เล่มที่ 32 เล่มที่ 32 ตอนที่ 945 พระจันทร์ที่บ้านเกิดข้าก็สวยงามมากเช่นกัน

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

“เจ้า… เจ้าอย่าเข้ามา… ” เป่ยถังหลีขบฟันแน่น แทบจะกัดลิ้นตนเองขาดอยู่รอมร่อ

ไม่คิดว่าเป่ยถังเฮ่อจะหยุดและไม่เคลื่อนเข้าใกล้แก้มของเป่ยถังหลีอีก

เป่ยถังหลีอยากจะร้องไห้ “อย่างน้อยพวกเราก็มีสายเลือดเดียวกัน ตามศักดิ์แล้ว ข้าควรเรียกท่านว่าอ๋องรองเสียด้วยซ้ำ เป่ยถังเฮ่อ ท่านทำเช่นนี้ไม่กลัวผู้คนหัวเราะเยาะหรือ? ”

“หัวเราะเยาะ? ” เสียงของเป่ยถังเฮ่อสูงขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเรียบเฉย “ทั่วแคว้นเป่ยอี้จะมีผู้ใดกล้าหัวเราะเยาะข้า เป่ยถังเฮ่อ? ”

แท้จริงแล้ว ตำแหน่งของสกุลเป่ยถังในแคว้นเป่ยอี้เป็นรองเพียงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บนเขาคุนหลุนเท่านั้น ประชาชนไม่อาจเคลือบแคลงสกุลเป่ยถังได้ แม้หลายปีมานี้ เป่ยถังเฮ่อจะเหลวแหลกมากราคะ ไร้ยางอาย ทว่าเหล่าชาวประชาต่างคิดไปเองว่านี่คือคำบัญชาของทวยเทพ และสตรีที่ส่งเข้าเรือนอี๋หงก็ใช้เพื่อบูชายัญเทพเจ้า จึงไม่มีผู้ใดกล้าพูดอันใด

เป่ยถังหลีกัดฟันอย่างรุนแรง

เป่ยถังเฮ่อยกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มชั่วร้ายยิ่งลึกขึ้น

“หลีเอ๋อร์ หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว อ๋องรองรู้ว่าเจ้าหวาดกลัว ทว่าผู้ใดก็ล้วนมีครั้งแรก? ในเมื่อมาแล้ว วันนี้ก็มาเล่นกับอ๋องรองดีกว่า อ๋องรองจะดีกับเจ้าให้มาก ”

เขาพูดพลางใช้พลังชั่วร้ายอันใดก็ไม่อาจทราบได้ เสื้อคลุมของเป่ยถังหลีจึงร่วงลงพื้นราวกับปอกหัวหอม

เป่ยถังหลีตกใจมากและร้องเสียงดัง “กรี๊ด… ”

กลับไม่คาดคิดว่าเสียงของเป่ยถังหลีจะกระตุ้นให้เป่ยถังเฮ่อยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก ไฟปรารถนาที่คุกรุ่นในดวงตาของเขามาเป็นเวลานานยิ่งเพิ่มทวี จากนั้นจึงมองไล่ลงไปตามลำคอขาวเนียนละเอียดราวกับหยกของเป่ยถังหลี

เป่ยถังหลีพยายามดิ้นรนสุดชีวิต ทว่าตอนนี้นางไม่สามารถใช้กำลังครึ่งบนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของนางยังถูกฝ่ามือของเป่ยถังเฮ่อกดไว้แน่น นางไม่มีกำลังขัดขืนเป่ยถังเฮ่อแม้แต่น้อย

“อย่ากลัว! อ๋องรองจะอ่อนโยนกับเจ้าแน่นอน! ” เป่ยถังเฮ่อพูดแผ่วเบา

ขณะที่พูด เป่ยถังเฮ่อกำลังยกมือเรียวยาวอีกข้างขึ้นลูบแก้มของเป่ยถังหลี

หนึ่งนิ้ว… หนึ่งนิ้ว… หนึ่งนิ้ว…

ขณะที่นิ้วเรียวยาวของเป่ยถังเฮ่อเคลื่อนตามแก้มและต่ำลงไปจนใกล้จะถึงส่วนต้องห้ามบริเวณเนินอกของเป่ยถังหลี ทันใดนั้น เข็มเงินทอประกายแสงสีขาวก็พุ่งเข้ามาโจมตีเป่ยถังเฮ่อ

เป่ยถังเฮ่อรีบปล่อยมือที่กดนางไว้ แม้เขาจะว่องไว ทว่าเขาประมาทเกินไป คิดว่าไม่มีคนนอกบุกรุกดินแดนตนเอง ดังนั้นการเฝ้าระวังจึงต่ำมาก แม้เข็มเงินหลายเล่มจะตกลงไปในสระสุรา ทว่าหนึ่งในนั้นได้ปักยังจุดสำคัญบนแขนของเป่ยถังเฮ่อ

จากนั้น ผ้าสีขาวก็ลอยมาห่อร่างของเป่ยถังหลีที่กำลังจะตกลงไปในสระสุรา แล้วดึงร่างของนางให้ลอยขึ้นกลางอากาศอย่างน่าหวาดเสียว

