ภาค 8 ทะยานฟ้า โอบกอดจันทร์ บทที่ 741 แขนเดียวสยบใต้หล้า

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

หยกแขวนวิญญาณจุติของไป๋จื่อหมิง หลังจากใช้ไปครั้งหนึ่งแล้ว จำเป็นต้องรอเวลาอย่างน้อยเดือนหนึ่ง จึงจะสามารถใช้ได้อีกครั้ง

แต่ว่าด้านในเขตแดนมายาที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอติดอยู่ นิยามของมิติเวลาและความว่างเปล่าจะเปลี่ยนเป็นเลอะเลือน

เยี่ยนจ้าวเกอแตะหยกแขวน สัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณด้านในค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว

ญาณจริงแท้ถ่ายเทเข้าไปด้านใน หมอกควันสีเขียวมรกตปรากฏขึ้นอีกครั้ง

หมอกควันเดิมทีก็เป็นสิ่งลวงตาอยู่แล้ว เมื่อมาอยู่ในเขตแดนมิติที่พิเศษนี้ จึงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ลอยออกไปไกล

เยี่ยนจ้าวเกอแบ่งจิตสายหนึ่งออกมา มันทะลุความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด พุ่งลงไปยังโลกยมทะยานพร้อมกับหมอกควันอีกครั้ง

ในตอนที่จิตของเยี่ยนจ้าวเกอลงมายังภูเขาหิมะไพศาลอีกครั้ง ทั่วทั้งภูเขาหิมะไพศาลก็โกลาหลอีกรอบ

แต่ว่าเทียบกับครั้งแรก ครั้งนี้นับว่าสงบกว่ามาก จอมยุทธ์ระดับสูงของภูเขาหิมะไพศาลสมควรเตรียมการไว้แล้ว

นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าคนที่ ‘ลงมา’ ในครั้งนี้เป็นเยี่ยนจ้าวเกอ หรือไป๋จื่อหมิง

เมื่อเห็นว่าเป็นเยี่ยนจ้าวเกอลงมาอีกครั้ง เจ้าสำนักคนปัจจุบันของภูเขาหิมะไพศาลก็หัวเราะไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้อยู่บ้าง

ของวิเศษที่ยอดฝีมือซึ่งลอยขึ้นไปของสำนักตัวเองใช้จุติเพื่อติดต่อ สุดท้ายเป็นคนอื่นใช้แทน

ถึงแม้ว่าจะโอดครวญในใจ แต่เขาก็ยังมีสีหน้าจริงจัง “ดีที่ทำสำเร็จ เรื่องที่คุณชายเยี่ยนมอบหมายให้ทำ ภูเขาหิมะไพศาลของเราได้ทำเสร็จลุล่วงแล้ว หยวนเจิ้งเฟิง ท่านหยวนอาจารย์ปู่ของท่าน หลุดจากตาน้ำทะเลที่ทะเลตะวันตกมานานแล้ว”

เจ้าสำนักภูเขาหิมะไพศาลลอบถอนใจ คิดถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น

หลังจากเสียบกระดูกทะเลไร้ร่องรอยเจ็ดท่อนใส่แกนไฟใยดินที่อยู่ห่างจากตาน้ำทะเลมาทางเหนือเจ็ดร้อยลี้ การหมุนเวียนของปราณวิญญาณและใยดินที่อยู่รอบๆ ต่างเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง

น้ำวนในตาน้ำทะเลของทะเลตะวันตก ถึงกับเกิดการเปลี่ยนกลับไปด้วย ทะเลลึกพรั่งพรู ไม่ไหลลงด้านล่างอีก แต่พุ่งขึ้นด้านบนเอง

ทะเลตะวันตกทั้งหมดเกิดคลื่นสูงเทียมฟ้าอยู่ชั่วขณะ น้ำพุ่งทะลุหมู่เมฆ ลอยอยู่กลางอากาศ

ในนาทีนั้นท้องฟ้าและมหาสมุทรเหมือนกับพลิกกลับ

จอมยุทธ์สำนักตะวันซ้อนที่อยู่บริเวณรอบๆ ต่างรับมือไม่ทัน ถูกคลื่นคลั่งกดดันให้ถอยหนี

หยวนเจิ้งเฟิงที่ถูกพวกเขาใช้พลังทั้งหมดประสานกับน้ำวนในตาน้ำทะเลสะกดไว้ด้านล่างในตอนแรก ถูกตาน้ำทะเลพ่นออกมาจากก้นทะเล

พวกยอดฝีมือจากภูเขาหิมะไพศาลที่ยังอยู่ในทะเลตะวันตก ก็เกือบถูกคลื่นทะเลเทียมฟ้ากลืนกินเช่นกัน รีบถอยหลังอย่างเร่งร้อน ในใจนอกจากความตกตะลึงแล้วก็คือความสงสัย

