ภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ภัยพิบัติยังดําเนินต่อไปสถานการณ์ค่อยๆเลวร้ายลง
การสูญเสียของฟางหยวนรุนแรงมากผู้อมตะเผ่ามนุษย์และเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิได้รับภารกิจให้ดูแลแหล่งทรพัยกรต่างๆพวกเขายังได้รับวิญญาณเพื่อใช้ในการก่าจัดเจตจํานงสวรรค์
หลังจากร่างแยกกาลเวลาและร่างหลักของฟางหยวนร่วมมือกันกําจัดเจตจํานงสวรรค์เขาสามารถรักษาแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามตราบเท่าที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ยังไม่ถูกปรับแต่งโดยฟางหยวนมันก็ยังจะสร้างเจตจํานงสวรรค์ออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แม้ฟางหยวนจะพยายามอย่างเต็มกําลัง แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดสถานการณ์ที่เลวร้ายลง
เขาทําได้เพียงปกป้องแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่เอาไว้เท่านั้น
ฟางหยวนรู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาสําคัญ
เพื่อป้องกันไม่ให้เจตจํานงสวรรค์ภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิติดต่อกับโลกภายนอกเขาต้องสร้างพื้นที่ลับซึ่งแยกตัวออกจากโลกภายนอกในทะเลปราณ
สําหรับสถานการณ์ภายนอก การฟื้นคืนชีพของปีศาจอมตะฉีเจียอยู่นอกเหนือความคาดหมายของฟางหยวนปีศาจอมตะฉีเจียกล่าวว่เขาจะมาพบบรรพชนทะเลปราณเขาไม่ได้ล้อเล่น
ปัจจุบันฟางหยวนก่าลังเผชิญหน้ากับปัญหาภายในและภายนอก
“มันขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของค่ายกลวิญญาณอมตะนี้”
ฟางหยวนสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎขึ้นในสวรรค์สีน้ำเงินน้อย
มันเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะที่อ้างอิงมาจากค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค
เขาได้รับแรงบันดาลใจและตัดสินใจเลียนแบบกระแสลมปราณเพื่อต่อต้านเจตจานงสวรรค์ที่ซ่อนตัวอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ด้วยความต้องการของฟางหยวน ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกกระตุ้นใช้งานและปลดปล่อยพลังอานาจออกไปครอบคลุมพื้นที่รัศมีสิบลี้เอาไว้ทันที
“ฟื้ว ฟื้ว ฟื้ว ฟื้ว…”
เสียงลมดังขึ้น กระแสลมปราณขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในค่ายกลวิญญาณอมตะท้องฟ้าราวกับปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกสีขาวและปิดบังวิสัยทัศน์เอาไว้
กระแสลมปราณเคลื่อนที่ไปรอบๆราวกับมันกําลังทําความสะอาดพื้นที่ทั้งหมด
