ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 740 ฝึกฝนคัมภีร์นภาส่วนที่สาม!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ในห้วงเวลาเช่นนี้ การแบ่งสูงต่ำของวิชาวรยุทธ์ระหว่างแต่ละคนได้สะท้อนออกมาแล้ว

คังฮูหยินและถานจิ่นผู้อาวุโสสำนักแสงสว่าง ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางเหมือนกัน กลับมีสภาพไม่เหมือนกัน

ถานจิ่นอยู่ในเขตแดนมายา ได้แต่นั่งเฉยๆ อย่างหมดอาลัยตายอยาก

ส่วนในดวงตาสองข้างของคังฮูหยินมีคลื่นแสงวนเวียน เหมือนกับกระแสเวลา

แสงสว่างนี้ทำให้ความว่างเปล่าที่อยู่รอบๆ คังฮูหยินเริ่มเปลี่ยนแปลง เหมือนกับกำลังจะเปลี่ยนจากลวงเป็นจริง

ตัวนางรวมถึงความว่างเปล่าใกล้ๆ นาง กำลังจะถอยกลับไปอยู่ในสภาพก่อนที่เยี่ยนจ้าวเกอจะใช้พิธีกรรม เหมือนกับเวลาไหลย้อนกลับ

ในตอนนี้นางกำลังศึกษาทดลอง เห็นเพียงเค้าลางหนึ่งอย่างเลือนราง โดยที่ยังไม่ได้แยกแยะ

หลังจากเวลาผ่านไป คังฮูหยินก็เหมือนจะได้อะไรบางอย่างมา ร่างมายาของนางเหยียบไปบนของแข็งจริงๆ แล้ว

ถึงแม้ว่าความเร็วจะช้าถึงขีดสุด ช้าจนแทบสังเกตไม่เห็น ตาเนื้อไม่อาจแยกแยะความแตกต่าง แต่ทุกสิ่งก็กำลังเกิดขึ้นจริงๆ

เยี่ยนจ้าวเกอรู้ดียิ่งกว่า ว่าหลังจากนางเริ่มเปลี่ยนจากลวงเป็นจริง พลังฝึกปรือจะแสดงออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วในการฟื้นตัวของนางจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นด้วย

ยิ่งผ่านไปเท่าไร ความเร็วในการฟื้นตัวจะยิ่งเร็วเท่านั้น

‘คัมภีร์นภากาลเวลามีคุณประโยชน์เหลือคณาจริงๆ’ เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งมอง ทางหนึ่งจุ๊ปากชมเชย ‘น่าเสียดายที่พลังฝึกปรือของท่านยังต่ำไปบ้าง ถ้าหากท่านมีพลังฝึกปรือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง เกรงว่าจะสามารถคืนสภาพบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์นี้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ’

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เยี่ยนจ้าวเกออดหัวเราะขึ้นไม่ได้ ‘ข้าเองก็เหมือนกัน’

เขาฝึกฝนคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตกับคัมภีร์พลิกนภา ถ้ามีระดับพลังฝึกปรือสูงพอ การฟื้นฟูที่นี่จะง่ายดายกว่าคังฮูหยินที่ฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลา

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่รีบร้อน ถึงอย่างไรทางด้านโลกยมทะยานก็มีการเตรียมการไว้แล้ว ไม่ถึงกับไร้ความมั่นใจ

คังเม่าเซิงนึกว่าเยี่ยนจ้าวเกอถูกขังอยู่ที่นี่เช่นกัน เรื่องที่คิดทำในตอนแรกไม่สำเร็จ กลับคำนวณพลาดแล้ว

อีกด้านหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอกลับใช้เขตแดนมายานี้ฝึกฝน

‘การอยู่ในความว่างเปล่าที่มีสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงซับซ้อนเช่นนี้ ความจริงเหมาะกับการศึกษาความลึกซึ้งของคัมภีร์นภาความว่างเปล่า’ เยี่ยนจ้าวเกอใช้นิ้วแตะริมฝีปาก ‘น่าเสียดายที่ข้าไม่มีอยู่ในมือ’

คัมภีร์นภาความว่างเปล่า หนึ่งในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสิบม้วน บรรยายถึงความลึกซึ้งในการเปลี่ยนแปลงของความว่างเปล่าและมิติเวลา เป็นหนึ่งในตัวตนระดับสูงสุดในหมู่คัมภีร์ที่คล้ายๆ กัน

ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ คังฮูหยิน หรือพวกถานจิ่น ถ้าหากใช้คัมภีร์นภาความว่างเปล่าเป็นราฐานในการฝึกปรือวรยุทธ์ เช่นนั้นจะสามารถเคลื่อนไหวในสภาพแวดล้อมตรงหน้าได้อย่างอิสระ เข้าออกเขตแดนมายาแห่งนี้ได้ตามใจ

เยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นสงสัยว่า จอมยุทธ์ที่ฝึกฝนคัมภีร์นภาความว่างเปล่าจนมีความสำเร็จระดับหนึ่ง ต่อให้ไม่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามขึ้นไป ก็สามารถเคลื่อนไหวในบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์โดยไม่ถูกพลังแห่งเขตแดนรบกวนได้

ก่อนวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ในอดีต ผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์มียอดฝีมือที่ฝึกฝนคัมภีร์นภาความว่างเปล่า สามารถเดินทางไปทั่วใต้หล้า และท่องเที่ยวไปทั้งจักรวาลด้วยตัวคนเดียวได้

แต่น่าเสียดายเพราะวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ จึงไม่ทราบว่าเสื่อมโทรมจนเป็นอย่างไรไปแล้ว

กระนั้นวรยุทธ์ที่องค์ประมุขประจิมซึ่งปรากฏตัวขึ้นเพียงแวบเดียว ก่อนจะเข้าไปในสุสานจัรพรรดิประกายกาฬใช้ เยี่ยนจ้าวเกอแยกแยะได้ว่าเป็นคัมภีร์นภาความว่างเปล่า อีกทั้งยังเป็นการสืบทอดสายตรง หมายความว่าวรยุทธ์ชนิดนี้ไม่ได้สาปสูญไป

ด้านในชั้นหนังสือวังเทพ คัมภีร์นภาแรกเริ่มสิบม้วน มีอยู่สี่ม้วน

คัมภีร์นภาไร้ขอบเขต คัมภีร์ต้นกำเนิดเล่มแรกซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอใช้เป็นรากฐานให้ตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพูดถึง

นอกจากนี้แล้ว ยังมีคัมภีร์พลิกนภาซึ่งเป็นหนึ่งในสามคัมภีร์ที่เกิดก่อน และคัมภีร์นภาหยินหยางกับคัมภีร์นภาครอบจักรวาลซึ่งอยู่ในคัมภีร์หกเล่มซึ่งเกิดทีหลัง

ตอนนี้แม้ว่าไม่มีคัมภีร์นภาความว่างเปล่าอยู่ในมือ แต่สภาพแวดล้อมตรงหน้าก็เหมาะให้เยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝนวรยุทธ์อื่นอยู่ดี

คัมภีร์พลิกนภาบรรยายถึงพลังอันยิ่งใหญ่แห่งการปรับเปลี่ยนของขั้วตรงข้าม ความจริงและความลวงก็เป็นหลักการที่อยู่ขั้วตรงข้ามเช่นกัน

นอกจากนี้ เยี่ยนจ้าวเกอยังได้เตรียมการฝึกฝนคัมภีร์นภาแรกเริ่มม้วนที่สามไว้แล้ว

สิ่งที่เขาเลือกในครั้งนี้คือคัมภีร์นภาหยินหยาง

คัมภีร์นภาหยินหยางบรรยายถึงหลักการเปลี่ยนแปลงของหยินหยางสี่ลักษณ์ หลักการมากมายกำเนิดต่อเนื่อง เปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุด แต่กลับเกี่ยวพันถึงการเปลี่ยนแปลงของ หยิน หยาง จริง ปลอม

สรรพวิชาในโลกหล้า และมหามรรคาอันหลากหลาย ไม่ได้เกิดขึ้นมาเดี่ยวๆ

อย่างเช่นคัมภีร์นภาครอบจักรวาล ที่เป็นคัมภีร์ล้ำค่าซึ่งบรรยายสรรพสิ่งที่มีรูปร่าง ปรากฏการณ์ในฟ้าดินอย่างครอบจักรวาล

กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก่อนหน้านี้ได้ฝึกฝนคัมภีร์กระบี่สังหารเซียน ซึ่งเป็นวรยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์

กระบี่สังหารเซียนทำลายทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือไม่มีรูปร่าง จริงหรือปลอม เปลี่ยนเป็นนับพันนับร้อย กระบี่เดียวจะส่งพวกมันสู่ความสิ้นสูญ

หากมองมาจากมุมอีกมุมหนึ่ง กระบี่นี้สะกดคัมภีร์นภาครอบจักรวาลพอดี ทั้งสองฝ่ายก่อเกิดและกดข่มซึ่งกันและกัน สลับกันเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด มีจุดร่วมกันบนหลักการ

ดังนั้นคัมภีร์นภาครอบจักรวาล จึงเป็นคัมภีร์ที่สมควรฝึกฝน แต่ว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ ศึกษาคัมภีร์กระบี่สังหารเซียนอย่างละเอียดก่อนได้

ดังนั้นคัมภีร์นภาหยินหยางจึงกลายเป็นตัวเลือกแรก ในการฝึกฝนคัมภีร์นภาแรกเริ่มม้วนที่สามของเยี่ยนจ้าวเกอ

เขานั่งตัวตรงสงบนิ่งกลางเขตแดนมายา ในม่านตาสองข้างปรากฏกฎเกณฑ์อันเป็นอักขระอาคมที่ส่องแสงวูบวาบจำนวนมาก