ในตอนแรกพวกเขาก็แค่เห็นเยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างมั่นใจ จึงมีความคิดจะลองทำดูเท่านั้น

ครั้นจนความจริงปรากฏ ทุกคนในภูเขาหิมะไพศาลต่างก็ตกใจเหมือนจอมยุทธ์สำนักตะวันซ้อน

ขณะที่ตื่นตะลึง แม้จะเต็มไปด้วยข้อสงสัย แม้รู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะพวกตนฝังกระดูกทะเลไร้ร่องรอย แต่จนกระทั่งเกิดเรื่องก็ยังไม่ทราบถึงเหตุผลและหลักการที่แท้จริงอยู่ดี

นี่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในใจของคนจากภูเขาหิมะไพศาลดูลึกล้ำยากจะหยั่งคาดมากกว่าเดิม

เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สำนักตะวันซ้อนเล่า?”

ยอดฝีมือของภูเขาหิมะไพศาลคนนั้นใบหน้าฉายรอยยิ้ม “อาจารย์ปู่ของท่านหลังจากออกมาจากตาน้ำทะเลแล้ว ก็เข่นฆ่าไปทั่วสารทิศ สังหารเจ้าสำนักตะวันซ้อนทิ้งที่นั่น ส่วนยอดฝีมือระดับสูงของสำนักตะวันซ้อนที่เหลือบาดเจ็บล้มตายมากกว่าครึ่ง”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ อีกฝ่ายก็ถอนใจอย่างเงียบๆ หลังจากหยวนเจิ้งเฟิงออกจากทะเลแล้ว พลังอันกล้าแข็งที่แสดงออกมา ก็สั่นสะเทือนโลกยมทะยานทั้งใบอีกครั้ง

ก่อนไป๋จื่อหมิงจะลอยขึ้นไป ถึงแม้ว่าสำนักตะวันซ้อนจะเป็นขุมกำลังอันดับหนึ่งบนโลกยมทะยาน แต่ไป๋จื่อหมิงกลับเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของโลกยมทะยานอย่างไม่ต้องสงสัย

หลังจากเขาลอยขึ้นไปแล้ว เจ้าสำนักตะวันซ้อนก็มาแทนที่ ครอบครองอันดับหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว

แต่ว่าจ้าวแห่งวรยุทธ์ที่เย้ยโลกยมทะยาน กลับถูกหยวนเจิ้งเฟิงสังหารทิ้งคาที่ แม้แต่โอกาสหนียังไม่มี

นอกจากนี้แล้ว รอบๆ ยังมียอดฝีมือของสำนักตะวันซ้อนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ถูกหยวนเจิ้งเฟิงฆ่าจนแตกฉานซ่านเซ็นเช่นกัน

สงครามนี้ทำให้โลกยมทะยานรู้สึกพรั่นพรึง

ถ้าไม่ใช่เพราะสำนักตะวันซ้อนเปิดสงครามกับสำนักพัดคลื่น น่ากลัวจะไม่มีใครทราบว่า ผู้อาวุโสแขนเดียวที่มักสงวนท่าทีผู้นั้น จะอาศัยพลังของตัวเองจนเกือบจะทำลายขุมกำลังอันร้ายกาจ ซึ่งเป็นสำนักอันดับหนึ่งของโลกยมทะยานได้

หยวนเจิ้งเฟิงที่อยู่ในโลกยมทะยานไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัว อาศัยเพียงกำปั้นเปล่าๆ สยบใต้หล้า

กระนั้นขณะที่ถอนใจ คนของภูเขาหิมะไพศาลก็รู้สึกยินดี

สงครามนี้ สำนักตะวันซ้อนได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ หลังจากสงครามที่ทะเลตะวันตกผ่านไป หยวนเจิ้งเฟิงก็ได้บุกไปถึงที่อยู่ของสำนักตะวันซ้อน ค่ายกลคุ้มภูเขาของสำนักตะวันซ้อนเกือบถูกทำลายทิ้ง

ถ้าหากไม่ใช่เพราะยอดฝีมือสำนักตะวันซ้อนที่อยู่ในโลกซ้อนโลกลงมาในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานทันท่วงที สำนักตะวันซ้อนที่อยู่บนโลกยมทะยานเกรงว่าจะถูกล้างสำนักไปแล้ว

และสิ่งที่ทำให้ทุกคนอึ้งก็คือ ยอดฝีมือสำนักตะวันซ้อนจากโลกซ้อนโลกที่พลังฝึกปรือถูกจำกัดให้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม เนื่องจากลงมายังโลกยมทะยาน ก็ถูกหยวนเจิ้งเฟิงเล่นงานจนศีรษะไหม้หน้าผากเกรียม ต้องส่งคนมาอย่างต่อเนื่องถึงจะฝืนคุมสถานการณ์ไว้ได้

แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น คนของสำนักตะวันซ้อนก็ยังคงถูกกดดันให้อยู่ในสำนัก เกียรติยศของสำนักอันดับหนึ่งแห่งโลกยมทะยานถูกทำลายทิ้งโดยสิ้นเชิง

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ประหลาดใจนัก ถึงแม้ว่าในตอนที่อยู่กับคนรุ่นหลังของตัวเองจะทำตัวเมตตาใจดี แต่หากคิดว่าหยวนเจิ้งเฟิงเป็นชายชราผู้เมตตาล่ะก็ เช่นนั้นก็เป็นความผิดพลาดมหันต์แล้ว

หยวนเจิ้งเฟิงที่ผงาดขึ้นมาจากยุคที่มืดมิดที่สุดพร้อมกับเขากว่างเฉิง ไม่ทราบว่ามือเปื้อนเลือดมากขนาดไหน

แต่ว่าพลังของหยวนเจิ้งเฟิงกลับทำให้เยี่ยนจ้าวเกอมีความรู้สึกชื่นชม

นี่ไม่ใช่ว่าไม่เคารพ แต่ว่าระดับพลังของอาจารย์ปู่หากอยู่ในระดับเดียวกับเขา เยี่ยนจ้าวเกอคิดว่าตัวเองพอมีความมั่นใจบ้าง

เยี่ยนจ้าวเกอเคยเห็นไป๋จื่อหมิงลงมือมาก่อน ชายชรามีพลังค่อนข้างแข็งแกร่ง บางทีอาจจะเทียบเคียงกับ ‘ปีกปักษา’ เฉินจื้อเหลียง ลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์และร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้นไม่ได้ แต่ก็เป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง

ระดับวรยุทธ์ของโลกยมทะยาน ไม่ธรรมดายิ่ง

หากมองค่าเฉลี่ย ยังสูงส่งกว่าโลกแปดพิภพเสียอีก

‘ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ความเร็วในการพัฒนาพลังฝึกปรือเท่านั้น พลังส่วนตัวของอาจารย์ปู่ก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับเช่นกัน’ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ

เจ้าสำนักภูเขาหิมะไพศาลที่อยู่ตรงหน้าครั้งนี้พูดขึ้น “ตอนนี้อาจารย์ปู่ของท่านเป็นแขกของภูเขาหิมะไพศาล ข้าใช้ให้คนไปแจ้งเขาแล้ว อีกเดี๋ยวก็คงมาถึง”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อย

แต่ขณะมองอีกฝ่าย ความคิดก็ทำงาน เข้าใจแล้วว่าภูเขาหิมะไพศาลคงจะเป็นฝ่ายไกลเกลี่ย ช่วยเกลี้ยกล่อมหยวนเจิ้งเฟิงกับสำนักตะวันซ้อน

สำนักตะวันซ้อนมีคนอยู่บนโลกซ้อนโลก หากว่าทำลายสำนักตะวันซ้อนที่อยู่บนโลกยมทะยานโดยสิ้นเชิง หลังจากนั้นไม่ว่าหยวนเจิ้งเฟิงจะสะบัดก้นลอยขึ้นไปหรือกลับโลกแปดพิภพ ภูเขาหิมะไพศาลกลับยังต้องอยู่ที่โลกยมทะยาน

เมื่อถึงเวลานั้น ยอดฝีมือของสำนักตะวันซ้อนที่อยู่บนโลกซ้อนโลก ก็จะต้องนำเพลิงโทสะมาลงกับภูเขาหิมะไพศาลอย่างแน่นอน

แค้นล้างสำนักเช่นนี้ แม้ไป๋จื่อหมิงจะพึ่งพิงลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์ แต่สำนักตะวันซ้อนจะยังมีสติอยู่หรือไม่ ก็ไม่อาจคาดคิดถึงได้

ภูเขาหิมะไพศาลไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ปลาตายตาข่ายขาด

ตรงกันข้าม สถานการณ์ในตอนนี้ สำนักตะวันซ้อนบนโลกยมทะยานได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เหลือยอดฝีมืออยู่น้อยนิด หล่นจากตำแหน่งสำนักอันดับหนึ่งของโลกยมทะยาน และภูเขาหิมะไพศาลก็ได้มาแทนที่แล้ว

ยอดฝีมือสำนักตะวันซ้อนจากโลกซ้อนโลก ไม่อาจรั้งอยู่ที่โลกยมทะยานได้ตลอดไป

ภูเขาหิมะไพศาลไม่ต้องลงมือโดยอำมหิต สำนักตะวันซ้อนก็ได้แต่กัดฟันกลืนความขื่นขม

เยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจเรื่องนี้ ขอแค่อาจารย์ปู่ของตนยินดีก็พอ

ครั้งนี้ประตูตำหนักเปิดออก ปรากฏเงาคนเงาหนึ่ง

เยี่ยนจ้าวเกอที่จิตอยู่บนเทวรูปครั้นเห็นเงาร่างนี้แล้ว ก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างอดไม่ได้

………………………….