เมื่อเป่ยถังหลีเห็นผู้ที่มาอย่างชัดเจน ความหวาดหวั่นและความหวาดกลัวในดวงตาพลันหายไป นางอดโพล่งออกมาไม่ได้ “เจ้าทึ่ม… เจ้าทึ่ม… เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย ข้ารู้ว่าเจ้าต้องมาแน่นอน”

“เป็นผู้ใด กล้าบุกรุกเรือนอี๋หงของข้า องครักษ์… องครักษ์… ” เป่ยถังเฮ่อลุกขึ้นพลางกุมแขนที่บาดเจ็บและตะโกนเสียงดัง

ผู้ที่มา และเป็นผู้ที่เป่ยถังหลีเรียกว่าเจ้าทึ่ม เขาไม่มีเวลาสนทนากับเป่ยถังหลีมากนัก เมื่อขว้างเข็มใส่เป่ยถังเฮ่อแล้ว เขาก็ดึงเป่ยถังหลีวิ่งออกนอกประตูไป

“มีนักฆ่า… มีนักฆ่าบุกเข้ามา… รีบไปจับมัน… ”

ในขณะเดียวกัน เสียงร้องตกใจขององครักษ์ก็ดังขึ้นจากด้านนอก จากนั้นก็มีเสียงต่อสู้กันดัง ‘ปึงปึงปังปัง’

เสียงเรียกของเป่ยถังเฮ่อถูกกลบด้วยเสียงเหล่านี้จนไม่มีผู้ใดขานรับ

ตอนที่เจ้าทึ่มลากเป่ยถังหลีวิ่งออกจากเรือนอี๋หง ที่ลานกว้างด้านนอก ซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยา อู๋จุน ตงหลิงหวง ถังเสวี่ย และคนอื่นๆ ก็ต่อสู้กับองครักษ์ด้านนอกเรือนอี๋หงเช่นเดียวกัน

แววตาของเจ้าทึ่มหยุดอยู่บนร่างของซูจิ่นซี เพียงแวบเดียว แสงสว่างในดวงตาของเขาพลันลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย

“เจ้าทึ่ม เจ้ารู้จักคนพวกนี้หรือ? ”

เจ้าทึ่มรีบละสายตาอย่างรวดเร็วโดยไม่พูดอันใด เขาถอดชุดตนเองคลุมบนร่างของเป่ยถังหลี แล้วคว้ามือนางเดินไปตามทางเดิน ตรงไปยังจวนเป่ยอี้อ๋อง

ขณะที่เจ้าทึ่มและเป่ยถังหลีกำลังจะหายไปจากมุมทางเดิน ซูจิ่นซีที่กำลังต่อสู้กับองครักษ์ก็หันมามอง สายตาของนางหยุดอยู่ที่ร่างของพวกเขาโดยบังเอิญ ทันใดนั้น แววตาของนางก็ปรากฏความลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย

หลังจากเยี่ยโยวเหยาตัดศีรษะขององครักษ์ไปหลายคน เขาก็มาหยุดอยู่ข้างกายซูจิ่นซี เขามองตามสายตาของซูจิ่นซี ทว่าไม่เห็นอันใดแม้แต่น้อย

“เป็นอันใดหรือ? ”

“เมื่อครู่ คนผู้นั้นที่หนีไปพร้อมกับเป่ยถังหลี ดู… คุ้นตาอย่างมาก”

……

เจ้าทึ่มลากเป่ยถังหลีวิ่งอย่างรวดเร็วตลอดทาง เพราะกลัวว่าหากช้าไปก้าวเดียว พวกเขาจะถูกคนของเป่ยถังเฮ่อไล่ทันและถูกจับตัวกลับไป

ในที่สุด เมื่อใกล้ถึงจวนเป่ยอี้อ๋อง เป่ยถังหลีก็สลัดแขนของเจ้าทึ่มออก สองมือค้ำหัวเข่าหายใจหืดหอบไม่หยุด

“เจ้า… เจ้าทึ่ม ข้า… ข้าวิ่งไม่ไหวแล้ว วิ่งไม่ไหวแล้วจริงๆ พวกเรา… พวกเราพักสักประเดี๋ยว”

“อืม? ”

เจ้าทึ่มเหลือบมองข้างหลัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีองครักษ์เรือนอี๋หงไล่ตามมาจึงวางใจ

“ได้ พวกเราหาที่ห่างไกลสักหน่อยเถิด ตรงนี้เป็นเส้นทางหลัก หากองครักษ์เรือนอี๋หงไล่ตามมาจะถูกพบได้ง่าย”

“ตกลง”

เจ้าทึ่มพยุงเป่ยถังหลีมาถึงตรอกที่ค่อนข้างเปลี่ยว ก่อนที่ทั้งสองจะนั่งลง

แสงจันทร์ในค่ำคืนนี้สว่างเจิดจ้า ราวกับแผ่นหยกขนาดใหญ่มหึมาที่ลอยอยู่กลางอากาศ แสงจันทร์สาดส่องลงมาจากท้องฟ้าเสมือนผ้าม่านผืนหนาปกคลุมร่างทั้งสอง

