนเธอก็เป็นเหมือนผีเสื้อที่น่าหลงใหลโบยบินออกไปด้านนอก
“ได้!” หานหนานเทียนคำรามออกมา แล้วตามออกไปติดๆ
ทั้งสองเปิดศึกกันที่ลานบ้าน คนมากมายของตระกูลเอียนพากันทำหน้าอึ้ง พร้อมตะโกนออกมาว่าเทพ!
ถึงในใจของทั้งสองจะไม่มีใครยอมใคร แต่ยังไงก็เป็นญาติกัน จึงไม่ได้เอาจริงกันทั้งคู่
แต่ถึงอย่างนั้น การต่อสู้ระดับนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีได้แล้ว
ทั้งสองสู้กันตั้งแต่บนพื้นไปจนถึงบนฟ้า แล้วสู้จากบนฟ้าลงมาที่พื้นดิน
สู้กันจนยากจะตัดสินแพ้ชนะได้
แต่ว่า สุดท้ายก็เป็นเอียนชิงเฉิงที่อายุน้อยกว่าฝีมือยังเทียบหานหนานเทียนไม่ได้ จนเป็นรอง
หานหนานเทียนสีหน้าบึ้งตึง มองไปยังเอียนชิงเฉิงที่นอนอยู่บนพื้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ไปกับฉัน!”
เอียนชิงเฉิงนิ่งเงียบ หานหนานเทียนเห็นอย่างนั้น จนทำการผนึกพลังของเอียนชิงเฉิงไว้ แล้วพาตัวเธอไป