ในแง่ของความแข็งแกร่ง กระแสลมปราณที่ฟางหยวนสร้างขึ้นไม่สามารถเปรียบเทียบกับของจริงแต่พลังอานาจของมันยังสามารถคร่าชีวิตผู้ใช้วิญญาณได้อย่างง่ายดาย
นี่เป็นสาเหตุที่ฟางหยวนจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ในสวรรค์สีน้ำเงินน้อยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการสังหารหมู่
หลังจากหนึ่งชั่วโมง กระแสลมปราณก็เคลื่อนที่ไปถึงขอบสวรรค์สีน้ำเงินน้อย
ฟางหยวนตรวจสอบผลลัพธ์ เขาพบว่าเจตจํานงสวรรค์ที่เขาจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษถูกลบออกไปจดหมดโดยไม่เหลือร่องรอยใดๆทิ้งไว้เบื้องหลังนอกจากนี้ปราณสวรรค์และปราณพิภพยังหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์และสงบมาก
ฟางหยวนถอนหายใจนี่เป็นข่าวดี
ด้วยค่ายกลนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถจัดการเจตจํานงสวรรค์
สิ่งนี้สําคัญมากสําหรับเขา
หากเขาไม่สามารถกําจัดเจตจํานงสวรรค์ เขาจะถูกขังอยู่ในทะเลปราณ
นี่ทําให้แรงกดดันของฟางหยวนลดลงในระดับหนึ่ง
เมื่อเขามองกระแสลมปราณอีกครั้งเขารู้สึกเข้าใจมันมากขึ้น
“กระแสลมปราณเกิดจากความแตกต่างของปราณสวรรค์และปราณพิภพมันเหมือนน้ำที่ไหลลงจากหน้าผาและกลายเป็นน้ำตก ปราณสวรรค์และปราณพิภพที่แตกต่างกันของห้าภูมิภาคกระตุ้นให้เกิดกระแสลมปราณเหล่านั้น”
“ในอนาคตเมื่อปราณสวรรค์และปราณพิภพของห้าภูมิภาคหลอมรวมเป็นหนึ่งอย่างสมบูรณ์กระแสลมปราณจะหายไป”
“สําหรับกําแพงภูมิภาค แท้จริงแล้วมันก็คือกระแสลมปราณ”
ปราณสวรรค์และปราณพิภพของห้าภูมิภาคแตกต่างกัน ดังนั้นจุดเชื่อมต่อของภูมิภาคเหล่านี้จึงเกิดความขัดแย้งระหว่างปราณสวรรค์พิภพและก่อตัวเป็นกําแพงภูมิภาค
ผู้อมตะจะได้รับผลกระทบย้อนกลับหากพวกเขาใช้ท่าไม้ตายในกําแพงภูมิภาคมันคล้ายกับการอยู่ในกระแสลมปราณ
หลังจากทั้งหมดว่าแพงภูมิภาคที่เต่จค้นคว้ามาตลอดชีวิตก็เป็นเพียงกระแสลมปราณเท่านั้น
อย่างไรก็ตามงานวิจัยของเต๋จมุ่งเน้นไปที่เส้นทางแห่งกฎ ผลลัพธ์ก็คือเขาสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคและท่าไม้ตายอมตะปราณแสงห้าภูมิภาคมันเป็นส่วนผสมระหว่างเส้นทางแห่งกฎและเส้นทางแห่งพลังปราณ
ฟางหยวนมีมรดกที่แท้จริงของเต่จู เขามีมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิดครึ่งหนึ่งพร้อมกับรากฐานของฉีเซียงและความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณนี่ทําให้เขาเข้าใจกระแสลมปราณได้ดีขึ้น
“ต่อไปข้าต้องพัฒนาค่ายกลวิญญาณนี้และกระจายค่ายกลย่อยไปทั่วมิติช่องว่างจักรพรรดิข้าจะใช้กระแสลมปราณก่าจัดเจตจํานงสวรรค์ทั้งหมด!”