ทั้งสองไม่ได้พูดอันใด เจ้าทึ่มเอาแต่เงยหน้ามองดวงจันทร์บนท้องฟ้า

เป่ยถังหลีได้พักเต็มที่แล้ว จึงเอ่ยกับเจ้าทึ่มว่า “เจ้าทึ่ม ขอบคุณเจ้ามาก”

“อืม? ”

เจ้าทึ่มกลับมาได้สติ เขามองหน้าเป่ยถังหลีแล้วเบือนหน้าไปอีกทางอย่างรวดเร็ว

เป่ยถังหลีย้ำในสิ่งที่พูดเมื่อครู่ “ข้าบอกว่า ขอบคุณมากที่คืนนี้เจ้ามาช่วยข้า! หากเจ้ามาไม่ทัน ข้า… คืนนี้ข้าคงตายอย่างแน่นอน”

“ไม่เป็นอันใด” เจ้าทึ่มเพียงเอ่ยแผ่วเบา เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องในใจ นอกจากนั้น น้ำเสียงของเขายังสุภาพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เป่ยถังหลี คุณหนูจิ่วแห่งจวนเป่ยอี้อ๋องผู้นี้ ปกติจะมีความเฉียบแหลมและเจ้ากี้เจ้าการอยู่เสมอ ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าทึ่ม นางกลับเชื่องราวกระต่ายน้อย

นางเม้มริมฝีปาก “เจ้าทึ่ม เมื่อครู่ที่มองพระจันทร์ เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ? ”

“ไม่ได้คิดสิ่งใดทั้งนั้น”

“เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ได้คิดสิ่งใดทั้งนั้น? เจ้าบอกว่าจะไม่โกหกข้า? เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่ได้พูดความจริง หากเป็นเช่นนี้อีก ข้าจะโกรธแล้ว”

เจ้าทึ่มมองใบหน้าของเป่ยถังหลีอีกครั้ง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้น

“ข้ากำลังคิดว่าที่บ้านเกิดข้ามีสถานที่หนึ่ง สามารถมองเห็นแสงจันทร์เช่นนี้ได้เช่นกัน มันสวยมาก สวยมากๆ ! ”

“บ้านเกิดของเจ้า? ”

“ใช่! ”

“ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็เห็นดวงจันทร์ดวงเดียวกันไม่ใช่หรือ? จะไม่เหมือนกันได้อย่างไร? ไม่เหมือนจริงหรือ? ”

“อืม! ”

“สวยมากเพียงใด? ”

“สวยมาก สวยมากๆ ! ”

หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าทึ่มก็เอ่ยอีกครั้ง “แสงอาทิตย์ขึ้นและแสงอาทิตย์ตกที่นั่นก็สวยงามมากเช่นกัน เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นบนโลกนี้”

“จริงหรือ? ” สวยกว่าที่ข้าเห็นจากบนเขาคุนหลุนแคว้นเป่ยอี้ของข้าอีกหรือ? ”

“…”

“ถ้ามีโอกาส เจ้าพาข้าไปดูหน่อยได้หรือไม่? ”

“…”

เจ้าทึ่มไม่ได้ตอบเป่ยถังหลี ทว่ากลับเปลี่ยนเรื่อง “คุณหนู ข้ายังต้องรีบส่งท่านกลับไป! คนที่จวนเป็นห่วงท่านมาก พวกเขาแจ้งท่านอ๋องน้อยแล้ว ท่านอ๋องน้อยกำลังรีบกลับมาที่จวนในไม่ช้า”

แม้เป่ยถังหลีจะผิดหวังเล็กน้อยและมีท่าทีไม่พอใจ ทว่านางยังตอบรับ “ตกลง! ”

เมื่อทั้งสองมาถึงประตูจวน เจ้าทึ่มก็หยุดชะงักเหมือนเคย เขาไม่เข้าไปด้วย

ใบหน้าของเป่ยถังหลีมีรอยยิ้มสดใสและสว่างไสวกว่าแสงจันทร์บนท้องฟ้า

“เจ้าทึ่ม ข้าอยากกินถังหูลู่ [1] ถังหูลู่ที่เจ้าทำเอง ข้าอยากกินพรุ่งนี้ตอนตื่นนอน ได้หรือไม่? ”

……

เชิงอรรถ

[1] ถังหูลู่ Tánghúlu 糖葫芦 ซานจาเคลือบน้ำตาล และมีแบบผลไม้ต่าง ๆ เคลือบน้ำตาล เป็นขนมขึ้นชื่อของกรุงปักกิ่งและเมืองต่างๆ ในมณฑลเหอเป่ย ในมณฑลอื่นๆ ที่เป็นเมืองใหญ่ๆ ก็พอพบเจอได้บ้าง มีหลากหลายราคา แตกต่างกันไป 5 หยวน 10 หยวน ถ้าเป็นสตรอว์เบอร์รีก็อาจจะ 15 หยวน 20 หยวนต่อไม้