อย่างค่อยเป็นค่อยไป ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ม่านตาข้างหนึ่งเป็นสีดำสมบูรณ์แบบ อีกข้างหนึ่งเป็นสีขาวสมบูรณ์แบบ

เขาหลับตาทั้งสองข้าง บนใบหน้าฉายแววครุ่นคิด

คังฮูหยินเหมือนรู้สึกได้รางๆ เมื่อเพ่งตามองไป กลับเห็นเยี่ยนจ้าวเกอเพียงหลับตา ท่าร่างผสานกับเขตแดนมายา ไม่มีอะไรผิดปกติ

เยี่ยนจ้าวเกอมองเข้าไปในร่างตัวเอง กลุ่มปราณโกลาหลด้านในค่อยๆ กลายเป็นกระแสปราณหนึ่งดำหนึ่งขาว หนึ่งหยินหนึ่งหยางสองสาย วนเวียนอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาปราณหยินและหยางแยกออกจากกันอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นปราณหยินและปราณหยางจำนวนนับไม่ถ้วน เชื่อมต่อและกระตุ้นกันและกัน

ปราณหยินเข้าปราณหยางกำเนิด ปรากฎลักษณะหยินอ่อน โดยหยินอยู่ในหยาง

ปราณหยางเข้าปราณหยินกำเนิด ปรากฏลักษณะหยางอ่อน โดยหยางอยู่ในหยิน

ปราณหยินเข้าปราณหยินกำเนิด ปรากฏลักษณะหยินโชติช่วง โดยหยินอยู่ในหยิน

ปราณหยางเข้าปราณหยางกำเนิด ปรากฏลักษณะหยางโชติช่วง โดยหยางอยู่ในหยาง

สี่ลักษณ์แบ่งแยก จากนั้นก็รวมกันเป็นหนึ่ง สุดท้ายผสมผสานกันและกัน ค่อยๆ กลายเป็นปลาหยินหยาง โอบกอดเข้าด้วยกัน รวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ

เยี่ยนจ้าวเกอลืมตา ม่านตาซ้ายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ลูกตาดำขลับ ตาขวาตรงกันข้าม ม่านตาดำขลับ ลูกตาสีขาวบริสุทธิ์

พริบตาต่อมา ดวงตาของเขาก็กลับคืนสู่ลักษณะเดิม

ครั้งนี้เขาค่อยพยักหน้าเล็กน้อย ‘อืม เมื่อครู่เดินบนเส้นทางที่ถูกแล้ว ก้าวเท้าก้าวแรกสำเร็จ’

ความคิดทำงานในสมอง เยี่ยนจ้าวเกอสั่งความคิด พลังแห่งจันทร์ดำที่ดูดซับมาจากในพิธีอาทิตย์ดำจันทร์ยะเยือกก่อนหน้านี้ กลับจากความโกลาหลสู่สภาพเดิม

ปราณหยินหยางในจุดตันเถียนของเยี่ยนจ้าวเกอเหนี่ยวนำให้พลังแห่งจันทร์ดำมาประสาน ปรากฏลักษณะหยินอ่อน โดยหยินอยู่ในหยาง

ภายใต้การหลอมอย่างต่อเนื่อง พลังแห่งจันทร์ดำกลายเป็นพลังหยินอ่อนอย่างรวดเร็ว

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มขึ้น ‘ก้าวที่สอง’

ไม่รู้ฝึกฝนไปนานเท่าไร เยี่ยนจ้าวเกอค่อยได้สติกลับมา เห็นคังฮูหยินที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ร่างกายครึ่งหนึ่งเป็นความจริง ครึ่งหนึ่งเป็นมายา

ภายใต้ผลกระทบจากนาง เขตแดนมายาแห่งนี้ถึงขั้นที่เกิดการสั่นไหวเล็กน้อย

ความว่างเปล่าที่เหมือนกับ ‘กลุ่มเมฆ’ มีสภาวะเมฆสลาย

เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมอง เห็นหลัวจื้อเทามีสีหน้าไร้อารมณ์ดุจเหล็กกล้า พึ่งพาการช่วยเหลือจากกงจักรสุริยันจันทรา ทำให้ตัวเองยึดติดอยู่บนกลุ่มเมฆ กำลังจ้องมาตาเป็นมัน

‘ไม่รู้ว่าทางอาจารย์ปู่เป็นอย่างไรบ้าง?’ เยี่ยนจ้าวเกอพิจารณาในใจ ก่อนจะหยิบหยกแขวนวิญญาณจุติที่ได้จากไป๋จื่อหมิงออกมาอีกครั้ง

หยกแขวนตอนนี้กลายเป็นเงาลวงที่มีเพียงรูปร่าง

แต่ว่าหลังจากเยี่ยนจ้าวเกอลอบโคจรเคล็ดวิชาในคัมภีร์พลิกนภา หยกแขวนพลันกลับจากปลอมเป็นจริงอีกครั้ง

………………………