“ปัญหาเกี่ยวกับเจตจํานงสวรรค์ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่การปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสวรรค์ยังเป็นปัญหาใหญ่”
อย่างไรก็ตามฟางหยวนต้องทิ้งปัญหานี้ไว้ก่อนเพราะเขาต้องเตรียมตัวรับมือปีศาจอมตะฉีเจียที่กําลังเดินทางมาหาเขา
ตัวตนของบรรพชนทะเลปราณมีค่ามาก ระหว่างสงครามชะตากรรม ฟางหยวนพยายามปกปิดมันเอาไว้อย่างดีที่สุดเขาไม่ได้เปิดเผยเบาะแสใดๆว่าทั้งสองเป็นคนๆเดียวกัน
เพื่อรักษาอัตลักษณ์ของบรรพชนทะเลปราณ ฟางหยวนต้องจัดการปีศาจอมตะเจีย
ด้านหนึ่ง ฟางหยวนใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อจัดการภัยคุกคามภายในของเขาอีกด้านหนึ่ง เขากาลังรอการมาถึงของปีศาจอมตะฉีเจีย
ตามการอนุมานของฟางหยวน ปีศาจอมตะฉีเจียจะเดินทางมายังทะเลปราณในช่วงเวลานี้
หลังจากรอคอยมาหลายวัน ในที่สุดการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นเหนือทะเลปราณ
คลื่นพลังปราณที่ทรงพลังปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า แรงกดดันมหาศาลกดทับลงบนทะเลปราณอย่างกะทันหัน
ปีศาจอมตะฉีเจียลอยอยู่ท่ามกลางคลื่นพลังปราณและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้นเสียงของเด็กชายก็ดังขึ้น “เด็กน้อยทะเลปราณ ข้า ปีศาจอมตะฉีเจียอยู่ที่นี่แล้ว”
“ฉีเจีย เจ้ามีธุระใด?” บรรพชนทะเลปราณปรากฏตัวขึ้น เขายืนอยู่บนผิวทะเลและเงยหน้ากล่าว
ปีศาจอมตะฉีเจียหัวเราะ “ข้าพึ่งฟื้นคืนชีพ ตอนนี้ข้าไม่มีวิญญาณอมตะข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมบนเส้นทางแห่งพลังปราณข้ามาที่นี่เพื่อขอยืมวิญญาณบางส่วนของเจ้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ยืมวิญญาณงั้นหรือ?” บรรพชนทะเลปราณหัวเราะเสียงดังเขาสัมผัสได้ถึงความเย่อหยิ่งในคํากล่าวของปีศาจอมตะฉีเจีย “วิญญาณอมตะอยู่กับข้าเจ้าจะได้รับมันหรือไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า”
ปีศาจอมตะฉีเจียหัวเราะและแสดงเจตนาที่ต้องการต่อสู้ออกมาทันที “ดีเด็กน้อยข้าชอบบุคลิกของเจ้ารับกระบวนท่าของข้า”
ท่าไม้ตายอมตะมือปราณใหญ่!
มือปราณสีขาวบินออกไปราวกับภูเขาลูกเล็กๆกดทับบรรพชนทะเลปราณ
นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ทําให้มังกรปีศาจตี้จางเฉิงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมันสามารถแทรกซึมเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณอมตะและไม่สามารถรับมือได้โดยง่าย
บรรพชนทะเลปราณสูดหายใจลึก เขาไม่แสดงให้เห็นถึงความกังวลเขาเพียงผลักฝ่ามือออกไปเท่านั้น
“ปัง!”
กําแพงปราณยาวหลายร้อยล้ําพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มันทั้งยิ่งใหญ่และงดงาม
กาแพงปราณปะทะมือปราณขณะที่ฝ่ายหลังถูกบังคับให้ล่าถอยและไม่สามารถหยุดการลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าของกําแพงปราณ
ปีศาจอมตะฉีเจียเผยรอยยิ้มบาง เขาชี้นิ้วออกไป มือปราณแตกสลายและกระจัดกระจายไปอย่างไรก็ตามมันยังพยายามแทรกซึมเข้าสู่กาแพงปราณ
แต่มันล้มเหลว
ปีศาจอมตะฉีเจียไม่สามารถเจาะทะลวงท่าแพงปราณของบรรพชนทะเลปราณ
การแสดงออกของปีศาจอมตะฉีเจียเปลี่ยนไปทันที “นี่เป็นกําแพงปราณที่ทรงพลังมันมีชื่อหรือไม่?”
บรรพชนทะเลปราณตอบอย่างตรงไปตรงมา “ข้าสร้างท่าไม้ตายนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะข้ายังไม่ได้ตั้งชื่อให้มันเจ้ามีความคิดดีๆหรือไม่?”
ดวงตาของปีศาจอมตะฉีเจียส่องประกายแหลมคม
ความจริงที่ว่าบรรพชนทะเลปราณพึ่งสร้างท่าไม้ตายอมตะที่น่ากลัวขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้มันหมายความว่าบรรพชนทะเลปราณมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณสูงมากเขาสามารถดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่เฉพาะเจาะ จงเพื่อรับมือศัตรูของเขา
ปีศาจอมตะฉีเจียไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ฟางหยวนมุ่งเน้นไปที่การดัดแปลงค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค ท่าไม้ตายอมตะก่าแพงปราณนี้เป็นเพียงความพยายามเล็กๆน้อยๆของเขาเท่านั้น
แม้ฟางหยวนจะสูญเสียวิญญาณสติปัญญา แต่เขายังมีวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญามากมายที่สามารถให้ความช่วยเหลือ
ขณะที่กําแพงปราณลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า พลังปราณสีขาวที่ปกคลุมอยู่เหนือทะเลปราณก็ถูกผลักดันกลับไปเช่นกัน
เมื่อก่าแพงปราณเข้าใกล้ปีศาจอมตะฉีเจีย มันเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นมือสองข้างหนึ่งสีดําหนึ่งสีขาว จากนั้นมันก็ปรบมือจากด้านซ้ายและขวา
ปีศาจอมตะฉีเจียไม่หลบ เขาปล่อยให้มือปราณสีดําและขาวพุ่งเข้าไปหา
ในเวลาต่อมาเขาก็ตะโกนเสียงดัง “ซี่!”
มือปราณทั้งสองถูกดูดเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ!
คราวนี้เป็นบรรพชนทะเลปราณที่ตกใจ เขาสัมผัสได้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของปีศาจอมตะฉีเจียสมบูรณ์กว่าครั้งก่อน
ปีศาจอมตะฉีเจียตระหนักว่าวิธีทั่วไปไม่สามารถจัดการบรรพชนทะเลปราณดังนั้นเขาจึงใช้ไพ่ตายของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ แดนซี่!
บรรพชนทะเลปราณพยายามใช้วิธีการต่างๆ แต่พลังปราณทุกชนิดถูกแดนดูดกลืนเข้าไปทั้งหมด
ด้วยแดนที่อยู่เหนือศีรษะ ปีศาจอมตะฉีเจียกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ
เขาเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณของบรรพชนทะเลปราณ
“มือปราณดาขาวเป็นแนวคิดที่ดี มันเป็นการรวมกันของหยินและหยางเจ้าสามารถใช้แรงดึงดูดของทั้งสองเพื่อเพิ่มพลังอํานาจของท่าไม้ตายนี้”
“การป้องกันของเจ้าก็น่าประทับใจเช่นกัน ด้ายทุกเส้นบนเสื้อคลุมของเจ้าถูกสร้างขึ้นจากพลังปราณเจ้ากาลังเลียนแบบกําแพงปราณใช่หรือไม่?”
“หากเป็นก่อนหน้า เจ้าอาจเป็นภัยคุกคามของข้า แต่น่าเสียดาย เมื่อเร็วๆนี้ข้าพบทะเลไหลเชียวและสามารถซ่อมแซมแดนซ์ให้สมบูรณ์ด้วยวิธีนี้ข้าจะสามารถตอบโต้วิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณทั้งหมดบนโลกใบนี้เด็กน้อยทะเลปราณเจ้าก็ไม่ใช่ข้อ ยกเว้น!”
“ตอนนี้เจ้าจะให้ข้ายืมวิญญาณอมตะของเจ้าได้หรือยัง?”
เหตุผลที่ปีศาจอมตะฉีเจียได้รับชื่อเสียงเพราะการคงอยู่ของแดน
ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณทั้งหมดจะถูกดูดซับโดยแดนซีหลังจากแดนซี่กลับมาสมบูรณ์แบบ พลังอานาจของมันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ
หากมองอีกแง่มุมหนึ่ง ปีศาจอมตะฉีเจียสามารถจัดการบรรพชนทะเลปราณได้ง่ายกว่าอู่ส่วยที่ควบคุมวังมังกร